เดลินิวส์ 10/2/2542

สามเณรีธรรมกายจะทำศาสนาเสื่อม

นักจิตวิทยาระบุธรรมกายบวชเด็กผู้หญิงอายุ 12 ปีเป็นสามเณรีตลอดชีวิตอันตราย บ้ามาหลายรายแล้ว "ครูหยุย-กัญจนา"ลุยเต็มที่ดึงเรื่องเข้าวุฒิสภาฯสะสาง ระบุกลไกรัฐต้องเร่งแก้ไข ปล่อยไว้ศาสนาเสื่อม จี้จัดการ"ธัมมชโย"ผิดชัดเป็นเจ้าอาวาสต้องรับผิดชอบ "อาคม"ซัดธรรมกายแจกทุน 75 ล้านให้พระ 5 หมื่นรูป ถ้าจริงใจมอบผ่านกรมศาสนาก็ได้ ไม่ต้องให้แห่ไปรับถึงวัด ไม่เช่นนั้นถือเป็นการใช้พระ-เณรเป็นเครื่องมือ พระแตกเป็น 2 ฝ่ายสายสุพรรณฯยันจะไปรับ ขณะที่อีก 5 กลุ่มไม่เอาเข็ด เสียเวลามีแต่แอ็คท่าถ่ายรูป แถมต้องเปลี่ยนจีวรรูปจะได้ออกมาสวย

"ธัมมชโย"เอาเด็กผู้หญิง 12 ขวบมาบวชสามเณรีตลอดชีวิตผิดชัด พระธรรมฑูตจี้จัดการได้แล้วเป็นเจ้าอาวาสต้องรับผิดชอบ "ครูหยุย-กัญจนา"ลุยเต็มตัวระบุกลไกรัฐทุกอย่างต้องเร่งเข้ามาแก้ไข ปล่อยไว้ศาสนาเสื่อม นักจิตวิทยาระบุเด็กที่บวชยังไม่มีสติระวังเก็บกดบ้าให้เห็นแล้วหลายราย "อาคม"ฉะทุนธรรมกายแจก 75 ล้านให้พระ 5 หมื่นรูป มอบผ่านกรมศาสนาก็ได้ไม่ต้องให้แห่ไปรับถึงวัด ไม่เช่นนั้นถือเป็นการใช้พระ-เณรเป็นเครื่องมือ พระแตกเป็น 2 ฝ่ายสายสุพรรณฯยันต้องไปรับ ขณะที่อีก 5 กลุ่มไม่เอา เข็ด เสียเวลาทั้งวันมีแต่แอ็คท่าถ่ายรูป แถมต้องเปลี่ยนจีวรรูปจะได้ออกมาสวย

จากกรณีที่วัดพระธรรมกายนำเด็กผู้หญิงอายุ 12-14 ปีมาบวชเป็นสามเณรี และให้บวชตลอดชีวิต โดยมีพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นประธานพิธีบวช รวมถึงซักถามเด็กผู้หญิงที่จะเข้ามาบวชด้วยตัวเอง และนายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการสั่งให้สอบสวนภายในวันที่ 15ก.พ.นี้นั้น

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมาพระสิงห์ทน นราสโภ พระธรรมฑูต วัดพรหมคุณากร สหรัฐอเมริกา กล่าวว่าการบวชสามเณรีหรือการบวชภิกษุณีนี้หมดไปตั้งนานแล้ว เพราะผู้บวชต้องถือศิลถึง 311 ข้อ และเมื่อวัดพระธรรมกายมีการบวชสามเณรีต้องจัดการทั้งผู้เป็นอุปัชฌาย์
และเจ้าอาวาสวัดในฐานะเป็นผู้ปกครองสูงสุดของวัด

ศาสนาพุทธในไทยเป็นแบบเถรวาท หรือหินยานคือยึดตามคำสอนในพระไตรปิฎก ขณะที่พุทธนิกายมหายานในต่างประเทศมีลัทธิต่างๆมากมายเรียกว่าอาจารยวาท คือเชื่อตามที่อาจารย์สั่งสอนและมีลัทธิบวชภิกษุณีรวมถึงสามเณรีได้ ต้องสอบถามวัดพระธรรมกายว่ายังถือศาสนาพุทธแนวเถรวาทอยู่หรือไม่ ส่วนโทษที่เจ้าอาวาสที่ปล่อยให้มีการบวชสามเณรีมหาเถรสมาคมที่จะเป็นผู้จัดการ และเป็นผู้ตอบได้ดีที่สุด

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย ประธานคณะทำงานด้านเด็กองค์กรเอกชน และเลขานุการคณะกรรมาธิการสิทธิสตรีและเยาวชน วุฒิสภา กล่าวว่าเรื่องนี้จะมีการนำเข้ากรรมาธิการสิทธิสตรีและเยาวชน โดยจะเรียกข้อมูลมาพิจารณาเพราะเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก การที่จะนำเด็กอายุ 12 ปีไปทำอะไร ต้องได้รับความเห็นชอบของพ่อแม่ ตัวเด็กเองต้องได้รับข้อมูลที่รอบด้าน เพราะในหลาย ๆกรณีผู้ใหญ่จะเป็นตัวเจ้ากี้เจ้าการตัดสินใจแทน จนทำให้เด็กไขว้เขว การกำหนดให้เป็นการบวชตลอดชีวิตก็ไม่ใช่แนวทางของพุทธศาสนา พระพุทธเจ้ายังไม่เคยบังคับให้ใครบวชตลอดชีวิต เด็กน่าจะมีโอกาสทดลองชีวิตด้านอื่น ๆ กลไกทุกกลไกของรัฐ ต้องเข้ามาดูแล ต้องพลิกวิธีคิดสุดโต่งแบบนี้ ซึ่งจะติดตามและตรวจสอบต่อไป

นายวัลลภ ปิยมโนธรรม นักจิตวิทยาชื่อดังกล่าวว่าการบวชสามเณรีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะวัดพระธรรมกายกำลังทำให้เกิดความสับสนในศาสนา โดยมหาเถรสมาคมบัญญัติไว้ตั้งแต่ปี 2471 ว่าห้ามไม่ให้พระสงฆ์ของไทยบวชภิกษุณีหรือบวชสามเณรี แต่ถ้าเป็นพระต่างประเทศอาทิอินเดีย ปากีสถาน ไต้หวัน ให้พระบวชภิกษุณีหรือบวชสามเณรีได้ เพราะประเทศเหล่านั้นนับถือศาสนาพุทธนิกายมหายานคนละนิกายกับไทย วัดพระธรรมกายกำลังทำให้เกิดปัญหาว่าจะยึดศาสนาแบบของไทยหรือของต่างประเทศ

ผู้ปกครองที่ให้ลูกไปบวชสามเณรีก็ไม่เข้าใจศาสนาอย่างแท้จริง โดยคิดแต่ว่าการบวชเท่านั้นจะทำให้ลูกเป็นคนดี ถึงธรรมะ แต่ศาสนาพุทธไม่ได้สอนเช่นนั้นแม้จะอยู่ในเพศฆราวาสก็ถึงธรรมได้เช่นกัน และมักจะนำเอาไปคิดเปรียบเทียบแบบสุดโต่งเช่นบวชดีกว่าไปมั่วสุมยาเสพติด หรือไปเที่ยวบาร์ ซึ่งชีวิตไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เอามาเปรียบเทียบไปเสียหมด

"มีเด็กที่บวชชีหรือบวชในศาสนาอื่นจำนวนมากที่เก็บกดเป็นบ้าต้องมารักษา เด็กอายุ 12 ปียังไม่มีวุฒิภาวะพอ ตามหลักแล้วเด็กต้องอายุ 18 ปีขึ้นไปถึงถือว่าตัดสินใจด้วยตัวเองได้ การบวชครั้งแรกก็เพราะคล้อยตามคนใกล้ชิดที่มีอิทธิพลสูง เด็กวัยนี้ถูกชักจูงได้ง่ายอยู่แล้ว โดยเด็กที่ไปบวชได้รับการปลูกฝังว่าเหนือกว่าดีกว่าคนอื่นซึ่งทำให้แตกแยกได้ สงครามศาสนา การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นก็เกิดจากศาสนาอย่างนี้ทั้งสิ้น "

นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา กล่าวว่าการบวชสามเณรี หากมีข้อมูลชัดเจนว่า พระธัมมชโย เป็นผู้บวชให้หรือเกี่ยวข้องมหาเถรสมาคมจะเพิกเฉยไม่ได้
ต้องเร่งดำเนินการ และเมื่อได้อ่านบทกวีของพระธัมมชโยที่แต่งให้กับเด็กสาวในโครงการ ถือว่าไม่เหมาะสม ที่พระผู้ใหญ่โต้ตอบบทกลอนกับเด็กสาว โดยไม่ได้บ่งชี้ถึงความสงบ
ของหลักธรรมที่แท้จริง เป็นลักษณะที่ต้องการแสดงความโดดเด่น แอบแฝงความนัยอยู่
และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ในเรื่องความไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามน่าจะได้มีการพูดคุยกัยเด็กเหล่านี้ เท่าที่ทราบหลายคนที่พ่อไม่เห็นด้วยแต่ถูกแม่ซึ่งลุ่มหลงศรัทธาพาไป

"กรณีของวัดพระธรรมกายค่อนข้างน่ากลัวเป็นสัญญาณเตือนภัยสำหรับศาสนาพุทธ เนื่องจากมีบริเวณกว้างขวางใหญ่โต มีการประชาสัมพันธ์มากมายที่เป็นระบบ พร้อมใช้บุคลากรที่มีความรู้สูงเป็นผู้ชักจูงในการทำบุญ แบบหมดเนื้อหมดตัวกู้หนี้ยืมสิน ทำให้ครอบครัวแตกแยก ลุ่มหลงจนขาดสติ เป็นศรัทธาที่ไม่มีปัญญามาคอยกำกับ เป็นอัตรายต่อสถาบันครอบครัว,สังคมและประเทศชาติ ต้องช่วยกันทำสิ่งที่ถูกต้อง อย่าให้พระพุทธศาสนาต้องเสื่อม ทางที่ดีต้องรีบจัดการและสั่งห้ามไม่ให้มีกิจกรรมใหม่ ๆ ของวัดที่ประหลาดๆออกมาอีก "

ส่วนนายทองใบ ทองเปาว์ ทนายแมกไซไซ ให้สัมภาษณ์ว่าการนำเด็กที่ยังไม่พ้นการศึกษาภาคบังคับมาบวชสามเณรี ขัดต่อรัฐธรรมนูญแน่นอนถึงแม้ผู้ปกครองจะให้การยินยอมก็ตาม ต้องนำเด็กกลับเข้ามาสู่ระบบการศึกษา การให้เด็กปราวนาว่าจะบวชตลอดชีวิต ถือเป็นการละเมิดสิทธิของเด็กด้วย

นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการกล่าวว่าตนสอบถามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาวัดพระธรรมกายกับพระพรมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ซึ่งพระพรหมโมลีแจ้งว่าได้อ่านเอกสารทั้งหมดที่กระทรวงศึกษาธิการส่งให้แล้ว และหาวิธีแก้ปัญหาไว้ 3 แนวทางคือเปลี่ยนวิชชาธรรมกายเป็นสำนักวิปัสสนา
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ถูกต้อง แนวทางที่ 2 คือจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม ตามกรอบของศาสนา และแนวทางสุดท้ายให้ปรับคำสอนของวัดที่ระบุว่านิพพานเป็นอัตตา คือมีตัวตน ซึ่งพระพรหมโมลีเห็นว่าผิดจากพระไตรปิฎก และจะไปสอบถามพระไชยบูลย์
รวมถึงพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสว่าเชื่อตามคำสอนดักล่าวหรือไม่ คาดว่าวัดพระธรรมกายคงยินดีรับไปปฏิบัติ ไม่เช่นนั้นเชื่อว่าพระพรหมโมลีมีแนวทางจัดการ
ในรูปแบบอื่นอีก

ส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกายจะให้ทุนการศึกษาแก่ภิกษุสามเณร 5 หมื่นรูป รวม 75 ล้านบาท เท่าที่ได้รับรายงานขณะนี้ประธานกลุ่ม 7-10 ยืนยันไม่ไปรับแน่ หากวัดพระธรรมกายมีเจตนาบริสุทธิ์ควรมอบเงินผ่านทางกองศาสนาศึกษา หรืออาจนิมนต์แค่ประธานกลุ่มต่าง ๆ เป็นตัวแทนรับทุนก็ได้ แต่ถ้ามีเจตนาอื่นก็ไม่อยากใช้คำว่าวัดใช้ภิกษุสามเณรเป็นเครื่องมือ

ที่ จ.สุพรรณบุรี พระครูสุวรรณวชิรธรรม เจ้าอาวาสวัดสกุลปักษี ประธานกลุ่มโรงเรียนปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษากลุ่มที่ 5 เปิดเผยว่าอาตมาเป็นผู้ขอทุนจากพระไชยบูลย์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเอง เพราะไม่มีเงินทุนจากรัฐสนับสนุนการเรียนของพระ เณร ในวันที่ 11 ก.พ.นี้จะมีการประชุมที่วัดพระธรรมกายอีกครั้งเท่าที่ทราบมีกลุ่มที่ 1,5,7,8,9,10,11,12 รวม 8 กลุ่มที่จะเข้าร่วม ส่วนกลุ่มที่ 6 ซึ่งเป็นพระที่ห่มจีวรสีกลัก คงไม่ไปรับทุนในครั้งนี้เพราะห่มจีวรคนละสี อาจจะทำให้เวลาเข้าแถวถ่ายรูปแล้วดูไม่เป็นระเบียบ

ขณะเดียวกันพระครูธรรมศาสนโฆษิต ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรมกลุ่ม 6 ภาคกลาง เปิดเผยว่ากลุ่ม 6 ที่มีสามเณร 2 พันรูปใน 7 จังหวัดภาคกลางจะไปไม่รับทุนแน่ และหารือไปยังประธานกลุ่มหลายกลุ่มแล้วอาทิกลุ่ม 1 ที่กรุงเทพฯกลุ่ม 7 ที่เพชรบูรณ์ กลุ่ม 9 ที่หนองคาย แม้กระทั่งประธานกลุ่ม 5 ที่เป็นต้นเรื่อง ส่วนใหญ่แล้วไม่เห็นด้วยจะไปรับทุนเพราะไม่เหมาะสม หลังจากนั้นจะมีการประสานไปยังโรงเรียนในสังกัดทั่วประเทศ 380 แห่งด้วย โดยการรับทุนก็ตรงกับวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งเป็นวันมาฆบูชาที่วัดทุกแห่งต้องมีพิธีทางศาสนา

บางกลุ่มเห็นว่าถ้าวัดพระธรรมกายจะให้ทุนจริงก็มอบผ่านตัวแทนก็ได้ไม่ต้องให้เดินทางไปที่วัด และเชื่อว่าที่ต้องให้ไปวัดเป็นวิธีการเดิมที่ต้องการให้เกิดแนวร่วมเห็นพลังของวัดเหมือนการ
รวมคนไปบวชอุบาสกแก้ว ที่ผ่านมาพระครูธรรมศาสนโฆษิตเองเคยนำเณร 100 รูปไปฉันเพลที่วัดพระธรรมกาย ออกแต่เช้าแต่ต้องกลับมาเวลา 5 โมงเย็น ตลอดวันไม่มีการทำอะไรนอกจากการจัดให้ถ่ายภาพหมู่ในลักษณะต่าง ๆ ที่สำคัญยังบังคับให้เปลี่ยนจีวรเป็นสีของวัดพระธรรมกายด้วย เชื่อว่ากลุ่มต่าง ๆคงไปทำการชี้แจงกับโรงเรียนในจังหวัดต่าง ๆ ได้ แต่ยังห่วงว่าจะมีการติด
ต่อไปที่สามเณรที่ยังไม่รู้เรื่องโดยตรง และอาจไปร่วมงานเพราะต้องการได้ทุนแจก