เดลินิวส์ 16/11/2542
ตีนแมวแอบย่องงัดห้องกรมการศาสนา ปรามวัดธรรมกายก่อม็อบมีสิทธิ์ติดคุก
ตีนแมวแอบย่องเข้าห้องนิติกรกรมการศาสนา รื้อค้นเอกสาร เดชะบุญหลักฐานความผิด วัดพระธรรมกายอยู่ครบ ผู้บริหาร ยืนยัน ไม่มีเรื่องขัดผลประโยชน์เด็ดขาด ฟันธงกรณีธรรมกายแน่นอน "สมศักดิ์"เตือนสติไวยาวัจกร วัดฉาว อย่า ยุยงให้สังคม มีปัญหา 17 พ.ย.เปิดตัวเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งคนใหม่ ระบุงานแรกใช้กฎมหาเถรฯฉบับ 24 ฟันไชยบูลย์ เจ้าคณะอำเภอ คลองหลวง ปรามพระวัดฉาว อย่าก่อม็อบ ผิดพ.ร.บ.สงฆ์มีสิทธิ์ติดคุก อธิบดีกรมการศาสนาพบเจ้าคณะภาค 1 ไร้ผล ยืนยันเจ้าคณะจังหวัดปทุมฯทำผิดขั้นตอนไม่รับเรื่องกล่าวหา ตามกฎนิคหกรรม เตรียมหารือแนวทางแก้ไขใหม่
จากกรณีที่มีคนร้ายบุกเข้าค้นห้องของฝ่ายกฎหมายกรมการศาสนา และทางกรมได้มีการแจ้งความไปแล้วนั้น ปรากฏว่าในวันต่อมาได้มีผู้บุกเข้าค้นห้องของนายเชลียง เทียมสนิท นิติกรกรมการศาสนาอีก ซึ่งภายในห้องมีของมีค่าหลายอย่างแต่กลับไม่มีอะไรสูญหาย มีเพียงเอกสารที่ถูกรื้อค้น แต่ในเบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีเอก สารใดสูญหายไปบ้าง โดยขณะนี้ได้มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ และกำชับให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอด ภัยดูแลอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ห้องต่างๆในกรมการศาสนาที่ถูกบุกเข้าค้นนั้นเป็นห้องเก็บเอกสารสำคัญที่เกี่ยว ข้องกับกรณีคดีวัดพระธรรมกาย โดยตัวนายเชลียงเองก็เป็นตัวแทนกรมการศาสนาไปกล่าวโทษนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางตำรวจกำลังตรวจสอบลายนิ้วมือของเจ้าหน้าที่ที่ประจำ อยู่ตามห้องต่างๆในกรมการศาสนา เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของคนร้ายต่อไป
แหล่งข่าวในกรมการศาสนากล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้รายงานให้พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกายทราบแล้ว ซึ่งพล.ต.ท.วาสนาจะติดตามเรื่องนี้อีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันก็จะมีมาตรการในการดูแลเอกสารหลักฐานสำคัญในคดีวัดพระธรรมกายทั้ง 2 ห้องในกองปราบปรามให้เข้มงวด เพื่อป้องกันการโจรกรรมเอกสารและทำลายหลักฐาน นอกจากนี้จะประสานกับนายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการ และนายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา เพื่อหารือมาตรการป้องกันร่วมกันด้วย
นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนากล่าวถึงกรณีมีผู้บุกค้นเอกสารในกรมว่า คงเป็นการลักเล็กขโมยน้อยเพราะไม่มีเอกสารสำคัญสูญหาย ซึ่งเอกสารสำคัญได้มีการจัดเก็บไว้อย่างดี แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนระมัดระวังดูแลทรัพย์สินของราชการเป็นพิเศษ
ด้านนายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดี กรมการศาสนา กล่าวว่า กรมถูกงัดแงะเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยห้อง ที่ถูกงัดคือห้องทำงานของเจ้าหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่ กองนิติกร ผู้ตรวจสอบภายใน และหน้าห้องของนายสุทัศน์ ทิวทอง รองอธิบดีกรมการศาสนา เมื่อวันที่ 12-13 พ.ย. ขณะนี้ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้มาเก็บข้อมูลและรอยนิ้วมือคนร้ายไป และได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ไม่มีเอกสารสำคัญโดยเฉพาะของกองนิติกรสูญหาย การงัดแงะครั้งนี้เรื่องผล ประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประมูลทำความสะอาดหรือทำห้องประชุมก็เรียบร้อยแล้วไม่น่าจะเป็นสาเหตุ
เวลา 15.00 น. ที่ห้องทำงานกองการเจ้าหน้าที่นิติกร บริเวณชั้น 2 กรมการศาสนา ร.ต.อ.สมยศ คำศรี และร.ต.ต.กิติศักดิ์ จุติวรกุล พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้เดินทางมาสอบสวนในที่เกิดเหตุ และเปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเก็บร่องรอยเพื่อตรวจสอบว่าคนร้าย สันนิษฐานว่าไม่ใช่มืออาชีพ แต่อาจจะเป็นพวกติดยาเสพย์ติดและต้องการหาเงินไปเสพย์ยา คนร้ายก็ไม่ได้หยิบฉวยสิ่งของชิ้นใหญ่ไป มีเพียงทรัพย์สินที่สูญหายไปเล็กน้อย เช่น ไวน์ 2 ขวด เงินสด 600 บาท พระเครื่อง 60 องค์ ซาวด์เบาท์ 1 เครื่อง และเศษเงินเพียงเล็กน้อย ส่วนเอกสารไม่มีอะไรสูญหายและคงไม่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย
ในส่วนความคืบหน้าในการพิจารณาตามกฎนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวสวัดพระธรรมกาย อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า จะเข้าพบพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เพื่อขอให้ยอมรับสำนวนคำกล่าวหา นิคหกรรมนายไชยบูลย์และพระเผด็จ เนื่องจากมหาเถรสมาคมได้มีมติมอบหมายให้ไปประสาน เพื่อให้กระบวนการนิคหกรรม ดำเนินต่อไป และหากมีข้อขัดข้องตรงไหนก็จะได้แก้ไข ส่วนเจ้าคณะภาค 1 จะปฏิเสธหรือรับสำนวนไม่สามารถ ทายใจได้ แต่ไม่ว่าเจ้าคณะภาค 1 จะให้คำตอบอย่างไร ก็จะไปรายงานต่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลางให้ทราบ นายไพบูลย์กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ไปชุมนุมกดดันพระเถระผู้ใหญ่ เนื่องจากไม่พอใจคำสั่งถอดถอนพระครูปทุมกิจโกศล ออกจากตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งว่า ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปกดดัน เพราะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีทำตามอำนาจ หน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าคณะผู้ปกครองที่ทำเพื่อให้กฎระเบียบมีประสิทธิภาพ
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กรณีมีคนร้ายงัดแงะห้องทำงานกรมการศาสนานั้นตนไม่อยาก ให้โยงไปถึงเรื่อง วัดพระธรรมกาย เพราะจะเป็นประเด็นขึ้นมาอีก ส่วนกรณีการพิจารณาตามกฎนิคหกรรมนั้น ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมการศาสนา ว่าได้ไปปรึกษาเจ้าคณะใหญ่หนกลางแล้ว ซึ่งท่านบอกว่าหากรวบรวมเอกสารเสนอ เจ้าคณะภาค 1 แล้วไม่รับก็ให้มายื่นกับท่านได้ อย่างไรก็ตามได้ให้ข้อสังเกตไปว่าน่าจะสอบถามเจ้าคณะภาค 1 ก่อนว่ากรณีไม่รับเรื่องเป็นเพราะอะไร หากมีเอกสารส่วนไหนที่ขาดตกบกพร่องก็ขอให้รับส่วนที่ครบไว้ก่อน อะไรที่ยังขาดก็เอาไปเพิ่มเติมใหม่ได้
ส่วนที่มีการระบุว่ากระทรวงศึกษาฯและกรมการศาสนาอยู่เบื้องหลังการปลดเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งนั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า คนที่ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างนั้นต้องเคารพในวิจารณญาณและเคารพในวุฒิภาวะ ของผู้พิจารณาชั้นต้นด้วย ไม่ใช่เอาบรรทัดฐาน ของตัวเองมาเป็นที่ตั้ง เคยไปยุแยงอย่างไรก็คิดว่าคนอื่นจะเป็นอย่างนั้น เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีมีวิจารณญานพอ และสิ่งที่ท่านดำเนินการก็ไม่ได้นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของท่าน
นายอำนวย สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาคณะกมธ.ศาสนา ศิลปและวัฒนธรรมกล่าวถึง การปลดเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งว่า คง ไม่มีผลกับการแก้ปัญหาวัดพระธรรมกาย ตราบใดที่ผู้ที่อยู่ในขบวนการตัดสินปัญหายังมีความขัดแย้งกันอยู่เรื่องนี้ก็ยังยืดเยื้ออยู่ดี เพราะ เจ้าคณะจังหวัดและเจ้าคณะอำเภอมีความเห็นอย่างหนึ่ง ในขณะที่เจ้าคณะภาคกลับมีความเห็นอีกอย่างหนึ่ง ดังนั้นต้องปรับปรุงทั้งระบบ โดยเฉพาะมหาเถรฯต้องมีเอกภาพ
นายอำนวยยังได้เสนอให้มีการตั้งคณะวินัยธรณ์เฉพาะกิจขึ้นมาสะสางกรณีธรรมกายโดยเฉพาะ เพราะการปล่อยให้พระผู้ปกครอง ดำเนินการกันเองเป็นการสร้างความหนักใจให้พระเหล่านั้น จึงน่าจะพิจารณาตั้งคณะวินัยธรณ์ขึ้นมาเพื่อเป็นทั้งพนักงานสอบสวน ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา โดยมีพระนักกฎหมายที่เชี่ยวชาญจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจนโดยเร็วว่า นายไชยบูลย์ผิดพระธรรมวินัยข้อไหน และหากพบว่าผิดจะปลดหรือให้สึกก็ให้รีบดำเนินการไม่จำเป็นต้องรอศาลทางโลก หากศาลทางสงฆ์วินิจฉัยได้ทางโลกก็จะยิ่งทำงานสะดวกขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอำนวยได้จัดพิมพ์หนังสือชื่อ"พุทธธรรมกู้ชาติ" แจกจ่ายให้ผู้ใกล้ชิดและผู้ที่สนใจ หนังสือดังกล่าวมีความหนา 68 หน้า เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นคติธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต
เวลา 15.30 น. พระมหาปัญญา ขันติธัมโม เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เสนอชื่อ พระสังฆาธิการ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง แทนพระครูปทุมกิจโกศล ต่อเจ้า คณะจังหวัดปทุมธานีแล้ว ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อบอกได้เพียงแค่ว่าเป็นพระสังฆาธิการที่มีความรู้และแม่นยำในด้านกฎมหาเถรฯ แต่จะขอเปิดเผยชื่อในวันที่ 17 พ.ย. และภารกิจเบื้องต้นที่เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งคนใหม่จะต้องกระทำ คือการสั่งพักตำแหน่งนายไชยบูลย์ตามกฎมหาเถรฯฉบับที่ 24 ข้อ 56 โดยได้มีการตกลงและทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว
ล่าสุดเจ้าคณะตำบล คลองหนึ่งคนใหม่ได้เตรียม ยกร่างหนังสือถอดถอนตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อส่งถึง นายไชยบูลย์แล้ว และทันทีที่หนังสือถอดถอนนี้ไปถึงนายไชยบูลย์ ก็จะเปิดเผยตัวเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ซึ่งคงจะเป็น 1-2 วันนี้
สำหรับการแต่งตั้งผู้จะมารักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายแทนนายไชยบูลย์นั้น ได้แนบในท้ายหนังสือ สั่งถอดถอนไปด้วยว่าให้ทางวัดพระธรรมกายระบุผู้ที่เหมาะสมเสนอขึ้นมาด้วย ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นต้องผ่านความเห็นชอบ ของรักษาการเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งและรักษาการ เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง คาดว่าทางวัดคงเสนอชื่อพระเผด็จ ซึ่งต้องมีการพิจารณาต่อไป และพระเผด็จนั้นก็ยังไม่ได้ต้องอธิกรณ์
ส่วนการที่พระชัยยะ จันทสโม อดีตพระเลขาเจ้าคณะตำบลไปชักชวนชาวบ้านมาคัดค้าน คำสั่งถือ ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เป็นการดูถูกคำสั่ง ผิดพ.ร.บ.สงฆ์ มีความผิดถึงขั้นต้องติดคุก ทางวัดพระธรรมกาย จะต้องดูแลในเรื่องนี้ด้วยในฐานะที่เป็นพระลูกวัด หากไม่ดูแลก็จะถูกดำเนินคดีในเรื่องนี้ด้วย
ต่อมาเวลา 16.30 น. ได้มีผู้นำชาวบ้านจำนวน 60 คนเดินทางไปที่วัดมูลจินดาราม เพื่อขอพบพระสุเมธาภรณ์เกี่ยวกับคำสั่งถอดถอน ตำแหน่งเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง โดยมีผู้หญิงอายุประมาณ 30 กว่าเป็นหัวหน้านำไป ผู้หญิงคนดังกล่าวปฏิเสธที่จะบอกชื่อเพียง แต่อ้างว่า จะมายื่นหนังสือต่อพระสุเมธาภรณ์ แต่ก็ไม่ได้พบเพราะติดศาสนกิจที่วัดเขียนเขต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.10 น. อธิบดีและรองอธิบดีกรมการศาสนาได้เดินทางไปนมัสการพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ที่วัดยานนาวา โดยใช้เวลาในการหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นนายไพบูลย์เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้เจ้าคณะภาค 1 รับทราบการดำเนินการกรณี วัดพระธรรมกายตามมติมหาเถรฯ ซึ่งเจ้าคณะภาค 1 ก็รับทราบและอธิบายเรื่องการไม่รับสำนวน คำกล่าวหาของเจ้าคณะจังหวัดปทุมฯว่า ยังทำไม่ถูกต้องตามกระบวนการนิคหกรรม แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าที่ไม่ถูกต้องนั้นคืออะไร บอกแต่ว่าได้แจ้งให้พระเลขาของเจ้าคณะจังหวัดปทุมฯทราบแล้ว
นายไพบูลย์กล่าวว่า เมื่อได้อธิบายว่าจะมีการดำเนินการให้ถูกต้อง แต่พระพรหมโมลีก็ยังไม่ยอมรับปาก ที่จะดำเนินิการตามขั้นตอน ต่อไปหรือไม่ อย่างไรก็ดีเรื่องนี้เห็นว่าเป็นเรื่องของมุมมองคนละมุม ซึ่งทางกรมการศาสนายืนยันว่ายังมีแนวทางจะแก้ไข ในเรื่องนี้อีกหลายทาง
มีรายงานล่าสุดแจ้งว่า เมื่อเวลา 16.00 น. สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงครามและเจ้าคณะใหญ่หนกลาง พร้อมด้วยพระสุเมธาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดมูลจินดารามและเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีได้เดินทางไปเพื่อร่วมศาสนกิจที่วัดดังกล่าว ปรากฎว่าพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดสว่างพบ และอดีตเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ได้เข้านมัสการเพื่อกราบเรียนข้อเท็จจริงต่างๆ โดยระบุว่าที่ผ่านมานั้นเป็นเพราะหลงเชื่อ คนของวัดพระธรรมกายที่ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ความจริง แล้วไม่เคยคิด ที่จะฝ่าฝืน อะไร แต่ ทางวัดพระธรรมกายระบุว่าอำนาจในการดำเนินการ เรื่องนี้เป็นของเจ้าคณะตำบลเพียงคนเดียวเท่านั้น เรื่องจึงได้ออกมาเช่นนี้ ขอประ ทานอภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่เข้าใจว่าที่ผ่านมาพยายามประกอบความดีตลอด แต่กลับต้องมารับกรรมเช่นนี้เพียงเพราะหลงเชื่อวัดพระธรรมกายเท่านั้น
รายงานแจ้งว่า หลังจากที่พระครูปทุมกิจโกศลกราบขอขมาสมเด็จพระมหาธีราจารย์ และพระสุเมธาภรณ์แล้ว ได้กล่าวว่าขอออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลโดยดี ซึ่งพระเถระทั้งสองบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้กลั่นแกล้งแต่อย่างใด นอกจากนี้ พระสุเมธาภรณ์ยังบอกด้วยว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาดูว่า พระมหาสุเมธ เจ้าอาวาสวัดบางขัน และเจ้าคณะตำบลคลองหก กับพระครูสิริพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดกลางคลองสาม และเจ้าคณะตำบลคลองสี่ ใครจะเหมาะสมกับเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งกว่ากัน