เดลินิวส์ 23/2/2542

ตามล่าสีกา'ตุ้ย' โยงใยธรรมกาย

ตำรวจภาค 1 สอบโยงใยธรรมกาย ตามสีกาสาว"ตุ้ย กรมศุลฯ"ให้ปากคำเอาเงินไปใช้ผิดประเภท สู้กับข่าวที่วัดถูกโจมตี เปิดข้อมูลลับชุดใหม่เสนอเข้ามหาเถรฯ อดีตลูกศิษย์รักแฉ"ธัมมชโย"อวดตน เหนือกว่าหลวงพ่อสด เป็นทัพหลวง มาปราบมารให้หมดจากโลก ส่วน "หลวงพ่อสด"เป็นแค่ทัพหน้าปูทางไว้ พระคนสนิทประสานเสียงปลุกใจหมู่สาวกให้เดินหน้าดูดบุญ ระบุยุคนี้ที่คนอายุต่ำกว่า 100 ปี ไม่มีพระพุทธเจ้ามาเกิด ทุกคนเลือกมาสร้างบารมีแล้วต้องเดินตามเจ้าอาวาสเท่านั้น

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมานายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่าในวันที่ 24 ก.พ.นี้จะมีการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ซึ่งได้บรรจุวาระเรื่องปัญหาวัดพระธรรมกายแล้ว
ตามคำบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช แต่หากสมเด็จพระสังฆราชฯทรงเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางกลับจากอินเดีย ก็อาจเลื่อนไปก่อน ส่วนการที่วัดโฆษณาเชิญชวนให้คนไปทำบุญวันมาฆบูชาหากใครศรัทธาก็ไปได้ เพราะยังไม่มีการพิจารณาว่าวัดผิด
แต่ตนต้องการให้คณะสงฆ์เร่งพิจารณาตัดสินอย่างใดอย่างหนึ่ง เนื่องจากวัดอวดปาฏิหารย์อย่างต่อเนื่อง

สำหรับกรณีปัญหาสำนักกวนอิมพันมือ จ.เพชรบุรี นายอาคมกล่าวว่าได้ทำหนังสือถึงพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผบ.ตร.ขอให้สอบสวนความไม่ชอบมาพากล และให้กรมการศาสนาตรวจสอบด้วยโดยรายงานผลสัปดาห์หน้า ส่วนกรณีการที่มีวัดพุทธบูชา ย่านบางมด กทม.จัดแสดงจ้ำบ๊ะ ก็ต้องระมัดระวังมากกว่านี้ และเมื่อเกิดปัญหาเจ้าอาวาสมักอ้างเป็นเรื่องฆราวาสที่จัดงาน ซึ่งสร้างความอึดอัดให้ชาวพุทธตลอด

ในวันเดียวกันมีรายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจภาค 1 เปิดเผยว่า คณะสืบสวนของตำรวจภาค 1 พยายามสืบหาหลักฐานหลายประการเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย โดยได้มีการเรียกบุคคลที่มีส่วนใกล้ชิดวัดมาให้ปากคำ อาทิข้าราชการที่มีฉายา"ตุ้ย กรมศุลฯ" ซึ่งนำเงินวัดไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่นตามที่พระผู้ใหญ่
ของวัดบางรูปต้องการ เช่นการนำมาใช้สู้กับข่าวที่โจมตีวัดอยู่ในขณะนี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สำหรับข้อมูลที่นำเสนอในที่ประชุมมหาเถรสมาคม จะมีทั้งข้อมูลจากกระทรวงในเรื่องการสอนผิดเพี้ยนของวัดพระธรรมกายเกี่ยวกับกรณีนิพพานเป็นอัตตา เป็นสถานที่ มีตัวตน สามารถเข้าไปจับมือถือแขนกับพระพุทธเจ้าได้ และเทปหลักฐานการปาราชิกของพระไชยบูลย์เป็นการรวบรวม
ของกรรมาธิการการศาสนาฯ ประกอบด้วยเทปคำสอนของพระไชยบูลย์ 14 ม้วน ที่อ้างคุณวิเศษ และยังมีเทปให้ปากคำของพระมโน เมตตานันโท อดีตพระลูกศิษย์ของพระไชยบูลย์และพระอดิศักดิ์ วิริยะสักโก อดีตพระแกนนำของวัดพระธรรมกายอีก 7 ม้วน

สำหรับเทปสำคัญซึ่งเป็นข้อมูลใหม่คือการให้ปากคำของพระมโน ที่ยืนยันว่าพระไชยบูลย์อวดวิเศษ ถึงขนาดที่ระบุว่าตัวเองเป็นต้นธาตุ ต้นธรรม หรือเป็นหัวหน้าของพระพุทธเจ้าที่ลงมา
ตรัสรู้ธรรมในโลกนี้
โดยความเชื่อเรื่องนี้แบ่งเป็น 3 ยุค และเพิ่มเติมสีสันเพิ่มความสำคัญ ให้กับพระไชยบูลย์มากยิ่งขึ้น ยุคแรกพระมโนกล่าวว่า เกิดขึ้นสมัยที่ตนยังเรียนคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 4 และได้ไปกราบพระไชยบูลย์ และพระไชยบูลย์ให้อ่านสมุดบันทึกการปฏิบัติธรรม โดยเล่าว่าโลกยุคแรกอยู่ในความมืดสนิท แต่แล้วก็ปรากฎพระธรรมกายองค์หนึ่งคือพระต้นธาตุ ต้นธรรม ขาวใสสว่าง ต่อมามีพระธรรมกายอีกองค์สีดำ มืดสนิท ไม่เคยมีความมืดใดยิ่งกว่านี้ และต่อมาก็เกิดพระธรรมกายสีเทา ไม่ขาวไม่ดำเพิ่มอีก พระธรรมกายแต่ละองค์ก็จะสร้างพระธรรมกายที่เป็นสาวก ต่างฝ่ายต่างก็ประลองฤทธิ์และต่างก็ถูกทำลายไป

ในที่สุดฝ่ายขาวก็คิดค้นวิธีทำลายฝ่ายดำ โดยส่งต้นธาตุกายมนุษย์ 2 องค์ลงมาจากนิพพานให้เกิดเป็น
มนุษย์ชายหญิงคู่แรกของโลกขณะที่ฝ่ายดำสร้างโรคภัยไข้เจ็บขึ้นใช้ทำลาย และตัว
หลวงพ่อสด จันทสโร ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายก็ได้รับบัญชาจากพระต้นธาตุให้มาเกิดเป็นแม่ทัพ
เพื่อทำวิชชาสุดท้ายปราบมาร และเชื่อว่าจะสามารถปิดกลไกลการบังคับบัญชาของพญามารทั้งหมดได้ เมื่อถึงจุดนั้นทุกอย่างจะสลายกลับเข้าสู่สภาพเดิม ฝ่ายดำ ฝ่ายสีเทาจะหายไปหมด เหลือฝ่ายขาวล้วนๆ และพระไชยบูลย์เป็นผู้สืบต่องานของหลวงพ่อสด

สำหรับความเชื่อยุคที่ 2 เกิดขึ้นในช่วงปี 2521 โดยพระมโนกล่าวว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงความเชื่อไป โดยจากเดิมที่หลวงพ่อสดถูกส่งลงมาทำวิชชาปราบมาร เพียงรูปเดียว ก็กลายเป็นถูกส่งลงมาพร้อมกัน 2 รูป คือหลวงพ่อสด และพระไชยบูลย์ แต่พญามารมาแกล้งทำให้พระไชยบูลย์ลงมาเกิดช้า จึงไม่ได้พบหลวงพ่อสด หลังจากนั้นเป็นความเชื่อยุคที่ 3 เกิดขึ้นในช่วงปี 2532 คราวนี้พระไชยบูลย์กลายเป็นต้นธาตุเสียเอง โดยหลวงพ่อสดถูกส่งลงมาเป็นทัพหน้า ส่วนพระไชยบูลย์คือทัพหลวงตัวจริง ที่ลงมาภายหลังวิธีการเล่าตำนานนี้พระไชยบูลย์จะไม่ได้พูดเอง แต่จะให้อุบาสิกาคนหนึ่งที่เป็นคนใกล้ชิดนั่งสมาธิ และประกาศว่าในสมาธิเห็นพระธรรมกายองค์แรกเป็นหน้าของพระไชยบูลย์ ซึ่งพระนิพพาน เทวดาทุกชั้น ออกมาจากพระไชยบูลย์องค์เดียว โดยมีพยานหลายคนได้ยิน ส่วนพระไชยบูลย์เพียงแต่ร้องอืมม์... และพยักหน้า

นอกจากนั้นยังมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระมโนด้วยตนเอง โดยหลังจากที่วัดพระธรรมกายได้ระดมดูดเงินจากสานุศิษย์จำนวนมหาศาล จนทำให้ลูกศิษย์มีปัญหา พระมโนจึงได้ไปกล่าวกับพระไชยบูลย์ว่าถ้าบอกบุญเช่นนี้วัดจะทำให้คนเป็นทุกข์มาก น่าจะให้ศิษย์ทุกคนกลับไปพัฒนาครอบครัวให้มีความสุขก่อน เพราะขณะนี้พ่อ แม่ ลูก ไปกันคนละทาง ปรากฎว่าพระไชยบูลย์ย้อนถามกลับมาว่ารู้ไหมว่าพระไชยบูลย์เป็นใคร ถ้าคิดว่าเป็นแค่พระอธิการธัมมชโยวัดพระธรรมกายก็เข้าใจผิดเสียแล้ว ซึ่งทำให้พระมโนถึงกับหลังเย็นวาบ

ตามความเชื่อที่เผยแพร่ในหมู่ศิษย์คนสนิทของวัด ถึงแม้ว่าจะมีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ แต่ก็เป็นพระพุทธเจ้าฝ่ายโปรด ไม่ได้มาเพื่อปราบมาร และที่พระไชยบูลย์ทำอยู่คือการศึกษาวิชชา ถ้าสำเร็จจะเข้านิพพานด้วยกายเนื้อ เอานิพพานทั้งหมดซ้อนในกายมนุษย์กายเดียว เพื่อทำลายฝ่ายดำให้หมด และฝ่ายสีเทาก็จะหายไปเหลือแต่ฝ่ายสีขาว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แนวคิดเรื่องต้นธาตุ ต้นธรรม ได้แทรกซึมเข้าไปในหมู่สานุศิษย์ใกล้ชิด พระไชยบูลย์ อาทิพระสมชาย ฐาณวุฑโฒ ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่ของวัดพระธรรมกาย ที่สะท้อนมาในเทปเทศน์ปลุกใจผู้นำบุญให้เร่งหาคนมาสร้างพระธรรมกายประจำตัว และได้มีการแจกจ่ายรวมถึงขายเทปดังกล่าวด้วย โดยพระสมชายกล่าวว่า งานเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลกไม่ง่าย แต่ไม่เหลือวิสัย เป็นหน้าที่ที่ชาวธรรมกายเกิดมาต้องทำเพื่อรวมหมู่คณะ เพราะได้ตัดสินใจลงมาสร้างบารมีในที่ช่วงลำบาก เนื่องจากพระพุทธเจ้าจะไม่มาเกิดช่วงมนุษย์อายุต่ำกว่า 100 ปี ด้วยสาเหตุคนมีกิเลศหนาปัญญาหยาบ โดยพระพุทธเจ้าจะมาเกิดเมื่อมนุษย์อายุ 100 ปี ถึง 1 แสนปี ซึ่งถ้ามนุษย์อายุแสนปีขึ้นไป ก็ไม่มีพระพุทธเจ้าอีกเพราะอายุยืนไป สอนยาก

เมื่อเราเองตัดสินใจลงมาสร้างบารมี มายุคนี้เสี่ยงสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ คนเป็นพิษ เกิดมาชาตินี้โกยบุญคุ้ม เราเป็นแถวหน้าในกองทัพธรรม หลวงพ่อเดินถึงไหน ธงของจอมทัพถึงไหน เราตามถึงนั่น อย่าปล่อยหลวงพ่อเป็นอย่างพระนเรศวรนะจ๊ะ ลุยข้างหน้าไปคนเดียวไม่ไ่ด้ต้องตามติดตลอด" พระสมชายกล่าว รายงานข่าวจากจังหวัดปทุมธานีเปิดเผยว่า การที่วัดธรรมกายออกล่าวว่าให้ข้อมูลกับทางอำเภอ และทางจังหวัดหมดแล้ว ทางวัดพูดไม่จริงเพราะข้อมูลที่ได้เก่าทั้งสิ้น อาทิงบดุลของมูลนิธิในปี 2541 ก็ไม่เสร็จ

ขณะเดียวกันนายประทีป หงษ์โสภา ศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานีกล่าวว่าศึกษาธิการจังหวัด เป็นเพียงผู้เข้าไปบอกกล่าวให้วัดทำตามให้ถูกต้องตามระเบียบทางการเงินให้ถูกต้อง เช่นต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย แต่ อำนาจหน้าที่ยังคลุมเครือไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบฐานะทางการเงินได้ จึงได้ติดต่อประสานไปยังกระทรวงว่าจะดำเนินการอย่างไร และขอให้มอบอำนาจมายังศึกษาธิการจังหวัด