เดลินิวส์ 11/10/2542
ไชยบูลย์หนีจากรพ. ทั้งที่ยังนอนป่วยอยู่ อ้างมาร่วม'งานบุญ'
ฉลอง 115 ปีหลวงพ่อสดไม่กล้าใช้ สถานที่บริเวณ"มหาธรรมกายเจดีย์"ขยาดฟ้าผ่า อ้างเก็บสถานที่ไว้ใช้วาน"มาฆบูชา" หน.สนง.มูลนิธิธรรมกายเผย"ไชยบูลย์" แอบหนีจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังป่วย อ้อนห่วงงาน บุญใหญ่กับญาติโยมที่มาร่วม เปิดทีวี วงจรปิดจวกคณะแพทย์ ร.พ.ตำรวจรังแกคนป่วย ยังดีที่เจ้าลัทธิเข้มแข็งจึงยอมไปศาล 5 ทหารสถาบันวิชาการทหารบก ชั้นสูง ตั้งเต๊นท์ขายหนังสือ ระบุเพื่อเป็นการป้องกันสถาบันหลักจำเป็นต้องทำ ยอมรับถูกตั้งกรรมการสอบแล้ว
ที่วัดพระธรรมกาย ต.คลองหลวง ปทุมธานี เมื่อเวลา 8.00 น. วันที่ 10 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรร ยากาศภายในวัด ซึ่งมีการจัดงานใหญ่ฉลอง 100 ปี หลวงพ่อสดว่า บิเวณลานจอดรถของวัดนั้นปรากฎว่ามีรถโดยสารจำนวนกว่า 300 คัน และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอีกกว่า 1,000 คัน นำญาติโยมและผู้ปฏิบัติธรรมมาร่วมงาน ทำให้บริเวณนั้นเนืองแน่นและเล็กลงไปถนัดใจ โดยคาดว่ามีผู้เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 30,000 คน นอกจากนี้ยังมีพระภิกษุสามเณรอีกกว่า 10,000 รูปจากวัดต่างๆทั่วประเทศ มาร่วมงานรับผ้าป่าของทางวัดพระธรรมกายด้วย
ในบริเวณงานนั้นเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกายได้นำเต๊นท์มาตั้งเป็นแนวยาวประกอบด้วย จุดลงทะเบียนเฉพาะวัดที่มีฎีกาอาราธนา เอกสารไม่เรียบร้อย เจ้าคณะสังฆาธิการ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะจังหวัด เต๊นท์ชมรมชาวพุทธ 3 เหล่าทัพ โดปรากฎว่าได้มีนายทหารซึ่งอ้างว่ามาจากสถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง นำโดยพ.อ.บรรจง ไชยลังกา พร้อมด้วยทหารอีก 5 นายนำหนังสือ เปิดโปงขบวนการล้มพุทธและหนังสือพระพุทธศาสนาชะตาของชาติที่เขียนโดย ดร.เบญจ์ บาระกุล ออกมาวางจำหน่าย โดยในครั้งนี้ปรากฎว่าไม่มีใครแต่งเครื่องแบบเหมือนเช่นที่ผ่านมาเลย
ทหารรายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ทหารมีหน้าที่ปกป้องชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ นอกเหนือจากการหน้าที่เป็นรั้วของชาติแล้ว ซึ่งขณะนี้ชาติกำลังตกอยู่ในภาวะถูกกลืนโดยคนต่างชาติต่างศาสนา หากธรรมกายยังคงอยู่ต่อไปจะไม่มีฝ่ายใดต่อต้าน ประเทศชาติก็จะไม่ล่มสลายเช่นปัจจุบัน และตามที่ได้ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนา โดยอาสัยวัดพระธรรมกายเป็นสถานที่ดำเนินการ ก็ถูกผู้บังคับบัญชาตั้งกรรมการสอบสวนจึงไม่กล้าแต่งเครื่องแบบเต็มยศอย่างเช่นที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 9.30 น. นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย พร้อมด้วยพระเผด็จ ทัตตชีโว ที่ได้รับโปรโมทจากนายไชยบูลย์ให้ขึ้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ออกมาเป็นประธานที่สภาธรรมกายสากลซึ่งเป็นที่ประกอบพิธีกรรม โดยนายไชยบูลย์ซึ่งคาดผ้าขาวปิดบริเวณปากและจมูก อ้างว่าเพื่อกันติดเชื้อได้กล่าวกับผู้มาปฏิบัติธรรมว่า ไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก เพราะร่างกายไม่ปกติโรคเบาหวานกำเริบและก็เป็นภูมิแพ้ แพ้อากาศเสียงก็แหบแห้งไม่มีเสียงจะมาพูดให้ญาติโยมฟังทั้งๆที่อยากจะพูด แต่ก็จะให้พระเผด็จ ทัตตชีโวมาเป็นประธานกล่าวแทน
จากนั้นนายไชยบูลย์ก็ได้เดินลงจากธรรมาศน์โดยกล่าวเพียงว่า จะไปพักผ่อนก่อน ทันทีที่นายไชยบูลย์ลงไป พระทัตตชีโว ก็ได้ขึ่นมากล่าวในฐานะประธานในพิธี โดยระบุว่าขอให้ทุกคนที่มาร่วมงานในครั้งนี้ จงมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีร่างกายพลานามัยที่สมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและขอให้ตั้งใจที่จะปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายโดยเร็ว อย่าได้ย่อท้อหรือหวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้าง คงไม่มีอะไรจะมาพูดกันมากนัก แต่ในช่วงบ่ายจะมีพิธีกรรมที่ทางวัดจัดขึ้นคือการถวายผ้าป่า จากนั้นพระทัตตชีโวก็ลงจากธรรมาศน์ไป โดยให้เหตุผลคล้ายนายไชยบูลย์ว่าขอไปพักผ่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตอย่างมากที่มีผู้ปฏิบัติธรรมมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก แต่ทางวัดกลับไม่มีการพูดจาเรื่องราวที่เกี่ยวกับคดีของนายไชยบูลย์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ต่างกับทุกครั้งที่ผ่านมาที่พยายามบอกเหล่าศิษย์ธรรมกายว่าเป็นการกลั่นแกล้งและมุ่งทำลายศาสนาพุทธ ยิ่งไปกว่านั้น ทางวัดได้จัดเจ้าหน้าที่แกนนำคนสำคัญของวัดพระธรรมกายออกมาช่วยดูแลอำนวย ความสะดวกด้วยตนเอง และจัดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมาตรวจตราความเรียบร้อยอย่างเข้มงวดด้วย เหมือนกับว่าวัดอาจจะมีเรื่องราวใหญ่โตอีกครั้ง เพราะแม้แต่นายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายหรือนายแพทย์พรชัย พิญญพงษ์ แพทย์ของวัดพระธรรมกายก็ออกมาเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ
รายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่แกนนำคนสำคัญของวัดพยายามหลีกหลี่ยงไม่พูดจากับสื่อมวลชน หรือเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็พยายามพูดน้อยมากและไม่มีการแสดงความคิดเห็นใดๆเลย สำหรับผู้ที่เดินทางมาร่วมงานที่สภาธรรมกายสากลครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยมากับรถโดยสารที่ทางวัดจัดออกไปรับ ซึ่งทะยอยมากันตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเลี้ยงอาหารผู้มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้แล้วตู้บริจาคของวัดนั้น เจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกายได้นำออกมาตั้งกระจายตามจุดต่างๆทั่วพื้นที่สภาธรรมกายสากลอาทิ ตู้รับบริจาคร่วมทอดผ้าป่าวัดทั่วประเทศ บุญปล่อยปลา กองบุญภัตราหาร กองบุญแก้วสารพัดนึก ส่วนบริเวณจุดรับบริจาคสร้างพระธรรมกายประจำตัวนั้น มีเจ้าหน้าที่รับบริจาคประจำทั้ง 46 ช่อง ซึ่งมีทั้งช่องที่เป็นบริจาคสร้างระบบเงินผ่อนสร้างในราคาองค์ละ 20,000 บาท อย่างไรก็ตามบรรดาญาติธรรมที่มาร่วมงานไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าใดนัก ทำให้บรรยากาศบริเวณที่รับบริจาคสร้างพระธรรมกายประจำตัวค่อนข้างเงียบเหงามาก
ด้านนายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายเปิดเผยว่า นายไชยบูลย์ได้เข้ามาในพิธีโดยไม่มีรถนำเหมือนที่ผ่านมาเพราะไม่ต้องการให้เอิกเกริก โดยนายไชยบูลย์ ออกจาก โรงพยาบาล กรุงเทพเมื่อเวลา 21.30 น. ทั้งที่อาการป่วยยังไม่ดีขึ้น และแพทย์ต้องการให้งดใช้เสียง ขอให้พักผ่อนมากๆงดทำกิจกรรมต่างๆ โดยให้ใช้ผ้าปิดปากไว้เพื่อป้องกันเชื้อโรค แต่ที่มาเพราะต้องการมาให้กำลังใจญาติโยมที่มาร่วมในพิธี ส่วนที่ไม่จัดงานใหญ่บริเวณมหาธรรมกายเจดีย์นั้นเนื่องจากต้องการเก็บไว้จัดงานใหญ่ในปี 2543 คือวันมาฆบูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลา 12.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาพักนั้น เจ้าหน้าที่ได้เปิดโทรทัศน์วงจรปิด ให้ญาติธรรม ในสภาธรรมกายสากลได้รับข้อมูล โดยระบุว่ารายการข่าว 072 มีน.ส.ชุรีพร ช่วงรังษี เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ มูลนิธิธรรมกาย เป็นผู้ดำเนินการรายการ ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์นายวิระศักดิ์ ฮาดดา และนายแพทย์พรชัย พิญญพงษ์ โดยประเด็นที่มีการพูดคุยกันนั้น ก็คือ นายไชยบูลย์ป่วยจริงหรือไม่ และประเด็นการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
นายวิระศักดิ์กล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ได้รับมอบหมายจากอัยการให้พาแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ มาตรวจเช็ค ร่สงกายของนายไชยบูลย์นั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะในวันดังกล่าวได้มีการถ่ายบันทึกเทปไว้จากสภาพ ข้อเท็จจริงนายไชยบูลย์มีอาการป่วยอยู่ จะต้องมีสายให้น้ำเกลือตลอดเวลา แต่นายไชยบูลย์เป็นผู้นำ ที่เข้มแข็งภาพจึงดูเหมือนว่าไม่ได้ป่วยจริง ส่วนการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสก็เป็นเหตุการณ์ปกติทั่วไป เมื่อเจ้าอาวาสไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ก้ต้องแต่งตั้งรักษาการแทน
อย่างไรก็ดีชาวบ้านบริเวณคลองสองกล่าวว่า ตลอดทั้งคืนวันที่ 9 ต.ค.นั้นทางวัดพระธรรมกายได้ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศตลอดทั้งคืนตั้งแต่เวลา 23.00 น. ให้รถบัสที่นำคณะสงฆ์เดินทางมาร่วมงานและรับผ้าป่าเพื่อให้เข้าจอด โดยไม่มีชื่อวัดในจังหวัดปทุมธานีเลยแม้แต่น้อย เสียงที่ใช่นั้นทำให้เกิดความเดือดร้อนกับชาวบ้านมาก เด็กเล็กแทบไม่ได้นอนเลยแต่ไม่มีใครกล้าออกมาโวยวายหรือขอร้องให้วัดหยุดการดำเนินการเนื่อง จากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยและได้รับอันตรายจากอิทธิพลมืด