หนังสือพิมพ์ สยามธุรกิจ

คู่ มื อ ธุ ร กิ จ หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายสัปดาห์ที่มียอดสมาชิกผู้อ่านประจำสูงสุด

ฉบับที่ 207 ปีที่ 4 วันที่ 29 พ.ย.- 5 ธ.ค.2541

สาวโครงข่ายธุรกิจโยงเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย
เมียเสี่ย'พ'สีกาคนโปรด
ปทุมธานี-พร้อมลูกสาว2คน ศรัทธา สุดลิ่ม อีกคนเป็นเมียหมอชื่อดังเมืองเหนือ ฝ่ายอ.สเป็นคนพิเศษของรองเจ้าอาวาส แกะรอยแหล่งผลิต"พระมหาสิริราชธาตุ"
ที่โฆษณาว่าเป็นสุดยอดแห่งธาตุวิเศษเทวดาเก็บรักษาไว้ให้กว่า200ล้าน
ปีที่แท้"ทำเองขายเอง"อาจารย์ระดับสูงจุฬาฯสวมบทหน้าม้าโฆษณาปาฏิหาริย์
ถอดรหัส"D-April"อักษรย่อ"ธัมมชโย เอ็นเตอร์ไพรส์" ขุมข่ายโยงใยธุรกิจขาย
"บุญ"มีทั้งจัดสรรที่ดิน

ธรรมกาย - เปิดโปงขุมข่ายธุรกิจ-พฤติกรรมฉาวพระธัมมชโยพัวพันสีกา แฉโฉมหน้าหุ้นส่วน"ดี
เจมส์"แหล่งผลิตพระมหาสิริราชธาตุหมื่นล้านที่แท้หน้าม้าวัดพระธรรมกาย หลอกเห็นปาฎิหาริย์
หลวงพ่อสดหวังหาเงินเข้ากระเป๋า ชำแหละรองเจ้าวาสมีโยมสนิทพิเศษเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
ชื่อดัง
จากการที่"สยามธุรกิจ"ได้ตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลของวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่องและ
ได้รับการสนับสนุนจากพุทธศาสนิกชนให้เดินหน้ากระชากหน้ากากของแก๊ง 18 มงกุฎให้ถึงที่สุด
ล่าสุด แหล่งข่าวจากวงในวัดพระธรรมกาย เปิดเผย"สยามธุรกิจ"อย่างหมดเปลือกเกี่ยว
กับพฤติกรรมอันน่ากังขาของหลวงพ่อเจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาส ตั้งแต่วัตรปฎิบัติส่วนตัวไป
จนกระทั่งเรื่องขุมข่ายธุรกิจที่โยงใยกันอย่างใกล้ชิด

เผยโฉม"ดีเจมส์"บ.จิวเวลรี่
เกี่ยวข้อง"พระมหาสิริราชธาตุ"
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หนึ่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรม
กายที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ บริษัทดีเจมส์ อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด ซึ่งทำธุรกิจด้านค้า
ขายจิวเวลรี่ เป็นอาคารตึกแถวขนาดใหญ่ 7 คูหา ตั้งอยู่ที่ 62-74 ซ.ตากสิน 6 ถ.ตากสิน
แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นกิจการที่หลวงพ่อธัมมชโยให้ความเอาใจใส่เป็น
พิเศษและไปดูแลกิจการด้วยตนเองบ่อยครั้ง
บริษัทดีเจมส์ฯ ก่อตั้งเมื่อปี 2537 หุ้นจดทะเบียน 1 แสนหุ้น หุ้นละ 100 บาท ทุนจดทะ
เบียน 10 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้นมีจำนวน 17 คน ประกอบด้วย นายฉลวย ชูชะเอม ถือ 1,000 หุ้น
นายกีรติ นวลกระจ่าง นางสาวเสาวลักษณ์ เปื่ยมปิติ นางสาววรรณรัตน์ โล้วิชากรติกุล
นายวรดิศ ธนภัทร นายชาญยุทธ วิริยานนท์ นางสาวอุบลทิพย์ สุพรรณานนท์ นางสาวดรณิรัตน์
โล้วิชากรติกุล นายเกรียงไกร โล้วิชากรติกุล นายประยูร เจี่ยนายกำพล นุ่มนวล นายเอกวิทย์
ละอองนวลพาณิช นายไพบูลย์ สืบสาย นางสาวภัควดี ลีลาสมานชัย นางสาวทัศนีย์ เสรีเลิศวิวัฒน์
นางสาวเอมอร อนันต์สิริประภา คนละ 2,000 หุ้นและนางสงบ ปัญญาตรง 69,000 หุ้น
โดยนางสงบ ปัญญาตรง เป็นผู้มีอำนาจเต็มในกิจการของบริษัทและแจ้งภูมิลำเนาในการจด
ทะเบียนว่า อยู่ที่บ้านเลขที่ 15 ถ.รอบเมืองใน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน
ในการจดทะเบียน บริษัทแจ้งวัตถุประสงค์ประเภทธุรกิจว่าทำธุรกิจอุตสาหกรรม/ หัตถกรรม
ประเภทค้าทอง นาค เงิน พลอย ทั้งสั่งเข้าเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ
ล่าสุด ในการประชุมผู้ถือหุ้น 6 พฤษภาคม 2541 มีผู้ถือหุ้น 9 คนประกอบด้วย นายฉลวย
ชูชะเอมถือ1,000 หุ้น นางสาววรรณรัตน์ โล้วิชากรติกุล นางสาวอุบลทิพย์ สุพรรณานนท์
นายประยูร เจี่ย นายเอกวิทย์ ละอองนวลพาณิช นางสาวภัควดี ลีลาสมานชัย นางสาวทัศนีย์
เสรีเลิศวิรัตน์ นางสาวเอมอร อนันต์สิริประภา คนละ 2,000 หุ้นและนางสงบ ปัญญาตรง
85,000 หุ้น
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า นอกจากดำเนินธุรกิจด้านจิวเวลรี่แล้ว บริษัทดีเจมส์ฯได้เกี่ยว
ข้องอย่างใกล้ชิดกับการผลิต"พระมหาสิริราชธาตุ" ซึ่งทางวัดพระธรรมกายใช้เป็นของแถมสำหรับ
ผู้ทำบุญสร้าง"พระมหาธรรมกายเจดีย์"และเป็น"พระคะแนน"ให้รางวัลสำหรับผู้ชักนำให้ผู้อื่นมาทำ
บุญสร้าง"พระธรรมกายเจดีย์"ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป
พระมหาสิริราชธาตุนี้ พระธัมมชโย ประกาศว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่ชุมนุมของ 3 ธาตุ
คือ พญาเหล็กเพชรดำ ซึ่งให้ความแข็งแกร่ง เอาชนะอุปสรรคทั้งหลายทั้งมวลได้ ธาตุคำ แก้วมณี
ซึ่งให้ทรัพย์ ดึงดูดทรัพย์ ให้ความสง่าผ่าเผย และสิทธิธาตุซึ่งให้ความสำเร็จในสิ่ง ปรารถนา
ซึ่งสามธาตที่มารวมกันนี้ เป็นสิ่งที่บังเกิดขึ้นได้ยากในโลก ซึ่งเทวดาได้ดูแลรักษาเอา
ไว้ มีอายุถึง 200 ล้านปีขึ้นไป เป็นราชาแห่งธาตุ เป็นที่มาแห่งโภคทรัพย์อันมหาศาล

โอละพ่อ ที่แท้หน้าม้าเห็นปาฎิหาริย์
จากรายชื่อผู้ถือหุ้นและผู้เคยถือหุ้นของบริษัทดีเจมส์ฯ มีบุคคลหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือ
นางสาวเสาวลักษณ์ เปี่ยมปิติ ซึ่งระบุไว้ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทดีเจมส์ฯ ว่ามีอาชีพรับ
ราชการ เพราะเป็นชื่อเดียวกับบุคคลที่ออกมาแสดงตัวยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุ
และยืนยันว่าได้เห็นปาฎิหาริย์บนท้องฟ้าที่หลวงพ่อสดได้ลอยมาซ้อนทับดวงอาทิตย์ให้สานุ
ศิษย์ของวัดพระธรรมกายได้เห็น 2-3 ครั้งเมื่อไม่นานมานี้
โดยปาฎิหารยิ์บนท้องฟ้านั้น วัดพระธรรมกายได้หยิบยกมาโฆษณาอย่างครึกโครมในขณะนี้ว่า
เกิดขึ้นเพราะสานุศิษย์ได้ร่วมกันทำบุญโดยการสร้างพระมหาธรรมกายบรรจุในเจดีย์ พร้อม ๆ
กันกับการโฆษณาปาฎิหาริย์บนท้องฟ้า ทางวัดพระธรรมกายได้ตีพิมพ์คำยืนยันของบุคคลต่าง ๆ ที่
เห็นปรากฎการณ์บนท้องฟ้าเอาไว้ด้วย ซึ่งหนึ่งในจำนวนผู้ที่ออกมายืนยัน คือ รศ.เสาวลักษณ์
เปี่ยมปิติ แห่งสถาบันประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยรศ.เสาวลักษณ์ ระบุไว้ใน
หนังสือ"อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุเล่ม 4" ว่า "วันนั้น พาเพื่อนมาวัดพระธรรมกายได้เห็น
เหตุการณ์พร้อม ๆ กัน พระอาทิตย์ที่เห็นเวลานั้น เหมือนภาพวาดบนท้องฟ้า เป็นวงกลมนิ่ง มีสีฟ้า
น้ำทะเลเหลือบสีเขียว เห็นชัดเจนและดูได้สบายตา อีกสักครู่เปลี่ยนเป็นวงกลมที่ขยับเคลื่อนไหว
ได้อย่างช้า ๆ มีสีขาวนวลและมีแสงสว่างผสมผสานกัน ดูนุ่มนวล ต่อจากนั้นแสงเริ่มสง่างชัดขึ้น
และมีสีเหลืองอร่ามของจีวรหลวงพ่อวัดปากน้ำ ค่อย ๆขยายขึ้นจนเต็มองค์ มีดวงใสนวลตา
ซ้อนอยู่กลางกายท่าน ทุกอย่างเป็นความจริง ไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่เรื่องฟังมาจากคนอื่น เป็นประ
สบการณ์จริงของเราเอง"
ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวนี้ นอกจากระบุอยู่ในหนังสือ "อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุเล่ม 4 "ซึ่ง
เป็นเอกสารเผยแพร่ของทางวัดพระธรรมกายแล้ว คำยืนยันของรศ.เสาวลักษณ์ยังถูกตีพิมพ์อยู่ใน
ชิ้นงานโฆษณาของวัดพระธรรมกายในหนังสือพิมพ์ฉบับต่าง ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้อีกด้วย
จึงเห็นได้ชัดเจนถึงความเกี่ยวโยงระหว่างรศ.เสาวลักษณ์ในฐานะผู้ก่อตั้งบ.ดีเจมส์ ฯ ซึ่ง
เกี่ยวข้องกับการผลิตมหาสิริราชธาตุและผู้เห็นปาฎิหาริย์ แหล่งข่าวระบุว่าเมื่อเห็นความเกี่ยว
โยงตรงนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากว่าอะไรเป็นอะไร
ถอดระหัส"ดี เอพริล"
"ธัมมชโย"เอ็นเตอร์ไพรส์
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สำหรับกิจการธุรกิจที่หลวงพ่อธัมมชโยมีความใกล้ชิดโดยตรงนั้น มัก
มีชื่อขึ้นด้วยด้วยอักษร D ซึ่งเป็นอักษรย่อตัวแรกของคำว่า Dhammakaya (ธรรมกาย) ซึ่งนอก
จากดีเจมส์ ฯ แล้วก็ยังมี บริษัทดีเวิลด์ฯ บริษัทดีวิเอ็นฯ บริษัทดูแวคฯ และชื่อที่เกี่ยวข้องกับเดือน
เมษายน ซึ่งเป็นเดือนเกิดของหลวงพ่อธัมมชโย เช่น บริษัทเอพริล (เดือนเมษายน)ฯ บริษัท
สุทธิเมษฯ ซึ่ง"เมษ"มาจากเดือนเมษายน ส่วน"สุทธิ"เป็นนามสกุลเดิมของพระธัมมชโย คือ
นายไชยบูลย์ สุทธิผล นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า"ธรรม" เช่น บริษัทธรรมกิจนิ
เวศน์ จำกัดเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายบริษัทที่ไม่ได้ขึ้นต้นด้วยอักษรเหล่านี้ แต่ให้ความหมายเกี่ยว
ข้องกับการปฎิบัติธรรม เช่น บริษัทยูทาวน์ฯดำเนินธุรกิจพัฒนาที่ดินโครงการรัตนปุระ บริษัทบัว
บานการเกษตรฯ บริษัทเมืองแก้วมณีฯเป็นต้น
สำหรับบริษัทสุทธิเมษฯนั้น ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทคอมมอนเว็ลท์ แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด
ซึ่งชื่อนี้ตรงกับโครงการคอมมอนเวลท์ คอนโดมิเนียม บนถนนจรัลสนิทวงศ์ ที่ดำเนินกิจการ
โดยนายสอง วัชรศรีโรจน์ ผู้มีชื่อเสียงในวงการตลาดหุ้นอย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฎชื่อ
นายสองอยู่ในบัญชีผู้ถือหุ้นส่วนของบริษัทนี้แต่อย่างใด

เกี่ยวพันธุรกิจตั้งแต่เริ่ม
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ผู้คนภายนอกส่วนใหญ่มักคิดว่า วัดพระธรรมกายเกี่ยวข้องกับธุรกิจใน
ระยะหลัง ในลักษณะที่กลุ่มนักธุรกิจใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นฝ่ายเข้าไปหาทางวัดเท่านั้น แต่จริง ๆ
แล้วพระธัมมชโยเองมีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นแล้วและมีความเกี่ยว
ข้องอย่างใกล้ชิดจนกระทั่งแตกขยายออกไปตลอดเวลา
โดยในช่วงเริ่มแรกของการก่อตั้งวัดพระธรรมกาย ซึ่งยังมีเนื้อที่วัดเพียง 196 ไร่นั้น ได้มี
การซื้อที่ดินรอบ ๆ วัดแล้วจัดสรรขายให้กับผู้เลื่อมใสนับร้อยไร่ อย่างไรก็ตาม เมื่อวัดธรรมกาย
เติบใหญ่ขึ้น มีเงินทำบุญเข้ามามากขึ้น พระธัมมชโยก็มีโครงการขยายอาณาเขตวัดโดยซื้อที่ดินเพิ่ม
ขึ้นอีกเกือบ 2,000 ไร่ รวมถึงการซื้อที่ดินที่จัดสรรในช่วงแรกกลับคืนมาด้วย ซึ่งในช่วงนั้น ได้มี
ปัญหากับผู้เช่าที่นาจากเจ้าของที่ดินเดิม จนกระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งกันเป็นข่าวโด่งดังเมื่อ
ประมาณปีพ.ศ. 2530-2531
การทำธุรกิจจัดสรรที่ดินซึ่งเกี่ยพันอย่างใกล้ชิดกับพระธัมมชโยยังคงดำเนินต่อไป และมีรูป
แบบชัดเจนยิ่งขึ้น โดยให้สานุศิษย์สตรีคนหนึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง คือ นางจิรวัฒน์ ศรีสัตนา
ภรรยาของนายสุนทร ศรีสัตนา อดีตรองผู้ว่าการจังหวัด
นางจิรวัฒน์ทำธุรกิจจัดสรรที่ดินในามบริษัทต่าง ๆ เป็นต้นว่า บริษัทดีเวิลด์จำกัด บริษัทบัว
บานการเกษตรจำกัด บริษัทเอพริล จำกัด บริษัทดูแวค จำกัด ส่วนโครงการนั้นก็มี โครงการตะ
วันธรรม ตะวันทอง โครงการบัณฑิตนคร และ โครงการสร้างบ้านพักให้เช่าบนภูกระดึง โครง
การพัฒนาที่ดินของบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนมีอาณาเขตใกล้ชิดเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮาส์ และ บริษัทของตระกูล
ว่องวาณิช ตลอดจนนายมานิต รัตนสุวรรณ นักการตลาดที่มีชื่อเสียง ได้เข้าไปเทคโอเวอร์บาง
ส่วนของโครงการเดิมแล้วนำมาจัดสรรใหม่ เป้นบ้านพักและคอนโดมิเนียมหรูหรา โดยเน้นกลุ่ม
ลูกค้า ซึ่งเป็นสานุศิษย์ของวัดพระธรรมกาย

"อี๊ด"สีกาโปรดเป็นพิเศษระยะแรก
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาข่าวอื้อฉาวที่เกี่ยวกับสีกาไม่ถูกกล่าวถึงมากนัก เพราะวัด
พระธรรมกายมีอาณาเขตกว้างขวาง มีการจัดการที่รัดกุม เรื่องนี้จึงมักไม่แพร่งพรายออกสู่
ภายนอก
แต่จากการที่เจ้าอาวาสพยายามแสดงตัวว่า มีอิทธิปาฎิหาริย์ เป็นบุคคลวิเศษเหนือมนุษย์
เป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่งทั้งปวงในจักรวาล สามารถนำพาสานุศิษย์เข้าไปถวายบังคมต่อพระ
อรหันต์ได้นั้น ทำให้สาวกทั้งหลายปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้รับใช้ใกล้ชิดถึงกับแก่งแย่งชิงดีกัน
ด้วยวิธีการต่าง ๆ วิธีการหนึ่งที่สามารถเข้าไปใกล้หลวงพ่ออย่างง่าย ๆ คือ การหยอดกระ
ปุกออมสินลูกแก้วที่ทางวัดขายให้กับทางญาติโยม ผู้ใดที่หยอดเต็มก็มีโอกาสได้นำไปถวายหลวงพ่อ
ธัมมชโยโดยตรง
ผู้มีโอกาสเข้าพบส่วนใหญ่ ล้วนปลื้มปิติเป็นล้นพ้น เพราะภูมิใจที่ได้ร่วมทำบุญกับผู้มีบุญญา
ธิการสูงส่ง ขณะเดียวกันเนื่องจากเป็นประมุขของสำนัก พระธัมมชโยจึงสามารถเรียกใ ช้ผู้ใกล้
ชิดได้อย่างเต็มที่ ขึ้นอยู่กับว่าจะโปรดปรานใครเป็นพิเศษ โดยให้เหตุผลว่า บุคคลเหล่านั้นแสดง
ให้เห็นว่า มีบุญญาธิการพร้อมจะถึงซึ่งธรรมกายได้โดยไม่ยาก ซึ่งสาวกที่โปรดปรานมักได้รับอนุ
ญาติให้ไป"ขึ้นดอย"ปฎิบัติธรรมเป็นกรณีพิเศษด้วย
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า จากภาวะแวดล้อมเหล่านี้ทำให้พระธัมมชโย มีสาวกที่โปรดปราน
เป็นพิเศษอย่างไม่ขาดระยะ และพร้อม ๆ กันมากกว่า 1 คน
อย่างไรก็ตาม สีกาคนที่โปรดปรานพิเศษจริง ๆ ในระยะแรกนั้น แหล่งข่าว เปิดเผยว่า
คือ"สีกาอี๊ด" เจ้าของชื่อจริงตัวย่อจ. ซึ่งเป็นภรรยาของข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งของกระทรวง
มหาดไทย เริ่มต้นที่สีกาอิ๊ดมาเกี่ยวพันกับพระธัมมชโยนั้นก็เพราะความศรัทธาที่มีต่อวัดพระธรรม
กาย จึงมาปฎิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอพร้อมกับสามี
เมื่อความโปรดปรานเพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลา สีกาอี๊ดจึงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแล
ผลประโยชน์สำคัญ ๆของวัด จนกระทั่งระยะนั้นได้รับการเรียกขานในแวดวงวัดพระธรรมกายว่า
"เจ้าแม่" พร้อมกันนั้น สีกาอี๊ดก็เริ่มดำเนินธุรกิจจัดสรรที่ดินในละแวกวัดพระธรรมกาย

สูญพันล้านให้สีกาค้าน้ำมัน
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในขณะที่สีกาอี๊ดกำลังได้รับการโปรดปรานเป็นพิเศษอยู่นั้น พระธัมมชโย
ก็มีสีกาคนโปรดอีกหลายคน แต่ที่พิเศษกว่าคนอื่น คือ "สีกาตุ๊" ซี่งมีชื่อจริงว่า "กรกมล" อย่างไรก็ตาม
จากความเกี่ยวข้องกับสีกาคนโปรดอย่างสม่ำเสมอนั้น พระธัมมชโย ต้องเสียความรู้สึกกับสีกาคนหนึ่ง
ซึ่งทำธุรกิจค้าน้ำมันทางภาคอีสาน
โดยสีกาคนนี้ เข้ามาเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายพร้อมสามี แสดงตนว่า เลื่อมใสใน
หลักธรรมของวัดพระธรรมกายอย่างที่สุด จนเมื่อเกี่ยวพันกันใกล้ชิดระยะหนึ่ง หลวงพ่อธัมมชโย
แสดงออกอย่างชัดเจนว่า มีความโปรดปรานสีกาคนนี้มาก ฝ่ายสามีจึงวางแผนใช้ภรรยาเป็น
สะพานเชื่อมเพื่อขอความช่วยเหลือให้พระธัมมชโยมาช่วยสนับสนุนการลงทุนธุรกิจค้าน้ำมัน
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในขณะนั้นพระธัมมชโยได้ออกจากวัดไปเยี่ยมสองสามีภรรยาคู่นี้
แทบทุกวัน ฝ่ายสามีซึ่งคิดแผนธุรกิจไว้ในใจแล้ว จึงให้สีกา"ว"ผู้เป็นภรรยาแต่งกายให้ดูดีเป็น
พิเศษในการต้อนรับพระธัมมชโยทุกครั้ง จนในที่สุดพระธัมมชโยตัดสินใจให้ความช่วยเหลือในการทำ
ธุรกิจนับพันล้านบาทแก่สีกาว. เพราะหวังว่าสีกาจะได้มาเป็นคนโปรดปรานในโอกาสต่อไป แต่ใน
ที่สุดไม่เป็นไปตามคาด เพราะสองสามีภรรยาได้เงินลงทุนไปแล้วก็เริ่มถอยห่างไปจากวัดพระ
ธรรมกาย

สีกาอี๊ดปิดฉาก
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทางด้านสีกาอี๊ดนั้นเมื่อได้รับความโปรดปรานเป็นพิเศษมาหลายปี ก็
มีสีกาคนใหม่ปรากฎขึ้นมาเทียบเคียงบารมี สีกาคนนี้มีฐานะร่ำรวยมาก เพราะมีสามีที่เสียชีวิตไป
แล้วทิ้งมรดกไว้ให้จำนวนมหาศาล การแสดงอาการโปรดปรานสีกาคนใหม่อย่างออกหน้าออกตาทำ
ให้สีกาอี๊ดค่อนข้างอึดอัดใจมากจึงได้สร้างปัญหาจุกจิกขึ้นตลอดเวลา จนทำให้พระธัมมชโยไม่ค่อย
โปรดปรานอีกต่อไป หลังจากนั้นสีกาอี๊ดก็ห่างหายไปจากวงการของวัดพระธรรมกาย
ในภายหลัง โครงการพัฒนาที่ดินต่าง ๆ ที่ดำเนินการโดยสีกาอี๊ดก็ได้ถูกเทคโอเวอร์
โดยบริษัทพัฒนาที่ดินกลุ่มใหม่ 2-3 กลุ่มที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี
ส่วนสีกาตุ๊นั้นเพียงระยะสั้น ๆ ก็ห่างเหินออกไป
สีกาคนใหม่เมียเสี่ยพ.
สำหรับสีกาที่ได้รับการโปรดโปรนเป็นพิเษศคนใหม่ที่มาแทนสีกาอี๊ดนั้น แหล่งข่าวเปิดเผยว่า
เป็นภรรยาคนหนึ่งของนักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งมีชื่อเล่น อักษรย่อว่าเสี่ยพ. โดยเสี่ยพ.เป็นเจ้าของ
ธุรกิจหลายพันล้าน ดำเนินธุรกิจหลายอย่างเป็นต้นว่า อุตสาหกรรมอาหารกระป๋องส่งออก ซึ่ง
เสี่ยพ.ได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีที่แล้ว นอกจากความร่ำรวยจากมรกดของสามีแล้ว สีกาอี๊ดจัดว่า
เป็นสตรีสวยคนหนี่ง เข้าทำนองมีรูปเป็นทรัพย์และมีทรัพย์นับไม่ถ้วน
เมียเสี่ยพ.เข้ามาเกี่ยวพันธ์กับวัดพระธรรมกายอย่างอุบาสิกาที่เอาจริงเอาจัง ช่วย
เหลือกิจการของทางวัดอย่างสุดจิตสุดใจ ทั้งการลงมือปฎิบัติเองและทั้งการทุ่มเททรัพย์ให้กับกิจ
การของวัดอย่างสม่ำเสมอจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น ภรรยาเสี่ยพ.ยังนำบุตรสาวอีกสองคน
เข้ามาปฎิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายอย่างเอาจริงเอาจังอีกด้วย
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นอกจากสีกาคนอื่น ๆ ที่หลวงพ่อธัมมชโยโปรดปรานอย่างสม่ำเสมอ
อยู่หลายคนแล้ว ถ้ากล่าวในกรณีโปรดปรานเป็นพิเศษ ในขณะนี้ต้องถือว่า ภรรยาเสี่ยพ.อยู่ในอัน
ดับต้น ๆ

ภรรยาหมอเมืองเหนืออีกหนึ่งสีกาคนโปรด
นอกจากภรรยาเสี่ยพ.แล้ว แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หลวงพ่อธัมมชโยยังมีสีกาที่ได้รับการ
โปรดปรานในอันดับต้น ๆ ในขณะนี้อีกคนหนึ่ง มีชื่อย่อว่า สีกาส. มีภูมิลำเนาในจังหวัดแห่งหนึ่ง
ทางภาคเหนือ เป็นภรรยาของนายแพทย์คนหนี่ง ซึ่งปัจจุบันสีกาคนนี้ทำธุรกิจอันใกล้ชิดกับวัดพระ
ธรรมกายเกี่ยวกับการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ บริษัทตั้งอยู่ในย่านฝั่งธน
ซึ่งถ้าเทียบกับภรรยาเสี่ยพ.แล้ว ต้องถือว่า ฝ่ายภรรยาเสี่ยพ.เป็นฝ่ายทุ่มให้วัดพระ
ธรรมกาย ในขณะที่ฝ่ายสีกาส.เป็นผู้จัดการธุรกิจ เป็นฝ่ายได้รับการทุ่มมากกว่า

รองเจ้าอาวาสไม่น้อยหน้า
สีกาคนโปรดเป็นอ.ระดับสูง
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ไม่เพียงแต่เจ้าอาวาสเท่านั้นที่มีสีกาคนโปรดเป็นพิเศษอย่างต่อเนื่อง
ฝ่ายพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสก็ไม่แพ้กัน ซี่งสีกาคนโปรดของพระเผด็จในขณะนี้ รับ
ราชการเป็นอาจารย์ระดับสูงของมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่ง เกี่ยวข้องกับธุรกิจวัดพระธรรมกาย
ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทค้าขายอัญมณีแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันกับที่สีกาส.คนสนิทคน
โปรดปรานเป็นพิเศษของเจ้าอาวาสเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงอยู่
สำหรับสีกาอาจารย์ระดับสูงคนนี้ ได้ปรากฎตัวอย่างชัดเจนในฐานะผู้ยืนยันเห็นปาฎิหาริย์
บนท้องฟ้าเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2541 อาจารย์คนนี้เลื่อมใสศรัทธาต่อวัดพระธรรมกายอย่างทุ่ม
เทสุดจิตสุดใจมาเป็นเวลานาน

จับตาโครงการ"อภิญญา"
ติวเข้ม"ดรุณีแรกแย้ม"
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า ในบรรดาโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการขยายเครือข่ายผู้ศรัทธาวัด
พระธรรมกายนั้น มีโครงการหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ นั่นคือ "โครงการอภิญญา" ซึ่งนำ
เด็กหญิงอายุ 13-14 ปีมาบวชเรียนเป็นกรณีพิเศษ
โครงการนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยถือฤกษ์วัดเกิดของหลวงพ่อธัมมชโย
เป็นวันเปิดโครงการ ลักษณะของโครงการ คือ การนำเด็กสาวพรหมจรรย์ อายุ 13-14 ปี
มาบวชเป็นชี เป็นบุตรบุญธรรมของหลวงพ่อธัมมชโย มีเป้าหมายบวชตลอดชีวิตและ มีเงี่อนไขว่า
ห้ามพ่อแม่มายุ่งเกี่ยวในขณะที่บวช โดยพระธัมมชโยจะเป็นผู้จัดการกิจกรรมการดำเนินชีวิตให้
กับชีน้อยเหล่านี้เองโดยตรง
ในขณะที่บวช ชีน้อยเหล่านี้อยู่ที่หมู่บ้านปฎิบัติธรรม ซึ่งเป็นพื้นที่"ส่วนใน"ของวัดพระธรรม
กายบางครั้งพระธรรมชโยก็จะนำชีน้อยไปปฎิบัติธรรมยังต่างจังหวัด โดยส่วนใหญ่เป็นจังหวัด
เชียงใหม่
สำหรับการแต่งกาย ชีน้อยสวมเสื้อแขนกระบอกสีขาวขุ่น นุ่งกางเกงขากระบอกสีเดียวกัน
เมื่อมีพิธีกรรมก็จะเดินติดตามแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ส่วนหลักสูตรที่ใช้ศึกษาเล่าเรียนจะไม่ศึกษาใน
การเรียนภาคปกติ แต่จะศึกษาธรรมศึกษา โครงการนี้เหมือนกับว่าพ่อแม่มอบบุตรสาวให้กับวัดพระ
ธรรมกายอย่างถาวร ซึ่งชีน้อยในโครงการนี้ส่วนใหญ่มาจากบุตรสาวสาวกของผู้เลื่อมใสวัดพระ
ธรรมกายอย่างเปี่ยมล้น
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า ขีน้อยที่บวชในโครงการอภิญญานั้นตอนนี้มีอายุ 17-18 ปี มีประมาณ
10 กว่าคน ซึ่ง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีชีน้อยบางคนสึกไปบ้าง ซึ่งแหล่งข่าวกล่าวว่า ชีน้อย
เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาดี ซึ่งในบรรดาชีน้อยนี้ มีน้องน.บุตรสาวภรรยาเสียพ.และ
บุตรสาวของนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังของเมืองไทยรวมอยู่ด้วย
สำหรับชีน้อยใน"โครงการอภิญญา"นั้นมีเพียงรุ่นนี้รุ่นเดียว
มหาแถลงตระกูลใหญ่ใกล้ชิดธรรมกาย
สำหรับกลุ่มบุคคลผู้เลื่อมใสวัดพระธรรมกายที่เป็นนักธุรกิจชั้นนำมีชื่อเสียง ซึ่งมีหลายตระ
กูลนั้น ในจำนวนนี้มีบุคคลในตระกูล"มหาแถลง"รวมอยู่ด้วย โดยเห็นได้จากในสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณา
เผยแพร่ของทางวัดซึ่งมักมีคนในตระกูลนี้เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านทุนทรัพย์อยู่ด้วย ซึ่ง
นามสกุล"มหาแถลง"นั้น ตรงกับนามสกุลของ"นายสุวิทย์ มหาแถลง" หรือที่วงการธุรกิจเรียกชื่อ
เล่นว่า"เสี่ยพะ" เสี่ยพะเป็นนักธุรกิจชั้นนำของไทยในอดีต มีกิจการหลายพันล้านบาท เป็นต้นว่า
กิจการอาหารกระป๋องส่งออก เสียพะเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน โดยทิ้งมรดกไว้ให้ครอบครัวและ
บริวารแวดล้อมจำนวนมหาศาล