เดลินิวส์ 8/12/2542
ศิษย์ธรรมกายโทรขู่ฆ่า สมศักดิ์-เมีย อย่ามายุ่งกับวัดฉาว'ตือ'ไม่กลัว
ศิษย์วัดฉาวเล่นใต้ดิน โทรศัพท์ขู่ฆ่า"สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล"และภรรยา ข้อหาวุ่นวายตอแยวัดพระธรรมกาย ตำรวจจมูกไวตามดมกลิ่นแล้ว กองปราบฯออกหมายจับเจ้าของโรงพิม์กับคนเขียนหนังสือ "เปิดโปงขบวน การล้มพุทธ" พร้อมยกเลิกหนังสือเดินทาง"เบญจ์ บาระกุล" เชื่อกบดานอยู่ในวัดพระธรรมกาย "พระสุเมธาภรณ์"พบเจ้าคณะภาค 1 สรุปไม่มีอะไรในกอไผ่ "พระพรหมโมลี"บอกแค่ไม่จำเป็น ต้องเริ่มต้นกระบวนการนิคหกรรม"ไชยบูลย์-พระเผด็จ"ใหม่ แต่ขู่ทำให้ดีระวังตกนรก
ที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาฯ กล่าวถึงปัญหาวัดพระธรรมกายว่า ได้เชิญนายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯ มาหารือเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาของวัดพระธรรมกาย เนื่องจากพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ได้เรียกประชุมคณะผู้พิจารณาชั้นต้น แต่ไม่ทราบว่าจะหารือกันในประเด็นใด และเกรงว่าจะมีการยื้อเรื่องการสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อย่างไรก็ตามน่าจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายได้แล้ว เนื่องจากขัดคำสั่งและไม่มีความเกรงกลัวผู้บังคับบัญชาหลายครั้ง
นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวภายหลังเดินทางไปนมัสการพระปริยัติวโรปการ รักษาการเจ้า คณะตำบล คลองหนึ่ง และพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีว่า ได้ไปนมัสการตามคำสั่ง ของรมว.ศึกษาฯ ขณะเดียวกัน ก็ได้สอบ ถามความคืบหน้าใน 2 เรื่องคือ การดำเนินการตามกฏมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 ข้อที่ 56 เรื่องการสั่งพักตำแหน่ง และเรื่องที่กรมการศาสนาได้ให้ความ เห็นว่าการที่นายไชยบูลย์ไม่มารับคำกล่าวหา ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาหลายครั้ง ซึ่งเป็นการขัดมติมหาเถรสมาคม ดังนั้นคณะผู้ปกครองชั้นต้นก็ควรดำเนินการ ตามกฏมหาเถรฯได้แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า
อธิบดีกรมการศาสนากล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับพระผู้ปกครองทั้ง 2 ได้รับคำตอบว่าทุกเรื่องอยู่ในการพิจารณาแล้ว แต่ขอให้อดใจรออีกหน่อย ขอไปหารือกับเจ้าคณะภาค 1 ก่อนว่าจะพูดอย่างไร อย่างไรก็ตามเรื่องการประชุม ของผู้พิจารณา ชั้นต้นกับการสั่งพักตำแหน่งเป็นคนละเรื่องกัน เพราะอำนาจการสั่งพักตำแหน่งอยู่ที่เจ้าคณะตำบล ส่วนเรื่อง การดำเนินการตามกฏนิคหกรรมเป็นหน้าที่ของคณะผู้พิจารณาชั้นต้นจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง ว่าจะดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้ เจ้าคณะตำบลบอกตนว่ากำลังพิจารณาอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับนายไชยบูลย์และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หากตัดสินใจดำเนินการอย่างไรก็จะแจ้งให้กรมการศาสนาทราบ ส่วนทางเจ้าคณะ จังหวัดปทุมธานีคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะสนับสนุนให้ดำเนินการตามกฏนิคหกรรมตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว ตนก็ได้กราบนมัสการให้กำลังใจท่าน เพราะท่านมารับภาระตรงนี้ก็ถือว่าเป็นงานที่หนักพอสมควร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากไปกราบนมัสการเพื่อสอบถามความคืบหน้าการดำเนินการกับวัดพระธรรมกายแล้ว นายไพบูลย์ยังได้แนะนำเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีไปว่า หากการประชุมคณะผู้พิจารณา เจ้าคณะภาค 1 ให้เซ็นเอกสารอย่าเพิ่งไปเซ็นอะไรทั้งสิ้น หากจะเซ็นก็ขอให้เจ้าคณะภาค 1 เขียนหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน มิฉะนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีจะต้องรับผิดชอบเพียงผู้เดียว
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้นายสมศักดิ์กำลังถูกบุคคลลึกลับคุกคามอย่างหนักกรณีเข้าไปจัดการเรื่องวัดพระธรรมกาย มีผู้ส่งจดหมายส่งแฟกส์และโทรศัพท์ขู่ฆ่า ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวนายสมศักดิ์เองแต่ภรรยาก็โดนข่มขู่ด้วย อย่างไรก็ตามนายสมศักดิ์ไม่ได้รู้สึกกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะถือว่าได้ทำตามหน้าที่ สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ถูกขู่อาฆาตครั้งนี้ น่าจะมาจากกรณีที่กระทรวงศึกษาฯสั่งห้ามโรงเรียนในสังกัดกระทรวงนำหนัง สือ"มงคลชีวิต" ที่เขียนโดยพระสมชาย ฐานวุฒโฑ ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่วัดพระธรรมกายไปเผยแพร่ในโรงเรียน เนื่องจากมีข้อความบิดเบือนหลักธรรมในพระไตรปิฎก ซึ่งก็มีบุคคลลึกลับส่งแฟกส์มาด่าเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามความเคลื่อนไหวและตรวจสอบหาบุคคลกลุ่มนี้แล้ว
นายสมศักดิ์กล่าวในเรื่องนี้ว่า สิ่งที่ทำให้ตนทนไม่ได้ก็คือ มีการโทรศัพท์ไปด่า ไปขู่ภรรยาเป็นระยะๆ จึงทนไม่ไหว เลยบอกภรรยาให้ตอบไปว่า "กูไม่กลัว ตัวมึงนั่นแหละจะตายก่อน"
พล.ต.ท.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ผช.ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากพล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง ผบก.ป. ขอออกหมายจับดร.เบญจ์ บาระกุล หรือนายบัณฑูรย์ บาระกุล โดยกองปราบฯได้ทำหนังสือด่วนแจ้งไปยัง สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศแล้ว รายงานล่าสุดระบุว่า ดร.เบญจ์อาศัยอยู่ที่วัดพระธรรมกาย พนักงานสอบสวนจะต้องไปสืบที่วัด และเมื่อออกหมายจับแล้วหาก ตำรวจ พบตัวก็สามารถจับกุมได้ทันที ทั้งนี้จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าดร.เบญจ์เดินทางกลับเข้ามาในไทยตั้งแต่เดือน พ.ค. 2542 และเคยไปศึกษาต่อที่สหรัฐ พักอยู่ที่วัดไทยในแอลเอ. ซึ่งเป็นวัดที่มีความสัมพันธ์กับวัดพระธรมกาย
ด้านพล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง กล่าวว่า ได้มอบหมายให้พ.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข สว.ผ.1กก.1ป.ออกหมายจับดร. เบญจ์แล้ว เนื่องจากโทษของผู้ต้องหาต่ำกว่า 3 ปี ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตกระทรวงมหาดไทย โดยจะแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท ตามป.อาญามาตรา 328 มีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 2 ปี
วันเดียวกัน พ.ต.ต.ปัญญาได้ลงนามออกหมายจับเลขที่ 10/2542 เนื่องจากบริษัท สยามบิสสิเนส แอนด์ พริ้นติ้ง จำกัด โดยนางปณัชญา วิทยารักษ์สรรค์ และดร.เบญจ์ ได้ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยเอกสาร โดยการจัด พิมพ์หนังสือ "เปิดโปงขบวนการล้มพุทธ" มีเนื้อหาดูหมิ่นมูลนิธิพุทธธรรม ทำให้ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง และกล่าวหาลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระสังฆราชว่าเป็นลายพระหัตถ์ปลอม อันมีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสมเด็จพระสังฆราช
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. พนักงานอัยการ จะนัดสั่งคดีทุจริตวัดพระธรรมกายผู้ต้องหา 2 รายคือ นายมัยฤทธิ์ ปิตวนิค และนายเทิดชาติ ศรีนพรัตน์ ในข้อหาให้การสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และปลอมแปลงเอกสาร
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนี้คณะกรรมาธิการการศาสนาฯ จะพิจารณาความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกาย โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม อาทิ นายสมศักดิ์ ปริศนานัทกุล รมว.ศึกษาฯ นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา พล.ต.ต.โยธิน มัธยมนันท์ ผบช.สันติบาล และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) รวมทั้งจะนำหนังสือเรื่อง "ไวรัส:มหันตภัยร้ายของชาวพุทธ" ซึ่งเขียนโดยดร.เบญจ์เข้ามาพิจารณาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยพระปริยัติวโรปการ รักษาการเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง และพระเทพสุธี เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ได้เดินทางเข้าพบพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ที่วัดยานนาวา โดยมีการร่วมหารือกันที่กุฏิของพระพรหมโมลีชั้น 2 เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ภายหลังการหารือพระสุเมธาภรณ์เปิดเผยว่า วันนี้มาประชุมกันในเรื่องที่เจ้าคณะภาค 1 ให้ดำเนินการตามกฎนิคหกรรมนายไชยบูลย์และพระเผด็จ
ต่อข้อถามที่ว่า จำเป็นต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ตั้งแต่ต้นหรือไม่ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีกล่าวว่า ทางเจ้าคณะภาค 1 บอกว่าไม่จำเป็น แต่ให้ทำให้ดี และระบุว่าที่ทำมานั้นถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตาม ท่านได้แนะนำว่าต้องทำให้ดี ถ้าทำไม่ดีจะต้องตกนรก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของพระปริยัติวโรปการได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยระบุว่าพูดอะไรไม่ได้ ขณะที่พระเทพสุธีได้ปลีกตัวหลบสื่อมวลชนออกไปโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆเช่นกัน