จี้สึก'ธัมมชโย' กว้านซื้อที่ดินผิดวินัย กมธ.ศาสนาลุย'ธรรมกาย'ต่อ แฉข้อกล่าวหาล้วนแสบสันต์ พระผู้ใหญ่มั่วสีกา ศพปริศนาคาสำนัก 'อาคม'จวก'ธัมมชโย'กว้านซื้อที่ดินทำเหมืองแร่ทองคำ ลั่นจะตรวจสอบข้อเท็จจริง 'เสฐียรพงษ์'ชี้ผิดพระวินัย มหาเถรสมาคมจับสึกได้ เจ้าคณะอำเภอวังทรายพูนถามเอาเงินจากไหน 'มติชน'แฉซ้ำโฉนดอื้อฉาวฉบับที่ 2 หัวข้อข่าว นสพ.มติชนรายวัน ฉบับ วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2541

Posted by ฉึกกะฉัก on December 17, 1998 at 13:23:02:

จี้สึก'ธัมมชโย' กว้านซื้อที่ดินผิดวินัย กมธ.ศาสนาลุย'ธรรมกาย'ต่อ แฉข้อกล่าวหาล้วนแสบสันต์ พระผู้ใหญ่มั่วสีกา ศพปริศนาคาสำนัก 'อาคม'จวก'ธัมมชโย'กว้านซื้อที่ดินทำเหมืองแร่ทองคำ ลั่นจะตรวจสอบข้อเท็จจริง 'เสฐียรพงษ์'ชี้ผิดพระวินัย มหาเถรสมาคมจับสึกได้ เจ้าคณะอำเภอวังทรายพูนถามเอาเงินจากไหน 'มติชน'แฉซ้ำโฉนดอื้อฉาวฉบับที่ 2 หัวข้อข่าว นสพ.มติชนรายวัน ฉบับ วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2541

เมื่อเวลา 10:00 น วันที่ 16 ธันวาคม คณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎณ ประชุมพิจารณากรณีมีผู้ร้องเรียนว่า วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมะานี ดำเนินการขัดต่อหลักพระพุทธศาสนา โดยมีนายเด่น โต๊ะมีนา เป็นประธาน ภายหลังนายเด่นให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่มหาเถระสมาคม(มส.) มีมติให้พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 รับเรื่องวัดพระธรรมกายไปศึกษาในรายละเอียด พร้อมทั้งกรมศาสนาได้ตั้งคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นมา เพื่อพิจารณาว่ามีสิ่งใดที่วัดพระธรรมกายทำถูกก็ให้ทำต่อไป แต่สิ่งใดที่ผิดก็จะต้องแก้ไข ในส่วนของกรรมาธิการจะศึกษารายละเอียดอีกทาง เพื่อนำข้อมูลเสนอต่อ มส. ทั้งนี้จะศึกษารวมไปถึงสิ่งที่ระ มโน เมตฺตานนฺโท มหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ อดีตพระวัดพระธรรมกายออกมาแฉพฤติกรรมภายในวัดท่ขัดต่อหลักพระศาสนา อย่างไรก็ตาม การพิจารณาของคณะกรรมาธิการยังไม่กำหนดแน่ชัดว่าจะพิจารณาเสร็จเมื่อไหร่ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมาธิการได้รวบรวมข้อมูล ซึ่งเคยมีผู้ศึกษาเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายไว้ตั้งแต่ปี 2531 โดยกล่าวหาว่า มีพระผู้ใหญ่ของวัดได้กระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เนื่องจากมีความสัมพันธ์อันไม่เหมาะสมกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา จนเป็นข่าวขึ้นมา เมื่อมีผู้หญิงชื่อ "อี๊ด" ออกมาเปิดเผยตัวกับสื่อมวลชน เมื่อปี 2531 พร้อมแฉพฤติกรรมของพระรูปดังกล่าวว่ามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคน ไม่ว่าจะเป็นสาวไฮโซฯ หรือภริยาข้าราชการระดับสูง โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำมาประกอบการพิจารณา อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการเชื่อว่าคดีวัดพระธรรมกายคงจะไม่ยืดเยื้อเหมือนกับคดียันตระ เพราะมีพระลูกศิษย์จำนวนมากออกมาแฉพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของวัดพร้อมกับหลักฐาน

นอกจากนั้น ยังว่ามีญาติของพระรูปหนึ่งที่เคยบวชอยู่ในวัดพระธรรมกาย แต่เสียชีวิตกลายเป็นศพปริศนาอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย ได้นำข้อมูลมาให้กรรมาธิการระบุว่า พระรูปดังกล่าวไปเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งกับหญิง จนกระทั่งกลายเป็นศพปริศนาคาวัดดังกล่าว จนปัจจุบันก็ยังไม่ทราบสาเหตุ

แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยถึงกรณีพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไปกว้านซื้อที่ดินเพื่อทำเหมืองทองคำในพื้นที่ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตรว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีการสำรวจพบแหล่งแร่ทองคำอยู่แล้ว โดยมีอาชญาบัตรพิเศษของบริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด และ บริษัท ไทยโกลบอนด์ เวนเจอร์ จำกัด แต่สำหรับรายใหม่ยังไม่มีใครยื่นมาขอประทานบัตรเขัามา

นายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หากพระธัมมชโยได้ซื้อที่ดินจริงก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสมเพราะได้บวชเป็นพระแล้ว ถ้าลาสิกขาไปที่ดินดังกล่าวจะกลายเป็นสมบัติของตัวเอง ซึ่งสามารถเปลี่ยนมาซื้อในนามของมูลนิธิธรรมกายหรือในนามของวัดได้ ตนจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง คิดว่าว่าเจ้าคณะภาค 1 คงจะต้องพิจารณาประเด็นนี้ด้วย

ด้านนายเสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต กล่าวถึงกรณีนี้ว่า พระมีอาชีพบิณฑบาตรอย่างเดียว จะทำนิติกรรมหรือธุรกิจไม่ได้ทั้งนั้น พวกที่ทำไม่ใช่พระ แต่เป็นแพะ เรื่องนี้ไม่เข้าข่ายปราชิก แต่ถือว่าผิด เพราะพระไม่มีอาชีพ พระห้ามหากิน ดังนั้นจึงผิดตรงไม่เหมาะสม ไม่ควร ถือว่าผิดพระวินัย แม้พระวินัยไม่ได้บัญญัติไว้ในข้อนี้ แต่ มส.มีกฎซึ่งถ้าเห็นว่าไม่เหมาะไม่ควรสามารถจับสึกได้ อย่างไรก็ตาม การกระทำเช่นนี้ขัดต่อกฎของ มส. ถามว่าทำไมทางราชการจึงให้โฉนดมาได้

ส่วนที่ จ.พิจิตร ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ริมเขาพนมพา บ้านเขาพนมพา หมู่ 7 ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน ซึ่งเป็นจุดที่พระธัมมชโยไปกว้านซื้อที่ดินไว้ 156 ไร่ พบว่า ก่อนหน้านี้มีวัดเขาพนมพามาตั้งอยุ่ แต่ขณะนี้พระธัมมชโยกับพวกได้ผลักดันให้พระย้ายออกจากวัดพร้อมรื้อถอนวัดไปเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดยังพยายามที่จะย้ายโรงเรียนวัดเขาพนมพาออกจากพื้นที่ด้วย

นายหม่ำ มณี อายุ 70 ปี กรรมการวัดเขาพนมพา เปิดเผยว่า วัดเขาพนมพาเดิมที่ถูกให้ออกจากพื้นที่มีนายธรรม ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเสียชีวิตแล้วเป็นผู้มอบที่ดินให้จำนวน 25 ไร่ เศษ มีเอกสารสิทธิเป็น ส.ค.1 แต่ทีดินในขณะนี้พระธัมมชโยได้ถือเอกสารสิทธิ์ครอบครองอยู่ หลังได้รับมอบที่ดินมีการสร้างเป็นวัดและโรงเรียนเขาพนมพาขึ้น วัดมีพระพำนักอยู่ 2 - 3 รูป โรงเรียนมีนักเรียนประมาร 20 - 30 คนในสมัยนั้น จากนั้นปี 2519 หรือ 2520 มีนายถาวร พรมแดง นายชาญวิทย์ เปรมกมล และพระธัมมชโยได้เข้ามาดูที่ดิน

"นายชาญวิทย์ได้เข้ามาติดต่อขอซื้อที่ดินจากนายสมบูรณ์ ใจซื่อ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ที่ถือหลักฐานที่ดิน ส.ค.1 ไว้ในสมัยนั้น ซึ่งต่อมานายสมบูรณ์ได้ยอมขายโดยไม่ผ่านการยินยอมจากใครทั้งสิ้น ระหว่างนั้นชาวบ้านไม่พอใจเพราะต้องรื้อวัดแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะนายชาญวิทย์ได้เอากลุ่มคนที่แต่งกายทหารมาข่มขู่ไล่รื้อถอน และย้ายวัดไปอยู่ในที่ของนายชาญวิทย์เองโดยบอกจะยกให้แต่ไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ทำให้พระประสบความลำบากในการออกบิณฑบาตเพราะอยู่ไกลหมู่บ้าน" นายหม่ำกล่าว

พระจันทร์ สาระกันโท อายุ 73 ปี เปิดเผยว่า วัดเดิมอยู่ติดเชิงเขาบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม แต่เมื่อสิบปีก่อนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายมาพร้อมกับนนายสมบูรณ์ ใจซื่อ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 และนายชาญวิทย์ นายถาวรมาเจรจาว่าที่ดินแปลงนี้นายสมบูรณ์ได้ขายให้แล้วเพื่อจะทำเหมืองทองคำ ขอให้วัดย้ายไปอยู่ที่ใหม่โดยจะหาพื้นที่ตั้งวัดใหม่ให้ ตนและพระในวัดต่างไม่ยอมแต่เกรงอิทธิพลผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มคนที่มาจึงจำยอม และวัดแห่งใหม่นี้จะถูกไล่ที่อีกเมื่อไหร่ยังไม่รู้

พระคุณวิเศษ วิริยะกุล เจ้าคณะอำเภอวังทรายพูนเปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับการย้ายวัดเขาพนมพา แต่หลายปีก่อนนายถาวรและพวกเอาเอกสารสิทธิและรายชื่อชาวบ้านอ้างว่าลงชื่อยินยอมให้ย้ายวัดมาให้ดู และขอให้ลงนามอนุมัติตนจึงอนุมัติให้ไป แต่มาทราบภายหลังว่าสิ่งที่เอามาให้ไม่เป็นความจริง รู้สึกเสียใจเหมือนโดนจับมือชกโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

"อาตมาไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เสียใจที่โดนหลอก อยากถามว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายทำภารกิจสงฆ์เกินหน้าที่หรือเปล่า ที่ก้าวก่ายกิจสงฆ์ข้ามจังหวัด สร้างความวุ่นวาย และที่ซื้อที่ดินเอาเงินมาจากไหน พระมีรายได้อะไรจึงมีเงินมาซื้อที่ดิน ถ้าเป็นเงินบริจาคของชาวบ้าน ก่อนซื้อมีมติสงฆ์ในวัดหรือเปล่า เรื่องนี้คณะสงฆ์น่าจะมีมาตรการตรวจสอบควบคุม ตามกฎหมายแล้วชื่อพระจะเป็นเจ้าของโฉนดไม่ได้ นอกจากสึกออกมาเสียก่อน เป็นพระจะมากว้านซื้อที่ดินได้อย่างไร ตรงนี้ไม่สมควรอย่างยิ่งคิดว่าทางราชการทำไม่ถูกด้วย มีส่วนรู้เห็น" พระคุณวิเศษกล่าว

วันเดียวกันผู้สื่อข่าว"มติชน"เข้าไปสังเกตการณ์ที่วัดพระธรรมกาย โดยแจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอเข้าพบพระธัมมชโย ขอคำชี้แจงในเรื่องกว้านซื้อที่ดินที่ อ.วังทรายพูน เจ้าหน้าที่ตอบปฏิเสธทันทีโดยระบุว่าเจ้าอาวาสวัดติดภารกิจสงฆ์ และไม่มีใครชี้แจงได้

เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของวัดรายหนึ่งกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องที่พระธัมมชโยซื้อที่ดินเพื่อทำเหมืองทอง พร้อมทั้งย้อนถามว่า 'มติชน' ไปได้ข้อมูลพร้อมหลักฐานโฉนดที่ดินมาได้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่อยู่วัดได้มีเจ้าหน้าที่ยามรักษาการณ์ของทางวัดในชุดสีกากีพร้อมวิทยุสื่อสารเข้าคอยคุมเชิงอยู่ตลอดเวลา มีการวิทยุเรียกสมัครพรรคพวกให้เข้ามาสมทบ โดยเจ้าหน้าที่บางส่วนได้ใช้รถจี๊ปติดสัญญาณไซเรนเป็นพาหนะด้วย

คุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยถึงสิ่งปลูกสร้างในวัดพระธรรมกายที่ไม่ได้ขออนุญาตเกือบทั้งหมดว่า หากเป็นมูลนิธิธรรมกายก่อสร้างต้องยื่นแบบเสนอก่อนจะก่อสร้าง เพราะตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2522 ระบุไว้ หากไม่มีการยื่นแบบถือว่าเป็นความผิด แต่เรื่องนี้จังหวัดได้มอบหมายให้ทางเทศบาลตำบลท่าโขลง และที่องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)คลองสาม เป็นผู้ที่รับผิดชอบไปแล้ว หากหน่วยงานดังกล่าวไม่ปฏิบัติถือว่าละเว้น

นางพิมพ์ใจ แสนงาม เจ้าหน้าที่สุขาภิบาลอำเภอคลองหลวง ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงวัดพระธรรมกาย กล่าวว่า เวลานี้วัดพระธรรมกายได้เร่งสร้างพระและส่งเสียงดังทั้งวันทั้งคืน จนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงต้องทนกับเสียงดังตลอดทั้งวันนั้นหน่วนงานที่รับผิดชอบเข้าไปดูแลบ้างหรือไม่ หรือต้องให้ชาวบ้านทนฟังเสียงดังต่อไปจนไปไม่เป็นอันหลับอันนอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้วัดพระธรรมกายได้ส่งจดหมายเวียนเป็นคำชี้แจงไปถึงผู้ที่เคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดนับแสนฉบับ ระบุถึงเหตุการณ์ที่พระทวี และสามเณรวุฒิพันธ์ หงษ์พฤกษ์ ของวัดพระธรรมกายไปถูกจับกุมที่ซิลเวอร์บีช รีสอร์ท จ.ระยอง ฐานเสพยาบ้า โดยสามเณรวุฒิพันธ์ได้ถูกจับสึกหลังเกิดเหตุ ส่วนพระทวีทางวัดสั่งให้ลาสิกขาทันที

ด้านพระมหาจรรยา สุทธิญาโณ ผู้อำนวยการสถาบันปัญญานันทะ วัดอุโมงค์ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สงฆ์ต้องไม่ประกอบธุรกิจมีหน้าที่ศึกษาปฏิบัติ ค้นคว้าสัจจธรรม หากพระองค์ไหนบ้านไม่ต้องเช่าข้าวไม่ต้องซื้อ แล้วยังทำธุรกิจอีกถือว่าทำนาบนหลังทายก ทายิกา ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ถือว่าผิดหลักการและอุดมการณ์ของพระ มส.ต้องรีบสอบสวนโดยด่วนกรณีมีชื่ออยู่ในโฉนด (ดูหลักฐานโฉนดอื้อฉาว หน้า 15)