เดลินิวส์ 18/11/2542
ศึกธรรมกายเดือดระเบิดถล่มวัดชนะฯ หลังชุมนุมให้ปลดเจ้าคณะปทุมธานี มือมืดวางแสวงเครื่องใต้เก๋งพังยับ
ด่วน...วางรเบิดแสวงเครื่อง วัดชนะสงคราม รถเก๋งพังเสียหายยับเยิน ส่วนสาวกธรรมกาย ห้าวจัดยื่น ข้อเรียกร้องถึงสมเด็จวัดชนะฯ ปลดเจ้าคณะจว.ปทุมธานี ตั้งพระครูปทุมกิจโกศล กลับมาเป็น เจ้าคณะตำบลคลอง1อีกรอบ แฉงานนี้มีคนได้หัวละ 200 บาท เข้าคณะหนกลางระบุไม่เปลี่ยนแปลง พระสุเมธาภรณ์ทำถูกต้องแล้ว ให้โอกาส "ไชยบูลย์" อีกครั้งถ้าไม่มารับฟังข้อกล่าวหาจะเดินหน้าลุย อาจารย์-พระลูกศิษย์มหาจุฬาฯ รวมตัวเสนอปลดพระพรหมโมลีจากเจ้าคณะภาค 1 ฐานอุ้มวัดฉาว ศาลนัดสืบพยานโจทก์คดีพระปลอมฉ้อโกงนัดแรก
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าว รายงานจากหน้าวัดชนะสงครามว่าสาวกธรรมกาย ยังคงเดินทาง มาชุมนุม เพื่อประท้วงไม่ยอมให้ปลด พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบล คลอง 1 ออกจากตำแหน่ง หลังจากสลายตัวไปเมื่อคืนวันที่ 16 พ.ย. โดยก่อนการสลายตัวมีการสวดมนต์สรรเสริญคุณพระดูดทรัพย์ของวัดพระธรรมกายส่งท้ายด้วย
ตั้งแต่เช้ามืดสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เดินทางมาตรวจความเรียบร้อย แต่ผู้ชุมนุมไม่ได้ยื่นข้อเรียกร้อง เพราะไม่รู้จัก ทั้งที่อ้างว่าเป็นคนที่เคยทำบุญกับวัดชนะสงครามเป็นประจำ จากนั้นในเวลา 09.30 น. นายเริงฤทธิ์ เบ้านุวงศ์ หัวหน้าฝ่ายสังฆการ กรมการศาสนาเดินทางมากราบนมัสการสมเด็จพระมหาธีราจารย์ใช้เวลาหารือกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นนายเริงฤทธิ์กล่าวว่าสมเด็จพระมหาธีราจารย์ยืนยันคำสั่งปลดเจ้าคณะตำบลคลอง 1 ถูกต้องแล้ว จะไม่ทบทวน
ส่วนกรณีการดำเนินคดี ตามกฎนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสนั้น นายเริงฤทธิ์กล่าวว่าสมเด็จพระมหาธีราจารย์เห็นว่า เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี น่าจะให้โอกาสอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย.นี้ถ้าไม่มาก็ให้รวบรวมคำฟ้องเสนอพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ถ้าพระพรหมโมลีไม่รับก็ให้มาเสนอกับ สมเด็จพระมหาธีราจารย์
"สมเด็จ พระมหาธีราจารย์ยังบอกว่าการดำเนินการเรื่องนี้ จะใช้แนวทางเหมือนกับที่อาจารย์ ของท่านคือสมเด็จฯวัดสามพระยา เป็นแบบฉบับต้องรอบคอบ เพราะธรรมกายมีผู้รู้ทางกฎหมายมาก และสมเด็จพระมหาธีราจารย์ยังกล่าวชม การนำเสนอข่าว ของสื่อมวลชนว่าดีแล้ว"
ขณะเดียวกันหน้าวัดชนะสงครามได้มีผู้ชุมนุม ทยอยมาสมทบ กว่า 400 คน และมีการสวมผ้าปิดปากสีขาว คล้าย นายไชยบูลย์ รวมถึงมีการนำป้ายโจมตี ขึ้นมาชู โดยคนยกป้ายมีเลขเขียนกำกับ ด้านหลังว่า เป็นทีมไหน และยืนผลัดละ 2 ชั่วโมง ขณะเดียว กันผู้ร่วมชุมนุมบางคนที่มาจากต่างจังหวัดเริ่มมีปัญหาเรื่องค่าตอบแทน รายละ 200 บาท เพราะเดิมบอกว่ามาวันเดียว แต่ต้องอยู่ต่อถึงได้ค่าตอบแทน และบางรายยังไม่รู้มาทำไม แม้จะบอกว่ามาขอความยุติธรรมให้เจ้าคณะตำบลคลอง 1 แต่กลับไม่รู้ชื่อฉายาเจ้าคณะตำบล
เวลา 11.30 น. สมเด็จพระมหาธีราจารย์มีกำหนดเดินทางไปนอกวัด ปรากฏเมื่อรถมาจอดหน้ากุฏิผู้ชุมนุมกรูปิดล้อมรถ และปิดถนนทาง ด้านหน้า ทำให้ตำรวจ ต้องเพิ่มกำลังอารักขาโดยระดม ตำรวจปราบจลาจลมา 30 นาย แต่สมเด็จ วัดชนะฯ บอกว่าไม่จำเป็นต้องนำกำลังเพิ่มเพราะไม่กลัวและกล่าวว่าวันนี้คึกคักดีนะ
เวลา 12.00 น. ตำรวจไปแจ้งกับผู้ชุมนุมอนุญาตให้อยู่วัดได้ แต่ต้องห้ามใช้เครื่องขยายเสียง,ห้ามกีดขวางการจราจรในวัด รวมถึงลาน จอดรถของชาวบ้าน,ให้ชุมนุมโดยสงบ และดูแลความสะอาด
เวลา 16.00 น. ตัวแทนผู้ชุมนุมจำนวน 5 คน ยื่นหนังสือแก่พระครูปลัดสัมมาพิพัฒน์ธีราจารย์ พระเลขาฯสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เสนอเงื่อนไข 3 ข้อคือ 1.ให้ปลดพระสุเมธาภรณ์จากเจ้าคณะจังหวัด 2. เลิกการแต่งตั้งเจ้าคณะตำบลคลอง 1 และ 3.ให้พระครูปทุมกิจโกศล เป็นเจ้าคณะตำบลคลอง 1 เหมือนเดิม กลุ่มผู้ชุมนุมจะมารับฟังคำตอบในวันที่ 18 พ.ย. ที่วัดชนะสงครามฯ จากนั้นทั้งหมดได้เดินทางไปพักที่วัดพระธรรมกาย
สำหรับแกนนำผู้ชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มผู้สื่อข่าวเห็นในวัดพระธรรมกายแทบทั้งสิ้น โดยมีการพูดจาดูถูกวัดชนะสงคราม จนสร้างความไม่พอใจกับศิษย์วัดเช่น เมื่อศิษย์วัด ชนะสงครามออกมาขอเวลาให้พระทำวัตรเช้า กลุ่มผู้ชุมนุม ก็ย้อนถามว่า ที่วัดนี้ทำวัตรเช้าด้วยหรือ หรือขอให้ย้ายที่ชุมนุม ก็ถูกย้อนถามว่า พื้นที่นี้ราคาเท่าไหร ่ให้ตีเป็นเงินมาจะจ่ายให้ หากวัดชนะฯต้องการเงินบริจาคขอให้พูดออกมา หรือนำกล่องมาเรี่ยไรเงินได้
พระมหาบุญถึง ชุตินธโร ประธานศูนย์รวมสงฆ์ชาวอีสาน 19 จังหวัด เปิดเผยว่าการชุมนุมครั้งนี้ต้องได้รับการ ขยิบตาจากธรรมกาย และต้องแก้ไขโดยพระสุเมธาภรณ์ ใช้อำนาจเจ้าคณะ จังหวัดปทุมธานี ในฐานะ พระปกครองสั่งปลดนายไชยบูลย์ เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย คณาจารย์และ พระนิสิต ของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) จะรวมตัวสนับ สนุนคำสั่งการปลดเจ้าคณะตำบลคลอง 1 รวมถึงให้ ดำเนินการปลดพระพรหมโมลีจากเจ้าคณะภาค 1 ด้วย เนื่องจากมีพฤติกรรมเอนเอียงเข้าข้างธรรมกายอย่างชัดเจน
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสมบัติ เดียวอิศเรศ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาเปิดเผยว่า ในวันที่ 18 พ.ย.จะมีการ สอบพยานโจทก์คดีฟ้องร้องนายไชยบูลย์ ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และยักยอกทรัพย์ 6.8 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินที่จ.พิจิตร โดยถูกฟ้องร้องร่วมกับนายถาวร พรหมถาวร สาวกสนิท โดยได้มีการประสานกับตำรวจให้มาอารักขาดูแลป้องกันเหตุร้าย หากมีการก่อความวุ่นวายอาจถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาดฐานละเมิดอำนาจศาล
ผู้สื่อข่าว รายงานว่าพนักงาน สอบสวน คดีธรรมกายส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปยังอัยการแลว เป็นประมาณการ รายได้ของธรรมกายที่มีราว ๆ 22,754 ล้านบาท โดยเงินมากสุดมาจากโครงการ สร้างพระมหา ธรรมกายเจดีย์ขายพระดูดทรัพย์ 17,400 ล้านบาท ด้านวัดมูลจินดาราม พระสุเมธาภรณ์ นำป้ายติด ประกาศห้ามผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ หนังสือ พิมพ์เข้าและงดให้ข่าว เพราะมีข้อมูลบางด้านที่สื่อมวลชนบางแขนงลงผิด
วันเดียวกัน ที่กระทรวงศึกษาธิการ เวลา 12.30 น. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. ศึกษาธิการ เรียกนายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดี กรมการศาสนา, นายจรวย หนูคง และ นายเสฐียรพงษ์ วรรณปก ที่ปรึกษา รมว. ศึกษาธิการเข้าพบ โดยใช้เวลาหารือราว 1 ชั่วโมง นายสมศักดิ์เปิดเผยว่าอธิบดีกรมการศาสนา รายงานการชุมนุมศิษย์ธรรมกาย ที่วัดชนะสงคราม และความคืบหน้าในการดำเนินการตามกฎนิคหกรรม ส่วนกรณีที่มีการแต่งตั้งเจ้าคณะตำบลคลอง 1 รูปใหม่ และจะออกคำสั่ง พักตำแหน่งนายไชยบูลย์ คงไม่มีการตั้งพระเผด็จ ขึ้นมาเป็นแทน เพราะถูกกล่าวหาตามกฎนิคหกรรม
บ่ายวันเดียวกันมีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยนายไพบูลย์เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการประชุมมหาเถรฯ วันนี้ไม่นำเรื่องธรรมกายเข้าบรรจุวาระ เพราะมีมติชัดเจนแล้วให้ชาวบ้านฟ้องร้องตามกฎนิคหกรรมได้ และไม่สอบถามพระพรหมโมลีเกี่ยวกับข้อสงสัยในมติมหาเถรฯ อย่างไรก็ตามตนได้หารือกับสมด็จพระมหาธีรา จารย์หลังเลิกประชุมและจะได้นำข้อเสนอแนะดังกล่าวไปส่งให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีต่อไป.
เมื่อเวลา 20.45 น.วันที่ 17 พ.ย.พ.ต.ท.บรรยง แดงมั่นคง สวส.สน.ชนะสงคราม รับแจ้งมีเหตุ ระเบิดภายในวัดชนะสงคราม ใกล้คณะที่ 2 แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุใกล้กับโบสถ์ใกล้ที่พักของพระภิกษุคณะที่ 2 พบรถเก๋งจำนวน 2 คัน โดยคันแรกเป็นรถโตโยต้า รุ่นแลนติส สีเขียว ภข- 5026 กรุงเทพมหานคร ได้รับความ เสียหายกระโปรงห้องเครื่อง ด้าน หน้า ยางล้อ หน้าแตกทั้ง 2 เส้น ใต้ท้องรถมีสุนัขนอนตายอยู่ 1 ตัว ห่างกันประมาณ 1 เมตร พบรถบีเอ็มดับบลิว รุ่น 318 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน จบ-827 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายบริเวณตัวถังแถบ ด้านซ้าย กระจก แตกเป็นเมล็ดข้าวโพดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเอาเชือกมากั้นไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุ ส่วนที่เกิดทำการตรวจสอบ อยู่เบื้องต้นพบ ว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง โดยคนร้ายนำมาผูกติดไว้ใต้ท้องรถเก๋งโตโยต้า ส่วนเจ้าของรถทราบว่าเป็นแพทย์แต่ยังไม่ทราบชื่อนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก ส่วนรถบีเอ็มฯคาดว่าอานุภาพแรงระเบิดกระจายไปถูกมีเจ้าของเป็นผู้หญิง
ตำรวจสอบสวนพยานเบื้องต้นทราบว่ามีชายต้องสงสัยอายุประมาณ 40-45 ปี สูงประมาณ 170 ซม.สวมเสื้อลาย สก๊อตเดินออกจากจุดเกิดเหตุอย่างมีพิรุธ เบื้องต้นคาดว่าอาจพัวพันกับวัดธรรมกายและเรื่องส่วนตัว และจากการตรวจสอบพบว่ารถที่ถูกวางระเบิดอยู่ใกล้กับกุฏิของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาดวัดชนะสงครามและเจ้าคณะหนกลางด้วย