เดลินิวส์ 19/1/2542

วัดธรรมกายโม้อภินิหารชีจันทร์
อดีตทูตไทยประจำอังกฤษออกโรงระบุวัดพระธรรมกายระบายสีโม้ประวัติ"ชีจันทร์"ขนาดเหาะไป
ปัดระเบิดปรมาณูที่จะทิ้งลงไทยให้ไปตกที่ญี่ปุ่นแทน ลงทุนไปค้นคว้าเอกสารย้อนหลัง 30 ปี มายืนยันว่าวัดแหกตา แฉที่ต้องเขียนประวัติชีจันทร์อิงปาฏิหาริย์เพื่อ "ดูดทรัพย์" จากชาวบ้านตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อน พ.ศ.นี้ ยังขุดเอานิทานเรื่องเก่ามาขายหวังปั๊มเงินโครงการพระดูดทรัพย์อีกรอบ ชาวนาปทุมฯ บุกกองปราบฯ
แจ้ง 5 ข้อหาวัดฉาวทั้งทำลายศาสนา, คดโกง, หมิ่นเบื้องสูง พระพรหมโมลีสั่งสอบเงินบัญชีวัดแล้ว
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา พระบานเย็น ดงระยศ อายุ 72 ปีจากวัดถ้ำพรสวรรค์ พร้อมชาวนาที่เคยเดือดร้อน
จากการถูกวัดพระธรรมกายไล่ที่ บริเวณอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ประมาณ 20 คน เข้าร้องเรียนต่อพ.ต.อ.สมพงษ์-
คงเพชรศักดิ์ ผกก.3ป. ให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกับพระไชยบูลย์ สิทธิผล เจ้าอาวาส, พระเผด็จ ทัตตชีโว
รองเจ้าอาวาส ,พระสุธรรม สุธัมโม เลขานุการวัด ,นายสุนทร ศรีสัตนา และนายผ่อง เล่งอี้ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้
รวม 5 ข้อหา ได้แก่การหลอกลวงคดโกงชาวนา กรณีทำให้เสียสิทธิในที่ทำกิน,ละเมิดกฎหมายพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม,หมิ่นสถาบันพระมหา
กษัตริย์ที่นำพระบรมฉายาลักษณ์ไปใช้ในการโฆษณาโครงการต่าง ๆ และตัดไม้ที่เชื้อพระวงศ์ปลูกไว้,บ่อนทำลาย
พระพุทธศาสนาโดยบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า และมีพฤติกรรมก่อการร้าย โดยได้แอบสืบทราบมาว่ามีการขุดอุโมงค์ลับในวัดและสะสมอาวุธสงคราม อาจเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง
ทางด้านพ.ต.อ.วิเชียร สมานพงษ์- รอง ผบก.ป.หัวหน้าชุดสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีวัดพระธรรมกายกล่าวว่า พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเฉพาะกรณีการตั้งมูลนิธิธรรมกายว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมถึงยอดเงินบริจาค
รายงานข่าวกองปราบปรามเปิดเผยว่ากองปราบฯตรวจสอบทรัพย์สินของวัดที่มีการส่งให้ศึกษาธิการจังหวัด
และพบว่าเมื่อปี 2540 มีการแจ้งยอดสินทรัพย์แค่ร้อยกว่าล้าน และมีที่ดินแค่ 160 ไร่ แต่ยอดเงินในปี 2541 ยังไม่ได้แจ้ง โดยเงินของวัดค่อนข้างผิดปกติเพราะได้มีการเรี่ยไรในโครงการต่าง ๆ มาก และคงต้องประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงทางวัดด้วยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีการถ่ายเทที่ตรวจสอบได้หรือไม่ นอกจากนั้นจะตรวจสอบบริษัทต่าง ๆ ที่มีชื่อว่าวัดพระธรรมกายเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเท่าที่ตรวจสอบมีบริษัทต่าง ๆ เช่นกิจการอสังหาริม ทรัพย์ และมีรายชื่อนามสกุลเดียวกับเจ้าอาวาสคือสิทธิผล แต่ต้องตรวจสอบดูก่อนว่าถูกต้องหรือไม่ เป็นการลงทุนส่วนตัวหรือเอาเงินวัดไป
ขณะเดียวกัน ศาสตราจารย์กนต์ธีร์ ศุภมงคล อดีตข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งหลังสุดคือเอกอัครราช ทูตประจำราชสำนักเซนต์เจมส์ ประเทศอังกฤษ ให้สัมภาษณ์กรณีที่วัดพระธรรมกายได้ออกหนังสือ"เดินทางสู่ความสุข"เผยแพร่ถึงอิทธิฤทธิ์แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ผู้ก่อตั้งวัดพระธรรมกายและเป็นอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาของพระไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าอาวาสวัดว่าสามารถใช้วิชชาธรรมกายเหาะไปปัดระเบิดปรมาณูที่จะทิ้งลงประเทศไทยไปตกที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่นเพื่อโฆษณาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของวัด ว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริง และตนเคยได้รับหนังสือ รวมถึงมีคำบอกเล่าจากลูกศิษย์วัดในลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน
"จำได้ว่าตอนนั้นผมเริ่มไปปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายใหม่ ๆ มีลูกศิษย์ไฮโซหลายคนได้มาสนทนาด้วยการยกการสร้างวีรกรรมของแม่ชีมาเล่าให้ฟัง และนำหนังสือ
เล่มดังกล่าวมามอบให้ พร้อมกับชักชวนให้นำเรื่องนี้ไปเผยแพร่ด้วย ผมต้องกลับไปหาหลักฐานทั้งในและ
นอกประเทศ โดยเฉพาะที่อังกฤษซึ่งเปิดให้ค้นคว้าข้อมูลได้หลังสงครามสงบลงแล้ว 30 ปี ไม่ปรากฏหลักฐานเลยว่าเป้าหมายในการถล่มปรมาณูคือประเทศไทย"
ศาสตราจารย์กนต์ธีร์กล่าวอีกว่าในช่วงก่อนที่สหรัฐอเมริกาตัดสินใจบอมบ์ญี่ปุ่นด้วยปรมาณูนั้น ฝ่ายสัมพันธมิตรกำลังบดขยี้ทหารญี่ปุ่นในไทย โดยถูกตีรุกไล่จนต้องถอยร่นขึ้นไปทางเหนือ นับตั้งแต่แหลมมลายูไป
ถึงพม่าและไทยและการที่หนังสือประวัติแม่ชีจันทร์อ้างว่าก่อนทิ้งระเบิดปรมาณูนั้นในเมืองไทยมี
ทหารญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมากก็ไม่จริง
ญี่ปุ่นกำลังถอยร่นไปทางเหนือจึงมีทหารญี่ปุ่นไม่มากนัก
การตรวจสอบแผนและยุทธวิธีการรบของอเมริกาเอง ก็ไม่มีส่วนใดปรากฏให้เห็นเลยว่ามีเป้าหมายในการ
ถล่มปรมาณูที่ไทย ที่สำคัญขณะนั้นเกิดมี"เสรีไทย"ขึ้นมาด้วย จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าระเบิดปรมาณูมีทิศทางการ
ถล่มที่ฮิโรชิมาแน่นอน
"ที่ผ่านมาผมต้องได้รับความอับอายจากเรื่องแม่ชีจันทร์เป็นอย่างมาก เพราะมีเพื่อนชาวต่างประเทศหัวเราะเยาะถึงความงมงาย ความล้าหลัง
ที่ไปติดยึดกับเรื่องอภินิหารและที่น่าตกใจอย่างยิ่งที่คนถือศีลนั่งสมาธิ
กลับเป็นคนโหดร้ายปัดระเบิดปรมาณูไปฆ่าคนญี่ปุ่น แทนที่จะปัดลงมหาสมุทรจะได้ไม่มีใครตายมาถึงวันนี้คงไม่ต้องตอบ
แล้วว่าผมยังไปวัดนี้อีกหรือเปล่า"
ผลจากการค้นคว้าเรื่องดังกล่าวทำให้ศาสตราจารย์กนต์ธีร์นำมาใช้เป็นเอกสารอ้างอิงและเขียนหนังสือ"วิเทโศบายของไทย" ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับนโยบายของไทยในช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี พ.ศ.2483 -2495 จนเป็นที่ยอมรับในการใช้อ้างอิงหลักฐานที่เกี่ยวกับสงครามโลก โดยเฉพาะสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งใช้เป็นแนวทางในการค้นคว้าด้วย เพื่อเป็นหลักฐานทางวิชาการ ซึ่งนอกจากเป็นผลงานทางวิชาการแล้ว ยังจะใช้เป็นหลักฐานไม่ถูก คนเอาเหตุการณ์ช่วงนั้นไปอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ เพื่อหวังผลอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับหนังสือ "เดินทางสู่ความสุข"นี้ พิมพ์ขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2512 เพื่อแจกจ่ายระดมทุนดูดทรัพย์ ดูดศรัทธาเพื่อสร้างวัดพระธรรมกายในยุคนั้น และได้พิมพ์ต่อ ๆ มา โดยเฉพาะเมื่อต้องการหาเงินจากความศรัทธาอาทิในปี 2535 ได้พิมพ์ขึ้นเพื่อระดมทุนสร้างวัดที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ และในขณะนี้ในการระดมทุนสร้างพระธรรมกายประจำตัว 1 ล้านองค์ ราคาองค์ละ 1 หมื่นบาทเป็นเงิน 1 หมื่นล้านบาท ก็ได้มีการยกเอานิทานเรื่องแม่ชีจันทร์ปัดระเบิดมาอวดอ้างอีก โดยในหนังสือ"อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ"ฉบับที่ 16 หน้า 23 ได้อ้างว่าแม่ชีจันทร์คือแม่ชีที่เหาะไปปัดระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนาเปิดเผยว่าได้ให้นายสำรวย สารัตถ์ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคมนำข้อมูลที่กรมการศาสนาวิเคราะห์เอกสารของวัดถวายพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เจ้า คณะภาค 1 แล้ว และจะประสานงานคณะกรรม การชุดที่กระทรวงศึกษาธิการตั้งเพื่อนำเสนออีกส่วนหนึ่ง และจากการเดินสายนมัสการพระผู้ใหญ่ตามวัดต่าง ๆ ท่านมีความเป็นห่วงเรื่องนี้
นายอำนาจ บัวศิริ นักวิชาการ 8 กรมการศาสนาและผู้ช่วยเลขานุการรวบรวมข้อมูลวัดพระธรรมกายกล่าวว่าคณะกรรมการจะประชุมสรุปประเด็นต่าง ๆ ในวันที่ 22 มกราคมนี้ และจะรวบรวมข้อมูลเรื่องที่ดินและสินทรัพย์ รวมถึงข้อมูลจากกองปราบฯด้วย และจากการเก็บข้อมูลของวัดเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมาพระธัมมชโยให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องคำสอน ผลงานและกิจกรรมของวัด และวัดจะทำหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศให้ยืนยันว่าเจ้าอาวาสไม่ได้กรีนการ์ด
ส่วนเรื่องที่ดินกรมที่ดินกำลังตรวจว่าตรงไหนเป็นชื่อวัด ตรงไหนเป็นมูลนิธิ และตรงไหนเป็นชื่อเจ้าอาวาส ซึ่งวัดชี้แจงว่ากรณีเป็นชื่อเจ้าอาวาสเมื่อพัฒนาตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมแล้วจะโอนเป็นชื่อมูลนิธิ ส่วนเรื่องเงินในบัญชีทราบว่าพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ดำเนินเรื่องขอดูบัญชีวัดจากธนาคารต่าง ๆ แล้ว.