เดลินิวส์ 21/10/2542

ร้องปลด พระ"ลูกพี่" ไชยบูลย์ออกจาก กก.สอบ

ไชยบูลย์" จ๋อยเจอข้อหาเพิ่ม กองปราบฯขอหมายจับ พร้อมสาวกอีก 3 วันนี้ ฐานยักยอกเงินวัดไปซื้อที่ดินเพชรบูรณ์ ร้องปลด"พระพรหมโมลี"ออกจากระบวนการสอบสวนเจ้าสำนักฉาว หวั่นอุ้มกันอีก หลังมหาเถรฯมีมติชัดฆราวาสฟ้องร้องตามกฎนิคหกรรมได้ "สมศักดิ์"ประกาศสังคมจะขับไล่ถ้ายังพลิ้ว กระเตงไปเรื่อยฝืนความรู้สึกชาวบ้าน รองอธิการฯมหาจุฬาฯให้ตั้งคณะวินัยธรณ์พิจารณาความผิดแทน ทำพุทธศาสนาให้ขาวสะอาด สภาทนายความชี้ช่อง "สมพร-มาณพ" ฟ้องเล่นงานเถระอุ้มพระปลอมได้ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ อัยการนัดตัดสินชี้ขาดยึดทรัพย์ธรรมกาย

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมาวินิจฉัยฆราวาสสามารถฟ้องร้องตามกฎนิคหกรรมได้ ทำให้ต้องรื้อฟื้นคำฟ้องร้องกล่าวโทษนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายต้องรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ โดยพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ต้องรับข้อกล่าวหาของนายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษกรมการศาสนา กับของนายสมพร เทพสิทธา ประธานยุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ จากนั้นต้องเรียกนายไชยบูลย์ รวมถึงพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสมารับทราบข้อกล่าวหา และหากไม่มาคงแย่กว่าเดิมเพราะเท่ากับยอมรับข้อกล่าวหานั้น เจ้าคณะจังหวัดสามารถตัดสินใจดำเนินการต่อไปได้

"ถือเป็นข่าวดี เป็นไปตามที่ผมเชื่อมั่นตลอดว่าชาวบ้านฟ้องร้องได้ เพราะกฎหมายสงฆ์เขียนโดยผู้เชี่ยว ชาญกฎหมายแพ่ง มีรายละเอียดมากแต่ต้องยึดหลักการฆราวาสฟ้องได้ และเหมือนกับคำที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานวุฒิสภาที่เข้าประชุมมส.ครั้งล่าสุดด้วยว่าไว้คือกฎนิคหกรรมไม่ได้ต้องการให้ใครเข้าคุก แต่ดำเนินไปเพื่อให้เกิดความขาวสะอาดในศาสนา"

ในวันเดียวกันนายวิชัยเดินทางไปวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อบรรยายให้เจ้าคณะการศึกษาปริยัติบาลีทั่วประเทศ 350 รูปฟัง โดยนายวิชัยยืนยันว่ากระทรวงไม่ใช่ผู้ยกร่างพ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนา เป็นเรื่องของส.ส.ที่เสนอมา และร่างดังกล่าวยังไม่จำเป็น ขณะนี้กระทรวงฯปรับปรุงกรมการศาสนาให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน และกระทรวงฯจะเปลี่ยนเป็นกระทรวงการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมด้วย

นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนาเปิดเผยว่า กรมจะนำมติมหาเถรฯเรื่องดังกล่าวไปมอบให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีในฐานะผู้พิจารณา พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 และสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ในฐานะผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาสั่งการตามสายการปกครอง ให้ทำตามมติมหาเถรฯต่อไป ส่วนกรณีพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสซึ่งรักษาการณ์เจ้าอาวาสธรรมกายอยู่จะกระทบต่อตำแหน่งหรือไม่ ขึ้นกับสำนวนและคำกล่าวหา ผู้พิจารณาต้องดูเรื่องนี้ด้วย

นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่าที่ผ่านมาเจ้าคณะจังหวัดปทุม ธานี รับข้อกล่าวหาที่ฟ้องร้องนายไชยบูลย์ไว้แล้ว และเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 6 ส.ค. แต่ก็ไม่มาตามวันเวลาดังกล่าว โดยอ้างว่าฆราวาสฟ้องไม่ได้ ต่อมาพระพรหมโมลีก็วินิจฉัยเหมือนกับที่วัดพระธรรมกายอ้าง จนวันที่ 16 ส.ค.มหาเถรฯมีมติว่าฆราวาสฟ้องได้ แต่ยังคาราคาซังจนมาถึงวันที่ 19 ต.ค.ถึงมีมติแน่ชัดให้ดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องมีมติใด ๆ ออกมาอีก

ดังนั้นเรื่องทั้งหมดต้องไปที่เจ้าคณะจังหวัด หากยอมรับข้อกล่าวหาก็ตัดสินได้ แต่ไม่ยอมรับ ก็ต้องรวบรวมเรื่องเสนอพระพรหมโมลีในฐานะหัวหน้าคณะผู้พิจารณาชั้นต้น ซึ่งต้องไต่สวนว่ามีมูลหรือไม่ หากมีมูลต้องสืบพยานฝ่ายโจทก์และจำเลย หมายถึงเข้ากระบวนการนิคหกรรมแล้ว และนายไชยบูลย์ต้องอธิกรณ์แล้ว ผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดสามารถสั่งปลดได้

ปัจจุบันนายไชยบูลย์ลาพักจากตำแหน่ง ทำให้พระเผด็จขึ้นมารักษาการณ์เจ้าอาวาสแทน แต่ถ้าเข้าสู่กระบวนการต้องอธิกรณ์ต้องพิจารณาใหม่ว่าใครจะมาเป็นเจ้าอาวาส

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการกล่าวว่า ต่อไปนี้การดำเนินการจะเป็นรูปธรรมชัดเจน ผิดกับครั้งก่อนๆที่บิดพลิ้วอ้างโน่นอ้างนี่กันมาตลอด แต่เมื่อชัดเจนแล้วก็จะเร่งอธิบดีกรมการศาสนาดำเนินการ และสังคมจะมีส่วนติดตามทำให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว และถ้ายังอยู่ในตำแหน่งยืนยันจะติดตามอย่างใกล้ชิดเช่นกัน

"ถึงตอนนี้สังคมไม่ให้โอกาสแล้ว ขนาดนักกฎหมายคนสำคัญของประเทศมาชี้ และมติมหาเถรฯล่าสุดนี้อีก ถ้ายังไม่เคารพกติกาอีก ถือว่าเขาอยู่ในสังคมรวมกับคนอื่นตอ่ไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสังคมพระ สังคมชาวบ้านต้องมีกรอบวางไว้"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมมหาเถรฯครั้งที่ผ่านมา ได้มีการวินิจฉัยในประเด็นกฎนิคหกรรมเนื่อง จากพระพรหมโมลีไปวินิจฉัยว่าชาวบ้านฟ้องไม่ได้ แต่นายมีชัยในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายพยายามชี้แจง เกี่ยวกับหลักการกฎหมายที่ให้สิทธิฆราวาสฟ้องได้ ซึ่งตัองใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง เพราะได้มีการโต้แย้งเป็นระยะๆ จากพระเถระ 2 รูปที่เกื้อกูลอุปถัมภ์วัดพระธรรมกายมาตลอด โดยยืนยันให้ตรวจสอบถ้อยคำตามกฎมหาเถรฯที่ชาวบ้านฟ้องไม่ได้ สุดท้ายได้มีการลงมติเห็นชอบตามที่นายมีชัยเสนอยกเว้นพระ 2 รูปนี้ไม่เห็นด้วย

หลังจากเรื่องดังกล่าวเผยแพร่ออกมา ได้มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของพระพรหมโมลี ที่ไม่เหมาะสม และไปตีความกฎหมายเหมือนกับที่วัดพระธรรมกายอ้างว่าชาวบ้านฟ้องไม่ได้

นายวันชัย สอนศิริ เลขาธิการสภาทนายความ ในฐานะกรรมการแก้ไขกฎนิคหกรรม เปิดเผยว่า เรื่องนี้ถ้ามีการใช้กฎอย่างตรงไปตรงมาก็ไม่ต้องตีความซ้ำซากเช่นี้ ที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือกันจึงทำให้กฎหมายผิดเพี้ยนไป คือเห็นแก่หน้ากัน ภาษาพระเรียก"มุโขโลกนะ"

นอกจากนั้นผู้เสียหายจากกรณีนี้คือ นายสมพรกับนายมาณพสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องได้ ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการดำเนินการตามกฎนิหคกรรมจะมีพระรูปเดิมๆ เข้ามาพิจารณาคดีที่อาจใกล้ชิดกับวัดพระธรรมกายอีก ซึ่งสามารถแก้ไขโดยให้พระวินัยธรณ์มาเป็นผู้ดูแลกฎนิคหกรรมแทนคณะผู้พิจารณาชั้นต้น เพื่อขจัดปัญหาการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

พระศรีปริยัติโมลี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยกล่าวว่า เรื่องนี้ถ้ายึดตามเจตนาของพระธรรมวินัยก็มีความชัดเจนอยู่แล้ว กฎมหาเถรฯเหมือนกับกฎหมายลูกที่ออกมา แต่กลับมีการตีความผิดเพี้ยนและจะทำให้ความเชื่อถือของพระลดน้อยลง ประชาชนมองว่าองค์กรสูงสุดไม่รักษาพระศาสนา แต่รักษาพรรคพวกเดียวกันมีผลกระทบไปทั่วสังฆมณฑล

"การให้พระผู้บริหารทำหน้าที่พิจารณาความผิดด้วยก็เป็นเรื่องปกติที่จะช่วยเหลือกัน เพราะความรักใคร่ ทำให้ลูบหน้าปะจมูก ไม่ยุติธรรม หากไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก ต้องตั้งคณะวินัยธรหรือศาลสงฆ์เฉพาะขึ้นมาตัดสินคดีความอย่างทรงคุณธรรม"

ส่วนที่วัดมูลจินดาราม ปทุมธานี ในวันเดียวกันพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากกรมการศาสนาว่าจะนำผลการวินิจฉัยของมหาเถรฯมาแจ้งให้ทราบ แต่ต่อมาก็ได้รับแจ้งว่าขอเลื่อนเป็นวันพฤหัสบดีที่ 21 ต.ค. ส่วนการกำหนดวันรับทราบข้อกล่าวหาของนายไชยบูลย์และพระทัตตชีโวนั้นขณะนี้ยังไม่ได้กำหนด และจะต้องปรึกษาหารือกันอย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกรมการศาสนา จากนั้นก็จะมีการกำหนดวันรับทราบข้อกล่าวหา วึ่งก็ไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด คิดว่าไม่น่าจะใช้เวลามากนัก

พ.ต.ท.ณัฐพล ศุกระศร รองผกก.สส.สภ.อ.ธัญบุรีเปิดเผยว่า ในส่วนของการรักษาความสงบนั้นตำรวจพร้อมอยู่แล้ว โดยเฉพาะวันที่จะมารับทราบข้อกล่าวหา แม้ว่าจะมีผู้คนมากแต่ก็จะใช้แผนเดิมที่เตรียมการไว้ตั้งแต่ครั้งที่แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีจะนัดให้มารับทราบข้อกล่าวหาวันไหนเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในวันพฤหัสบดีที่ 21 ต.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น.คณะกรรมาธิการการศาสนาฯจะจัดเสวนาเรื่อง "การอวดอุตริมนุสธรรมและอิทธิปาฎิหารย์ ทำลายพระพุทธศาสนาอย่างไร" โดยมีการถ่ายทอดสดทางวิทยุกระจายเสียงเอเอ็มคลื่น 891 และ 1143 กิโลเฮิร์ตซ์

นอกจากนั้นในวันดังกล่าวคณะกรรมการอัยการสูงสุด(ก.อ.) จะประชุมหารือกันเกี่ยวกับคดีวัดพระธรรมกายทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอายัดบัญชีของวัดพระธรรมกายทั้ง 55 บัญชี และเรื่องอื่นๆที่กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการและพนักงานสอบสวนร้องขอมา โดยในการประชุมพนักงานสอบสวนได้จัดเตรียมข้อมูลหลักฐานที่อัยการขอเพิ่มเติมมาไปส่งมอบให้ด้วย ขณะนี้เอกสารทุกอย่างสมบูรณ์และมีการตรวจสอบหมดแล้วประกอบไปด้วย หลักฐานเอกสารแสดงฐานะการเงินของวัดพระธรรมกายและบัญชีของนายไชยบูลย์ ที่ฝากไว้กับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ต่างๆ ทั้งที่ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่และที่ปิดกิจการไปแล้วด้วย

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ เวลา10.00 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก. 1 ป. จะเดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าสำนักธรรมกาย นายถาวร พรหมถาวร นายมัยฤทธิ์ ปิตวณิช และน.ส.อมรรัตน์ สุวิพัฒน์ ในข้อหายักยอกทรัพย์ โดยนำเงินของวัดพระธรรมกายไปซื้อที่ดินที่ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 700 ไร่