เดลินิวส์ 6/11/2542
ยึด2เล่ม'หนังสือ' ธรรมกาย
สันติบาลสั่งยึดหนังสือฉาว 2 เล่ม กระบอกเสียงธรรมกาย เป็นกระดาษเปื้อนหมึกที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย ต่อไปถ้าใครจำหน่ายมีโทษฐานขายสิ่งพิมพ์ต้องห้าม กองปราบสอบต่อหาหลักฐานวัดฉาว หลอกคนมาบวชอุบาสก- อุบาสิกาแก้ว ดูดเงินเข้าวัด งานเดียวรับเหนาะ 200 ล้าน "ไชยบูลย์"หายป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้ว เตรียมตัวออกงานใหญ่กฐินชีจันทร์
เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. ที่กองปราบปราม ได้มีการเรียกนางกนกวรรณ เลิศตระกูลพิทักษ์ อดีตศิษย์วัดพระธรรมกายมาให้ปากคำเรื่องการบวชอุบาสิกาแก้ว ซึ่งนางกนกวรรณยืนยันีการบวชจริง และพนักงานสอบสวน จะใช้เป็นข้อมูลสอบสวนเพิ่มว่ามีการกำหนดการบวชอุบาสิกาแก้วรม ถึงอุบาสกแล้วไว้ในพระธรรมวินัยหรือไม่ เพราะในพระธรรมวินัย พุทธศาสนิกชนเป็นอุบาสก อุบาสิกาอยู่แล้ว ไม่ต้องบวช และการบวชอย่างวัดพระธรรมกายจะถือเป็นการบวชชีปะขาว
ทีมงานสอบสวนยังจะรวบรวม หลักฐานอีกว่างานที่จัดขึ้นจะเป็นการฉ้อโกงประชาชน เพื่อหาเงินเข้าวัดอย่างเดียวหรือไม่ โดยพิธีบวชอุบาสิกาแล้ว จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7-8 สิงหาคม 2541 ผู้บวชต้องเสียค่าสมัครรายละ 100 บาท ค่าเครื่องแต่งกาย 800-900 บาท รวมกันเป็นเงิน 1,000 บาท/คน พิธีครั้งนั้นทางวัดแจ้งยอดผู้บวชถึง 2 แสนคน และยังมีการรับบริจาคเงินจากสาวกที่ร่วมงานอีก
นอกจากนั้นกองปราบปรามยังสอบปากคำสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องกรณีพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลอง 1 เคยให้สัมภาษณ์ว่าลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ไม่ใช่ของจริงอีกด้วย และที่ผ่านมาพฤติกรรมของ พระครูปทุมกิจโกศล ก็ปกป้องวัดพระธรรมกายและนายไชยบูลย์มาตลอดทั้งไม่ยอมปลดนายไชยบูลย์จากตำแหน่ง รวมถึงยังจะเสนอให้วัดพระธรรมกายเป็นรองเจ้าคณะตำบลอีก
ในวันเดียวกัน กองทะเบียบประวัติอาชญากร ส่งเอกสารผลการพิสูจน์ลายนิ้วมือของนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย มาให้ทีมงาน สอบสวน คดีธรรมกายแล้ว และผลการตรวจสอบลายนิ้วมือพบว่าบุคคล ที่เข้ามามอบตัวครั้งที่ 2 ซึ่งปิดปาก สวมหมวกไหมพรม ใ่แว่นดำ ร่างกายผ่ายผอมเป็นนายไชยบูลย์ตัวจริง
ด้านนายวิรศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายกล่าวถึงอาการป่วยของนายไชยบูลย์ว่า ไอนิดหน่อย คณะแพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพราะหากกลับวัดจะได้ไม่กระทบต่ออวัยวะภายในอีก โดยตาม กำหนดนายไชยบูลย์จะออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ เพื่อเตรียมตัวไปร่วมงานกฐินแม่ชีจันทร์ในวันที่ 7 พ.ย.
นอกจากนั้น ในฐานะแกนนำของวัดธรรมกายคนหนึ่ง อยากให้พนักงานสอบสวนคดีธรรมกายรวบรวมคดี ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ดำเนินการทีเดียว ไม่ใช่ขยักขย่อนแบบนี้ เพราะจะมองได้ว่ากลั่นแกล้ง ที่ฟ้องเป็นคดีมาแต่ละครั้งเหมือนเป็นการประโคมข่าว ยักยอกทรัพย์เป็นหมื่น ๆ ล้านบาท อยากให้เข้าสู่ กระบวนการศาลทีเดียวเลย ไม่ใช่เงิน 40 กว่าล้นก็มาฟ้องให้เสียเวลา เหมือนกับไม่ให้ความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในเย็นวันเดียวกันนี้ นายไชยบูลย์ออกจากโรงพยาบาลและกลับไปวัดพระธรรมกายแล้ว
รายงานข่าวจากตำรวจสันติบาลเปิดเผยว่า หลังจากการประชุมร่วมกัน ระหว่างกองวิชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจสันติบาล 2 ต่งเห็นว่าหนังสือ"เปิดโปงขบวนการล้มพุทธ" และ"พุทธศาสนาชะตาของชาติ" ที่มีคนใช้นาม ปากกาว่าดร.เบญจ์ บาระกุล เป็นผู้เขียน เป็นสิ่งที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ตำรวจสันติบาล มีอำนาจในการตรวจยึดหนังสือดังกล่าว เจอที่ไหนก็ยึดได้ทันที ซึ่งได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจยึดตามแผงหนังสือต่าง ๆ
อย่างไรก็ตามเนื่องจาก จำนวนตำรวจมีน้อย จึงตรวจสอบไม่ทั่วถึง เฉพาะแค่แผงหนังสือในกรุงเทพฯปริมณฑลมีนับ 100 แห่ง ทำให้ต้องขอความร่วมมือบรรดาเจ้าของแผงหนังสือไม่ให้รับหนังสือดังกล่าวมาจำหน่าย เพราะหาคำสั่งตรวจยึดได้ลงบันทึกในราชกิจจานุเบกศาแล้ว จะถือว่าประชาชนทั่วไปรับทราบแล้ว หากผู้ใดนำหนังสือดังกล่วจะมีโทษฐานแจกจ่ายเอกสารและสิ่งพิมพ์ต้องห้าม
สำหรับตัวดร.เบญจ์ จากการสอบสวนหาหลักฐานก็พบว่าไม่มีตัวตนอยู่จริง และเป็นนามปากกาของคณะบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย โดยได้เป็นกระบอกเสียงสำคัญของวัดพระธรรมกาย ในการโจมตี บุคคลที่ออกมาให้ควมจริงกับสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาการสอบสวนของวัดพระธรรมกาย ที่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฏก และการสูบบุญของวัด โดยเฉพาะได้โจมตีพระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตโต) ปราชญ์สำคัญทางศาสนา จนในที่สุดนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีสั่งการให้มีการตรวจสอบหนังสือดังกล่าว