เดลินิวส์ 7/12/2541

ธรรมกายเดินหน้าก่อมหาเจดีย์
รองเจ้าอาวาสจวกคนต้าน
ร้อง"อาคม" คำสอนธรรมกายเพี้ยน ขัดกับหลักไตรลักษณ์ที่สอนทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน แต่ของธรรมกายบอกถ้าถึงธรรมที่แท้จะเที่ยง เป็นสุข มีตัวตน นักวิชาการศาสนาออกโรงยันคำสอนธรรมกายไม่ถูกจุด ผิดหลักศาสนา ขณะที่รองเจ้าอาวาสวัดธรรมกายประกาศให้สานุศิษย์เดินหน้าสร้างเจดีย์อย่าสนคนค้านตัวเองไม่ทำยังไปสร้างบาป นรกชัดๆ ส่วนเจ้าคณะตำบลบ่อหลวง เชียงใหม่ ขอให้กรมป่าไม้ตรวจสอบวัดสาขาธรรมกายที่อาจรุกป่า พร้อมทั้งชาวบ้านไม่ต้อนรับเพราะเรี่ยไรเงินเหมือนบังคับมากเกิน
รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยว่า ได้มีการส่งข้อมูลร้องเรียนนายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทางระบบอินเตอร์เน็ตกรณีคำสอนของวัดพระธรรมกายบิดเบือนพระธรรมคำสั่งสอน เพราะสอนว่าภาวะนิพพานเป็นอัตตาคือมีตัวตนและสามารถเข้าไปถวายข้าวได้ รวมถึงธรรมกายเป็นสิ่งที่นิจจัง สุขขัง อัตตา คือเที่ยง เป็นสุข และมีตัวตนซึ่งขัดกับหลักไตรลักษณ์ที่ระบุว่าทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุขขัง อนัตตาคือไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตน ไม่มีตัวกู ของกู
สำหรับข้อมูลที่ส่งให้นายอาคมได้มีการยกหลักฐานทางพระไตรปิฎกมาคัดค้านแนวทางดังกล่าวรวมถึงนำหนังสือ "นิพพาน อนัตตา" ของพระธรรมปิฎก ( ป.อ. ปยุตฺโต ) หรือหลวงพ่อประยุทธ ปยุตฺโต ปราชญ์ทางศาสนา มาเป็นเหตุผลด้วยว่า พระพุทธศาสนาไม่ยอมรับการถืออัตตาไม่ว่าอย่างใดๆ โดยลัทธิศาสนาทั่วไปล้วนสอนให้ยึดถืออัตตาในลักษณะต่างๆ ตั้งแต่หยาบไปจนละเอียดแต่พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาเดียวที่สอนหลักอนัตตา พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ละการยึดถืออัตตา
คำสอนของวัดพระธรรมกายจึงไม่สอดคล้องกับพุทธศาสนาหินยานในประเทศไทย แต่ไปสอดคลอ้งกับนิกายมหายาน ซึ่งเผยแพร่ในจีน ญี่ปุ่น ฯลฯมากกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้ ที่ผ่านมาหนังสือเผยแพร่ของวัดพระธรรมกาย อาทิหนังสือพุทธคุณ ธรรมคุณ-สังฆคุณ ในหน้า 36 และ 66 ต่างยืนยันว่าธรรมกายคือสิ่งที่เป็นนิจจัง สุขขัง อัตตา
ในวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 14.00-18.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการสัมมนา"ธรรมกายวิภาษ"ที่ธรรมสถาน จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย โดยนายสุชาติ กอไพศาล อาจารย์ธรรมสถานโดยเนื้อหาสัมมนาระบุว่าการก่อสร้างธรรมกายเจดีย์ถูกต้อง ตามหลักพระศาสนาเพราะถือว่าเป็นการสร้างเจดีย์เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า และการทำบุญไม่สามารถบังคับได้ทุกคนหยิบเงินกระเป๋าด้วยควาสมัคร เจดีย์ดังกล่าวจะอยู่ต่อไป แต่ควรจะเป็นของทุกคนไม่ใช่ของวัด เหมือนกับพุทธมณฑลที่เป็นของทุกคน
อย่างไรก็ตามในการสัมมนานายสุชาติได้มีการวิจารณ์ถึงหลักคำสอนของวัดพระธรรมกายที่ว่านิพพานเป็นภาวะที่มีตัวตน หรือเป็นอัตตา ซึ่งขัดกับหลักศาสนาพุทธที่ว่านิพพานไม่มีตัวตน เป็นอนัตตา ไม่มีรูปรส กลิ่น เสียง ไม่มีสถานที่ หลักคำสอนคล้าย ๆกับลักษณะทางมหายาน จีน ญี่ปุ่น และวัดสอนให้เห็นว่านิพพานเป็นสถานที่ มีดินแดนที่อยู่ ซึ่งผิด โดยคำสอนของหลวงพ่อสด จันทฺสาโร ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายไม่ใช่สิ่งผิด แต่เมื่อมีการแตกคำสอนของหลวงพ่อสดออกมาจึงเพี้ยน โดยเฉพาะมีการถกเถียงตอบโต้กันระหว่างศิษย์ของหลวงพ่อสดในแต่ละสำนัก
ระหว่างการสัมมนายังมีการวิจารณ์ถึงท่าทีพระระดับสูงบางองค์ของวัดธรรมกายด้วยว่าไม่น่ามีอารมณ์โกรธ โดยถ้าฝึกสมาธิหรือถึงธรรมจริงก็ไม่น่าจะโกรธออกมาให้เห็น และมีคนร่วมสัมมนาบอกว่าเคยซื้อที่ดินให้วัด ระยะแรกก็ดี แต่ต่อมามีลาภ ยศมาเสริมแต่ง จึงผิดขั้นตอน
อย่างไรก็ตามแต่มีญาติธรรมของวัดพระธรรมกายลุกขึ้นมาอภิปรายว่าที่วัดสร้างธรรมกายเจดีย์เพื่อให้ลูกหลานไทยในอนาคตมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่สุดในโลกคู่บ้านเมืองเทียบเท่ากับศาสนาอื่น และยังถกเถียงคำสอนเรื่องนิพพานโดยยืนยันว่าเป็นคำสอนที่ถูกต้องด้วย
ส่วนที่วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี วันเดียวกันมีการเรียกชุมนุมญาติธรรมและสัมมนากันถึงเรื่องความคืบหน้าในการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ด้วย โดยมีนายอนันต์ อัศวโภคิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานการก่อสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ เป็นประธาน โดยมีจำนวนผู้ชุมนุมประมาณ 1 หมื่นคน ซึ่งน้อยกว่าปกติ
พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตตฺชีโว) หรือหลวงพ่อทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ขึ้นเทศน์สั่งสอนญาติธรรมในศาลาสภาธรรมกายสากล โดยเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. และเสร็จสิ้นเมื่อตอนใกล้เที่ยง ภายหลังการเทศน์จบลงบรรดาญาติธรรมส่วนใหญ่ต่างก็พากันลุกออกจากศาลาเพื่อจะไปรับประทานอาหาร แต่ถูกหลวงพ่อทัตตชีโวเรียกให้นั่งลงอีก โดยกล่าวว่าอย่าเพิ่งลุกหลวงพ่อขอเวลาสักครู่ และกล่าวว่าวัดเป็นโรงเรียนสอนศีลธรรม ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างวัดพระธรรมกายมา จึงได้ตั้งใจสร้างวัดให้ถูกลักษณะตามพระพุทธศาสนาได้กำหนดเอาไว้ คือทั้งบริเวณวัดพยายามปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ปลูกสวนให้เป็นเหมือนอุทยานเพื่อเหมาะกับการนั่งสมาธิ
อาคารทุกหลังสร้างขึ้นมาเพื่อสอนศีลธรรมโดยเฉพาะ ตั้งแต่อาคารเล็กที่จุได้ 400 กว่าคน เมื่อประชาชนเพิ่มขึ้นก็สร้างขยายบรรจุคนได้ 42,000 คน เพื่อการเทศน์และการนั่งสมาธิตามหลักการในพุทธศาสนา เมื่อมีผู้ศรัทธามากขึ้น จึงสร้างสภาธรรมกายหลังใหม่ ในชั้นล่างจุคนได้ประมาณ 100,000 คน ส่วนชั้นบนจุได้ประมาณ 120,000 คน ก็ไว้เพื่อนั่งสมาธิและการศึกษาธรรมะ หากมองไปในอนาคตพื้นที่คงไม่พอ จึงต้องสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ซึ่งได้สร้างถูกตามหลักการพระพุทธศาสนา
มหาธรรมกายเจดีย์นี้ภายในจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุของพระอรหันต์ต่างๆ และจะบรรจุพระไตรปิฏกทั้งที่เป็นตัวอักษรไทย-ตัวอักษรของชนชาติต่างๆที่นับถือ ดังนั้นจึงเป็นธรรมเจดีย์ในตัวด้วยเสร็จ รวมถึงบรรจุเครื่องใช้ของพระภิกษุในยุคปัจจุบันไว้ให้คนภายภาคหน้าใน 1,000 ปีได้เห็น มหาธรรมกายเจดีห์จึงตรงตามหลักการสร้างเจดีย์ ใครจะมากล่าวหาว่าผิดเพี้ยนก็อย่าหลง ส่วนรูปร่างจะทรงเตี้ยหรือสูงก็เพื่อให้เหมาะกับใช้งานต่อไปในอนาคต
"อีกเรื่องที่อยากจะพูดมากในวันนี้คือ ให้ไปเตือนพวกเราด้วยว่าอย่าเอาใจคนธรรมดากับนักสร้างบารมีมาวัดกัน มันคนละชั้นคนละระดับ ขณะนี้มีเรื่องแปลกในสังคมไทย พอเห็นคนอื่นที่ตั้งใจทำทานตั้งใจสร้างบารมี ตัวเองซึ่งไม่สร้างบุญบารมีแล้วยังออกมาขวางอีก กล่าวหาว่าเขาทำบุญมากไป ตัวเองไม่ทำยังไปสร้างบาปขวางไม่ให้คนอื่นสร้างบุญด้วย นรกชัดๆ พวกเราทั้งหลายอย่าได้ถลำตาม เราต้องเดินตามทางพระพุทธเจ้า ไปเถอะ เดินไปอย่างนักสร้างบารมี อย่าเดินไปตามคนพาลนะลูกนะ ไอ้เจ้าพวกนี้แม้บางที่จะสร้างเพื่อตัวเองมันยังไม่สร้าง มันยังขวางทางไม่ให้คนสร้างบุญสร้างบารมี ลูกเอยขอร้องอย่าไปฟังมัน"
ในวันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ รายงานจากจ.เชียงใหม่ว่าที่ธุดงค์สถานล้านนา ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกายประจำจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 8.30 น. มีการจัดงานเรียกว่า งานทำบุญบูชาข้าวพระขึ้น โดยมีญาติธรรมไปร่วมในพิธีประมาณ 100 คนเศษ มีการตั้งโต๊ะเรี่ยไรญาติโยมให้ทำบุญในรูปแบบของกองทุนหลายกองทุนอาทิ กองทุนเศรษฐีถาวร กองทุนภัตราหารโดยให้บริจาคครั้งละ 100 บาท ติดต่อกันจำนวน 10 ครั้งถึงจะได้บุญ พร้อมรับบริจาคสร้างพระธรรมกายประจำตัวด้วย ในราคาองค์ละ 10,000 บาท
ช่วงบ่ายที่วัดธรรมกายมีการอภิปรายเกี่ยวกับการที่สื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์วัดพระธรรมกาย โดยคณะศิษย์ของวัดนำโดยอนันต์ และผู้มีชื่อเสียงหลายคน โดยมีการขอคุณสื่อมวลชนที่ลงข่าว ก่อนหน้านี้เคยขอให้ช่วยลงข่าวพุทธศาสนาก็ไม่ยอมลง และยืนยันการสร้างเจดีย์ถูกต้อง รวมถึงการก่อสร้างที่ถูกหลักวิศวกรรม วัดพระธรรมกายคำสอนถูกต้อง และวันหนึ่งเมื่อธรรมกายเจดีย์เสร็จ มีคนมาประชุมกัน 1 ล้านคน สื่อมวลชนจะด่าว่าทำไมสร้างเล็กเกินไป ขณะนี้มีชาวไต้หวันจองมา 8 หมื่นคนจะเดินทางมาวัด ขณะที่การสร้างธรรมกายเจดีย์จะช่วยเศรษฐกิจเมื่อมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา การสร้างศาสนาวัตถุเป็นการแ้กปัญหาสังคมต้นเหตุ ทำให้คนดีขึ้น และได้ผลกว่าการสร้างโรงเรียนหรือโรงพยาบาล และนายอนันต์กล่าวปิดท้ายว่าให้ชาวธรรมกายเลิกตอบโต้กับสื่อ และมีอะไรให้สอบถามที่วัดหรือมานั่งฟังธรรมที่วัด
พระครูอนุรักษ์สีละคุณ เจ้าคณะตำบลบ่อหลวง อ.ฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกายที่เข้าไปตั้งศูนย์ค้นคว้าศึกษาธรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสม แต่เข้าไปตรวจสอบเพราะไม่มีอำนาจ เพราะพระสงฆ์ที่ดูแลศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ถูกส่งโดยตรงมาจากวัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี ไม่เคยขึ้นบัญชีไว้ที่วัดใดในเขตตำบลบ่อหลวง
ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้อยู่ภายในบริเวณของบริษัทพนาวัฒน์ ซึ่งระบุว่ามีการปลูกกุหลาบส่งออก ทำให้ไม่สามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบภายในได้ ชาวบ้านเวลานี้ส่วนใหญ่ก็ไม่พอใจกับพฤติกรรมนี้ ไม่เคยออกมาบิณฑบาตร ไม่เคยร่วมปฏิบัติกิจสงฆ์ และที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมตรงข้ามวัดกิ่วลม ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ก็เช่นกัน วัดพระธรรมกายมากว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านและตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมขึ้นมา โดยมีรั้วรอบขอบชิด ก็ถูกชาวบ้านร้องเรียนเช่นกัน
"อาตมาเคยสอบถามไป เขาก็บอกว่าเป็นที่ปฏิบัติธรรมของญาติโยมทั้งหลาย โดยจะมีพระพี่เลี้ยงเข้าไปดูแล ส่วนที่พักที่ปลูกไว้อย่างสวยงามนั้นส่วนหนึ่งก็ให้เจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรมกายที่มาดูแลนี้ได้พักอาศัย ส่วนหนึ่งก็ให้ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมได้พักอาศัย เพียงแต่ว่าที่นี่นั้นมีรั้วรอบขอบชิดจนเกินงามไป ไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ และที่สำคัญก็คือ ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกอีกต่างหาก ทำให้ชาวบ้านรู้สึกแปลกๆ"
ส่วนวิธีเผยแผ่ธรรมะของพระวัดพระธรรมกายไม่ได้แตกต่างไปจากพระสงฆ์จากวัดต่างๆสั่งสอนกัน เพียงแต่ของวัดพระธรรมกายจะมีระเบียบที่เข้มงวดกว่า และดูเร้นลับ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการเรี่ยไรบอกบุญมากจนเกินไป เคยมีชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องของการบอกบุญนี้หลายครั้ง ซึ่งก็ได้ตักเตือนไป คงทำอะไรไม่ได้มากเพราะเกินอำนาจและขอบเขต มีครั้งหนึ่งเท่านั้นที่เจ้าคณะภาค 7 ได้สั่งการให้ตรวจสอบและดำเนินการกับพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกาย เนื่องจากเรี่ยไรเงินชาวบ้านจนกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์
"ก็เรื่องกฐินผ้าป่านั่นแหละ มีครั้งหนึ่งที่พระจากวัดพระธรรมกายเข้ามาดำเนินการเองทุกอย่าง แล้วก็มีการจัดให้ฆราวาสเป็นผู้รับช่วงดำเนินการต่อ ชาวบ้านร้องเรียนเพราะต้องเรียกว่าบังคับมากกว่า ที่สำคัญก็คือกรรมการวัดที่เป็นฆราวาสไม่มีใครได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย ถูกตัดตอนออกมาหมด เงินทำบุญได้เท่าไหร่ก็ไม่เคยมีการแจ้งให้ทราบแต่น้อย"
สำหรับพื้นที่ซึ่งมีปัญหาว่ามีการรุกล้ำบุกรุปป่าสงวนแห่งชาติขุนแม่รายนั้น เจ้าคณะตำบลบ่อหลวงกล่าวว่า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมกรมป่าไม้ถึงอนุญาตให้วัดพระธรรมกายเข้ามาใช้พื้นที่บริเวณนี้ได้ ทั้งที่เมื่อตอนขอเช่าใหม่ๆนั้นอ้างว่าเช่ามาเพื่อดำเนินการเรื่องผลประโยชน์ แต่เมื่อได้ไปกลับมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ขึ้นมา เพราะดูแล้วคิดว่าน่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย
ต่อข้อถามเรื่องของการตั้งสำนักสนแก้ววนารามนั้น ก็ไม่เคยขึ้นทะเบียนบัญชีพระไว้ที่ในวัดบริเวณนั้น เท่าที่ทราบนั้นเข้าใจว่าเป็นการดำเนินการจัดตั้งที่ไม่น่าจะถูกระเบียบของกรมการศาสนาเท่าใดนัก เพราะมีการสร้างอาศรม-สร้างที่พักกันเอง เคยสอบถามหลายครั้งแต่ก็ถูกอ้างให้ไปคุยกับพระราชภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี ขณะนี้ชาวบ้านก็เคลื่อนไหวเรื่องนี้กันอย่างมาก โดยมีทั้งผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านวัดพระธรรมกายมีจำนวนมากพอๆกัน เรื่องนี้อาจจะให้กรมการศาสนาเข้ามาตรวจสอบดูบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้พระสงฆ์จากวัดพระธรรมกายนั้นถูกส่งมาประจำวัดต่างๆในตำบลบ่อหลวง อ.ฮอด จังหวัด เชียงใหม่ กันอย่างต่อเนื่อง โดยระยะแรกนั้นส่งมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแม่สะนามเก่า วัดแม่สะนามใหม่ วัดวังกอง วัดบ้านนาน้อย วัดกิ่วลม วัดใหม่บ่อพะแวน วัดทุ่งสน วัดบ้านขุน วัดกองลอย เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่เวลานี้แทบไม่มีพระจากวัดพระธรรมกายประจำอยู่ เนื่องจากถูกประชาชนขับไล่ไปแล้วเพราะเหตุเบียดเบียบทรัพย์ของชาวบ้าน ยังคงเหลือเพียงจำพรรษาวัดอยู่ไม่เกิน 5 องค์ในหลายๆพื้นที่ของอ.ฮอด ที่สำคัญก็คือวัดใดที่มีพระสงฆ์จากวัดพระธรรมกายจำพรรษาอยู่วัดนั้นค่อนข้างจะมีฐานะดี มีสถาปัตยกรรมใหม่ๆให้เห็นด้วย