คำสอนใด ขัดกับพระสูตร ขัดกับพระวินัย ( ขัดกับพระไตรปิฎก ) คำสอนนั้นไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ของมหามกุฏราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์
เล่มที่ 13
ทีฆนิกาย มหาวรรค หน้า 293-295 ข้อ 112-116 มหาปรินิพพานสูตร เรื่องมหาปเทศ
๔ อย่าง
๓. มหาปรินิพพานสูตร
[ ๑๑๒ ] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ตามความพอพระทัยในบ้านภัณฑคามแล้ว
ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า
มาเถิด อานนท์ เราจักไปยังหัตถีคาม อัมพคาม ชัมพุคาม และโภคนคร ท่านอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว
เรื่องมหาปเทศ ๔ อย่าง
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่
เสด็จถึงโภคนครแล้ว ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ
ณ อานนทเจดีย์ในโภคนครนั้น ณ ที่นั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงมหา
ประเทศ ๔ เหล่านี้ พวกเธอจงฟัง จงตั้งใจฟังให้ดี
เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาค
เจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสดังต่อไปนี้
[ ๑๑๓ ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อนี้ข้าพเจ้าได้สดับมา
ได้รับมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา
พวกเธอ
ไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของภิกษุนั้น ครั้นไม่ชื่นชม ไม่คัดค้านแล้ว
พึงเรียนบทพยัญชนะเหล่านั้นให้
ดีแล้ว สอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย
ถ้าสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย
ลงใน
พระสูตรไม่ได้ เทียบเคียงในพระวินัยไม่ได้ พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า นี้ไม่ใช่คำสอนของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น และภิกษุนี้จำมาผิดแล้วแน่นอน ดังนั้น พวกเธอจงทิ้งคำ
กล่าวนั้นเสียถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตร
เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรได้ เทียบเคียง
ในพระวินัยได้ พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า นี้คำสอนของพระผู้มีพระภาค
เจ้าพระองค์นั้น และภิกษุนั้นจำมาถูกต้องแล้วแน่นอน
ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงทรงจำมหา
ประเทศข้อที่หนึ่งนี้ไว้
[ ๑๑๔ ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
พึงกล่าวอย่างนี้ว่า สงฆ์พร้อมพระเถระ พร้อมทั้งปาฏิโมกข์อยู่
ในอาวาสโน้น ข้าพเจ้าได้สดับมา ได้รับมาเฉพาะหน้าของสงฆ์นั้นว่า นี้เป็นธรรม
นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของ
พระศาสดาดังนี้ พวกเธอไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้าน
คำกล่าวของภิกษุนั้น ครั้นไม่ชื่นชม ไม่คัดค้านแล้ว พึงเรียนบทพยัญชนะเหล่านั้นให้ดีแล้ว
สอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตร
เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรไม่ได้ เทียบเคียงในพระวินัยไม่ได้ พึงถึงความตกลงใจใน
ข้อนี้ว่า นี้ไม่ใช่คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น และภิกษุสงฆ์จำมาผิดแล้วแน่นอน
ดังนั้น พวกเธอพึงทิ้งคำกล่าวนั้นเสีย ถ้าบทพยัญชนะเหล่านั้น
สอบสวนในพระสูตร เทียบเคียง
ในพระวินัย ลงในพระสูตรได้ เทียบเคียงในพระวินัยได้ พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า
นี้คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น และภิกษุสงฆ์นั้นจำมาถูกต้องแล้ว
แน่นอน ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงทรงจำมหาประเทศข้อที่สองนี้ไว้
[ ๑๑๕ ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ภิกษุเป็นพระเถระมากรูปอยู่ในอาวาสโน้น เป็นพหูสูต
มีอาคมอันมาถึงแล้ว เป็นผู้ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ข้าพเจ้าได้สดับมาได้รับมาเฉพาะหน้าพระ
เถระเหล่านั้นว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดาดังนี้
พวกเธอไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้าน
คำกล่าวของภิกษุนั้น ครั้นไม่ชื่นชม ไม่คัดค้านแล้ว พึงเรียนบทพยัญชนะเหล่านั้นให้ดีแล้ว
สอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ถ้าสอบสวนในพระสูตร
เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรไม่ได้ เทียบเคียง
ในพระวินัยไม่ได้ พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า นี้ไม่ใช่คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
และพระเถระเหล่านั้นจำมาผิดแล้วแน่นอน ดังนั้น พวกเธอจงทิ้งคำกล่าวนั้นเสีย
ถ้าบทพยัญชนะเหล่านั้นสอบสวนในพระสูตร
เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรได้ เทียบเคียง
ในพระวินัยได้ พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า นี้คำสอนของพระผู้มีพระภาค
เจ้าพระองค์นั้น และพระเถระเหล่านั้นจำมาถูกต้องแล้วแน่นอน
ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอ
พึงทรงจำมหาประเทศข้อที่สามนี้ไว้
[ ๑๑๖ ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ภิกษุผู้เป็นพระเถระอยู่ในอาวาสโน้น เป็น
พหูสูต มีอาคมอันมาถึงแล้ว ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ข้าพเจ้าได้สดับมา
ได้รับมาเฉพาะหน้าพระเถระ
นั้นว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ดังนี้
พวกเธอไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้านคำ
กล่าวของภิกษุนั้น ครั้นไม่ชื่นชม ไม่คัดค้านแล้ว เรียนบทพยัญชนะเหล่านั้นให้ดีแล้ว
สอบสวนในพระสูตร เทียบ
เคียงในพระวินัย ถ้าบทพยัญชนะเหล่านั้นสอบสวนในพระสูตร
เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตร
ไม่ได้ เทียบเคียงในพระวินัยไม่ได้ พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า นี้ไม่ใช่คำสอนของพระผู้มีพระ
ภาคเจ้าพระองค์นั้น และพระเถระนั้นจำมาผิดแล้วแน่นอน ดังนั้น พวกเธอจงทิ้งคำกล่าวนั้น
เสีย ถ้าบทพยัญชนะเหล่านั้นสอบสวนในพระสูตร
เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรได้
เทียบเคียงในพระวินัยได้ พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า
นี้คำสอนของพระผู้มี
พระภาคเจ้าพระองค์นั้น และพระเถระนั้นจำมาถูกต้องแล้วแน่นอน
ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงทรงจำมหาประเทศ ๔ เหล่านี้ไว้ ด้วยประการฉะนี้
ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่
ณ อานันทเจดีย์ในโภคนครนั้น ทรงกระทำธรรมมีกถานี้แหละเป็นอันมากแก่
ภิกษุทั้งหลายว่า อย่างนี้ศีล อย่างนี้สมาธิ
อย่างนี้ปัญญา สมาธิอันศีลอบรมแล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ปัญญาอันสมาธิอบรมแล้ว
มีผลมาก มีอานิสงส์มาก จิตอันปัญญาอบรมแล้ว ย่อมหลุดพ้นจาก
อาสวะโดยชอบคือ กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ของมหามกุฏราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์
เล่มที่ 13
ทีฆนิกาย มหาวรรค หน้า 404 สุมังคลวิลาสินี อรรถกถาทีฆนิกาย มหาวรรค อรรถกถามหาปรินิพพานสูตร
อรรถกถามหาปรินิพพานสูตร
สุตตันตปิฎก อภิธัมมปิฎก ชื่อว่า สูตร , วินัยปิฎก ชื่อว่า วินัย