เดลินิวส์ 24/11/2542
ใช้มติสงฆ์ ทั่วปท.ขับ'ไชยบูลย์'
"วิชัย"เตรียมปรึกษาสมเด็จ วัดชนะฯถึงหนทางใช้การประชุมสงฆ์ทั่วประเทศขับ"ไชยบูลย์"พ้นศาสนาพุทธ ศิษย์เก่ามจร.ติง ระวังคะแนนจัดตั้งธรรมกายที่หว่านปัจจัยไปทั่วแล้ว จะทำให้วัดฉาวพ้นผิดทุกข้อหา ตั้ง"ล้วน ปานรศทิพ"คุมคดีต่อจาก"วาสนา" ระบุพระปลอมไปรับข้อกล่าวหาแน่พร้อม"ทัตตชโว"ที่กลัวมาจากสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รองผบ.ตร. เปิดเผยว่าหลังจากที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร.ย้ายไปสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งพล.ต.ท.ล้วน ปานรศทิพ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนแทน หากพบว่ามีประเด็นใดเพิ่มเติม อีกก็ให้ดำเนินการทันที เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวพันกับการซื้อขายที่ดินมากมายในหลายจังหวัด มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน
ส่วนการสืบสวนกรณีการวางระเบิดที่วัดชนะสงคราม ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล,กองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 1 และสันติบาล สืบสวนหาพยานที่เห็นเหตุการณ์เพื่อหาคนที่สร้างสถานการณ์นี้ และจากการประชุม 3 หน่วยงานมีความเห็นตรงกันว่าต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องธรรมกายแน่ ส่วนที่มีข่าวระเบิดนี้เกี่ยวกับตำรวจ ที่เป็นลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายนั้น ขอชี้แจงว่าลูกศิษยวัดนี้มีทั้งข้าราชการตำนวจและทหาร แต่กำลังตรวจสอบว่าใครเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันพล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ ผบช.น. เดินทางไปที่สน.ชนะสงคราม เพื่อสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากที่พล.ต.อ.พรศักดิ์เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องในช่วงเช้า
รายงานข่าวจากตำรวจสันติบาลเปิดเผยว่า ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเลขที่ 116 ลงวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาห้ามขาย จ่ายแจกและยึดสิ่งพิมพ์ 2 ฉบับของดร.เบญจ์ บาระกุล ที่เป็นกระบอกเสียงธรรมกายแล้ว เพราะหนังสือดังกล่าวบิดเบือนความจริงและทำลายศาสนา ถือเป็นหนังสือต้องห้ามใครมีไว้จำหน่ายจ่ายแจกจะมีความผิด และจะมีการตรวจสอบโรงพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดพระธรรมกายว่าในคืนวันที่ 22พ.ย.นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายได้ลอยกระทง ในวัดพระธรรมกาย โดยสวมหมวกไหมพรม ถุงเถ้า เสื้อยืดแขนยาวสีเหลือง มีศิษย์ใกล้ชิดแค่ 300 คนร่วมงาน และห้ามถ่ายรูปโดยมีการประกาศว่าถ้าไม่เชื่อเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ด้วย
สำหรับการเดินทางไปสหรัฐฯของพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ปรากฎว่าไม่ได้ขออนุญาตพระปกครอง โดยไปรับกฐินและดูแลสาขาแคลิฟอร์เนียที่มีคนไทย อยู่มากและเป็นแหล่งดูดบุญมากสุดของธรรมกายในสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้เกิดปัญหาการบริหารสาขา โดยมีกระแสข่าวว่าพระเผด็จจะกลับมาต้นปีหน้า ส่วนนายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายกล่าวว่าพระเผด็จจะกลับมาทันรับข้อกล่าวหาในวันที่ 30พ.ย.แน่ และนายไชยบูลย์กับพระเผด็ยจะเดินทางไปรับฟังข้อกล่าวหา
ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีการสัมมนาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐกับคณะกรรมการป้องกันและ ปราบการการ ทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) โดยนายอำนวย สุวรรณคีรี ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ซักถาม ว่าป.ป.ช.น่าจะมีอำนาจไปตรวจสอบทรัพย์สินของนายไชยบูลย์ที่มีถึง 3 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือสังคมและศาสนา ไม่ให้ประชาชนถูกหลอก ซึ่งนายกล้าณรงค์ จันทึก รักษาการณ์เลขาธิการป.ป.ช.ตอบว่ากฎหมาย ป.ป.ช.ไม่เข้าข่ายเข้าไปตรวจสอบ ถ้าดำเนินการป.ป.ช.เองอาจเข้าข่ายจงใจส่อทุจริตมีโทษ 2 เท่า
ในวันเดียวกันเมื่อเวลา 18.30 น. นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการเข้าพบพระราชธรรมนิเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ ที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ว่า การมาวันนี้เพื่อขอความรู้เป็นส่วนประกอบ กรณีแก้ปัญหาธรรมกาย ซึ่งเคยทำมาแล้วกรณีสันติอโศกคือขอฉันทามติจากพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการจะตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยประเด็นต่าง ๆ และรวบรวมประเด็นนั้นส่งไปให้พระสังฆาธิการ ทั่วประเทศ ประชุมและวินิฉจัย โดยจะมีการหารือกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ก่อน ขณะนี้เป็นเพียงสอบถามข้อมูล เพราะยังเชื่อในกระบวนการนิคหกรรม คาดว่าหลังวันที่ 30 พ.ย. ปัญหาน่าจะคลี่คลายได้
ด้านนายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดี กรมการศาสนา กล่าวว่า ถ้ามีการตั้งคณะกรรมการขอฉันทามติ จริง ๆก็คงไม่มีผลอะไร และพ.ร.บ.สงฆ์ไม่ได้ให้อำนาจหรือมีบทลงโทษไว้
นายกมล ศรีนอก สมาชิกชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยกล่าวว่า วิธีนี้อาจทำให้ธรรมกายได้เปรียบ เพราะได้มีการสนับสนุนปัจจัยและสิ่งของต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ตัวแทน สงฆ์ส่วนใหญ่ 90% อยู่ข้างธรรกมาย ถ้าดำเนินการเมื่อมีการลงมติใด ๆ ออกมาจะทำให้ธรรมกายพ้นผิดไป