เดลินิวส์ 10/12/2542
สาวกฮึ่มระดมพล ฉุน'ไชยบูลย์' ถูกปลด
สั่งพักตำแหน่ง"ไชยบูลย์"แล้วมีผลทันที เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงเปิดช่อง ให้เสนอชื่อ"พระทัตตชีโว"รักษาการได้ไม่มีปัญหา "สมศักดิ์"รุกสั่งอธิบดีกรมการศาสนาหาช่องว่าง กฎหมายเปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะสงฆ์ผู้พิจารณาชั้นต้น ฐานตุกติกดึงเรื่องพิจารณา กระบวนการนิคหกรรม ระบุยอดเงินวัดพระธรรมกายล่าสุดมีเงินฝาก 601 ล้านบาท ศิษย์ธรรมกายงัดม็อบมาขู่ เตรียมลุย พบ"พระสุเมธาภรณ์"ขอทราบเหตุผลการสั่งพัก ยืนยันไม่เคยทำให้คณะสงฆ์เสื่อมเสีย แถมมีผลงานเด่นถึง 5 ด้านต่างหาก "สนธยา"เปิดปากฟ้องสื่อมวลชนเรียกค่าเสียหายฉบับละ 100 ล้านบาทเพราะทำให้วัดเสียโอกาสได้เงินทำบุญ
ที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาฯ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนาว่า พระปริยัติวโรปการ รักษาการเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ได้มีหนังสือคำสั่งให้นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย พักจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เนื่องจากถูกฟ้องเป็นจำเลยคดีอาญา โดยหนังสือคำสั่งนี้ส่งถึงวัด พระธรรมกาย แล้วเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นอกจาก นี้รักษาการเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งยังได้เสนอแนะด้วย ว่าหากวัดพระธรรมกาย จะเสนอพระรูปใดขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสก็ได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าคณะตำบลก่อน ซึ่งจะพิจารณาตามความเหมาะสม
นายสมศักดิ์กล่าวว่า หนังสือดังกล่าวถือว่าเป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบปฏิบัติมหาเถรสมาคม (มส.) และพระราชบัญญัติสงฆ์ทุกประการ ถือว่ามีผลโดยสมบูรณ์ หากวัดพระธรรมกายไม่ยอมรับคำสั่งจะต้องแยกตัว ออกไปจากการปกครองสงฆ์ คำสั่งดังกล่าวนี้จะมีผล จนกว่าการพิจารณาความอาญาจะสิ้นสุดลง เมื่อคดีเสร็จ หากนายไชยบูลย์เป็นผู้บริสุทธิ์ก็กลับเข้าดำรงตำแหน่งได้ หากมีความผิดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การสั่งพักตำแหน่ง ครั้งนี้มีผลให้นายไชยบูลย์ไม่สามารถที่จะทำนิติกรรมใดๆได้ รวมทั้งการถอนเงินหรือปิดบัญชีใดๆจะถือว่าเป็นโมฆะ
ส่วนกรณีพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะหัวหน้าคณะสงฆ์ผู้พิจารณาชั้นต้นไม่ดำเนินการตามกฎนิคหกรรมนั้น รมว.ศึกษาฯกล่าวว่า ได้สอบถามอธิบดีกรมการศาสนาแล้วทราบว่ายังไม่ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมมหาเถรฯทราบ เนื่องจากเจ้าคณะภาค 1 ยังไม่ได้ทำรายงานมา แต่คาดว่าในการประชุมมหาเถรฯครั้งต่อไปจะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณา และถ้านานเกินไปก็จะให้กรมการศาสนาสอบถามไปยังพระพรหมโมลี โดยจะผลักดันเรื่องนี้ให้เข้าสู่กระบวนการนิคหกรรมก่อนสิ้นปีนี้
"ผมได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการศาสนาไปพิจารณากฎระเบียบข้อบังคับของคณะสงฆ์ว่า สามารถเปลี่ยนตัวพระพรหมโมลี จากหัวหน้าคณะสงฆ์ผู้พิจารณาชั้นต้นได้หรือไม่ เนื่องจากพระพรหมโมลีประวิงเวลาในการพิจารณาปัญหาดังกล่าว เพราะแม้ในทางโลกก็ยังสามารถเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาได้"
รายงานข่าวแจ้งว่า หนังสือพักตำแหน่งนายไชยบูลย์เป็นหนังสือคำสั่งที่ 1/2542 เรื่อง ให้พระสังฆาธิการ พักจากตำแหน่งหน้าที่ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 จึงให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พักจากตำแหน่งหน้าที่ ในกรณีพระสังฆาธิการถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2542
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าได้มีการประสานกับทางธนาคารพาณิชย์ต่างๆเพื่ออายัดบัญชีเงินฝากของวัดพระธรรมกาย ไม่ให้มีการเบิกถอนเงินได้ โดยล่าสุดมีอยู่ทั้งสิ้น 55 บัญชี เป็นบัญชีเงินฝากประจำ 18 บัญชี บัญชีออมทรัพย์ 28 บัญชี และบัญชีกระแสรายวัน 9 บัญชี ล่าสุด ณ วันที่ 6 ก.พ.2542 วัดพระธรรมกายมียอดเงินฝากรวม 458,413,918 บาท นอกจากนี้ยังมีเงินฝากในบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อีก 4 แห่งเป็นจำนวน 143,405,225 บาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 601,819,143 บาท
พระมหาปัญญา ขันติธัมโม เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง กล่าวว่า เมื่อมีคำสั่งพักนายไชยบูลย์แล้ว ผู้ถูกสั่งพักจะต้องเสนอชื่อ บุคคลที่จะขึ้นมารักษาการแทนผ่านมาที่เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง เพื่อเสนอต่อมาที่เจ้าคณะอำเภอ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ ส่วนกรณีที่จะมีการเสนอพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาวัดพระธรรมกาย ขึ้นรักษาการนั้นก็คงไม่ขัดข้อง เพราะยังไม่ต้องอธิกรณ์หรือตกเป็นจำเลยใดๆ จึงมีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งได้
นายสนธยา โพธิ์แดง ทนายความวัดพระธรรมกาย กล่าวว่า ได้รับหนังสือดังกล่าวแล้วและเตรียมที่จะไปนมัสการพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เพื่อสอบถามเหตุผลของคำสั่งดังกล่าว แต่ไม่ได้หมายความว่าวัดพระธรรมกายไม่ยอมรับคำสั่ง เพียงต้องการทราบข้อเท็จจริงว่านายไชยบูลย์กระทำความผิดต่อวัดอย่างไร และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าดำเนินการเหมาะสมหรือไม่ ส่วนเรื่องที่มีการฟ้องสื่อมวลชนเรียกค่าเสียหายฉบับละ 100 ล้านบาทนั้น เพราะที่ผ่านมาสื่อมวลชนเสนอข่าวว่าวัดมีเงินเป็นพันล้านบาท ทำให้วัดเสียโอกาสได้เงินทำบุญ จึงเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาทเป็นค่าทำบุญให้แก่วัด
น.ส.ชุลีพร ช่วงรังษี เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์มูลนิธิธรรมกาย กล่าวว่า การสั่งพักตำแหน่งครั้งนี้คณะสงฆ์และสังคมจะได้อะไร เพราะนายไชยบูลย์ทำประโยชน์ให้แก่วัดและสังคมมากมาย จนมีผลงานเด่นทั้ง 5 ด้าน ทั้งด้านการปกครอง การศึกษา การเผยแผ่ศาสนา สาธารณูปการสิ่งก่อสร้างและเงินทุน รวมทั้งการสังคมสงเคราะห์ เชื่อว่าจะมีม็อบออกมาคัดค้านคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากทุกคนรักนายไชยบูลย์ด้วยกันทั้งนั้น
นายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เช้าวันที่ 9 ธ.ค.มีลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเดินทาง มาที่วัดจนถึงขณะนี้เกือบ 1 พันคนแล้ว และคงจะทะยอยเข้ามาเพิ่มอีกเรื่อยๆ ซึ่งก็ยังนับว่าเป็นเรื่องดีที่สาธุชนมาที่วัด หากไปที่อื่นคงเกิดความวุ่นวายแน่นอน ทางเราพยายามรักษาความสงบ เท่าที่ดูลูกศิษย์ที่มาต่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น นายไชยบูลย์ทำผิดอะไรถึงถูกสั่งพัก เงินทุกบาทที่วัดมีก็เป็นเงินลูกศิษย์ที่เชื่อมั่นเคารพบริจาค เพราะเชื่อว่านายไชยบูลย์จะนำพาตนเองและครอบครัวไปสู่สิ่งดีและสูงขึ้น
ทั้งนี้ ทางวัดจะไปถามเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี หากตอบไม่ได้หรือจนด้วยเหตุผล ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะที่ทำอยู่เหมือนเป็นเผด็จการ และหากม็อบเคลื่อนไหวไปไหนก็คงไปห้ามปรามไม่ได้
ด้านพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กล่าวถึงกรณีที่นายสนธยาทนายวัดพระธรรมกายจะมา ถามเหตุผลเรื่องการสั่งพัก ตำแหน่งนายไชยบูลย์ว่า นายสนธยามีหน้าที่อะไรจึงจะมาถามอาตมา และเรื่องนี้ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของรักษาการ เจ้าคณะตำบล คลองหนึ่งไม่เกี่ยวข้องกับอาตมา รวมถึงการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อาตมาไม่หวั่นไหวแม้จะมีม็อบมา และคงจะไม่ขอกำลังตำรวจมาอารักขาเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่เกิดม็อบธรรมกายคัดค้านการสั่งพักตำแหน่งนายไชยบูลย์นั้น พ.ต.อ.ทวีพันธ์ แสงประเสริฐ ผกก.สภ.อ.ธัญบุรี ได้โทรศัพท์สอบถามสถานการณ์ไปยังพระสุเมธาภรณ์โดยตลอด มีการจัดกำลังตำรวจไปอารักขาที่วัด 15 นาย รวมทั้งประสานไปยังสภ.อ.คลองหลวงเพื่อให้แจ้งความเคลื่อนไหวด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า บ่ายวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ศาลได้นำหมายศาลกรณีที่พระทัตตชีโว ได้มอบอำนาจให้พระภานุมาศ ภาณุปาโณ ยื่นฟ้องนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เป็นจำเลยที่ 1 นายไพบูลย์ เสียงก้อง จำเลยที่ 2 นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ จำเลยที่ 3 นายเริงฤทธิ์ เบ้านุวงศ์ จำเลยที่ 4 พระสุเมธาภรณ์ จำเลยที่ 5 และพระปริยัติวโปการ จำเลยที่ 6 ในคดีอาญา หมายเลขคดีดำที่ 5737/2542 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มามอบให้นายสมศักดิ์ โดยนายสมศักดิ์กล่าวภายหลัง เซ็นรับหมายศาลว่า ได้หารือกับนิติกรกระทรวงศึกษาฯแล้วเห็นว่าเป็นการทำงานในหน้าที่จึง มอบให้อัยการศาลจังหวัดธัญบุรีเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งที่ 1 ในวันที่ 3 ก.พ. 2543