เดลินิวส์ 26/2/2543
แต่งตั้งเป็นทางการ รก.เจ้าคณะภาค 1
เจ้าคณะใหญ่หนกลางตั้ง"พระเทพสุธี"รักษาการเจ้าคณะภาค 1 อย่างเป็นทางการแล้ว จากนี้ไปมีอำนาจ สูงสุดกรณีสอบนิคหกรรม"ไชยบูลย์-พระเผด็จ" แต่หากไม่ยึดพระธรรมวินัยมีสิทธิถูกปลดทันที ด้านเลขาฯมจร.ยังหวั่นใจ ชี้ถ้าสั่งยกฟ้องหน้าไหนก็อุทธรณ์ไม่ได้แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. เวลา 18.20 น. สมเด็จพระมหาธีราจารณ์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้เรียกพระเทพสุธี เจ้าอาวาสวัดสามพระยา รองเจ้าคณะภาค 1 เข้าพบเพื่อหารือ เกี่ยวกับนโยบายในการขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าคณะภาค 1 แทนพระพรหมโมลี โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นเจ้าคณะใหญ่หนกลางได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งพระเทพสุธี รองเจ้าคณะภาค 1 ให้รักษาการเจ้าคณะภาค 1 ตามกฏมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งการเซ็นหนังสือคำสั่งแต่งตั้งได้ลงนามพร้อมกัน 2 ฉบับ มอบให้กับพระเทพสุธี 1 ฉบับ และให้เจ้าหน้าที่วัดชนะสงครามนำไปส่งให้กรมการศาสนา 1 ฉบับ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การแต่งตั้ง พระเทพสุธีดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าคณะภาค 1 จะมีผลทันที ซึ่งเท่ากับว่า ขณะนี้ท่านมีสิทธิ์ มีอำนาจทำหน้าที่เหมือนเจ้าคณะภาค 1 ทุกประการ ทั้งนี้ การที่เจ้าคณะใหญ่หนกลางเรียกตัว มาพบนั้นได้มีการพูดคุยกันเรื่องการดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และพระเผด็จ ทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่จะดำเนินต่อไป และเรื่องการแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดซึ่งอยู่ในเขตการปกครองภาค 1 มาร่วมเป็นคณะผู้พิจารณาชั้นต้น
"การแต่งตั้งพระเทพสุธีมาจัดการปัญหา ธรรมกายครั้งนี้ ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเจ้าคณะใหญ่หนกลางรอดูผลงานของท่านก่อน หากทำงานไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัยก็สามารถเปลี่ยนตัวได้ทันที"
พ.อ.(พิเศษ)ทองขาว พ่วงรอดพันธุ์ เลขาธิการ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าพระเทพสุธีขัดขืนแนวความคิดของมหาเถรฯและเจ้าคณะใหญ่หนกลาง แสดงให้เห็นว่าท่านอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าคณะใหญ่หนกลางได้เสนอปลดคณะผู้พิจารณาทั้ง 3 รูป แต่ด้วยความเมตตาของมหาเถรฯจึงให้ชะลอไว้ก่อน
ทั้งนี้ กระบวนการนิคหกรรมที่พระเทพสุธีเข้าไปดำเนินการ ถ้าท่านวินิจฉัยว่าคำกล่าวหาของนายสมพร เทพสิทธา และนายมานพ พลไพรินทร์ มีเหตุผลไม่สมควรแล้วไม่รับฟ้อง คดีก็ถือว่าจบสิ้น ใครจะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้อีก เท่ากับว่าเป็นการสนับสนุนองค์กรที่เข้ามาทำลายพุทธศาสนาโดยตรง นี่คือสิ่งที่ชาวพุทธเป็นห่วง ท่านก็บอกว่าขอให้ตั้งท่านก่อนแล้วท่านจะทำหรือไม่ทำก็คอยดู เมื่อตั้งแล้วเราก็ต้องคอยดู หวังว่าเจ้าคณะใหญ่หนกลางคงจะได้พิจารณา เพราะที่ผ่านมาท่านก็ยืนอยู่ข้างความถูกต้องมาโดยตลอด เข้าใจว่าท่านคงจะฟังเสียงประชาชนชาวพุทธว่าความไว้วางใจต่อผู้จะเข้ามาเป็นคณะผู้พิจารณานั้น รู้สึกอย่างไร
"ความจริงโดยส่วนตัวผมกับท่านพระเทพสุธีก็รักใคร่ชอบพอกัน ไม่มีเรื่องอะไรขัดใจกัน ผมเคารพท่าน เมื่อเจอก็ทักทายกัน เมื่อก่อนทางวัดสามพระยามีงานมีการอะไรก็จะขอทหาร โดยผ่านทางผม ผมก็ขอผู้บังคับบัญชา พาทหารไปทำความสะอาดวัดอะไรต่ออะไร ท่านบอกว่าเมื่อได้ตำแหน่งแล้วจะปฏิบัติตามผู้บังคับบัญชา ทำไมไม่มองว่าถ้าได้ตำแหน่งแล้วจะปฏิบัติตามพระธรรมวินัย"
ด้านนายกมล ศรีนอก เหรัญญิกสมาคมศิษย์เก่า มจร. กล่าวว่า เจ้าคณะหนใหญ่หนกลางมีเมตตาให้โอกาสแก้ตัวใหม่ หรืออาจจะเป็นการลองใจพระเทพสุธีดูว่าท่านจะปฏิบัติตามคำสั่งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีพุทธศาสนิกชนที่สนใจและ ติดตามกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ยอมรับว่าพวกเขาเหล่านั้นมีความไม่มั่นใจ รู้สึกหวั่นไหวในตัวพระเทพสุธีค่อนข้างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาพระเทพสุธีมีความเห็นและแสดงเจตนา ค่อนข้างชัดว่าเข้าข้างวัดพระธรรมกาย ดังนั้นหากท่านมาทำหน้าที่ประธานคณะผู้พิจารณาชั้นต้นแล้ว กระบวนการนิคหกรรมอาจจะเกิดความไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการแต่งตั้งแล้วก็ต้องเคารพกฎ ซึ่งตัวท่านเองก็ได้ประกาศว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ เราก็จะติดตามดูการทำงานของท่านอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่จริงๆแล้วอยากให้เจ้าคณะใหญ่หนกลางแต่งตั้งเจ้าคณะภาค 1 รูปใหม่โดยเร็ว ในช่วงเวลาที่เรื่องยังไม่ถึงประธานคณะผู้พิจารณาชั้นต้น ซึ่งเจ้าคณะใหญ่สามารถพิจารณาสรรหาพระเถระที่มีคุณสมบัติเหมาะสมได้ และคาดว่าท่านคงมีรายชื่อพระเถระรูปนั้นอยู่ในใจแล้ว