เดลินิวส์ 24/1/2542

ร้องพระสังฆราช ชี้ขาดธรรมกาย

ลูกศิษย์วัดธรรมกายบุกวัดชลประทานฯ ระบุข่าวที่ออกมาโกหกหมด ที่วัดมีเงินมากด้วยเหตุที่ลูกศิษย์อยู่อย่างประหยัด เอาเงินมาทำบุญหมด ขณะที่นักวิชาการหมดหวังปฏิรูปคณะสงฆ์ ขนาดคำสอนว่านิพพานเป็นอัตตาหรือ
อนัตตายังไม่มีใครกล้าออกมาชี้ขาด เตรียมส่งหนังสือร้องเรียนถวายพระสังฆาราช
ให้ตัดสินชี้ขาดปัญหาธรรมกาย ส่วนมูลนิธิความหวังของชาวไทยออกโรงโต้ถูก
ไอ้โม่งจ้องทำลาย "เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์"ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซัดกรรมาธิการศาสนาหูเบา ไม่รับผิดชอบ อาจฟ้องเป็นกรณีตัวอย่าง
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 14.30 น. ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ นนทบุรี สถานนีโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ ได้มีการบันทึกรายการตามหา..แก่นธรรม โดยมีพระอาจารย์เฉลิม ชุติวัณโณ วัดชลประทานรังสฤษดิ์ นายอำนวย สุวรรณคีรี รองประธานคณะกรรมาธิการศาสนาและ
วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ นักวิชาการศาสนา มีนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และนาย สุเมธ โสฬศ ดำเนินรายการ
เริ่มจากกระทู้แรกเป็นการวิจารณ์ถึงกรณีพระไชยบูลย์ ธัมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กรณีซื้อบ้านสวยหรูให้กับพ่ออยู่อาศัย นำญาติมาเป็นกรรมการในบริษัทเครือข่ายธรรมกาย และการมีเงินจำนวนมากมาจัดซื้อที่ดินขยายอาณาเขตวัด ลงทุนที่ดิน
บรรยายกาศเริ่มร้อนแรงเมื่อมีลูกศิษย์วัดพระธรรมกายจำนวน 10 คน ได้ชี้แจงว่าข่าวต่างที่ออก
มาจากสื่อมวลชน และการนำไปพูดในสถานที่ต่างๆเป็นการโกหกมดเท็จ การที่วัดพระธรรมกาย
ดูคล้ายคนมีเงินมาก มายมหาศาลนั้น เป็นเพราะชาววัดพระธรรมกายอยู่กันอย่างคนยากจน ถึงได้มีเงินเหลือให้มาใช้จ่ายในกิจกรรมของพุทธศาสนามากมายเช่นนี้ เงินที่ได้มาเป็นเงินบริจาค
ของคนที่ศรัทธาวัดพระธรรมกาย และทางวัดได้นำเงินทำบุญเหล่านี้ไปเผยแผ่พระศาสนา จนเกิดกิจกรรมมากมายขึ้น เพราะธรรมกายไม่ใช่อยู่หนิ่งเฉยมีกิจกรรมทาง ด้านศาสนาอย่างต่อเนื่อง สรุปว่าพระธัมมชโยและวัดธรรมกายมีเรื่องดีมากมาย แต่ยังไม่ได้รับการกล่าวถึงในทางที่ถูกต้อง บรรยากาศช่วงนี้เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
หลังจากนั้นเป็นกระทู้เรื่องการสังคายนาคณะสงฆ์ไทย โดยพระอาจารย์เฉลิมกล่าวว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ต้องมาสังคายนาใหม่ พระพุทธองค์ทรงตัดว่าปัญหาทุกปัญหาต้องแก้ด้วยตัวเอง หากสามารถแก้ด้วยตัวเองได้ก็เท่ากับเป็นการแก้ไขปัญหาของส่วนร่วมและสังคมด้วย เพราะฉะนั้นทุกคนต้องดูว่าทำอะไรผิดก็ต้องแก้ไข ที่ยังไม่สามารถแก้ได้เป็นเพราะคณะสงฆ์ยัง
หวงอำนาจหวงเก้าอี้ เพราะเป็นแล้วมีเกียรติมีกิจนิมนต์มาก อย่างพระสังฆราชไม่มีเวลา
ประชุมพระเถรสมาคม หากแต่มีเวลารับกิจนิมนต์รับญาติโยมเถรสมาคมต้องดูตัวเองด้วย
ว่าเหมาะสมถูกต้องเพียงใดหรือไม่ ทุกวันนี้ปัญหาการรวมอำนาจทุกเรื่องไว้ส่วน
กลางทำให้การพิจารณาเรื่องต่างๆ ล่าช้าไป
นายอำนวยกล่าวว่าเริ่มมีการยกร่างอุปถัมภ์คุ้มครองพุทธศาสนาแล้ว ส่วนการแก้ไขกฏหมายคณะสงฆ์เป็นเรื่องยาก ขณะที่อาจารย์ฉัตรสุมาลย์ กล่าวว่าหมดความหวังกับการปฏิรูปคณะสงฆ์ไทยนานแล้ว รอจนถึงวันตายก็ไม่
สามารถแก้ได้สำเร็จ เลยเวลาสำหรับการปฏิรูปคณะสงฆ์ไทย ขณะนี้ก็ไม่สามารถ
กล่าวได้ว่าอัตตาหรืออนัตตาอย่างไหนที่เป็นแก่นพระศาสนาต่างคน
ต่างสอน ไม่มีใครออกมายืนยันควรสังคายนากันได้แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการใช้วัตถุ
เป็นเครื่องตัดสิน
นายอำนวยเสริมว่าเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้นเวลานี้ควรมีการชี้ชัดลงไปเลยว่าการนั่งวิปัสนาแล้ว ควรเห็นอะไรไม่ควรเห็นอะไร การทำบุญก็เช่นกันอย่างไหนที่เป็นการทำบุญมีกี่อย่างอะไรบ้าง พุทธศาสนิกชนจะได้เข้าใจ ช่วงนี้ผู้เข้าร่วมรายการได้แสดงความเห็นเพิ่มว่าสมเด็จพระราชาคณะ
ส่วนใหญ่จำวัดอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ทำไมถึงได้พิจารณาปัญหาวัดพระธรรมกายล่าช้า น่าที่เจ้าคุณปัญญาจะได้ใช้วัดชลประทานฯเป็นสถานที่ประปฏิวัติพุทธศาสนาได้แล้ว ยกเลิกการปกครองกันเองของสงฆ์
ภายหลังการเสร็จสิ้นการบันทึกรายการนายวรัญชัย โชคชนะ แก่นนำกลุ่มพุทธศาสนิกชนไทย ได้แจ้งว่าจะมีการเดินทางไปยื่นหนังสือถึง
สมเด็จพระสังฆราช ณ ตำหนักเพชร วัดบวรนิเวศวิหาร ในเวลา 13.00 น. ในวันอาทิตย์ที่ 24 ม.ค. เพี่อเรียกร้องให้เร่งรัดการพิจารณากรณีวัดพระ
ธรรมกาย เพราะปล่อยให้นานไปจะเป็นการสร้างความแตกแยกเพิ่มมากขึ้น และให้พิจารณาการทำงานของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ด้วย เพราะล่าช้า
ในวันเดียวกันนายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา(ไอเอฟดี) เปิดแถลงข่าวปฏิเสธไม่ได้เป็นเจ้าของมูลนิธิความหวังของชาวไทย และไม่ได้มีส่วนช่วยเหลือนานแล้ว เพราะงานทางวิชาการหนักมาก ไม่ใช่เพราะรังเกียจ แต่หากมีการเชิญให้ไปเป็นวิทยากรก็ยินดีโดยในอดีต เคยช่วยงานมูลนิธิเป็นวิทยากรรับเชิญ เป็นวิทยาทานไม่เคยรับเงินเดือน หรือค่าตอบแทน ๆ ใด ไม่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ของคริสจักร หรือมูลนิธิ
"ผมชอบช่วยสังคม ไม่ว่าเป็นมูลนิธิหรือสถาบันใด โดยส่วนตัวเห็นว่ามูลนิธินี้มีวัตถุประสงค์ที่ดี ทำประโยชน์ต่อสังคม เท่าที่สัมผัสกรรมการและเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นคนดี เสียสละ สังคมควรให้เกียรติมากกว่านี้ อย่าให้ร้ายอย่างไม่ยุติธรรม และที่ผมได้รับเกียรติจากมูลนิธิให้เป็นศิษยาภิบาลกิตติมศักดิ์ คำนี้แปลว่าคนที่ช่วยอภิบาลแนะนำผู้อื่นให้มีความเอื้ออาทรต่อกัน ในศริสจักรต้องการให้เกียรติใครก็เรียกเป็นอาจารย์หรือเรียกด้วยคำ ๆนี้ "
นายเกรียงศักดิ์กล่าวอีกว่ากรณีที่กรรมาธิการศาสนา ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับมูลนิธิฯถือว่าขาดความเป็นธรรมเพราะมีประเด็นหลายอย่างไม่มีมูลความจริง กรรมาธิการเองก็ยอมรับว่าข้อมูลที่ได้มายังสรุปไม่ได้ ที่สำคัญไม่มีการเชิญคนที่ถูกพาดพิงเข้าพบเพื่อชี้แจง หลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริง ก็ไม่มีเป็นลายลักษณ์อักษรอ้างแต่ว่าเป็นรายงานจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่อาจได้ข้อมูลคลาดเคลื่อนและเข้าใจผิด โดยมีผู้ที่ต้องการกลั่นแกล้งทั้งที่ความจริงกรรมาธิการควรหาตัวคนที่เป็นผู้กล่าวหาออกมายืนยันให้ชัดเจน ว่าเป็นใคร ควรให้บุคคลนั้นลงนามย้นยันไว้ด้วยไม่เช่นนั้นจะมีการปล่อยข่าวลือทำลายให้คนอื่นเสียหาย
การแถลงข่าวของกรรมาธิการ ก็เป็นไปด้วยสำสวนภาษาให้ความรู้สึกทางร้าย กำกวมและคาดเดา นอกจากนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นกรณีศึกษาและเป็นบทเรียนที่ดี ที่ประชาชนควรตรวจสอบความถูกต้องในข้อมูลของรัฐ และหน่วยงานรัฐไม่ควรทำตัวเป็นคุณพ่อรู้ดี ใช้อำนาจตัดสินเรื่องต่าง ๆ
"สำหรับประเด็นที่ถูกกล่าวหาเรื่องชู้สาวขอปฏิเสธว่าไม่จริง รวมถึงเรื่องเงินและผลประโยชน์จากมูลนิธิ ผมไม่อยากฟ้องร้องใครเลย แต่หากมีคนเรียกร้องให้ฟ้อง ให้เป็นกรณีศึกษาก็ยินดีจะฟ้องร้อง แต่ที่สำคัญอยากให้สื่อมวลชนหาบุคคลที่ให้ข่าวแบบกล่าวหาและยืนยันให้ชัด จับไอ้โม่งปล่อยข่าวเป็นกระบวนการให้ได้"
ในการแถลงข่าวครั้งนี้มีนางรูบินา สุวรรณพงษ์ เลขาธิการมูลนิธิฯมาร่วมด้วย นางรูบินากล่าวว่ามูลนิธิจัดแถลงข่าวในวันอาทิตย์ที่ 24ม.ค. และตั้งข้อสังเกต 4 ประการคือกรมประชาสัมพันธ์ จะรับผิดชอบอย่างไรต่อข้อมูลเท็จที่ได้เผยแพร่ทางวิทยุ โดยไม่ตรวจสอบแม้บางประเด็นสามารถตรวจสอบได้โดยง่าย,คณะกรรมาธิการการศาสนา มีขอบเขตหน้าที่และสิทธิอำนาจอย่งไร การกระทำที่ฟังความข้างเดียวประกาศผลการพิจารณาก่อนการสรุปเรียกว่าศาลเตี้ยหรือไม่ ,นายเด่น โต๊ะมีนา ประธานกรรมาธิการทำเช่นนี้ผิดวิสัยเพราะอะไร และมูลนิธิฯขอร้องเรียนว่าถูกกลั่นแกล้งโดยขบวนการไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังคือใคร