เดลินิวส์ 18/1/2543
เสนอให้ปลดยกยวงคณะผู้สอบ'ไชยบูลย์'
เลขาฯสมาคมศิษย์เก่า มจร.ชี้ไม่เปลี่ยนคณะผู้พิจารณาชั้นต้น สอบนิคหกรรม"ไชยบูลย์"ไม่มีวันคืบแน่ จี้เจ้าคณะใหญ่หนกลางปลดยกยวงรักษาภาพลักษณ์คณะสงฆ์ ด้าน "เสฐียรพงษ์" ย้ำธรรมกายใช้ปัจจัย มหาศาลซื้อพระผู้ใหญ่บางรูปสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ระบุสอนคนให้ทำบุญหมดตัว ถ้าไม่มีผ้าเหลืองคุ้ม ถูกเหยียบตายไปแล้ว "สังฆราช" ทรงประธานพระวรธรรมคติเจ้าคณะจังหวัดทั่วประเทศ อย่าปฏิเสธคำสอนพระพุทธเจ้ามิฉะนั้นจะต้องเสียใจแสนสาหัส
นายวิชัย ตันศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีปัญหาวัดพระธรรมกายว่า ต้องรอดูผล การประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) วันที่ 19 ม.ค. นี้ว่าจะมีมติอย่างไร ซึ่งสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง จะเสนอความเห็นของท่านในรายงาน โดยกรมการศาสนาเตรียมสนองงานตามความเห็นท่านอยู่ อย่างไรก็ตาม คาดว่ามหาเถรฯคงมีการพิจารณากรณีพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ยืนยันว่ากระบวนการนิคหกรรมยุติแล้ว ถือว่าขัดมติมหาเถรฯต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ผู้บังคับบัญชาเองก็คงอยู่ในสภาพอึดอัดใจ จำเป็นต้องหาทางออกที่ดี เพราะเรื่องนี้มาติดขัดตรงจุดนี้หลายครั้งแล้ว
"สำหรับการเสนอปลด เจ้าคณะภาค 1 นั้น ไม่สามารถ แสดงความเห็นได้ ขอให้เป็นเรื่องของกรรมการมหาเถรฯจะพิจารณากัน แต่เชื่อว่าการประชุมครั้งนี้จะมีแนวทางอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาแน่นอน"
พ.อ. (พิเศษ) ทองขาว พ่วงรอดพันธุ์ เลขาธิการสมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวถึงการดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคณะผู้พิจารณาชั้นต้น ทั้งเจ้าคณะภาค 1 และพระเทพสุธี รองเจ้าคณะภาค 1 ก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะถึงอย่างไรก็ต้องหาหนทางช่วยเหลือเกื้อกูลกันจนได้ สมควรจะปลดออกจากตำแหน่งมาตั้งนานแล้ว
สำหรับผู้ที่เหมาะสมจะมาทำหน้าที่แทน โดยส่วนตัวเห็นว่าพระธรรมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชัยญาติการาม มีความรู้และปฏิปทาเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 ส่วนรองเจ้าคณะภาค 1 นั้นเห็นว่าพระศรีปริยัติโมลี รองอธิการบดี มจร. มีความเหมาะสม เพราะนอกจากจะมีความรู้ความสามารถ จริยาวัตรมีความซื่อตรงในพระธรรมวินัยเชื่อถือได้แล้ว ยังมีความเข้าใจในปัญหาของวัดพระธรรมกายด้วย
"เชื่อว่าเจ้าคณะใหญ่หนกลางจะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงคณะผู้พิจารณาทั้งชุด ผมยังเชื่อมั่นว่าเมื่อเป็นมติ ของมหาเถรฯ พระผู้ใหญ่คงไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของท่านเองเสียหาย และมาถึงจุดนี้แล้วคณะสงฆ์ต้องฟังเสียงของประชาชน เป็นจุดที่ต้องเลือกระหว่างพระธัมมชโยกับพระธรรมวินัย"
พ.อ. (พิเศษ) ทองขาวยังกล่าวถึงกรณีที่นายไชยบูลย์ได้เร่งเร้าให้สาธุชนร่วมกันบริจาคเงินเพื่อเป็นประธานรอง ในการฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ว่า การยั่วยุให้คนทำบุญนั้นเป็นการผิดพระธรรมวินัย พระที่อยู่ในพระธรรมวินัยจะไม่เร่งเร้ายั่วยุให้คนบริจาคเงินในลักษณะนี้
ทางด้านนายเสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ให้สัมภาษณ์ลงในนิตยสารเสขิยธรรม ฉบับประจำเดือน ม.ค.-มี.ค. 2543 ว่า การที่นายไชยบูลย์ อ้างว่ารัฐธรรมนูญให้เสรีภาพในการเลือกนับถือศาสนา และปฏิตามลัทธิประเพณีทางศาสนาที่ตนเชื่อถือนั้น เป็นการเข้าใจผิด เพราะที่ผ่านมาเขาเลือกแล้วที่จะเป็นพระในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติตามหลักคำสอนและพิธีกรรมของเถรวาท
"จริง ๆ เขาไม่ใช่พุทธเพราะไม่แสดงคำสอนของพุทธศาสนา กลับไปหยิบยกเอาคำสอนบางจุดมาสร้างความร่ำรวย ความยิ่งใหญ่ให้ตัวเอง ไม่มีคำสอนใดในสังคมไทยหรือพุทธศาสนาที่สอนว่า มึงมีเท่าไหร่มึงทุ่มให้หมดหรือหาก ทำบุญ มากเท่าไหร่ก็จะได้รับผลตอบแทนมากเท่านั้น ซึ่งการที่เขาสามารถสอนอย่างนี้ได้ก็เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของผ้าเหลือง หากเป็นคนธรรมดาทำอย่างนี้ก็มีสิทธิ์โดนถีบ โดนกระทืบตายไปแล้ว"
นายเสฐียรพงษ์ยังกล่าวอีกว่า การที่การดำเนินการของคณะสงฆ์ต่อนายไชยบูลย์ล่าช้าก็เพราะมีการเอื้ออาทรอุปการะซึ่งกันและกัน ใครก็ตาม ที่รู้ตัวว่าทำอะไรไม่ถูกต้องเขาต้องสร้างภูมิคุ้มกันและรู้ว่าต้องวิ่งหาใคร ต้องสร้างความสัมพันธ์กับพระชั้นผู้ใหญ่ เรื่องของการอุปถัมภ์ทางปัจจัยของเขาก็ต้องมีมากเป็นธรรมดา เรื่องนี้พระผู้ใหญ่อาจจะไม่เท่าทันหรือแกล้งไม่รู้ เพราะ การแกล้งไม่รู้ทำให้ท่านรวยขึ้น ได้ปัจจัยต่างๆที่ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น มีรถยี่ห้อดีๆนั่ง เวลาคิดสร้างอะไรก็ทำได้รวดเร็ว เหมืนวัดแห่งหนึ่งที่มีความหรูหรามหาศาลมาก
รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจสันติบาลแจ้งว่า จากการตรวจสอบเนื้อหาในหนังสือไวรัส มหันตภัยร้ายพระพุทธศาสนา ฉบับคัดย่อ ที่เขียนโดยดร.เบญจ์ บาระกุล หรือนายบัณฑูรย์ บาระกุล ผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาทมูลนิธิพุทธธรรมพบว่า เนื้อหาเหมือนกับหนังสือเปิดโปงขบวนการล้มพุทธ ที่ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการโจมตีพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตตโต) เคยวินิจฉัยไปแล้วว่าเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาบ่อนทำลายความมั่นคง เพียงแต่เปลี่ยนชื่อหนังสือใหม่เท่านั้น ดังนั้นเจ้าพนักงานการพิมพ์จึงมีความเห็นว่า หากตรวจพบหนังสือดังกล่าววางจำหน่ายหรือเผยแพร่ อยู่ที่ใดสามารถตรวจยึดได้ทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่งประกาศ ลงในราชกิจจานุเบกษา เพราะผู้ดำเนินการจะเปลี่ยนแปลงชื่อหนังสื่อเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบไปเรื่อย ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 16-18 ม.ค. 2543 มีการประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะจังหวัด สายธรรมยุต ทั่วประเทศ ณ ศาลาวรลักษณาวดี วัดพระยายัง เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ในการเปิดประชุม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวรธรรมคติมีใจความโดยสรุปตอนหนึ่งว่า หน้าที่ของพระสงฆ์คืออบรมจิตใจของผู้นับถือพระพุทธศาสนาให้เป็นคนดีมีศีลธรรม มีเมตตากรุณา เว้นจากการทำบาปทำความผิดร้ายทั้งหลาย ปัจจุบันเกิดหายนะทางจิตใจในผู้คนจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พระสงฆ์จึงต้องเอาจริงเอาจังในการอบรมจิตใจผู้คนให้รู้บาปบุญคุณโทษ แต่ข้อสำคัญต้องสอนตัวเองก่อน และต้องสอนให้มากกว่าสอนผู้อื่น ให้เห็นโทษของกิเลสให้มาก ให้ชัด
เราผู้เป็นพุทธศาสนิกชน นับถือพระพุทธศาสนา มีสมเด็จพระบรมศาสดาเป็นสมเด็จพระบรมครู เราผู้ถึงพระพุทธองค์เป็นสรณะเป็นผู้มีบุญที่สุด อย่าปฏิเสธบุญยิ่งใหญ่นี้ด้วยการไม่ปฏิบัติตามที่ทรงสอน มิฉะนั้นจะต้องเสียใจอย่างแสนสาหัส เมื่อยอมให้กิเลสฉุดกระชากลากไป เป็นพระต้องเป็นพระให้สมชื่อ ที่แปลว่าผู้มีความดีวิเศษ สำรวจตรวจตนเองให้สม่ำเสมอว่าควรแก่ที่ได้ชื่อว่าพระหรือไม่ มีความเมตตาเพียงพอหรือไม่ต่อญาติโยม โดยเฉพาะเยาวชนของชาติที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ มีโอกาสก็อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไป สอนเขาอบรมเขาให้รู้ดีรู้ชั่ว รู้ถูกรู้ผิด รู้จักเทิดทูนรักษาสถาบันชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์.