เดลินิวส์ 2/2/2543
จี้กรมการศาสนา เร่งฟัน'ไชยบูลย์'
"สมศักดิ์"จี้กรมการศาสนาเร่งส่งมติมหาเถรฯ ให้ดำเนินนิคหกรรม"ไชยบูลย์-ทัตตชีโว" แก่คณะ ผู้พิจารณาชั้นต้นด่วน "วิชัย"ระบุงานนี้วัดใจคณะผู้พิจารณาชั้นต้นกล้าฝืนมติมหาเถรฯหรือเปล่า ศิษย์ธรรมกายห้าวส่งอินเตอร์เน็ตโจมตีพระธรรมปิฎก อ้างอาพาธเพราะเป็นศัตรู"ไชยบูลย์" พนักงานสอบสวนเตรียมเพิ่มคดีเจ้าลัทธิธรรมกาย หลักฐานแน่นใช้สีกากว้านซื้อที่ดินต่างจังหวัด แถมรับบริจาคบ้านพร้อมที่ดินให้วัด แต่กลับใส่ชื่อสีกาแทน พระเลขาฯพระธรรมปิฎกโต้ข่าวอาพาธ ยืนยันเลือดเลี้ยงสมองไม่ทัน กล่องเสียงอักเสบเท่านั้น
ที่กระทรวงศึกษาฯ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า หลังจากที่มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติรับรองมติมหาเถรฯเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ให้คณะผู้พิจารณา ชั้นต้นดำเนินการ กับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามกฎนิคหกรรมแล้ว จึงได้สั่งการให้นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา รีบนำมติมหาเถรฯ ส่งให้เจ้า คณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะภาค 1 และเจ้าคณะใหญ่หนกลางโดยเร่งด่วน เพื่อดำเนินการตามมติ เรียกทั้ง 2 มารับทราบข้อกล่าวหาทันที
นอกจากนี้ ได้แนบคำกล่าวหาและมติมหาเถรฯว่าการดำเนินการที่ผ่านมาหยุกชะงักเพราะอะไร เพื่อให้ทั้ง 2 รับทราบด้วย และหากว่าทั้ง 2 ไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา คณะผู้พิจารณาชั้นต้น จะต้องดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมทันที หากเจ้าคณะภาค 1 ยังไม่ดำเนินการก็ถือว่าขัดมติมหาเถรฯ
ด้านนายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายไพบูลย์แล้ว คณะผู้พิจารณาชั้นต้นคงต้อง ดำเนินการตามกฎนิคหกรรมต่อไป หากนายไชยบูลย์และพระเผด็จยังดื้อดึงก็ต้องหาทางแก้ไขปัญหาด้วยวิธีอื่น ประเด็นขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าทั้ง 2 จะมารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่อยู่ที่คณะผู้พิจารณาชั้นต้นจะดำเนินการตามมติมหาเถรฯหรือไม่
ขณะที่อธิบดีกรมการศาสนากล่าวว่า ต้องรอดูว่าคณะผู้พิจารณาชั้นต้นจะดำเนินการกับนายไชยบูลย์และพระเผด็จหรือไม่ แต่เชื่อว่าคณะผู้พิจารณาชั้นต้นเคารพและจะดำเนินการตามมติมหาเถรฯ เพราะมติชัดเจนแล้ว จะต้องดำเนินการตามนั้นบิดพลิ้วอีกไม่ได้ วันเดียวกันมีรายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวน กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนายไชยบูลย์และแกนนำวัดพระธรรมกายอีกหลายคน รวมถึงสีกาคนหนึ่งซึ่งใกล้ชิดนายไชยบูลย์ด้วย ล่าสุดได้หลักฐานเพิ่มเติมที่จะสามารถดำเนินคดีได้อีก 1 คดี โดยปรากฎผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งได้บริจาคที่ดินพร้อมบ้านให้แก่วัดพระธรรมกาย แต่ปรากฎว่าไม่ได้มีการโอนเป็นชื่อของวัด กลับโอนเป็นชื่อของสีกาผู้ใกล้ชิดนายไชยบูลย์แทน ซึ่งเรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้มีการประชุมหารือสรุปแล้วว่าสามารถที่จะเป็นคดีได้
นอกจากนี้พนักงาน สอบสวนได้ตรวจสอบการถือครองที่ดินของสีกาผู้ใกล้ชิดนายไชยบูลย์คนดังกล่าวในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และราชบุรี เบื้องต้นพบว่ามีการโอนเงินจากวัดไหลเวียนเข้าบัญชีของสีกาคนดังกล่าวนี้ประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยที่ดินจังหวัดเขียงใหม่นั้นสีกาคนดังกล่าวได้ซื้อที่ดินและมีการชำระเงินสด ส่วนที่เชียงราย ก็ได้พบที่ดินมีการถือครองประมาณ 100 ไร่เศษ ขณะที่จังหวัดลำพูนมีที่ดิน 3 แปลงโดยซื้อเป็นเงินสด
ขณะเดียวกันมีรายงานอีกด้านหนึ่งแจ้งว่า หลังจากที่มีข่าวพระธรรมปิฎก เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน อาพาธเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทันนั้น ปรากฎว่าศิษย์วัดพระธรรมกายได้ส่งข้อความโจมตี ในอินเตอร์เน็ตระบุว่าเป็นผลกรรมที่ก่อ ในเวบไซด์ http://pantip.inet.co.th เนื้อหาสาระที่โจมตีระบุว่า "วิบากกรรมทำให้พระธรรมปิฎกกำลังป่วยหนักไม่ได้สติ มีก้อนพยาธิในสมอง หลังจากใช้ความคิดอย่างหนักในการปลอมปนพระไตรปิฎกฉบับซีดีรอม และโรคร้ายคุกคามหนักหลัง จากเสร็จงานเขียนหนังสือกรณีธรรมกาย ตอนนี้ท่านมีก้อนพยาธิ (เนื้อร้าย) ในลำคออีก เพราะวจีกรรมเป็นอาจินต์ที่ให้ร้ายวัดพระธรรมกาย"
อย่างไรก็ตาม ได้มีพุทธศาสนิกชนแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความ โดยประณามเจ้าของข้อความดังกล่าว อย่าง รุนแรง ทั้งยังระบุว่าอาการอาพาธของพระธรรมปิฎกนั้นเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์ทุกคนซึ่งต้องวนเวียนอยู่กับการเกิด แก่ เจ็บ ตาย จะต้องพบกับอาการป่วยมากบ้างน้อยบ้าง ซึ่งรวมไปถึงนายไชยบูลย์ด้วย ทั้งยืนยันว่าพระธรรม ปิฎกได้สร้างประโยชน์ต่อพุทธศาสนามาตลอด เป็นที่นับถือของทั้งคนไทยและต่างประเทศ
พระครูปลัดปิฎกวัฒน์ พระเลขานุการพระธรรมปิฎก เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า พระธรรมปิฎกอาพาธเป็นไข้หวัดใหญ่ มีอาการไอมาก และกล่องเสียงอักเสบเนื่องมาจากอากาศที่เปลี่ยน แต่อาการไข้ก็ได้หายเป็นปกติแล้ว เหลือแต่อาการเจ็บคอใช้เสียงไม่ได้ ดังนั้นจึงงดออกมาพบญาติโยม แต่ยังคงเขียนหนังสือได้ตามปกติทุกวัน
"อาการอาพาธของพระธรมปิฎกมีสาเหตุมาจากเชื้อโรคที่เรียกว่าไมโครพลาสมา ซึ่งไม่น่าห่วงเพราะมียารักษา ได้โดยตรงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนอาการอาพาธทั่วไปก็เป็นโรคประจำตัวที่มีอยู่เดิมกว่า 10 ปีแล้ว โดยทางวัดได้ติดประกาศเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของพระธรรมปิฎกไว้ที่บอร์ดตั้งแต่เดือนส.ค. 2542 ระบุว่าพระธรรมปิฎกขออภัยที่ไม่สามารถออกมาพบกับญาติโยมได้ตามปกติเนื่องจากปัญหาสุขภาพ เลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ มีอาการชีพจรและความดันโลหิตแปรปรวน อีกทั้งมีโรคเก่าคือปอดและหลอดลม ทำงานได้น้อย เวลาพูดต้องใช้กำลังมาก จึงต้องจำกัดกิจกรรมที่มีการพูดให้น้อยที่สุด
นายอำนวย สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลป และวัฒนธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบว่าทำไมยังมีคนใจร้ายคอยให้ร้ายพระที่ปฏิบัติดีอย่างพระธรรมปิฏกอีก จากปัญหานี้จะนำเข้าหารือในคณะกมธ.ครั้งต่อไป และในอนาคตจะผลักดันให้สภาจัดเจ้าหน้าที่มาทำงานเพื่อตรวจสอบข้อความภายในเว็บไซต์ต่างๆ และอยากให้พระผู้ใหญ่ตั้งสติให้มั่นในการแก้ปัญหา แยกแยะให้ออกระหว่างพระจริงกับพระไม่จริง