เดลินิวส์ 27/1/2543
คณะส.ส. บุกพิสูจน์ ธรรมกาย
คณะกรรมาธิการการศาสนาสภา ผู้แทนฯ บุกพิสูจน์ธรรมกายวันนี้ วัดเจ้าปัญหารับมือเต็มที่สร้างภาพส่ง "ทัตตชีโว" รับหน้าชี้แจง ส่วนการแจ้งความเจ้าคณะภาค 1 ส่อแววล้ม ตัวแทนศิษย์เก่า มจร.ผวาอิทธิพลมืด หวั่นเจออุ้ม-ปาระเบิดบ้าน ต้องหาองค์กรพุทธมาออกหน้าลุย
ที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 ม.ค. นายวิชัย ตันศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค1 ไม่ยอมดำเนินการตามกฏนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามมติมหาเถรสมาคม (มส.) ว่า ต้องปรึกษาเจ้า คณะใหญ่หนกลางและพระเถระผู้ใหญ่ เพราะต้องการเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันปกครอง สูงสุดของพระสงฆ์ และการปฏิบัติเป็นผลสัมฤทธิ์มีประสิทธิภาพ จะหยุดชะงักไม่ได้
ส่วนเรื่องการพิจารณาลงโทษเจ้าคณะภาค 1 นั้น มีวิธีการหลายอย่าง เรื่องดังกล่าวไม่มีกำหนดไว้ในกฏระเบียบต้องอาศัยมติมหาเถรฯเป็นหลัก ที่สำคัญการดำเนินการกรณีธรรมกายต้องสอดคล้องกับพระธรรมวินัย และบรรลุเป้าหมายตามที่สมเด็จ พระสังฆราชทรงมีพระลิขิตออกมาในทุกฉบับ รวมทั้งฉบับที่ระบุให้สึกออกจากความเป็นพระ ทั้งนี้ หากทางมหาเถรฯ ไม่ขัดข้องกรมการศาสนาจะเสนอให้มีการพิจารณาบทลงโทษกรณีพระพระหมโมลีฝืนมติมหาเถรฯด้วย
ด้านนายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เปิดเผยว่า คณะกมธ.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา และสวช.จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมวัดพระธรรมกาย ในวันที่ 27 ม.ค. เพื่อสอบถามหลายประเด็นที่สงสัยแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ส่วนประเด็นที่จะซักถามนั้นได้ให้นักวิชาการประจำ คณะกมธ.ไปเรียบเรียงเพื่อนำมาประชุมสรุปก่อนเดินทาง
รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ชุลีพร ช่วงรังษี หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์สำนักงานมูลนิธิธรรมกาย ได้โทร ศัพท์ติดต่อประสานกับคณะกมธ. เรื่องการเดินทางตรวจเยี่ยมวัดพระธรรมกายว่า ทางวัดยินดีให้เข้าเยี่ยมชมวัด โดยกำหนดเวลาให้มาที่หน้าโบสถ์ของวัดในเวลา 10.00 น. ทั้งนี้จะมีพระเผด็จ ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสวัดให้การต้อนรับ รวมถึงการชี้แจงในประเด็นข้อข้องใจต่างๆ
นายกมล ศรีนอก เหรัญญิกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวถึงกรณีจะมีการแจ้งความพระพรหมโมลีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบว่า ขณะนี้ทางตัวแทนจะเลื่อนการไปแจ้งความ เพราะกลัวจะได้รับอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อาจถูกคุกคามด้วยวิธีการต่างๆนาๆ เช่น ปาระเบิดบ้าน ลักพาตัวไป แต่ส่วนตัวแล้วไม่กลัวเพราะต้องการรักษาความถูกต้องและปกป้องศาสนาให้พ้นภัย ซึ่งขณะนี้ได้มีการหารือกับผู้ใหญ่ที่มีความรู้ทางกฏหมายว่าต้องดำเนินการต่อไป โดยจะหาองค์กรมาดำเนินการทำให้มีน้ำหนักขึ้น
วันเดียวกันที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์คดีที่นายอำพล เหมาคม อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไชยบูลย์และพวกเป็นจำเลยในความผิดฐานเป็น เจ้าพนักงานและสนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และยักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกายจำนวน 36.7 ล้านบาทไปกว้านซื้อที่ดินแถบ จ.พิจิตรและเพชรบูรณ์ โดยใส่ชื่อนายไชยบูลย์เป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นครั้งที่ 3
นายสนธยา โพธิแดง ทนายจำเลย ได้ซักค้านนายเชลียง เทียมสนิท หัวหน้าฝ่ายนิติกร กรมการศาสนาโดยสรุปว่า ตามพ.ร.บ.สงฆ์นั้นพระภิกษุจะถือครองที่ดินรวมทั้งเงินของพระจะต้องตกเป็นสมบัติของวัด การจัดงานในวัดทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ยังมีกรณีพระถูกดูหมิ่นหรือถูกโต้แย้งสิทธิ์ก็สามารถดำเนินการทางศาลได้ อย่างไรก็ตามการเบิกความยังไม่แล้วเสร็จ ศาลสั่งเลื่อนให้ซักค้านพยานครั้งต่อไปในวันที่ 2 ก.พ. เวลา 9.00 น.