Posted by ฉึกกะฉัก on December 23, 1998 at 08:37:35:
วิเคราะห์ วัดพระธรรมกาย จากบันทึกพระมโน เมตตานันโท (2) โดย ดร.พระมหาจรรยา สุทธิญาโณ แห่งวัดอุโมงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คอลัมน์ มติชนสุขสรรค์ นสพ.มติชนรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2541
5.ทำบุญเกิจตัวจนเกิดทุกข์ เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มีการพูดกันอย่างหนาหู บุคคลเหล่านี้เมื่อถูกถามว่าทำไมจึงไม่หยุด เขาก็บอกว่าหยุดไม่ได้เพราะเข้าสู่ระบบเครื่อข่ายมีหัวหน้าสายคอยควบคุมอยู่อีกชั้นหนึ่ง แม้หมดไปเท่าไรก็หยุดไม่ได้ เรื่องนี้ละเอียดอ่อน ฟังแล้วลึกลับดูเหมือนว่าถูกพันธนาการไว้กับอะไรสักอย่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง
แต่ทางวัดพระธรรมกายก็พยายามพูดอยู่เสมอว่า คนที่เขามาทำบุญล้วทำด้วยศรัทธา ไม่มีใครบังคับ หากมองดูตอนนี้ไม่ต้องบังคับแล้ว เพราะถูกจับขังไว้เรียบร้อย ซึ่งมีสภาพมากกว่าไปบังคับเสียอีก
สมชิกที่อยู่ในเครือข่ายหลายคนบอกว่า ถ้าทางวัดหยุดการบอกบุยสักระยะหนึ่ง เขาคงมีความสุขได้หายใจหายคอทั่วท้องมากขึ้น บางรายถึงกับบ่นว่าทางวัดบอกบุญอย่างไม่ปรานี แม้รู้อยู่ว่าเขาอยู่ในฐานะลำบาก แต่ยังมีหน้ามาบอกว่าผลบุญจะทำให้มีความสุขในวันข้างหน้าในชาติหน้า ที่กำลังทุกข์เพราะบุญไม่พอ
สุดท้ายก้ต้องหามาให้อีก หลายรายจึงอยู่ในสภาพน่าสงสาร เรื่องนี้ท่านมโนเอง ซึ่งท่านรู้จักมิตรสหายธรรมของท่านดีได้บันทึกความเจ็บปวดของผู้ทำบุญไว้ว่า
"อาตมาได้เห็นความทุกข์ยากของญาติโยม ความแตกแยกของครอบครัว ความยากจนในหมู่กัลยาณมิตร เพราะมาทำบุญที่วัดพระธรรมกาย"
ถ้าหากพฤติกรมการเรี่ยไรทำบุญของวัดพระธรรมกายเป็นไปในลักษณะที่เขาเล่าลือกันก็ดี นับได้ว่าเป็นทางที่ยิ่งเดินยิ่งไม่พบบุญเข้าไปทุกที
ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้วัดพระธรรมกายเริ่มเจาะเข้าไปตามชนบทแล้ว นับว่าเป็นเป้าหมายใหม่ที่ธรรมกายได้เล็งไว้ และเริ่มลงมือปฏิบัติการอุบาสกอุบาสิกาจากวัดในหมู่บ้านถิ่นห่างไกลหลายแห่ง เริ่มได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำเรี่ยไรเพื่อนบ้านด้วยกันแล้ว
หน่วยราชการหลายแห่งมีนักจัดการและเรี่ยไรมืออาชีพเข้าประจำ เริ่มสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนฝูง โรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนหลายแห่งมีพยาบาลไปชักชวนให้ผู้ป่วยสร้างพระประเภทต่างๆองค์ละหนึ่งหมื่นบาทบ้าง สองหมื่นบาทบ้าง แม้แต่พบพระซึ่งไม่มีเงินมากขนาดนั้นยังถูกเรี่ยไรไปหลายรูป
การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวมาชมความอลังการในวันสำคัญทำให้ตื่นตามตื่นใจกลับไปบ้านนอก ก็จะพากันเล่าลือเป็นการประชาสัมพันธ์แนวลึก ประชาชนในถิ่นห่างไกลทุกข์ยากอยู่แล้วเจอบุญลูกโซ่เข้าเที่ยวนี้คงจะลำบากกันขึ้นมาอีก มองไปแล้วให้สลดสังเวชใจแทนประชาชนที่เขาได้รับทุกข์อยู่ในขณะนี้
หากธรรมกายยังดำเนินการบุญในลักษณะเอามากกว่าจะให้ แทนที่จะเป็นการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาไปอีกพันปีข้างหน้า อาจจะกลายเป็การกัดเซาะทำลายศาสนาทั้งในรูปแบบและเนื้อหาโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้
ท่านรับจากสังคมนี้มานานเต็มทีแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องให้ให้บ้างแล้ว ไม่ฟังใครแต่จงฟังเสียงเพรียกของลูกศิษย์ท่านที่เคยร่วมกันสร้างความยิ่งใหญ่ให้ท่านอย่างอุทิศมาตลอดเวลาว่า "วัดที่ตนเองสร้างมากับมือเรียกร้องจากสังคมมากเกินไป และถึงเวลาแล้วที่วัดพระธรรมกายจะต้องให้กับสังคมไทยกลับคืน"
การให้คืนนี้ไม่ได้หมายถึงการจะทำโรงนาขนาดใหญ่ช่วยคนยากจนที่ตกยาก หรือแจกทุนการศึกษาแก่ผู้ยากไร้ ขอเพียงแต่ท่านยุติการตามล่าค้าบุญ ปลดปล่อยประชาชนที่กำลังผ่อนส่งค่าของบุญหรือหนี้บุญให้เป็นอิสระ ปล่อยให้เขาทำบุญตามศรัทธาจริง แค่นี้ก็เป็นการให้กับสังคมที่ยิ่งใหญ่แล้ว
6. คนทั่วไปยอมรับว่า การจัดการและการขายคือความสามารถพิเศษที่ไร้เทียมทานเหนือกว่าวัดอื่นๆของวัดพระธรรมกาย คือนอกจากขายบุญ ขายภาวา ขายอภินิหาร ขายครูบาอาจารย์ ขายพระพุทธรูป ขายวัตรปฏิบัติ ขายภาพพจน์แล้ว ก็เพิ่งจะรู้ว่าพระสงฆ์เป็นๆก็ถูกนำมาขายด้วย
เคยได้ยินมาก่อนเหมือนกันว่า วัดพระธรรมกายจะมีการนำพระเป็นๆมาจำหน่ายเหมือนกัน โดยวิธีการนิมนต์จากพระที่ไกลๆ มามากๆ แล้วนำไปบอกบุญต่อให้ญาติโยมทำบุญค่าอาหาร ค่ารถ ค่าจีวร และสิ่งต่างๆ จิปาถะ ตามแต่จะกำหนดรูปละกี่พันบาทก็ตกลงกันเอง บางทีพระหนึ่งรูปขายได้ตั้งหลายรอบขึ้นอยู่กับประชาชนจะมาทำบุญ เรื่องนี้ได้ยินแล้วไม่เคยเชื่อเพราะไม่มีหลักฐาน
แต่เพิ่งได้ข้อมูลใหม่จากท่าน มโน ว่า การที่วัดพระธรรมกายได้คนดีมีความรู้ไปอยู่ปฏิบัติธรรมหรือบวชเป็นพระก้จะกลายเป็นสินค้าแบบยั่งยืนดังที่ท่านได้เล่าไว้ถึงสถานะของท่านว่า
"ห้าปีสุดท้ายในวัดพระธรรมกายจึงเป็นห้าปีแห่งความทุกข์ เป็นห้าปีแห่งความมืดมน ห้าปีที่อาตมามีความรู้สึกว่า ตนเองเหมือนสัตว์ที่ถูกกักขังอยู่ในสวนสัตว์ ทำหน้าที่ดึงดูดประชาชนให้ซื้อตั๋วเข้ามาดู แต่สัตว์นั้นไม่มีสิทธิในการบริหารงานในสวนสัตว์นั้นเลย ดูซี ที่วัดนี้เรามีพระที่เป็นแพทย์ อุทิศตนมาบวช องค์นี้ท่านพิเศษเรียนจบจากอ๊อกซ์ฟอร์ ความศรัทธาในศาสนาของอาตมาได้ถูกเปลี่ยนเป็นจุดขายในการบอกบุญ เป็นตรายางประทับให้ชาวโลกเชื่อมั่นในวัดพระธรรมกาย"
คำเล่าลือที่ว่า วัดพระธรรมกายมีความเลิศในด้านการตลาดก็คงจะไม่มีใครปฏิเสธแต่ทว่าบนความเป็นเลิศนั้นจะมีใครยิ้มด้วยความอิ่มบุญสักกี่คน และมีใครแอบเจ็บปวดอยู่ในมุมมืดจากผลของความเป็นเลิศครั้งนี้ไม่มีใครจะรู้ได้
บันทึกของท่าน มโน เมตตานันโท จะเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญในการร่วมกันศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย อันถือเป็นปรากฎการณ์ในทางสังคมที่ชวนให้ศึกษาเสวนาและเรียนรู้ร่วมกัน
การนำเสนอใดๆที่เป็นไปบนพื้นฐานของความเมตตา สติปัญญา และความจริงมิเจือด้วยอารมณ์แห่งปฏิฆะหรืออาฆาตพยาบาทแต่อย่างใดโดยอาศัยประโยชน์ของมหาชนเป็นหลักล้วนเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การสนใจ
ในที่สุดเมื่อมีการแสวงหาเสวนากันมากๆ ความจริงแท้ก็จะปรากฎ
ทุกฝ่ายต้องตั้งสติให้ดีว่า กรณีวัดพระธรรมกายมิใช่เรื่องการทำลายล้างให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องมีอันเป็นไปแต่เป็นเรื่องที่เรากำลังร่วมกันเรียนรู้ว่า ปรากฎการณ์ของวัดพระธรรมกายนี้อยู่ใกล้หรือไกลจากพระพุทธศาสนาที่แท้จริงมากน้อยเพียงใดต่างหาก
เมื่อทราบข้อเท็จจริงแล้วใครจะเคารพนับถือบูชาพระพุทธศาสนาแบบดั้งเดิม หรือพระพุทธศาสนาแบบพระธรรมกายเหมาะสมกับตนเองก็เป็นเสรีภาพส่วนบุคคลที่จะตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตของใครของมัน
ข้อสำคัญต้องมีเสรีภาพอย่างแท้จริงเป็นพื้นฐานมิใช่อยู่ภายใต้อาณัติหรือแรงจูงใจใดๆ