เดลินิวส์ 27/10/2542
'พระครูปทุม'ไม่รอดคดีหมิ่นพระสังฆราช
ไชยบูลย์"เจ้าปัญหาส่งสมุนติดต่อพนักงานสอบสวนขอย้ายสถานที่มอบตัว อ้างเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ขณะที่พนักงานสอบสวนค้านเต็มที่ หวั่นข้อครหาให้อภิสิทธิ์ผู้ต้องหา เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเผย "พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ"ขอข้อมูล กรณี"พระครูปทุมกิจโกศล"หมิ่นพระสังฆราช วิจารณ์พระลิขิตเป็นของปลอม พยานทุกปากมัดแน่น ยืนยันต้นเดือนเรียกมาทราบข้อกล่าวหาตามกฎนิคหกรรมแน่ ตอนนี้ขอเงียบกลัวธรรมกายรู้ไต๋
ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางญานิศา นันทกิจโยธิน 1 ใน 42 ฆราวาสที่ได้รับเช็คเงินสดจากวัดพระธรรมกายเป็นจำนวน 1,000,000 บาทได้เข้าให้ปากคำแก่พนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกายโดยปฏิเสธว่า ไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของเช็คเงินสดที่สั่งจ่ายโดยวัดพระธรรมกาย โดยน้องสาวได้ขอยืมเลขที่บัญชีเงินฝากเพื่อจะใช้โอนเงินเข้ามาจำนวนดังกล่าวในปี 2538 เมื่อโอนเข้ามาแล้วก็ได้มีการโอนต่อไปเข้าบัญชีของน้องสาวทันที โดยน้องสาวนั้นประกอบธุรกิจส่วนตัว เป็นผู้ที่มีความศรัทธาวัดพระธรรมกายและนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายเป็นอย่างมาก และเข้าปฏิบัติธรรมในวัดแห่งนี้มาเป็นเวลานานพอสมควร แต่ครอบครัวไม่มีใครชอบ แถมยังเกลียดวัดนี้ด้วยซ้ำ
ด้านนายสนธยา โพธิแดง ทนายความของนายไชยบูลย์ซึ่งได้เดินทางมาหารือเกี่ยวกับการเข้ามอบตัวของ 4 ผู้ต้องหาตามหมายจับ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเปิดเผยว่า จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนคือนายไชยบูลย์ นายถาวร พีหมถาวร น.ส.อมรรัตน์ สุวิพัฒน์และนายมัยฤทธิ์ ปิตวณิชมามอบให้แก่พนักงานสอบสวนในวันที่ 28 ต.ค.นี้แน่นอนเวลา 14.00 น. ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้นคงต้องมีการหารือกันอีกครั้ง แต่อยากให้ใกล้วัดพระธรรมกาย
มีรายงานข่าวจากกองปราบปรามแจ้งว่า เจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกายได้ประสานมายังพนักงานสอบสวน เพื่อขอเปลี่ยนแปลงสถานที่มอบตัวของ 4 ผู้ต้องหา โดยจะมีการเจรจาหารือกันในัวนีท่ 27 ต.ค. ซึ่งพล.ต.ท. วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกายจะเป็นผู้หารือเอง แต่พนักงานสอบสวน ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเนื่องจากสำนวนคดีดังกล่าวนี้มีจำนวนมาก และหวั่นว่าจะเกิดข้อครหาให้อภิสทธิ์แก่ผู้ต้องหาได้ ส่วนความคืบหน้าในการนำพ.ร.บ.เรี่ยไร มาดำเนินการกับวัดพระธรรมกายนั้น ล่าสุดพนักงานสอบสวน ไดสงเื่งให้พล.ต.ท.วาสนาเพื่อโอนเรื่องให้แก่พล.ต.ท.อนันต์ ภิรมย์แก้ว ผบช.ภ.1 เจ้าของพื้นที่ไปดำเนินการต่อ เนื่องจากที่ผ่านมานั้นไม่ได้มีการขออนุญาตคณะกรรมการเรี่ยไร และในทางสงฆ์ก็เป็นการขัดมติมหาเถรสมาคมด้วย ซึ่งมีโทษถึงขั้นขับออกจากวัดทันที
ที่วัดมูลจินดาราม ปทุมธานี ในวันเดียวกันพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเปิดเผยว่า ในวันที่ 27 ต.ค.นี้พล.ต.ท.วาสนา จะมาเข้าพบเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ในกรณีของวัดพระธรรมกาย ที่มีปัญหาอยู่ในเวลานี้ รวมทั้งกรณีที่พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งกล่าวพาดพิงถึงพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชว่า เป็นพระลิขิตปลอม ซึ่งได้สอบพยานบุคคลไปหลายปากแล้ว ให้การพ้องกันว่าพระครูปทุมกิจโกศลกล่าวเช่นที่ว่านี้จริง โดยนัดหมายว่าจะมาพบด้วยตนเอง
พระสุเมธาภรณ์กล่าวว่า เวลานี้เรื่องของวัดพระธรรมกายยังคงดำเนินไปอยู่ไม่มีการหยุด และทางคณะสงฆ์ผู้พิจารณาชั้นต้นเองก็ได้พยายาม ที่จะเก็บข้อมูลมารวบรวมเอาไว้เพื่อใช้พิจารณาในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะเรียกตัวนายไชยบูลย์มารับฟังข้อกล่าวหาได้ในต้นเดือนหน้านี้แน่นอน แต่เวลานี้ไม่อยากที่จะวิจารณ์มากเพราะจะทำให้ทางวัดพระธรรมกายตั้งรับทัน เนื่องจากข้อมูลทุกอย่างที่พูดหรือกล่าวออกไปนั้นทางวัดพระธรรมกายทราบหมดทุกเรื่อง และได้มีการตั้งรับจึงทำให้เรื่องราวต่างๆเวลาดำเนินการติดขัด แต่ทุกอย่างที่ทำเวลานี้ รับรองว่าต้องอยู่ในพื้นฐานของความจริงที่ปรากฏขึ้นทุกอย่างรวมถึงข้อกล่าวหาของนายสมพร เทพสิทธา ประธานยุวพุทธกสมาคมแห่งชาติและนายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กรมการศาสนา เวลานี้กำลังพิจารณาอยู่แล้ว และทุกเรื่องชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ด้านนายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ขณะนี้กำลัง อยู่ระหว่าง การประสานกับพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีว่า จะใหนายไชยบูลย์และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายมารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อใด ทางกรมศาสนาจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยดูแลในเรื่องต่างๆ ซึ่งหากดำเนินการได้เร็วก็จะเป็นการดี และเมื่อ เข้าสู่ขบวนการ ตามกฏนิคหกรรมแล้วทางกรมศาสนา จะประสานกับทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการสั่งพักตำแหน่งของนายไชยบูลย์ต่อไปด้วย