เดลินิวส์ 3/11/2542
กองปราบเร่งจัดการธรรมกาย
กองปราบฯเร่งรวบรวม ยอดรายได้ธรรมกาย"ดูดบุญ"เสนออัยการ ตะลึงเงินสดๆ ไหลเข้าวัด 3 หมื่นล้าน 5 โครงการ ส่อเค้าโดนข้อหาฉ้อโกงเพิ่มทั้งการสร้างพระดูดทรัพย์ บูชาข้าวพระ ลานกัลปพฤกษ์ สอบ กรรมาธิการศาสนาฯ เพิ่มประเด็นทีมงานถูกข่มขู่ อาจถึงขั้นเสนอถอนประกันถอดจีวร "ไชยบูลย์" กรมการศาสนา บุกพบพระพรหม โมลีสางปัญหากฎนิคหกรรมชัดเจนแล้ว 10 พ.ย. เจ้าคณะปทุมฯ เรียกพระปลอมมาจัดการได้
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. เวลา 10.00 น. ตัวแทนกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม เดินทางมาให้ปากคำ พนักงาน สอบสวนคดีวัดพระธรรมกายที่กองปราบปราม ตามที่เคยทำหนังสือร้องเรียน พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง. ก.ตร. ในฐานะ หัวหน้าทีมสอบสวนกรณีถูกข่มขู่ทางโทรศัพท์ตามที่พนักงานอัยการ ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ในประเด็นนี้ ซึ่งหาก อัยการวินิจฉัย เป็นการข่มขู่พยาน ก็อาจมีผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับการประกันตัวของนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และจะถูกจับถอดผ้าเหลือง โดยพนักงานสอบสวนติดต่อไปยังคณะทำงานของกรรมาธิการฯ รายอื่น ๆ ที่ถูกข่มขู่เช่นกันเพื่อขอมาให้ปากคำต่อไป
นอกจากการข่มขู่พยานแล้วพนักงานสอบสวนยังจะต้องส่งข้อมูลเอกสาร หนังสือมอบ อำนาจในการจัดซื้อที่ดินที่ จ.ชลบุรี เพื่อพิสูจน์ลายมือเปรียบเทียบของผูต้องหาทั้ง 2 คนคือนายมัยฤทธิ์ ปิตวนิค และ นายเทิดชาติ ศรีนพรัตน์ รวมถึงเรื่องเช็คเงินสดยืนยันการจ่ายเงินของวัด การขอบัญชีของวัดทุกธนาคาร และให้สอบปาก คำเจ้าหน้าที่ธนาคารเพิ่มเติม คงไม่ทันกำหนดที่อัยการจะเรียกนายมัยฤทธิ์และนายเทิดชาติ มาฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องในวันที่ 3 พ.ย.
ข้อมูลทางการเงินอื่น ๆ ที่สำคัญคือพนักงานสอบสวนต้องส่งข้อมูลเกี่ยวกับประมาณการรายได้ ของวัดพระธรรมกายที่มียอดไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาทให้อัยการด้วย โดยเป็นข้อมูลตั้งแต่ปี 2535 ถึงปัจจุบัน และยังไม่รวมรายได้จากการประเมินราคา ที่ดิน,ทุนจดทะเบียนหุ้นและเงินทุนหมุนเวียน ในกิจการต่าง ๆ และรายได้จากสาขาวัดในต่างประเทศ
รายได้หลักของวัดจะมาจากโครงการมหาธรรมกายเจดีย์รวม 20,183 ล้านบาทและรายได้อื่นที่เกี่ยวเนื่อง 1,400 ล้านบาท รองลงมาเป็นโครง การจัดสรรที่ดิน 2,300 ล้านบาท, โครงการต้นกัลปพฤกษ์ 400 ล้านบาท, โครงการ ปัญญาทานบารมี 100 ล้านบาท, ยอดขายเครื่องใช้ในพิธีสำคัญ 950 ล้านบาท, งานบุญประจำปีของวัด 1,400 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่เข้าข่ายฉ้อโกงประกอบมี 5 โครงการประกอบด้วยการผลิตพระมหาสิริราชธาตุ หรือพระดูดทรัพย์,การทำบุญ บูชาขาวพระ, โครงการธุดงคสถาน, โครงการลานกัลปพฤกษ์ และโครงการหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อสด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 7 พ.ย. นี้ วัดพระธรรมกายจะจัดทอดกฐินประจำปี และจะใช้แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง เป็นจุดดูดคน โดยเรียกว่า"กฐินชีจันทร์" และได้มีการส่งผู้นำบุญไปชัก ชวนพระเณรในต่างจังหวัด เชิญชวนให้มางานกฐินที่ธรรมกาย ซึ่งจะมีรถรับส่งและจะให้กฐินวัดละ 10,000 บาท ด้วย
ในวันเดียวกัน นายเรืองฤทธิ์ เบ้านุวงศ์ หัวหน้าฝ่ายสังฆการ กรมการศาสนา กล่าวภายหลัง การเดินทางเข้าพบพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ว่า ได้สอบถาม พระพรหมโมลีกรณี กรมการศาสนา ส่งมติมหาเถรสมาคม (มส.) เกี่ยวกับการดำเนินการ ตามกฎนิคหกรรม ที่ให้ฆราวาสฟ้องร้องสงฆ์ได้ และเป็นผลให้พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเรียกตัวนายไชยบูลย์ กับพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายมาดำเนินการตามกฎนิคหกรรมทันที ซึ่งพระพรหมโมลี บอกว่าได้สั่งการให้พระสุเมธาภรณ์ ดำเนินการตามมติมหาเถรฯ แต่ขอให้เคร่งครัด ดูราย ละเอียดเรื่อง กฎมติให้ถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีกจนเสียหายกับคณะสงฆ์ และวันที่กำหนดไว้คือ 10 พ.ย. คงไม่มีปัญหาอะไร
นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการเปิดเผยว่าจะไปกราบนมัสการเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ก่อนวันที่ 10 พ.ย. เพื่อสอบถามกรณีมีข่าวจะผ่อนผันให้นายไชยบูลย์เลื่อนนัดได้ 2 ครั้ง และหากไม่มาครั้งที่ 3 ถึงจะจัดการ
นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวภายหลังการเข้าพบนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการ ว่า กรมให้เจ้า หน้าที่ไปพบเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีและเจ้าคณะภาค 1 เพื่อประสานงานและ ถวายคำแนะนำเกี่ยวกับมติมหาเถรฯ และแจ้งผ่าน ไปยังเจ้าหน้าที่ ว่ากรมอยากให้กระบวนการ ขั้นตอนดำเนินการไปโดยไม่สะดุดเพื่อดูแลพระพุทธ ศาสนาให้เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน
นอกจากนั้นยังขอทราบข้อมูลจากเจ้าคณะภาค 1 ที่มีข่าวให้ชะลอเรื่องเพราะรอมติมหาเถรฯ และได้ทำ ความเข้าใจกันแล้วมติมหาเถรฯนั้นถูกต้อง มีผลทันทีดำเนินการได้โดยไม่ต้องรับรองรายงานการประชุม ซึ่งนายสมศักดิ์กำชับให้ดูแลเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ให้กระบวนการสอบสวนของสงฆ์ดำเนินการตามขั้นตอนและให้ทุกฝ่าย ให้ความร่วมมือสร้างความเชื่อมั่นในระบบการปกครองสงฆ์
ส่วนที่มีข่าวเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ลำบากใจในการดำเนินการ ตามกระบวนการสงฆ์เพราะมีการแทรกแซง การทำงาน นายไพบูลย์กล่าวว่าทุกขั้นตอนกำหนดบทบาทหน้าที่ไว้ชัด เจน หากดำเนินการอย่างมีเหตุผล ยึดประโยชน์และ การดำรงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนาก็ไม่น่าจะมีปัญหา แม้จะให้อยู่กับดุลพินิจแต่มีกรอบกำหนดไว้ รวมทั้งเรื่องเวลาถึงไม่ได้กำหนดชัดแต่ผู้พิจารณารา ย่อมกำหนดได้ตามสมควรเพื่อให้เกิดความชัดเจน
สำหรับการพักตำแหน่งนายไชยบูลย์กรมการศาสนาประสานงานไปยังเจ้าพนักงานสอบ สวนหากได้ข้อมูลเพิ่มเติมจะเสนอเจ้าคณะตำบลคลอง 1 เพื่อให้พิจารณาใคร่ครวญให้ดี
ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่ากระทรวงประสานงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอกำลังอารักขาในวันที่ 10 พ.ย. และหากไม่มา โดยไม่มีเหตุผลจะใช้กระบวนการทางสงฆ์จัดการได้เลย และคิดว่าคงมาเพราะยังสามารถไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนได้ และการมารับทราบข้อกล่าวหาก็จะเป็นผลดีต่อตัวเอง
นายพันธ์ สุริยพร รองอัยการสูงสุด ผู้ดูแลคดีธรรมกายเปิดเผยว่า อัยการยังไม่ได้รับผลสอบเพิ่มเติมจาก พนักงาน สอบสวนกรณีการสั่งคดี 2 คนสนิทนายไชยบูลย์คือนายเทิดชาติ ศรีนพรัตน์ และนายมัยฤทธิ์ ปิตวนิค ที่ถูกฟ้อง คดีปลอมแปลงเอกสาร และสนับสนุน ให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการกว้านซื้อที่ดินและใส่ชื่อนายไชยบูลย์ จึงไม่สามารถพิจารณาสั่งคดีได้ทันวันที่ 3 พ.ย. และคงต้องกำหนดวันอีกครั้ง ส่วนการขออายัดทรัพย์ นายไชยบูลย์ยังไม่ยุติ เนื่องจากเป็นเรื่องไม่เคยปรากฏมาก่อน ต้องดูข้อกฎหมายให้รอบคอบ.