เดลินิวส์ 22/11/2542
ระเบิดวัดชนะฯ สะท้อนฤทธิ์ธรรมกาย หยุดมะเร็งทำลายพุทธ
บึ้ม..เสียงระเบิดกลางดึกคืนวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่วัดชนะสงคราม มันเหมือนกับภาพสะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้รากฐานศาสนาพุทธกำลังเข้าสู่จุดสั่นคลอน เพราะ ขนาดที่ว่ามีคนใจบาปหยาบช้ากล้าเข้าไปปาระเบิดในวัด หลังจากได้มีการก่อม็อบหน้าวัดแห่งนี้ เพื่อคัดค้านการปลด พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง เพราะการปลดเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง จะนำไปสู่การปลด นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายออกจากตำแหน่ง
ระเบิดลูกนี้จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีกรณีธรรมกายเป็นตัวจุดชนวน
และหากย้อนกลับไปก็จะเห็นได้ว่าความจริงแล้ว ความเสียหายจากกรณีธรรมกายมันมากขึ้นเรื่อย ๆ และสร้างความรุนแรงกว่าอานุภาพระเบิดเอ็ม 61 ที่ถูกโยนเข้าไปในวัดชนะสงครามเสียอีก
เริ่มจากการสร้างความเสียหายจากการเหยียบย่ำ พระธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะการบิดเบือนทำบุญให้กลายเป็นสินค้าซื้อได้-ขายได้ สอนนิพพานเป็นอัตตา เป็นสถานที่เพื่อให้คนมาทำบุญมาก ๆ จะได้เข้าไปอยู่ในพระนิพพานด้วยกัน และสอนให้ทำบุญโดยมิใช่เพียงเพื่อให้เกิดการเสียสละ มักน้อย แต่ปลุกปั่นให้ทำบุญหวังผลตอบแทนในแง่ความร่ำรวย หายป่วย มีชื่อเสียง ทุ่มกันหมดตัว
เมื่อถูกโต้แย้งว่าธรรมกายสอนขัดกับหลักพระธรรม หลักคำสอนของศาสนาพุทธ ธรรมกายก็กล้าประกาศว่าคำสอนของตัวเองถูกต้อง หลักคำสอนของศาสนาพุทธสืบทอดกันมา 2,542 ปีผิดพลาด ต้องไปแก้ไขพระไตรปิฎก และไม่ใช่เพียงแต่ธรรมกายเท่านั้นที่ออกมาเถียงเช่นนี้ ยังมีพระเถระหลายรูปเรียงหน้ามาสนับสนุนธรรมกายอย่างชนิดที่ไม่มีความละอายต่อผ้าเหลืองที่นุ่งห่ม
ไม่เพียงแต่การทำลายพระธรรมคำสอนเท่านั้น ธรรมกายยังย่ำยีพระวินัย ซึ่งถือเป็นข้อปฏิบัติของสงฆ์ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้เป็นกรอบปฏิบัติ อาทิ การที่นายไชยบูลย์ใช้ชื่อพระไปซื้อที่ดินมาถือครอง และเป็นการผิดพระวินัยชัดเจน เนื่องจากได้มีบัญญัติห้ามไม่ให้พระใช้เงิน-ทองซื้อสินค้า การผิดพระวินัยเช่นนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการ "ต่อศีล" แต่จะต้องมีการสละทรัพย์หรือสิ่งของนั้นให้เป็นสมบัติแก่วัดเสียก่อน
แต่กรณีนายไชยบูลย์กลับไม่ยอมที่จะแก้ไขใด ๆ ทั้งสิ้นและยังถือครองที่ดินเป็นปกติ โดยการอ้างว่าถือครองที่ดินได้ เพราะในรัฐธรรมนูญและกฎหมายบ้านเมืองให้สิทธิในการซื้อ-ขายที่ดิน โดยไม่ต้องไปคำนึงถึงพระวินัยที่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าได้ฉีกพระวินัยที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้เป็นชิ้น ๆ
เหตุผลนี้ทำท่าจะได้รับการยอมรับจากวงการสงฆ์อีก เนื่องจากพระผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดการนายไชยบูลย์ต่างเพิกเฉยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น โดยจะยิ่งเป็นภัยต่อศาสนา เพราะต่อไปในอนาคตหากพระรูปใดเสพเมถุน มีเมีย ก็จะใช้ข้ออ้างเดียวกันได้ก็คือ ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายบ้านเมืองการมีเมียไม่ผิด และพระวินัยขัดรัฐธรรมนูญจึงไม่ต้องปฏิบัติตาม !!!
กรณีธรรมกาย ยังได้ทำให้องค์การและกระบวนการสงฆ์เสื่อมถอยอย่างที่ไม่เคยปรากฏ แม้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในฐานะประธานมหาเถรสมาคม (มส.) จะมีลายพระหัตถ์ ให้จัดการกับนายไชยบูลย์ในฐานะพระปลอมไปแล้ว แต่องค์กรของมหาเถรฯกลับเพิกเฉย จนกระทั่งสมเด็จพระสังฆราชไม่ได้เสด็จไปเป็นประธานการประชุมมหาเถรฯอีกเลย
และใครจะเชื่อว่าเมื่อมีการฟ้องร้องให้ดำเนินการกับนายไชยบูลย์ตามกฎนิคหกรรม ที่จะได้รับโทษถึงขั้นถอดผ้าเหลืองออกจากร่าง แต่กระบวนการทั้งหมดมีการยื้อทุกรูปแบบ ทั้งการตีความ การดึงเรื่อง ฯลฯ ขนาดที่มีคำพูดออกจากปากผู้ที่เป็นพระเถระว่า จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ฟ้องร้องนายไชยบูลย์ด้วย ไม่ใช่แค่ความน่าเชื่อถือในชาตินี้ แต่ต้องตรวจสอบไปถึงชาติที่แล้วด้วยว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ !!!
หรือแม้กระทั่งที่มีการสร้างม็อบพระให้มาชุมนุมในกรุงเทพฯ และแสดงพลังสนับสนุนกลุ่มที่ยืนอยู่ข้างธรรมกายก็เกิดขึ้นมาแล้ว !!! กระบวนการ-องค์กรสงฆ์จึงถูกธรรมกายบ่อนทำลายจนละเอียด
ขณะเดียวกันในส่วนของ ฆราวาส เอง ไม่มีเรื่องใดสร้างความแตกแยกให้กับครอบครัวเท่ากับปัญหาธรรมกาย ถ้าสมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่งเกิดไปเป็นสาวกเข้า สภาพครอบครัวจะร้าวฉานทันที ใครจะห้าม ใครจะปรามอย่างไรจะไม่ฟัง และมุ่งมั่นจะทำบุญสุดตัว หมดตัว เพื่อให้ตัวเองได้เกาะเจดีย์จานบินเข้าถึงนิพพานไปเท่านั้น
นอกจากนั้นใครจะไปคิดว่าชาวพุทธ จะมาก่อม็อบหน้าวัดพร้อมกับชูป้ายประท้วงพระ เหมือนกับพวกที่มาก่อม็อบหน้าวัดชนะสงคราม รวมถึงขยายผลการก่อม็อบไปหน้าวัดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการธรรมกายเพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่วิสัยชาวพุทธที่จะทำในเขตสังฆมณฑล ซึ่งถือเป็นดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นการใช้ "ม็อบ" เข้าไปกดดันพระ ใช้อำนาจเถื่อนมากดดันสงฆ์
ระเบิดที่หน้าวัดชนะสงคราม จึงเป็นเพียงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ ผลประโยชน์ที่เกี่ยวแฝงเข้ามากับธรรมกาย และไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้ายแน่นอน โดยก่อนหน้านี้เคยมีคนเจอระเบิดในลักษณะเดียวกันมาแล้ว อาทิ นายเสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ที่ออกมาต่อต้านธรรมกายและชี้ความผิดธรรมกายอย่างชัดเจนก็ถูกปาใส่หน้าบ้าน
ความรุนแรงจากระเบิด ความเสียหายจากการทำลายพระธรรม ทำลายพระวินัย ทำลายพุทธบริษัททั้งพระภิกษุ ทั้งอุบาสก-อุบาสิกา ทำลายฆราวาสจนบ้านไม่เป็นบ้าน ครอบครัวไม่เป็นครอบครัวนี้ คงไม่ต้องตอบว่าจะยุติกันได้อย่างไร เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามะเร็งร้ายอยู่ที่ไหน
เราจะปล่อยให้เนื้อเน่าก้อนนี้ลุกลามต่อไปอีกหรือ.