มติชน 22/4/2543
ธรรมกายเกณฑ์นร. หวั่นงานเจดีย์กร่อย พระวัด"ไชยบูลย์"ท้านักข่าวชก
พระแสนพลวัดพระธรรมกายยังไม่หายแค้นนักข่าว เจอหน้าด่ากราดเรียกยาม มาหิ้วออกนอกวัดพร้อมท้าชก เจ้าคณะจังหวัดในเขตจังหวัดภาค 1 ปฏิเสธเป็น คณะผู้พิจารณากรณีปัญหาวัดฉาว
เมื่อวันที่ 21 เมษายน นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวถึงความคืบหน้า การแต่งตั้งคณะผู้พิจารณาชั้นต้น กรณีปัญหาวัดพระธรรมกายที่พระธัมมชโยอดีตเจ้าอาวาส บิดเบือนคำสอน อวดอุตริมนุสธรรม ฯลฯ ว่า จากการที่พระเทพกวี เจ้าอาวาสวัดสามพระยา รักษาการเจ้าคณะภาค 1 ได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดต่างๆ ในเขตภาค 1 เพื่อมาเป็น กรรมการในคณะผู้พิจารณาชั้นต้น แต่เท่าที่ทราบขณะนี้เจ้าคณะจังหวัดหลายๆ จังหวัดใน เขตภาค 1 ได้ตอบกลับมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าไม่อาจรับตำแหน่งดังกล่าวได้ โดยเจ้า คณะจังหวัดแต่ละรูปได้ให้เหตุผลในการตอบปฏิเสธมาด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้ไปนมัสการ หารือสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เจ้าคณะใหญ่หนกลางเมื่อต้นสัป ดาห์ โดยได้ถวายคำแนะนำว่าทางออกที่ดีที่สุดคือควรมีการแต่งตั้งเจ้าคณะภาค 1 ตัวจริง เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการซึ่งท่านก็บอกว่าเรื่องนี้อยู่ในความคิดแล้ว แต่ขอเวลา พิจารณาให้รอบคอบก่อน
ด้านนายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯ กล่าวภายหลังเข้าหารือร่วมกับอธิบดีกรมการศาสนาถึงกรณีที่รักษาการเจ้าคณะภาค 1 ทำหนังสือนิมนต์ไปยัง เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีและเจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการให้ร่วมเป็นคณะผู้พิจารณาชั้นต้นกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือ ตอบกลับแล้ว โดยเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 2 ปฏิเสธไม่รับที่จะเป็นผู้พิจารณาชั้นต้น ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการตามกฎนิคหกรรมได้ต่อไป จะต้องมี การแต่งตั้งเจ้าคณะภาค 1 ขึ้นมาแทนรักษาการเจ้าคณะภาค 1 โดยยึดหลักอาวุโสและเป็นที่ยอมรับของสังคม อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้า ตน จะเดินทางไปหารือกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดชนะสงครามอีกครั้ง เพื่อหารือว่าจะดำเนินการแต่งตั้ง เจ้าคณะภาค 1 ได้เมื่อใด
บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ต.สมเกียรติ อุปกรณ์ศิริการณ์ สวส.สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับ เรื่องร้องทุกข์ของผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่งว่า วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ขณะเดินทางไปพบมารดาที่ทำธุระอยู่ภายในวัดธรรมกาย อ.คลองหลวง ปรากฏว่าได้พบกับ พระแสนพล ไม่ทราบฉายา อายุ 30 ปี เดินปรี่เข้ามาท่าทางเอาเรื่อง มือข้างหนึ่งถือวิทยุสื่อ สารของทางราชการ ที่เอวเหน็บโทรศัพท์มือถือ พร้อมตะโกนขับไล้ด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า "พวกนักข่าวไม่มีจรรยาบรรณ ยังไม่รู้จักที่ตาย ออกไปจากวัดเดี๋ยวนี้เลย อายุไม่ยืนแน่"
จากนั้นได้วิทยุเรียกยามมากรูกันล็อกตัวออกนอกวัด โดยพระแสนพลตามมาส่งและท้าทาย ให้กลับเข้ามาที่สภาธรรมกายสากลเพื่อชกกัน แต่ผู้สื่อข่าวเกรงว่าจะเกิดอันตรายหากเข้า ไป จึงท้าให้ออกมาชกกันนอกวัด และให้ตำรวจเป็นพยานด้วย แต่พระแสนพลไม่ออกมา จากเขตวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับ อันตรายจากการทำข่าววันที่ 22 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นวันฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ และหลังพ้น วันงานไปแล้วเจ้าหน้าที่จะเรียกพระแสนพลมาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในวัดพระธรรมกายว่า ตลอดวันเจ้าหน้าที่วัด พระสงฆ์ สาม เณรต่างช่วยกันจัดเตรียมงาน โดยได้จ้างบริษัทผู้รับเหมาติดตั้งระบบแสง สี เสียง และจอที วีขนาดยักษ์นับสิบจอรอบมหาธรรมกายเจดีย์ พร้อมนำธงเครื่องหมายจานบินติดรอบเจดีย์ กว่า 2 แสนอัน จนถึงเวลา 18.00 น. มีผู้เดินทางมาถึงแล้วประมาณ 1,000 คน
รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดงานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ครั้งนี้ ทางวัดเตรียมแจกพระเครื่องรุ่น "เชื่อแล้วรวย" ให้กับญาติโยมที่มาร่วมงาน แต่ ก็มีเรื่องบริจาคเพิ่มขึ้น คือเชิญชวนให้ญาติโยมร่วมบริจาคในโครงการผ้าป่าพันวัด โดยผู้บริจาคจะได้ของสมนาคุณเป็นพระของขวัญ นอกจากนี้ ทางวัดยังปล่อยข่าวว่าทางรองประธานเวิร์ลด์แบงก์จะเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ในวันงานด้วย
นายวีระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายกล่าวว่า เรื่องพระแสนพลกับผู้สื่อข่าว เป็นการเข้าใจผิดกัน และเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับวัด ไม่น่าจะต้องถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ น่าจะตกลงกันได้ สำหรับงานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ทางวัดไม่ได้คำนึงว่าค่าใช้จ่ายสูง เท่าใด แต่ต้องการทำเพื่อจรรโลงศาสนา และครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากพุทธศาสนิกสัม พันธ์แห่งโลกที่มีสมาชิก 50 ประเทศ และจะมีชาวต่างชาติกับพระสงฆ์ต่างชาติเดินทางมา ร่วมงานกว่า 2,000 ชีวิต ส่วนชาวพุทธในประเทศแม้จะลดลงมากก็เพราะสื่อเสนอข่าวไม่ ตรงข้อเท็จจริง
ที่ จ.สิงห์บุรีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากนางกาญจนา สุทธิสุข ผู้ปกครองนัก เรียนโรงเรียนสิงห์บุรี ว่า บุตรสามารถสอบเข้ามัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนสิงห์บุรี และ ทางโรงเรียนมีโครงการให้นักเรียนเข้าใหม่อบรม "โครงการเข้าค่ายอบรม คุณธรรม จริย ธรรม พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ" ระหว่างวันที่ 19-23 เมษายน ที่โรงเรียน โดยมีนักเรียน เข้าอบรมทั้งหมด 580 คน โดยมีพระจากวัดธรรมกายมาเทศนาสอนเด็ก นอกจากนี้จะนำ เด็กเข้าค่ายที่วัดธรรมกายในวันที่ 21-22 เมษายนนี้ ซึ่งทราบมาว่าตรงกับงานฉลองเจดีย์ ธรรมกายพอดี
เมื่อทราบเรื่องดังกล่าว บรรดาผู้ปกครองต่างรวมตัวกันไม่ให้ลูกไป ต่อมามีการเปลี่ยนแผน โดยให้ผู้ปกครองเซ็นใบยินยอมให้เด็กไปร่วมงานโดยไปเช้าวันที่ 22 เมษายนและกลับใน ช่วงเย็น และมีการขู่เด็กด้วยว่าหากไม่ไปจะถูกตัดสิทธิสอบปลายภาค และงานนี้มีผลต่อ คะแนนการเรียนด้วย ดังนั้นจึงมีผู้ปกครองยินยอมเซ็นประมาณ 120 คน
นายจำเนียร สิงหะแสนยาพงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปกครอง กล่าวว่า โครงการนี้ไม่ใช่ โครงการของโรงเรียน ทาววัดธรรมกายได้ประสานมาทางผู้บริหารและโรงเรียนให้ใช้ สถานที่และคอยดูแลเท่านั้น ส่วนการที่ให้เด็กไปวัดธรรมกายเพื่อต้องการให้ศึกษาว่าการที่ มีคนมาอยู่รวมกันมากๆ นั้นมีการจัดระเบียบกันอย่างไร ไม่มีเจตนาอย่างอื่น แต่หากกระแส ต่อต้านรุนแรงขนาดนี้ก็จะยกเลิกโครงการ
ที่ จ.กาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพระและลูกศิษย์ตามวัดต่างๆ ที่ยังศรัทธาวัดพระธรรม กาย ใน อ.ไทรโยค ทองผาภูมิ และสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้ชักชวนพระ-เณร ตามวัด ต่างๆ ใน 3 อำเภอ เดินทางไปร่วมฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ ที่วัดพระธรรมกายในวันที่ 22 เมษายนนี้ โดยจะมีการมอบเงินให้กับทางวัดที่ไปร่วมวัดละ 10,000 บาท และสำหรับพระรูป ละ 1,000 บาท ส่วนสามเณร 500 บาท และชาวบ้าน 200 บาท เพื่อเป็นค่าเดินทาง
โดยผู้เข้าร่วมจะได้รับบัตร 1 ใบ มีข้อความว่า บัตรร่วมฉลองธรรมกายเจดีย์ ณ วัดธรรม กาย จ.ปทุมธานี เสาร์ที่ 22 เมษายน รถออก 06.00 น.กลับ 22.00 น. พร้อมกับมีการลงชื่อไว้ ในบัญชีเพื่อเป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.สมชัย ศรีภิญโญ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว แต่จะต้อง ตรวจสอบว่ามีวิธีดำเนินการชักชวนอย่างไร มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ ออกตรวจสอบแล้ว หากเป็นเรื่องไม่ถูกต้องจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตรวจพบคนต่างด้าวเดินทางร่วมมากับคณะที่จะเดินทางไปวัดธรรม กายถึง 560 คน