เดลินิวส์ 17/2/2542

สังฆราชไฟเขียว เผด็จศึกธรรมกาย ทรงบัญชา มหาเถระ ถกพิเศษ ยุติปัญหา

ปัญหา ธรรมกายยุติแน่ สมเด็จพระสังฆราช ทรงมีบัญชา ให้เปิดประชุม มหาเถร นัดพิเศษ เมื่อเสด็จกลับจากอินเดีย ปลายเดือนนี้ หลังจาก"ชวน"สั่ง"อาคม "เข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษถวาย หลักฐาน ทั้งของ กระทรวงศึกษาฯ-กรรมาธิการศาสนา หนังสือพระธรรมปิฏกที่ระบุธรรมกายสอดผิดเพี้ยนทำลายศาสนา รวมถึงเทป อวดอุตริมนุสธรรมถึงขั้นต้องจับ"ธัมมชโย"สึก ข้อมูลทั้งหมดสมเด็จพระสังฆราช ตรัสจะอ่านอย่างละเอียด พร้อมทั้งบัญชาให้ทำสำเนาเอกสารเสนอกรรมการมหาเถรทุกรูป คาดทุกสิ่งจะกระจ่างพระศาสนาจะบริสุทธิ์

การสอบสวนปัญหา วัดพระธรรมกาย เข้มข้นทุกขณะ เมื่อกองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 1 เชิญพระอดิศักดิ์ วิริยะสักโก 1 ในกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งวัดพระธรรมกาย ไปให้ข้อมูลนั้น เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการเปิดเผยว่า หากข้อมูลที่พระอดิศักดิ์ไปให้ปากคำเป็นข้อเท็จจริงที่ทำให้พระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผิดขั้นปาราชิกได้ก็ยินดีรับข้อมูลมาถวายให้กับพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาคที่ 1 ไปประกอบการพิจารณา และในสัปดาห์นี้ตนจเข้าพบพระพรหมโมลีเพื่อหารือว่าจะมีแนวทางดำเนิน
การเรื่องดังกล่าวได้อย่างไร หากเป็นเรื่องจริง

"ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าทุกข์กล่าวหาวัดพระธรรมกายฉ้อโกง จึงยังดำเนินการไม่ได้ แต่ส่วนทางวินัยอาจทำได้ โดยเจ้าหน้าที่ข่าวกรองแห่งชาติไปให้ข้อมูลกับกรรมาธิการการศาสนา และกรรมาธิการส่งเทปมาให้ฟังที่เป็นการบรรยายเรื่องปาฎิหารย์โดยพระไชยบูลย์ หากจริง
มหาเถรสมาคมจะดำเนินการอย่างไร"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเทปลับ ของพระไชยบูลย์- ที่อวดอุตริมนุสธรรม หรือการอ้างคุณวิเศษไม่มีในตัวเอง อาทิการอวดอ้างว่านิพานส่งผังสำเร็จลงมาให้จะเป็น
ปีตรัสรู้ธรรม จนไปถึงการชักชวนให้สาวกถวายข้าวพระพุทธเจ้าในอายตนนิพพาน และพระไชยบูลย์กับแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง จะกลั่นของหยาบให้เป็นของทิพย์ ขึ้นไปถวายโดยอ้างว่าใครมาทำบุญแบบนี้มากกว่าการทำบุญทุกวันเป็นพัน ๆ ชาติ
ปรากฎว่าในเรื่อง การถวายข้าวพระนี้ได้รับการต่อต้านจากวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และลูกศิษย์อื่น ๆของหลวงพ่อสด จันทสโร ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย เพราะวัดพระธรรมกาย อาศัยพิธีกรรมบังหน้าและระดมทุนทอดผ้าป่า
ในทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน

การต่อต้านพิธีกรรมนี้ขนาดได้มีการ ตีพิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรลงนิตยสารธรรมกาย ของสถาบันพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย ตั้งแต่ฉบับกรกฎาคม-กันยายน 2529 โดยในนิตยสารฉบับดังกล่าว ในคอลัมน์ตอบปัญหาธรรมปฏิบัติที่มีผู้ตั้งคำถามถึงการถวายข้าวพระพุทธเจ้าว่าจริงหรือ ไม่ที่จะได้บุญมหาศาล และพระมหาเสริมชัย ชยมังคโล ขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการ สถาบันพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย เป็นผู้ตอบและได้มีการตรวจทานความถูกต้องของคำตอบจากพระภาวนาโกศลเถร(วีระ คณุตตโม)รองเจ้าอาวาสและพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดปากน้ำภาษีเจริญด้วย โดยพระมหาเสริมชัยตอบว่าไม่จริง การกลั่นของหยาบเป็นไปของทิพย์นั้นจะไม่ถึง
พระพุทธเจ้าในอายตนนิพพาน เพราะในอายตนนิพพานเป็นแค่ธาตุล้วน ๆ ไม่มีของ
ปรุงแต่งอีกแล้ว การที่มีการอ้างว่ามีการกลั่นของถวาย ถือว่าต้องปรุงแต่ง ให้มีสภาพขึ้นมา การที่มีการทำวิชชาและอ้างว่าสามารถเห็นได้จริงก็เป็นเพราะการปฏิบัติที่ยังติดแค่ทางโลก ซึ่งหลวงพ่อสดเคยกล่าวไว้ว่าปฏิบัติธรรมได้แค่นั้นยังไม่อาจวางใจได้ว่าจะเอาตัวรอด

การทำบุญด้วยวิธีน ี้พระมหาเสริมชัยยังกล่าวว่า ไม่ได้บุญมากมายมหาศาลเหมือนกับที่กล่าวอ้าง โดยบุญที่ได้ก็เหมือนกับการทำบุญอื่น ๆ โดยพระนิพานไม่ได้ปรารถนาของขบฉันใช้สอยหรือทำ
ประโยชน์จากเครื่องไทยทานทิพย์ หากหลงผิดคิดว่าได้บุญมหาศาลยังจะเป็นความหลงหรือโมหะบาป อกุศลติดตัวเป็นของแถมอีก

พระมหาเสริมชัยยังกล่าวว่าหากการทำบุญด้วยวิธีนี้ได้ผลบุญมาก คนที่ไปร่วมพิธีถวายข้าวพระ จะไม่กลายเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี ทันตาเห็นกันไปหมดแทบทุกคนแล้วหรือ จุดที่สำคัญแม้ในช่วงที่หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ผู้คิดค้นวิชชาธรรมกาย ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่เคยสอนหรือแนะนำให้ศิษย์คนใดทำเช่นนั้น และไม่เคยรับรองหรืออนุมัติว่าการถวายข้าวพระจะได้บุญกุศลมาก วัดปากน้ำเองก็ไม่เคยทำ แม้แต่วัดสระเกศ ซึ่งเป็นผู้ให้การอบรมพระกัมมัฎฐานถ่ายทอดวิชชาธรรมกายด้วยก็ไม่เคยทำเช่นนี้

ทางด้านนายชาญนันท์ รักษายศ ปลัดอำเภอคลองหลวงเปิดเผยว่าตนเข้าไปรับเอกสารที่มูลนิธิพระธรรมกายเตรียมไว้ โดยมีนายวีระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานเป็นผู้รวบรวม และมีการลงนามรับรองโดยพระไชยบูลย์แล้วในวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยตัวเลขเงินในมูลนิธิปี 2540 มีผู้บริจาค 404 ราย เป็นเงิน 1,907,844.75 ล้านบาท ยอดเงินสดรวมของมูลนิธิ 3,089,289.52 บาท ที่ดินมี 387 แปลง เนื้อที่ 2,534 ไร่ มูลค่า 144,317,189 ล้านบาท อาคาร 1 หลังมูลค่า 327,000 บาทสินทรัพย์อื่นรวมพาหนะ 23,662,799 บาท และได้ใช้จ่ายเงินไป 1,495,351.09 ล้านบาท ในโครงการกุศล ส่วนงบปี 2541 มูลนิธิยังไม่จัดส่งและยังมีเวลาอีกเพราะสามารถ
ส่งได้ภายในเดือนเมษายน 2542

นายชาญนันท์กล่าวอีกว่าคุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีให้อำนาจเต็มในการตรวจสอบทุกเรื่องอย่างเต็มที่ และทุกจุดที่สงสัยว่าไม่ถูกต้อง ตามกฎหมายแล้วเอกสารที่อำเภอได้รับมาขณะนี้ถือว่าถูกต้อง แต่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพราะประชาชนสงสัย หากพูดตรง ๆการตรวจสอบทำได้ยากมากเนื่องจากมูลนิธิเป็นผู้ควบคุมวัด และก่อตั้งวัดผิดกับที่อื่นทีวัดก่อตั้งมูลนิธิ ทำให้มูลนิธิธรรมกายเป็นผู้ดูแลทุกเรื่อง และแยกเด็ดขาดจากวัด สามารถเขียน ได้ว่ามีใครบริจาคเงินบ้าง รวมถึงการถ่ายเท ทรัพย์สินหรือ เงินที่คนมาบริจาคได้ จึงต้องให้วัดลงนามหนังสือรับรองเอกสาร และต้องรอเอกสารปีล่าสุดก่อนจึงขอให้อดใจรอ

นายบุรี แก้วเล็ก ผู้อำนวยการ กองศาสนศึกษา กรมการศาสนากล่าวว่า จากการตรวจสอบการบวชสามเณรี
ของวัดพระธรรมกายไม่พบข้อมูลทั้งการสอบถามจากพระสงฆ์ที่เข้าร่วมกิจกรรม,พระปกครองในพื้นที่ และการสังเกตุการณ์ที่วัดและสาขาที่เชียงใหม่ก็ไม่พบข้อมูล แต่จากการศึกษาข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องทราบ
วัดเคยบวชให้เด็กหญิง 12 ราย เป็นบุตรีของเศรษฐี แต่หลังจากบวชไม่ได้อยู่ที่วัด ทราบว่าอยู่บ้านแถบซอยลาดพร้าว 83

"ผมไปตรวจสอบสาขาวัด ที่ธุคงคสถานล้านนา อ.สันทรายและที่ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ไม่พบพระอยู่เลย ทราบว่าที่ธุดงคสถานล้านนา มีแม่ชีจากวัดฟูกวงซาน ประเทศไต้หวันที่เป็นวัดพี่วัดน้องของวัดพระธรรมกายเข้ามาธุดงค์ นุ่งห่มด้วยชุดสีเทา มาเป็นประจำรุ่นละ 2 เดือน ปฏิบัติมากว่า 2 ปีแล้ว "

นายอำนวย สุวรรณคีรี รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯเปิดเผยว่าในวันนี้ เวลา 17.10 น. ตนและนายอาคมเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชก่อนที่ท่านจะเสด็จไปอินเดียเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อถวายรายงานข้อมูล ปัญหาวัดพระธรรมกายประกอบด้วยผลการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ,ของกรรมาธิการการศาสนา รวมไปถึงถวายหนังสือ"กรณีธรรมกาย"ของพระธรรมปิฎก(อ.อ.ปยุตโต) นอกจากนั้นยังมีการถวายเทป ที่แสดงการอวดอุตริมนุสธรรมของพระไชยบูลย์เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายด้วย

"สมเด็จพระสังฆราชท่านสนใจเรื่องนี้มาก และท่านจะศึกษาอ่านข้อมูลทั้งหมด พร้อมทั้งมีบัญชาให้รัฐมนตรีอาคมทำสำเนาเอกสารทั้งหมดแจกจ่ายให้กรรมการมหาเถรสมาคมทุกรูป เรื่องดังกล่าวรมช.อาคมก็เป็นห่วงเพราะกระทบต่อพระศาสนา เกรงว่าจะยืดเยื้อ ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงขณะนี้คงหาข้อยุติได้แน่นอน โดยหลังจากสมเด็จพระสังฆราช เสด็จกลับจากอินเดียในวันที่ 23 ก.พ.จะมีประชุมนัดพิเศษ เรื่องทุกอย่างก็น่าจะจบได้"

รายงานข่าวเปิดเผยว่า การเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่นายอาคม
และกรรมาธิการการศาสนาเข้าพบนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี พร้อมกับรายงาน
ให้นายกฯทราบ และนายชวนได้ให้นายอาคมไปกราบทูลสมเด็จพระสังฆราชเป็นกรณี
พิเศษเพื่อให้ทรงทราบรายละเอียด โดยเอกสารที่นำไปถวายสมเด็จพระสังฆราชประกอบด้วย
รายงานผลการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีนายสุวัฒน์ เงินฉ่ำ รองปลัดกระทรวง
ศึกษาธิการเป็นประธาน16 หน้าและรายงานเบื้องต้นของกรรมาธิการศาสนามีเอกสาร 32 หน้า หนังสือกรณีธรรมกายของพระธรรมปิฎก และเทปที่แสดงการอวดอุตริมนุสธรรมของ
พระไชยบูลย์ถึงขั้นปาราชิกต้องจับสึก ,เทปการให้ข้อมูลของพระมโน เมตตานันโท อดีตพระลูกศิษย์พระไชยบูลย์จำนวน 7 ม้วน,และเทปบทสนทนาระหว่างพระพยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้วกับพระอดิศักดิ์ วิริยะสักโก อดีตพระผู้ก่อตั้งวัดด้วย