เดลินิวส์ 17/12/2542
ฟ้องไชยบูลย์-สาวกอม 29.8 ล้าน
อัยการสั่งฟ้อง"ไชยบูลย์"กับสาวกเป็นครั้งที่ 2 ตั้งข้อหาฉ้อโกงยักยอกเงินวัด 29.8 ล้านไปกว้านซื้อที่ดินพิจิตร ถูกพาไปรอห้องฝากขังทำเอาถึงกับหน้าถอดสี นึกว่าโดนจับถอดผ้าเหลืองสุดท้ายศาลให้ประกันวงเงินคนละ 8 ล้าน ศึกษาธิการผวาการดำเนินการตามกฎนิคหกรรมจะแท้งในขั้นพระพรหมโมลี "สมศักดิ์" บุกพบเจ้าคณะภาค 1 ถามความคืบหน้า วัดฉาวรอมติมหาเถรฯ เสนอเจ้าอาวาสคนใหม่ 18 ธ.ค.
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ห้องประชุม 110 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด เวลา 13.30 น. นายพันธ์ สุริยพร รองอัยการสูงสุด ประธานคณะทำงานอัยการและคณะแถลงข่าวการพิจารณาสั่งฟ้องคดีธรรมกายเป็นคดีที่ 2 โดยมีนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายตกเป็นจำเลยที่ 1 นายถาวร พรหมถาวร สาวกเป็นจำเลยที่ 2 ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และสนับสนุนให้มีการยักยอกทรัพย์ของวัดพระธรรมกายไปกว้าน ซื้อที่ดินจำนวน 902 ไร่เศษ ที่ต.หนองพระ อ.วัง ทรายพูน จ.พิจิตร และต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ แล้วใส่ชื่อนายไชยบูลย์เป็นเจ้าของ วงเงินร่วมกันยักยอก 29,877,000 บาท
คำฟ้องระบุพฤติกรรมการกระทำผิด ระหว่างวันที่ 9 ธ.ค. 34-24 มิ.ย. 36 จำเลยทั้งสองยักยอกเงินฝากธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยมีโอนไปซื้อที่ดิน ถือเป็นการเบียดบังยักยอกเงินวัด เพื่อประโยชน์ตนเองและผู้อื่นโดยทุจริต จึงขอให้ศาล พิพากษาจำเลยทั้ง 2 โดยขอให้นับโทษต่อจากคดีที่อัยการได้ยื่นฟ้อง ไปในความผิดเดียวกันเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ไปแล้ว และให้ร่วมกันคืนเงินทั้งหมดให้แก่ วัดด้วย
หลังจากการแถลงครั้งนี้คณะทำงานแจ้งให้นายไชยบูลย์ และนายถาวรที่มาฟังคำสั่งฟ้องพร้อมทั้งนำตัวไปส่งศาล เป็นจำเลยต่อศาลอาญา โดยนำตัวผู้ต้องหาไปห้องฝากขังรวมกับผู้ต้องหารายอื่นเพื่อฟังคำสั่งผู้พิพากษา ทำให้ศิษย์วัดตกใจเพราะเข้าใจว่านายไชยบูลย์ต้องเข้าห้องขังไม่ได้ประกันตัว ทั้งที่เป็นการเข้าใจผิดเพราะห้องดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนที่ถ้าศาลไม่ให้ประกันตัวก็จะเข้าห้องขังเลย คดีแรกที่ไม่พามาห้องนี้เพราะเกรงมวลชนจำนวนมาก อาจวุ่นวาย ขณะที่นายไชยบูลย์ก็หน้าถอดสีนัยนตาแดงก่ำ คดีดังกล่าวศาลได้ชี้สองสถานโดยอ่านและอธิบายคำฟ้องจนจำเลยทั้ง 2 เข้าใจ และให้การปฏิเสธต่อสู้คดี โดย น.ส.พรทิพย์ พิริยะโยธิน ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินย่านบางซื่อเนื้อที่ 3 ไร่ 82 ตร.ว. ราคาประเมิน 32 ล้านบาทขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วจึงสั่งอนุญาตให้ประกันตัวโดยตีราคาประกันคนละ 8 ล้านบาท และนัดมายืนพยานโจทก์วันที่ 13 ม.ค.ปีหน้า เวลา 09.00 น. เมื่อนายไชยบูลย์ได้รับการประกันตัว ได้เดินทางกลับวัดเมื่อเวลา 17.00 น. เศษมีสาวกมาให้กำลังใจเพียงไม่กี่ร้อยคน โดยนายไชยบูลย์ ปรากฏตัวด้วยเสื้อคอกลมแขนยาวสีเหลือง และสวมหมวกไหมพรม พร้อมพระใกล้ชิด 10 รูป
นายอำพล เหมาคม อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาเปิดเผยว่าสำหรับคดีที่ 2 นี้ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาน.ส.อมรรัตน์ สุวิพัฒน์ หรือสีกาตุ้ย และนายมัยฤทธิ์ ปิตวนิค ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดนายไชยบูลย์ด้วย แต่อัยการยังไม่สั่งฟ้องเพราะยังไม่ได้รับผลสอบเพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่วิจารณ์อัยการทำตามกระแส นายอำพลปฏิเสธไม่เป็นความจริง ทุกคนตั้งใจทำงาน หากทำตามกระแสก็จะสร้างความเสียหาย วันนี้ไม่ชอบใจบทบาทของอัยการแต่วันหน้าจะชอบใจ
รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าขณะนี้ส่อเค้าจะเกิดปัญหาในการดำเนินการตามกฎนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายในชั้นคณะผู้พิจารณาชั้นต้น พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ที่เคยตีความ กฎนิคหกรรมว่าชาวบ้านฟ้องร้องตามกฎนิคหกรรมไม่ได้จนทำให้คำฟ้องร้องนายไชยบูลย์ต้องตกลงไป โดยในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. ศึกษาธิการจะไปพบพระพรหมโมลี เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินการทั้งหมด และจะให้กรมการศาสนาเสนอมหาเถรฯ ให้พิจารณาข้อข้องใจของพระพรหมโมลีด้วย
นายสนธยา โพธิ์แดง ทนายความวัดพระธรรมกายกล่าวว่า การเสนอรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายต้องรอฟังผลมติมหาเถรฯวันที่ 17 ธ.ค. เสียก่อน และจะเสนอรายชื่อได้ในวันที่ 18 ธ.ค. ซึ่งตนจะเดินทางไปประสานงานด้วยตัวเอง การดำเนินการใด ๆ ในวัดขณะนี้ยังเป็นหน้าที่ของพระเผด็จ รองเจ้าอาวาสโดยอาศัยคำสั่งภายในที่ให้รักษาการเจ้าอาวาสเมื่อครั้งนายไชยบูลย์เข้าโรงพยาบาล
ขณะเดียวกันนายวิรศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายกล่าวว่าตำแหน่งเจ้าอาวาสต้องรอหลังปีใหม่ไปแล้ว และไม่มีเจ้าอาวาสกิจกรรมวัดก็ดำเนินไปได้ตามปกติ