เดลินิวส์ 15/12/2542
รมว.ผวาธรรมกายถึงใส่เสื้อกันกระสุน
สาวก"ไชยบูลย์"หวั่นลูกพี่ถูกถอนประกัน ผ้าเหลืองกระเด็นหลุดกาย ออกแถลงการณ์โต้ข่าว ศิษย์ธรรมกาย โทรศัพท์ข่มขู่เอาชีวิต 2 เสนาบดีกระทรวงธรรมการ "สมศักดิ์-วิชัย" โบ้ย มือที่ 3 ที่ไม่หวังดีต่อวัดมากกว่า หน่วยข่าวกรองทหาร พบต้นตอ 2 หนังสือผิดกฎหมายโจมตี "พระธรรมปิฎก" แล้ว รอไม่นานได้ตัวแน่ เสมา 1 เตรียมประจันหน้า "พระพรหมโมลี" ถามตรงประเด็น เอาไงคดีธรรมกาย แกนนำวัดพระธรรมกายนัดเสนอชื่อรักษาการเจ้าอาวาสแล้วไม่มาตามนัด
ที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. ศึกษาธิการเปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา ประสานไปยังวัดยานนาวา เพื่อจะเข้านมัสการพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะหัวหน้าคณะผู้พิจารณาชั้นต้นในอธิกรณ์วัดพระธรรมกายในวันที่ 15 ธ.ค. เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเป้าประสงค์ของเจ้าคณะภาค 1 ที่จะดำเนินการเรื่องวัดพระธรรมกายว่าเป็นอย่างไร รวมทั้งจะสอบถามว่าการดำเนินอธิกรณ์ตามกฎนิคหกรรมยังมีข้อติดขัดตรงจุดไหนบ้าง
ด้านพระปริยัติวโรปการ เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งกล่าวว่า เรื่องที่รับปากทางวัดพระธรรมกาย เข้าไปชี้แจงการ ออกคำสั่ง พักตำแหน่งนาย ไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายนั้น ยังไม่ได้กำหนดแน่นอนว่าเป็นวันใด แต่คนใน วัดทราบดีว่าสาเหตุที่มีคำสั่งพักตำแหน่งนั้นเพราะเหตุใด และหากเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้องคงมีการฟ้องร้องแล้ว อย่างไรก็ตามหากคน ในวัดพระธรรมกายได้ใช้มโนสำนึกตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดก็จะทราบสาเหตุที่แท้จริงของเรื่องนี้
"เมื่อเช้าทางวัดพระธรรมกายก็ได้ โทร ศัพท์มาสอบถามว่า จะเข้าไปที่วัดเมื่อใด อาตมาก็บอกไปแล้วว่าอย่ามาตอแย จะเข้าไปวันไหนก็สุดแล้วแต่ และที่จะเข้าไปก็ไม่ได้ต้องการเข้าไปแก้ข้อโต้แย้งเรื่องสั่งพัก เพราะคำสั่งได้ออกไปแล้ว จะไม่มีการรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาใหม่ แต่การเดินทางเข้าไปในวัดก็เพื่อจะตรวจสอบการทำงานภายในวัด พระธรรมกายด้วย ดูว่าคณะสงฆ์ทำงานกันอย่างไร ไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง"
รายงานข่าวจากหน่วยข่าวกรองทหารแจ้งว่า ได้มีการตรวจสอบกรณีที่มีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดพิมพ์ และเผยแพร่หนังสือ"เปิดโปงขบวนการล้มพุทธ" และ "พุทธศาสนาชะตาของชาติ" ซึ่งมีเนื้อหาโจมตีพระธรรมปิฎก จากการตรวจสอบพบว่าหนังสือเปิดโปงขบวน การล้มพุทธ (ฉบับแรก) มีตราประทับชื่อของ พ.อ.สุรยุทธ ริปูพ่าย จากสถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูงเป็นผู้เผยแพร่ แต่ไม่พบบุคคลดังกล่าวมีชื่อและตำแหน่งอยู่ในสถาบันดังกล่าว เช่นเดียวกับนายจักรพันธ์ ยุทธเวท ประธานชมรมพุทธสามเหล่าทัพที่ใช้ชื่อเป็นผู้จัดพิมพ์หนังสือเล่มเดียวกันนี้ฉบับที่ 2 จากการตรวจสอบในทะเบียนราษฎร์ก็ไม่พบชื่อบุคคลนี้เช่นกัน รวมทั้งไม่มีชมรมพุทธสามเหล่าทัพในกองทัพด้วย
ส่วนหนังสือพุทธศาสนาชะตาของชาติ(ฉบับคัดย่อ) นั้น ใช้ชื่อของพันเอกคนหนึ่ง เป็นผู้จัดพิมพ์เผยแพร่ ผลการตรวจสอบพบว่า เป็นอาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชอบเขียนหนังสือข้อพิจารณาในด้านต่าง ๆ และนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีที่รัฐสภา บางครั้งจัดทำเอกสารออกเผยแพร่โดยไม่ได้ขออนุญาตต่อผู้บังคับบัญชา ทำให้อยู่ระหว่างการถูกตั้งกรรมการสอบสวน โดยมีพันเอกอีกคนเป็นผู้ร่วมงาน
รายงานข่าวระบุว่า จากการตรวจสอบแผงหนังสือในเขตพื้นที่ภาคอีสาน พบว่ามีจุดที่วางจำหน่ายหนังสือดังกล่าวถึง 63 จุดใน 21 จังหวัด โดยแผงหนังสือเหล่านี้จะสั่งซื้อหนังสือได้ทางเพจเจอร์ 152 เรียก 761649 ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเพจเจอร์ที่ลงทะเบียนชื่อเจ้าของคือ นายบริบูรณ์ โนรีเวช ในเบื้องต้นทราบว่านายบริบูรณ์เป็นศิษย์วัดพระธรรมกายคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามหนังสือเปิดโปง ขบวนการล้มพุทธที่มีการจัดส่งทางไปรษณีย์นั้น ทางตำรวจสันติบาลได้ประสาน กับการสื่อสารฯให้ยึด และจัดส่งให้ตำรวจสันติบาล ส่วนหนังสือ "ไวรัสมหันตภัยร้ายพระพุทธศาสนา" (ฉบับคัดย่อ) ที่เป็นข้อเขียนของดร.เบญจ์ บาระกุล และมีพ.อ.บรรจง ไชยลังกา เขียนคำนำหนังสือดังกล่าวด้วยนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลจะได้ตรวจสอบเนื้อหาของ หนังสือดังกล่าวว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่น ประ มาทหรือไม่
รายงานข่าวจากวัดพระธรรมกายแจ้งว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการ สอบปากคำพยานเพิ่มเติมตามที่อัยการ ได้สั่งสอบเพิ่มเติม คาดว่าจะส่งข้อมูลให้อัยการได้ทันนัดสั่งคดีในวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 13.30 น. ซึ่งนายไชยบูลย์และนายถาวร พรหมถาวร นายมัยฤทธิ์ ปิตวนิค และน.ส.อมรรัตน์ สุวิพัฒน์ จะต้องเดินทางไปฟังคำพิจารณา ทั้งนี้จากข้อมูลหลัก ฐานในส่วนของคดีที่เพชรบูรณ์นี้ เชื่อว่าหนักแน่นเพียงพอที่อัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้อง ส่วนคดีที่เหลือกว่า 10 คดีนั้นคาดว่าไม่สามารถสอบสวนได้เสร็จภายในปีนี้ แต่เบื้องต้นได้เตรียมหลักฐานของผู้เกี่ยวข้องหลายคนเพื่อเสนอออกหมายจับ อย่างไร ก็ตามคงต้องรอนโยบายของหัวหน้าชุดคนใหม่ก่อน
ในวันเดียวกันที่วัดพระธรรมกาย ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ปทุมธานี นายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายได้ออกแถลง การณ์ปฏิเสธการกระทำคุกคามข่มขู่ครอบครัวนายสมศักดิ์ และนายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯตามที่เป็นข่าวอยู่ โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของมือที่สาม ซึ่งไม่หวังดีต่อวัดพระธรรมกายและนายไชยบูลย์ เพราะเหตุดังกล่าวอาจจะส่งผลให้มีการถอนประกัน นอกจากนี้การขู่ทางโทรศัพท์เป็นเรื่องที่กระทำ ได้ง่าย และได้สอบถามนายวิชัยแล้วได้ทราบว่าไม่เคยได้รับโทรศัพท์ข่มขู่ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
"มูลนิธิธรรมกายกำลังทำหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนหาผู้กระทำความผิดในเรื่องนี้มาให้ได้โดยเร็วที่สุด"
ด้านนายวิชัยเปิดเผยถึงแถลงการณ์ของวัดพระธรรมกายกรณีถูกข่มขู่คุกคามว่า เจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย ได้โทรศัพท์ไปสอบถามจริง บังเอิญติดภารกิจอยู่แต่ก็ได้มอบหมายให้หน้าห้องชี้แจงแทน โดยระบุว่าไม่ได้ รับโทรศัพท์ด้วยตนเอง แต่คนในบ้านได้รับโทรศัพท์ ซึ่งก็ไม่กล้ามาบอก เพราะเห็นว่าเป็นผู้ดูแล เรื่องนี้เอง เรื่องนี้ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ถูกข่มขู่ จะเป็นมือที่สามหรือไม่นั้นไม่ทราบ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นไปตามแถลงการณ์ของวัดพระธรรมกายแน่นอน
มีรายงานล่าสุดแจ้งว่า ตัวแทนวัดพระ ธรรมกายนัดหมายเข้านมัสการพระปริยัติวโรปการที่วัดเขียนเขต เพื่อนำรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในเวลา 20.00 น. โดยมีการประชุมกรรมการเพื่อสรรหาในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 19.45 น. พระปริยัติวโรปการ ได้แจ้งให้ทราบว่า พระภานุมาศ ภาณุปาโน พระนักกฎหมายของวัดพระธรรม กายได้โทรศัพท์มาบอกเลื่อนการเสนอชื่อ โดยอ้างว่า ประชุมหาตัวเจ้าอาวาสยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก เป็นวัดใหญ่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ขอเลื่อนไปในวันที่ 16 ธ.ค.นั้น ส่วนเวลานั้นจะนัดหมายเวลามาอีกครั้ง
พระปริยัติวโรปการกล่าวว่า ยังคงให้โอกาส วัดพระธรรมกายหารือหาคนมาทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสอยู่ ไม่ได้รีบเร่งอะไรแต่วัดพระธรรมกาย ก็ต้องควรเข้าใจว่าแต่งตั้งรักษาการโดยเร็วนั้นหมายความว่าอย่างไร
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ได้รับแหวนพระวงหนึ่งมีลักษณะหัวแหวนเป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบด้วย 12 นักษัตรจากพระรูปหนึ่ง ซึ่งมอบให้หลังจากที่มีข่าวข่มขู่ทำร้ายจากการเข้ามาดำเนิน การคดีวัดพระธรรมกาย อย่างไรก็ตามไม่ได้กลัวเกรงหรือหวาดวิตกต่อกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านั่งรถกันกระสุนนั้น จริงหรือไม่ให้ไปถามบริษัทเบนซ์เองว่ารถคันนี้พิเศษอย่างไร ขณะเดียวกันผู้ใกล้ชิดนายสมศักดิ์ระบุว่าขณะนี้นายสมศักดิ์สวมเสื้อกันกระสุนตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง