เดลินิวส์ 9/10/2542
ธรรมะสังฆราชา ศาสนาปลอดภัย ถ้าสื่อมวลชนไม่ทอดทิ้ง
3ตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นวันมหามงคลยิ่งอีกวันหนึ่งของพุทธศาสนิกชนชาวไทย เนื่องเพราะเป็นวันคล้ายวันประสูติของ "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก" พระชนมายุครบ 86 พรรษา และในวโรกาสอันสำคัญยิ่งนี้ "สื่อมวลชน" ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น
เมื่อสมเด็จพระสังฆราชทรงประธาน "พระวรธรรมคติ" ให้กับสื่อมวลชนโดยเฉพาะ อันมีใจความว่า...
"ระยะหลังนี้มีข่าวพาดพิงถึงบ่อยทางหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ มีผู้อ่านให้ฟังบ้าง มีผู้เล่าให้ฟังบ้าง มีผู้วิจารณ์บ้าง ทำให้พอรู้เรื่อง พอเข้าใจงานของสื่อมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งของผู้เป็นนักข่าวทั้งหลาย แต่เดิมเสียงพูดถึงนักข่าวดูนักข่าวไม่น่าไว้ใจ แต่มาถึงระยะหลังนี้นักข่าวกลับเป็นผู้มีอุดมคติ ได้รับสรรเสริญมากอยู่
ที่เข้าถึงหูอาตมาภาพ ทำให้สบายใจ ทำให้เกิดความเชื่อถือในสื่อมวลชน และทำให้มีความอุ่นใจว่า สื่อมวลชนไม่ทิ้งสิ่งสูงค่าที่สุด คือพระพุทธศาสนา เพื่อได้มาซึ่งอะไรอื่นทั้งนั้น ไม่ว่าจะค่ามากค่าน้อย แสดงความเป็นผู้มีปัญญา รู้ว่าอะไรเป็นอะไร อะไรดีอะไรชั่ว อะไรถูกอะไรผิด อะไรควรอะไรไม่ควร อะไรเป็นได้อะไรเป็นเสีย คนมีเกียรติจะไม่เสียเกียรติ จะมีหน้าจะไม่เสียหน้าก็ตรงนี้ ตรงที่มีสัมมาทิฐิเห็นชอบ ไม่เห็นผิด
สัมมาทิฐิความเห็นชอบเป็นธรรมข้อปฏิบัติที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงยกสัมมาทิฐิเป็นอันดับที่ 1 ในมรรค 8 ทางแห่งความดับทุกข์ การปฏิบัติในทางนี้แม้เขมแข็งเด็ดเดี่ยวจริงจังตลอดสายยังสามารถพาพ้นทุกข์สิ้นเชิงได้ ดังสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นตัวอย่างนำไปสำเร็จแล้ว ทั้งยังมีพุทธสาวกดำเนินตามรอยพระบาทถึงจุดหมายปลายทางแล้วไม่น้อย ทั้งในสมัยพระพุทธองค์ยังดำรงพระชนม์อยู่ คือสมัยพุทธกาล และทั้งในสมัยนี้ แต่สำหรับพวกเรา ผู้มิได้ปรารถนาความเป็นพระอรหันต์ การปฏิบัติมรรค 8 ด้วยยึดมั่นในสัมมาทิฐิความเห็นชอบ แม้ในเรื่องราวทั้งหลายที่เผชิญอยู่ ย่อมทำให้ได้รับความพิทักษ์รักษาจากพระพุทธศาสนา ให้พ้นความเสียชื่อ เสียเกียรติ เสียผู้เสียคน มีความเห็นชอบให้จริงจะพ้นความเสียที่น่าอับอายที่สุดดังกล่าวได้ทั้งหมด เมื่อพบความเสียที่น่าอับอาย ความได้อะไรอื่นก็ไม่สามารถสร้างศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนให้ได้เสียศักดิ์ศรี เสียความเป็นคน แม้มั่งมีเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีก็หามีศักดิ์ศรีไม่ และคนไม่มีศักดิ์ศรีนั้น ฐานะภายนอกจะยิ่งใหญ่เป็นใคร ก็ไม่อยู่ในสายตาของคนดีมีปัญญา จะไม่ได้รับความยกย่องด้วยใจจริง แต่อาจจะจำเป็นต้องมีการยกย่อง เช่นนี้เรียกว่าไม่มีศักดิ์ศรี เป็นที่ดูถูก อาจจะทั้งเปิดเผย และไม่เปิดเผย ล้วนน่ารังเกียจทั้งสิ้น
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้แก่ผู้มีสัมมาทิฐิความเห็นชอบเป็นพื้นใจ ผลงานเกี่ยวกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับพุทธศาสนาแสดงชัดเจนว่า ทุกคนมีสัมมาทิฐิมั่นคง จงรักษาความดีนี้ไว้ให้ยั่งยืน ความดีความชั่วคือบุญกับบาปเท่านั้นที่จะติดตามเราไปได้เมื่อละโลกนี้ไปแล้ว เงินทองของมีค่าหาติดตัวเราไปได้ไม่ และความตายก็จะพาเราละโลกนี้ไปวินาทีใดวินาทีหนึ่งก็ได้ ชาติหน้าของเราอยู่ใกล้กับชาตินี้จริง ๆ ดังที่เห็น ๆ กันอยู่ บางคนออกจากบ้านจะไปที่นั่นที่นี่เพื่อพบคนนั้นคนนี้ ด้วยความคิดถึงบ้าง ด้วยกิจธุระบ้าง ไม่ทันจะถึงที่หมายที่อยู่ห่างกันเพียงกิโลฯสองกิโลฯเท่านั้น ก็ไปปรากฏที่ชาติหน้าเสียแล้ว
ที่น่ากลัวที่สุดคือได้ไปเผชิญหน้ากับพระยายมราช หรือยมทูต ที่เด็ดขาดด้วยความยุติธรรม บาปเป็นให้ผลเป็นบาป ชั่วเป็นให้ผลชั่ว ไม่มีการอุทธรณ์ฎีกาได้เลย ชีวิตน่ากลัวจริง ๆ ฉะนั้นอย่าประมาท ชีวิตนี้น้อยนัก ไม่นานเลยก็จะพากันตาย สมบัติที่กอบโกยไว้แม้จะมากมายท่วมหัวท่วมหูก็จะไม่อาจติดตัวผู้ตายไปได้แม้สักนิดเดียว บาปที่เกิดแต่การแสวงหาทรัพย์ต่างหากที่จะติดตามไปให้ได้รับความทุกข์ทรมานต่าง ๆ นานา ที่ไม่มีปัญญาใดจะแก้ไขได้เมื่อถึงเวลาได้รับผลแห่งกรรมนั้นแล้ว กลัวไว้ก่อนเถิด เพราะเราต้องมีชาติหน้าแน่ เป็นคนให้เป็นคนดีเถิด เป็นพระก็ให้เป็นพระดีเถิด จะได้ไม่ถูก แรงดูดจากนรกลงไปเร่าร้อนทรมานแสนสาหัส โดยหมดทางที่จะพาตนให้พ้น ไฟนรก
สื่อมวลชนทั้งหลาย โอกาสจะทำดีมีหลายอย่างหลายวิธี ยิ่งกว่าคนทั่วไป จะนำคนจำนวนมากไปเป็นสุขก็ทำได้ จะรักษาความยุติธรรมเที่ยงตรงไว้ก็ทำได้ จะเป็นแกนนำในการเทิดทูนรักษาสถาบันชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ สื่อมวลชนก็มีโอกาสทำได้ยิ่งกว่าคนทั่วไป อย่าให้เขาประณามว่าสื่อมวลชนใช้ไม่ได้ แต่จงให้เขาชื่นชอบ ด้วยการรักษาสัมมาทิฐิไว้ให้มั่นคง จงมั่นใจอย่างอบอุ่นจริงจังว่าแม้ชาติหน้ามาถึงเมื่อไรก็ไม่มีอะไร น่ากลัว เพราะเราเป็นคนดี ทำบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือร่วมกันรักษาสถาบันสำคัญทั้ง 3 ให้สวัสดี ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราต้องอยู่เหนืออื่นใด ทั้งปวง"
"เดลินิวส์" ในฐานะสื่อมวลชนขอน้อมรับพระวรธรรมคตินี้ใส่เกล้าด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง พระวรธรรมคตินี้มิเพียงสื่อมวลชนเท่านั้นที่ควรจะยึดถือปฏิบัติ ทุกคนทุกฝ่ายทุกหน่วยงานก็ควรจะน้อมนำมาปฏิบัติเพื่อดำรงไว้ซึ่งสถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะพุทธศาสนาซึ่งกำลังมีปัญหา
สื่อใดที่ยังทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้กับ "ผีบุญ" ที่จ้องสูบเลือดดูดทรัพย์ชาวบ้าน ก็ควรจะยุติเสีย ใครที่รู้ตัวว่าเป็น "เหลือบศาสนา" แฝงจีวรหากิน แสวงหาความยิ่งใหญ่ ก็ควรจะได้ละอายละเลิกไป ขณะเดียวกัน องค์กรทั้งทางโลกทางธรรมที่มีหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนา ก็ควรจะได้สำเนียก เลิกโอ้เอ้ยุดยื้อ "อุ้มเดียรถีย์" เพียงเห็นแก่ลาภสักการะ แล้วหันมาแก้ปัญหาเพื่อดำรงรักษาพระพุทธศาสนาไว้ จะได้ไม่ถูกแรงดูดจากนรกลงไปเร่าร้อนทรมานแสนสาหัส...
โดยหมดทางที่จะพาตนให้พ้นไฟนรก !!!