เดลินิวส์ 31/1/2542

บวชอุบาสกแก้วได้แค่ 6 หมื่น
เบ่งบารมีเต็มที่งานบวชชีปะขาววัดธรรมกายดูดคนมาได้ 6 หมื่น ยังห่างเป้าที่ตั้งไว้แสนคนลิบ ทั้งที่
เกณฑ์เด็กมาเพียบ แถมยังมีรายการแจกเงินหัวละ 200 ผุดขึ้นมาอีก "ทัตตชีโว"ประกาศเตรียมพบกับ"เหตุ
อัศจรรย์"อีกครั้ง พระนิสิตมหาจุฬาฯ 6,000 รูป รวมตัวเดินสายทั่วประเทศ เทศน์ต้านคำสอนวัดฉาวที่ทำลาย
ศาสนาว่า
นิพพานเป็นอัตตา พร้อมทั้งรอคำชี้ขาด ถ้ายังไม่มีความกระจ่างจะเคลื่อนไหวใหญ่
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดพระธรรมกาย มีพิธีบวชอุบาสกแก้ว ปรากฎว่าได้มีคนได้เดินทางมาจากทุกสารทิศ
ซึ่งมาโดยรถบัสและส่วนตัว หลังจากที่ในวันที่ 29 ม.ค.ซึ่งเป็นวันแรกของพิธีมีคนมาร่วมแค่ 5,000 คน จากที่วัดตั้งเป้าหมาย
ไว้จะมีคนมาบวช 100,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้ามีฝนหลงฤดูตกทั่วกรุงเทพฯ-และปทุมธานี ซึ่งในพิธีที่วัดจัดฝนตกด้วย ทำให้มีการประชาสัมพันธ์อย่างมากว่าแม้แต่เทวดายังอวยชัยให้ และคนที่มาในงานนี้จะได้บุญมาก
ในเวลา 8.00 น.พระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสออกมาให้ศีลพร้อมกับนำนั่งสมาธิ สวดมนต์ และในเวลา 9.00 น.
ประธานฝ่ายฆราวาส พล.ท.ธีรวุฒิ ลวเปารยะ หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ ประจำรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำอุบาสกแก้วมา
ประกอบพิธีอัญเชิญผ้าเฉวียงแก้ว โดยมีศิลปินดารา นักร้อง เข้ามาร่วมงานเช่นน.ส.ลีลาวดี วัชโลบล,น.ส.ธิดา ดวงดาว ,
และน.ส.สุมาพร ชัชวาลย์ประเสริฐ นักจัดรายการวิทยุ"สโนว์ไวท์" ผู้จัดการส่วนตัวของไชยยา มิตรชัย มาร่วมในขบวนเชิญผ้า
จากนั้นพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสออกเทศน์ระบุว่าการที่ลูก ๆ มาบวชเป็นเรื่องดี ทำใจให้บริสุทธิ ผุดผ่อง เหมือน
คนมีวิริยะ อุตสาหะ ได้รับพระรัตนตรัย กำลังเข้าถึงพระธรรมกายภายในของตน คือเป้าหมายที่แท้จริงของทุกคน และเฉวียง
แก้วที่จะได้รับวันนี้ เป็นของผู้มีบุญอันประเสริฐ เพราะเป็นผ้าทิพย์ที่ลอยมาจากฝากฟ้าให้มาคล้องผู้มีบุญ บารมี ทำแต่สิ่งดีงาม การเทศน์ครั้งนี้เป็นที่สังเกตว่าพระไชยบูลย์เทศน์ด้วยน้ำเสียงเรียบเบา ไม่แจ่มใสเหมือนปกติ และแว่นตาที่เคยใส่สีชาก็เปลี่ยน
มาเป็นแว่นสายตา คำพูดที่เคยเน้นว่า"นะจ๊ะ"เป็นคำลงท้ายก็เกือบจะไม่มีให้ได้ยิน
ในพิธีนี้ได้มีแจกผ้าเฉวียงแก้วผู้มาร่วมงานด้วย โดยบนผ้าปักว่า"แด่ผู้บวชอุบาสกแก้วรุ่นแรกของโลก เพื่อบูชาพระคุณบิดา
29-31 ม.ค. 2542" ประกอบด้วยผ้าคล้องไหล่เป็นผ้าขาว มีโลโก้มหาธรรมกายเจดีย์ปักที่ปลายผ้า มีสติกเกอร์เกอร์แจกทุกคนให้
ไปรับของกำนัลเป็นพระมหาสิริราชธาตุ รุ่นปราบมาร ให้ผู้บวช
บรรดาประชาชนมาร่วมงานผู้สื่อข่าวรายงานว่าประมาณ 7-8 หมื่นคน แต่เป็นผู้บวชเพียง 6 หมื่นคน ส่วนใหญ่ผู้มาบวช
เป็นอาสาสมัคร นักศึกษา วัดประกาศโฆษณาว่าการบวชครั้งนี้จะถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
เวลา 13.00 น. พระสงฆ์สวดมนต์และทำพิธีนำผ้าคล้องพร้อมกัน และพระเผด็จออกมาอบรมอีกครั้งโดยมีใจความว่า วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาโลกในปัจจุบัน เพราะว่าพุทธศานามีอายุตั้งแต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปกว่า 2542 ปี
แต่ไม่มีการจารึกมาก่อนเลย ว่าจะมีมหาชนมาร่วมใจประกาศตัวเป็นอุบาสกในพุทธศาสนาจำนวนมากขนาดนี้
"แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินของพุทธศาสนาการจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ หน่วยงานราชการ เ
อกชนทั้งแผ่นดิน สำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ มีเหตุการณ์ใหญ่เช่นเหตุอัศจรรย์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วมิใช่จะเกิดขึ้นง่าย แต่เกิดขึ้นแล้ว 3
ประการ พรุ่งนี้(31ม.ค.) ทั้งหมดมีหัวใจรวมกันเป็นหนึ่งเดียวมั่นคงในพระรัตนตรัย หัวใจบริสุทธิ์นับแสนหรือจะเกินแสนจะมา
ร่วมสร้างเหตุอัศจรรย์ครั้งที่ 2 ก่อนอื่นต้องเข้าใจถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนว่าสติปัญญาชาวโลกไม่เท่ากัน จะเห็นคุณค่าคุณความดีและคุณประโยชน์เราถึงมองเห็นได้ไม่เท่ากัน พระพุทธเจ้ามีมากมายมหาศาล คนเห็นคือมีปัญญามาก
เห็นมาก ปัญญาน้อย เห็นน้อย"
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่ามีชาวบ้าน และชาวเขาอาทิชาวกระเหรี่ยง จากเชียงใหม่ ได้ร่วมงานโดยมีการคุยกัน
ในหมู่คนร่วมงานเพื่อสอบถามว่าได้เท่าไหร่ โดยอัตราที่บอกกันคือ 200 บาท อาทินายแมและนางคาง ตั้งขะแม มาจากลำพูน กล่าวว่าการมาครั้งนี้เพราะมีคนบอกว่าจะพามาเที่ยวกรุงเทพฯฟรี และให้เงิน 200 บาท และจะอยู่วันเดียวโดยในวันที่ 31 ธ.ค.จะกลับบ้าน
สำหรับบริษัทเอกชนที่สนับสนุนให้พนักงานมาบวชอาทิบริษัทยูคอม ,บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ บริษัทรุ่งฟ้า ซึ่งเป็นลูกศิษย์
คนสำคัญของวัด โดยพนักงานที่มาบวชจะไม่ถูกหักเงิน ไม่ถือว่าขาดงาน และซื้อชุดให้หมด
นายบวรศักดิ์ รังสีพิทักษ์ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งจากบุรีรัมย์ นำนักเรียนมาบวชงานนี้ 500 คน โดยกล่าวว่าตนได้ทำตาม
นโบายของกรมสามัญทุกประการ ที่สำคัญได้ทำหนังสอืแจ้งผู้ปกครองก่อนมาแล้ว ว่าไม่ได้บังคับ
นอกจากนั้นยังมีเด็กนักเรียนมาจากต่างจังหวัดเดินลงจากรถเป็นกลุ่ม ๆ มีตั้งแต่เด็กประถมถึงอาชีวะศึกษา จากการสอบถามนักเรียนส่วนใหญ่บอกว่าเป็นเพราะครูชวนมา และจะมีโอกาสได้มาเที่ยวกรุงเทพฯฟรี ๆ เลยยินดีเข้ามา
นายกล่อง กล่องสิริ วัย 67 ปี มาจากแม่ฮ่องสอน กล่าวว่าได้ทราบข่าวการบวชจากอบต.จังหวัดบางคน และชักชวนตน
และเพื่อนผู้สูงอายุให้มาหลายคน โดยจะได้บุญมหาศาล และตนไม่ค่อยอ่านหนังสอืพิมพ์ไม่สนใจเพราะอ่านไม่ออก ตนเชื่อว่า
การทำบุญบวชที่ไหนก็เหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงของรัฐ ส่งคนเข้ามาร่วมงานมากมายทั้งตำรวจกองปราบปราม
ตำรวจสันติบาล สภาความมั่นคงแห่งชาติ
ที่จ.อยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 14.00 น. ได้มีการนำรถบัส 80 ที่นั่งของณัฐวัฒน์ ทรานสปอร์ต มารับผู้โดยสาร
ที่หน้าสำนักงานเทศบาล โดยมีนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวะศึกษาพระนครศรีอยุธยาชั้นปีที่ 1-3 เดินทางมาขึ้นรถ 80 คน ไม่มี
อาจารย์มาควบคุม แต่มีนักศึกษาปีที่ 3 ถือรายชื่อเช็คเป็นระยะ และโทรศัพท์ติดต่ออาจารย์ที่ดูแลเรื่องนี้ โดยนักศึกษาหลายคนที่เดินทางขึ้นรถบอกว่าที่มาวัดเพราะต้องการได้รับแจกพระมหาสิริราชธาตุ รมถึงยังได้เที่ยวและ
เกรงใจอาจารย์สตรีที่เป็นตัวตั้งตัวตี แถมบางคนหนีพ่อแม่มาด้วย อย่างไรก็ตามเป้าหมายที่อยุธยาซึ่งเคยคาดหมายว่าจะ
เกณฑ์นักศึกษาได้เป็นร้อย ๆ คนก็หลุดเป้าอย่างสิ้นเชิง
ทางด้านพระมหาบุญถึง ชุตินฺธโร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า
พระนิสิตของมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในส่วนกลางประมาณ 2,000 รูป และจากวิทยาเขตอีก 10 แห่ง
จำนวนประมาณ 4,000 รูป รวมเป็นพระนิสิตประมาณ 6,000 รูป กำลังเริ่มมีปฏิกริยากันบ้างแล้วกับกรณีของวัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะกรณีที่ทางวัดพระธรรมกายระบุว่านิพพานเป็นอัตตา เป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ล้อมรอบด้วยพระอรหันต์ และเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายสามารถถอดจิตขึ้นไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ โดยส่วนใหญ่ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับคำสอนที่ผิดเพี้ยนดังกล่าว
ทั้งนี้ พระนิสิตของมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต่างก็กำลังรอดูท่าทีของมหาเถรสมาคมว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่เห็นว่ามีพระผู้ใหญ่หลายรูปออกหน้ามาเรียกร้องหาความชัดเจนความถูกต้องแล้วจึงเพียงเฝ้าดูอยู่ห่างๆ อย่างไรก็ตามหากยังไม่มีข้อยุติพระนิสิตทั้งหมดก็คงจะมีการเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความกระจ่างและเป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง
ตามหลักพระพุทธศาสนาโดยเร็วที่สุด
พระมหาบุญถึงกล่าวด้วยว่า ระหว่างวันที่ 28-30 ม.ค.นี้ ทางมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจะมีการเชิญวิทยากรมาเสริมความรู้ให้กับพระนิสิตเพื่อเตรียมโครงการออกค่ายฤดูร้อนเผย
แพร่พระพุทธศาสนาในแนวทางที่ถูกต้อง โครงการปีนี้นอกจากจะมีการปลูกฝังให้เยาวชนห่างไกลยาเสพย์ติดอันเป็นปัญหา
ใหญ่ของสังคมแล้ว ในส่วนของผู้ใหญ่ก็จะมีการเผยแพร่เกี่ยวกับเรื่องของนิพพานซึ่งกำลังอยู่ในความสนใจของชาวพุทธ เพื่อให้ชาวพุทธเข้าใจไปในทางที่ถูกต้องด้วย
ส่วนกรณีที่พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เจ้าคณะภาค 1 ออกมาระบุว่าถ้าทางวัดพระธรรมกายสอนชาวพุทธ
ว่า "นิพพาน" เป็น "อัตตา" ก็ต้องถือว่าไม่ถูกต้องเพราะไม่มีในพระไตรปิฎก แต่ต้องถามจากปากพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเสียก่อนว่าเป็นผู้พูดหรือพระลูกวัดที่ไม่รู้จริงพูดนั้น เรื่องนี้ไม่ว่าพระไชยบูลย์จะเป็นผู้พูดหรือ
พระลูกวัดพูด พระไชยบูลย์ก็คงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ในฐานะที่เป็นเจ้าอาวาสจะต้องทราบความเป็นไปในวัดทั้งหมด ไม่ว่าจะเกิดกรณีอะไรขึ้นก็ตามหากเกี่ยวกับวัดทางเจ้าอาวาสก็จะต้องรับผิดชอบ
นอกจากนั้นพระมหาบุญถึงยังได้ทำเอกสารเรื่อง"สายตรงจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถึงธรรมกาย กรณี:ท้าพิสูจน์พระนิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา" ความหนา 36 หน้า เพื่อชี้แจงคำสอนเรื่องนิพพานที่ถูกต้องว่าเป็นอนัตตา
ไม่ใช่ตัวตน และโต้แย้งกับคำสอนของวัดพระธรรมกายที่ว่านิพพานเป็นอัตตา โดยเฉพาะพระสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้อำนวยการด้านการเผยแผ่ธรรมะของวัดพระธรรมกายถึงกับทำหนังสือ"นิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา"เพื่อยืนยันความ
คิดของตัวเองออกมา
สำหรับรายละเอียดของเอกสารที่พระมหาบุญถึงทำออกมาตอบโต้นั้นเป็นการยกหลักฐานทางศาสนาทั้งหมดขึ้นมายืนยัน ตั้งแต่คำสอนในพระไตรปิฎก การสังคายนาและการตรวจสอบความถูกต้องของพระไตรปิฎกตั้งแต่อดีตกาล โดยเฉพาะพระมหาบุญถึงมีการกล่าวว่าพระสมชายพยายามโน้มน้าวพวกที่ด้อยปัญญาให้
คล้อยตาม โดยบิดเบือนคำสอนให้วิปริต เหมือนตัวปลวกที่กัดแทะคัมภีร์พระไตรปิฎกให้ป่นปี้ย่อยยับ หรือเหมือนกับสนิมเกิดจากเหล็กย่อมกัดเหล็กให้กร่อน เหมือนลูกม้าอัศดรย่อมเกิดมาเพื่อฆ่าแม่ม้า เธอเกิดมาเพื่อทำลายพระพุทธศาสนาโดยแท้
พระพุทธศาสนาสายเถรวาทที่อยู่ในประเทศไทยยึดเอาพระไตรปิฎกเป็นหลัก และใช้ภาษบาลีเป็นมาตรฐาน ซึ่งได้มีการตรวจสอบ ท่องจำเป็นหมู่คณะมาตั้งแต่ยังไม่มีกระดาษ หรือการบันทึก เมื่อมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรจะใช้ภาษาบาลีเช่นกัน ทำให้สอดคล้องกับการนับถือศาสนาพุทธเถรวาทในประเทศอื่น ๆ เพื่อสะดวกแก่การศึกษาและรับรองได้ว่าไม่มีตกหล่น คลาดเคลื่อนจากศาสนา อย่างไรก็ตามได้มีการแปลคำสอนจากภาษาบาลีเป็นภาษาของแต่ละชาติเพื่อ
ให้คำเข้าใจ สะดวกแก่การศึกษา และได้มีการจัดทำสังคายนาพระธรรม
วินัยต่อเนื่องกันตลอด เช่นการทำสังคายนาครั้งที่1-3 ที่อินเดีย ,ครั้งที่ 4-5 ในศรีลังกา ,ครั้งที่ 6 ในพม่า และครั้งที่ 7-11 ในประเทศไทย โดยระยะหลังยังมีการนิมนต์พระสงฆ์สายเถรวาท 5-6 ประเทศมาร่วมทำ
สังคายนาด้วย และนำพระไตรปิฎกของแต่ละประเทศมาเปรียบเทียบกัน คำผิดใดก็ปรับให้ถูกต้อง
เมื่อจัดทำสังคายนาเสร็จก็มีการฉลองพระไตรปิฎก 7 วัน 15 วัน หรือ 1 เดือนตามความเหมาะสม แล้วจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มแจกตามห้องสมุดทั่วโลก ถือเป็นมาตรฐานพระไตรปิฎกสายเถรวาท
การที่พระสมชายและวัดพระธรรมกายพูดกันจึงไม่มีเหตุผล