เดลินิวส์

13/7/2543

ตร.เตรียมแจ้งข้อหา'ธัมมชโย'เพิ่มเติม

ความคืบหน้าคดีวัดพระธรรมกาย ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 ก.ค. พล.ต.ท.ล้วน ปานรศทิพ ผบช.ก. ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกายชุดใหญ่ เพื่อติดตามผลความคืบหน้าในการทำงานของพนักงานสอบสวนทั้ง 5 ชุด รวมทั้งสอบถามความคืบหน้าในการติดตามสลิปบัญชีเงินฝากของ นางสงบ ปัญญาตรง ผู้ต้องหาในคดี ที่พนักงานสอบสวนได้เดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อขอเอกสารจากธนาคารต่าง ๆ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 3 ชั่วโมง

พล.ต.ท.ล้วน เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบสวนในประเด็นต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ให้เสร็จโดยเร็ว กรณีใดสามารถสรุปได้ โดยเฉพาะสายเงินที่ทางวัดโอนให้กับสีกา หรือคนใกล้ชิดเป็นจำนวนไม่มากให้รีบติดตามเอกสารจากธนาคารต่าง ๆ ให้ได้โดยเร็ว สำหรับสำนวนการสอบสวนของพระธัมมชโย กับ นางสงบ ปัญญาตรง สีกาคนใกล้ชิดนั้น ในวันที่ 13 ก.ค. จะได้เรียกผู้ต้องหาในคดีทั้งหมดมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม หลังจากที่พนักงานสอบสวนชุดหนึ่ง ได้เดินทางไปรวบรวมเอกสารจากธนาคารที่ จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินจากวัดพระธรรมกายเข้าบัญชี นางสงบ ซึ่งจากเดิมที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ายักยอกเงินวัดเป็นจำนวน 137 ล้านบาท พบว่าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนถึง 520 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบกระแสเงินอีกประมาณ 200 ล้านบาท ที่ นางสงบ ได้รับการโอนเข้าบัญชีของวัดพระธรรมกาย แต่ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ของธนาคารที่พบกระแสเงินนั้น

พล.ต.ท.ล้วน กล่าวต่อว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับพระธัมมชโยกับบุคคล ใกล้ชิดครบในทุกกระแสเงินที่ตรวจสอบพบแล้วนั้น คงใช้เวลาประมาณ 2 เดือนสรุปสำนวนในประเด็นนี้ได้ สำหรับสีกาใกล้ชิดรายอื่นที่พบว่ามีเงินโอน จากวัดพระธรรมกายเข้าบัญชีนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร ส่วนกรณีที่พบว่ามีการยักยอก เงินซื้อที่ดินใน จ.ปทุมธานี และโอนเข้าเป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิธรรมกาย ก็ยังมีประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติมให้สำนวนรัดกุมยิ่งขึ้น

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่พนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พบว่ามีการโอนเงินจากวัดพระธรรมกายเข้าบัญชี นางสงบ จริง โดยมีสายเงินถึง 9 สาย ซึ่งเงินที่โอนเข้าบัญชีของ นางสงบ นั้น ตรวจสอบต่อไปพบว่ามีการนำไปซื้อที่ดินใน จ.อุบลราชธานี บางส่วนโอนเข้าบริษัทของ นางสงบ เอง และยังพบว่ามีอีกส่วนหนึ่งนำไปชำระค่า สมาชิกสนามกอล์ฟให้บุคคลใกล้ชิด กับพระธัมมชโยผู้หนึ่ง จึงเป็นหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอที่จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในวันที่ 13 ก.ค.ได้ ขณะเดียวกันจะได้ออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ นางสงบ มาให้ปากคำในวันเดียวกันด้วย ส่วนกระแสเงินที่เหลือของ นางสงบ กว่า 200 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการค้นหาสลิปจากธนาคารบางแห่งในกรุงเทพฯเท่านั้น ล่าสุดรวบรวมได้ 99 เปอร์เซนต์แล้ว ซึ่งถ้ารวมทั้งหมดจะพบว่ากระแสเงินของ นางสงบ ที่ได้รับโอนจากวัดพระธรรมกายเป็นจำนวนทั้งสิ้นถึง 901 ล้านบาท