page4

เดลินิวส์ 7/10/2542

ลูกไม้'ไชยบูลย์' ชิงลาพัก!เจ้าวัดธรรมกาย เชิด'ทัตตชีโว'ตัดหน้าคำสั่งปลด

"ไชยบูลย์"งัดลูกไม้ชิงยื่นหนังสือลาพักตำแหน่งก่อนถูกสั่ง เชิด"ทัตตชีโว"รักษาการณ์แทน วางหมากลึก รอให้เรื่อง ซาค่อยกลับมายึดอำนาจเหมือนเดิม เล่นกันขนาด"อุ้ม"เจ้าคณะตำบลหนีแถมออกลาย ลิเกลงทุนหาม กันไปนอนที่โรงพยาบาลประโคมข่าวแย่แล้วเรียกน้ำตาคะแนนสงสารจากแม่ยกนะจ๊ะ แต่แพทย์วินิจฉัยเปรี้ยงอาการไม่หนัก แถมมีหลักฐานชัดจากรพ.ตำรวจว่าไม่ได้เป็นเหมือนกับที่อ้าง เดินทางไปไหนมาไหนได้หมด เจ้าคณะจังหวัดปทุมงง บอก"หัวหมอ" ไม่เคยพบไม่เคยเห็นลูกเล่นลาพักแบบนี้ต้องขอตัดสินใจอีกครั้ง

นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าสำนักธรรมกาย แผลงฤทธิ์อีกครั้ง เพื่อหลบเลี่ยง มาตรการสั่งปลดออก จากวัดพระธรรมกาย โดยชิงลาออกไปก่อน และผลักดันให้พระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อนคู่ใจขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน อุ้มเจ้าคณะตำบลหนี

เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวเดิมเกมครั้งใหม่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 4.00 น. โดยมีศิษย์วัดพระธรรมกายเดินทางมารับตัวพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะสว่างภพ ในฐานะเจ้าคณะตำบลคลอง 1 ซึ่งเป็นพระผู้ใกล้ชิด ดูแลวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ และเป็นการชิงตัวอย่างกระทันหัน เนื่องจากได้มีนายประสาท วรพีพงษ์ ศิษย์ใกล้ชิดเดินทางมารับพระครูปทุมกิจโกศล ตามกำหนดเดิมที่วางไว้ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะหาตัวพระครูปทุมกิจโกศลไม่เจอ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา พระครูปทุมกิจโกศลพยายามหลบเลี่ยงผู้สื่อข่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา ที่จะมายื่นหนังสือปลดนายไชยบูลย์ออกจากธรมกาย จนกระทั่งมีสาวกธรรมกายมาฉกตัวไป

ด้านพระมหาปัญญา ขันติธัมโม เจ้าอาวาส วัดบางหลวง ในฐานะ รักษาการณ์เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงเปิดเผยว่า ในวันนี้จะส่งหนังสือการถอดถอนนายไชยบูลย์ให้พระครูปทุมกิจโกศล หลังจากที่พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ส่งหนังสือดังกล่าวมาให้ตั้งแต่คืนวันที่ 5 ต.ค. และได้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามพระมหาปัญญากล่าวว่ายังไม่สามารถนำหนังสือมามอบให้ เพราะพระมหาชัยยะ จันทสโม เลขานุการเจ้าคณะตำบลคลอง 1 โทรมานัดหมายให้นำหนังสือถอดถอนไปให้ที่วัดกลางคลองสาม หมู่ 9 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง ช่วงหลังเพลวันนี้

เวลา 13.00 น. พระมหาปัญญาเดินทางไปตามนัด และรอที่กุฎพระครูสิริพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดคลองสาม พร้อมเตรียมหนังสือถอดถอนนายไชยบูลย์มามอบให้ด้วย แต่พระครูปทุมกิจโกศลไม่ยอมมา และส่งพระมหาชัยยะมาแทน ซึ่งทำให้เกิดการวิจารณ์อย่างกว้างขวางเพราะพระในจังหวัดปทุมธานี รู้ดีว่า พระมหาชัยยะมาจากวัดพระธรรมกาย และพระมหาชัยยะเคยถูกชาวบ้านวิจารณ์ว่าเป็นผู้ที่ธรรมกาย ส่งมาดูแลพระครูปทุมกิจโกศลไม่ให้ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับธรรมกาย พระมหาชัยยะกล่าวว่าเป็นตัวแทนรับหนังสือเพราะพระครูปทุมกิจโกศลไม่สบาย และไม่อยากให้สัมภาษณ์กลัวสื่อมวลชนนำไปลงข่าวตามความเข้าใจ ส่วนที่ระบุพระครูปทุม กิจโกศลถูกอุ้มจากวัดก็ไม่จริง เพียงแต่มักจะรับนิมนต์ไปกับลูกศิษย์คนสนิทตั้งแต่เช้า เป็นเรื่องการตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญในวัด กว่าจะกลับก็มืด และก็ติดกิจธุรกิจตั้งแต่เมื่อวานนี้

"สำหรับอาตมายอมรับว่ามาจากธรรมกายเมื่อปี 2530-2535 แต่ไปจำพรรษาที่วัดอื่นในภาคอีสาน และยืนยัน ไม่จริงที่อาตมาถูกส่งมาประกบพระครูปทุมกิจโกศลจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ " ชิงยื่นหนังสือ"ลาพัก" นอกจากนั้น พระมหาชัยยะ ยังทำสิ่งไม่คาดฝันโดยกล่าวว่าวัดพระธรรมกาย โทร ศัพท์มาแจ้งว่า นายไชยบูลย์ลาพักตำแหน่งแล้ว และส่งหนังสือมาให้เจ้าคณะคลอง 1 เช้าวันนี้ จากนั้น พระ มหาชัยยะยื่นหนังสือขอลาออกของนายไชยบูลย์ให้เป็นการตัดหน้าก่อนที่พระมหาปัญญา จะยื่นหนังสือ ขอถอดถอนนายไชยบูลย์ของเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีให้พระมหาชัยยะลงนามรับ ทำให้พระมหาปัญญาถึงกับอึ้ง และรับหนังสือลาพักด้วยสีหน้าตื่น ๆ

สำหรับหนังสือดังกล่าว เลขที่ วธก.1270/421 ลงวันที่ 4 ต.ค. ระบุว่านายไชยบูลย์สุขภาพไม่สมบูณ์ป่วย เป็นภูมิแพ้และเบาหวาน ต้องรักษาตัวต่อเนื่อง จึงเสนอให้พระเผด็จรองเจ้าอาวาส อายุ 59 ปี พรรษา 27 วิทยฐานะนักธรรมตรีรักษาการแทน ด้านพระมหาปัญญากล่าวว่าจะส่งหนังสือลาพักของนายไชยบูลย์ให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีรับทราบ ก่อนส่งกลับมาให้เจ้าคณะตำบลคลอง 1 ต่อไป เพื่อยืนยันจะอนุมัติหรือไม่ คาดว่าวันที่ 7 ต.ค.คงรู้ผล แต่หนังสือขอลาพักที่ยื่นมายังไม่มีผลตามกฎหมาย

"การที่ยื่นหนังสือลาพักหากอนุมัติ ต่อไปก็สามารถกลับมาเป็นใหม่ได้ ที่ผ่านมาปกติจะไม่ค่อยมีให้เห็น ยกเว้นจะถูกพักหรือถอดจากตำแหน่ง หรือเดินทางไปนอกวัดนาน ๆ "

ส่วนการที่จะให้พระเผด็จรักษาการเจ้าอาวาสหรือไม่คงต้องพิจารณาเช่นกัน เพราะพระเผด็จถูกฟ้องตามกฎนิคหกรรม โดยต้อง ปรึกษากับเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี อาจไม่อนุมัติก็ได้ ขณะนี้นายไชยบูลย์ตกเป็นจำเลยคดีอาญาตามกฎมหาเถรฯฉบับที่ 24 ต้องถูกสั่งพักตำแหน่งอยู่แล้ว รวมถึงหนังสือคำสั่งปลดนายไชยบูลย์ เจ้าคณะตำบลคลอง 1 ยังต้องรับไว้พิจารณาต่อไป ไม่ได้ยกเลิก และต้องพิจารณาสำนวนคำสั่งศาลที่กรมการศาสนาเสนอมาด้วย ยืนยันทบทวนคำสั่งได้

พระมหาปัญญากล่าวอีกว่าในหนังสือสั่งพักตำแหน่งนายไชยบูลย์ที่ส่งถึงเจ้าคณะตำบลคลอง 1 ในท้ายระบุคำสั่งไว้ชัดเจนว่า หากวินิจฉัยเป็นอย่างใดแล้ว ให้รายงานให้ทราบโดยด่วน ซึ่งก็ หมายความว่าต้องรายงานเรื่องนี้ โดยชี้แจงเหตุและผลในการวินิจฉัยให้เจ้าคณะจังหวัดทราบด้วย ส่วนกรณีที่เจ้าคณะตำบลวินิจฉัยสั่งการไปแล้ว หากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรืออาจจะก่อให้เกิดปัญหาภายหลัง เจ้าคณะจังหวัดอาจจะออกคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

"เรื่องสั่งพักนั้นไม่มีปัญหาในเวลานี้แต่ต้องดูว่าจะแต่งตั้งใครมารักษาการแทนเท่านั้น พระรูปนั้นจะได้เป็น เจ้าอาวาสถาวรหรือไม่ซึ่งก็อยู่ในดุลพินิจของเจ้าคณะจังหวัดที่จะเป็นผู้ตัดสินใจแต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 7 วันและรายงานให้พระเถระชั้นผู้ใหญ่ทราบภายใน 90 วัน ตามความคิดของอาตมานั้นอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงเจ้าอาวาสวัดองค์ใหม่นั้นใครจะเป็น เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องในการชี้อนาคตของวัดจะเดินไปในแนวทางใด แต่ก็มีกฎมหาเถรฯ ในเรื่องของการแต่งตั้ง เจ้าอาวาสว่าต้องอยู่ในดุลพินิจของเจ้าอาวาสองค์ก่อน อย่างไรก็ดีมหาเถรฯก็มีกฎ อีกข้อหนึ่งระบุว่า หากมีเหต ุที่ต้องเปลี่ยนเจ้าอาวาสเนื่องจากไม่มีความเหมาะสม หรือว่าประพฤติตนไม่ถูกต้องเกรงจะเป็นการเสื่อมเสีย เจ้าคณะจังหวัดทำการคัดเลือกแทนได้ ต้องรอดูกันว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร" สุดท้ายขั้นตอนทั้งหมดจะยุติลงเมื่อมีคำตัดสิน เป็นหนังสือแจ้งการตัดสินใจส่งถึงมือนายไชยบูลย์เรียบร้อยก็ถือว่าสิ้นสุดและมีผลบังคับใช้ทันที

เจ้าคณะปทุมฯว่า"หัวหมอ"

ด้านพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีกล่าวว่า ไม่เคยทราบ ระแคะระคายว่า นายไชยบูลย์จะลาพักจากตำแหน่งก่อนที่จะมีการเสนอให้ถอดถอน เพราะตกเป็นจำเลย ในคดีอาญาและ"หัวหมอ"พอสมควร แต่หนังสือที่เสนอขึ้นมาก็ใช่ว่าจะได้รับอนุมัติทันที หาก ดูแล้วไม่เหมาะสม จะส่งพระรูปอื่นไปรักษาการแทนโดย ต้องผ่านการพิจารณาก่อน รวมถึงเจ้าคณะตำบลคลอง 1 ต้องทำหนังสือย้ำไปด้วยว่าการขอลาพักกับการสั่งให้ออกจากตำแหน่งเป็นคนละเรื่อง

นายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวห น้ามูลนิธิธรรมกายเปิดเผยว่า นายไชยบูลย์ลาพักเท่านั้นไม่ได้ลาออก หลังจากหายจะกลับมารับตำแหน่งใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ของธรรมกายก่อให้เกิดการวิพากษิ์วิจารณ์อย่างมาก โดยหนังสือที่กรมการศาสนาส่งมาลงวันที่ 5 ต.ค. แต่หนังสือของธรรมกายลงวันที่ 4 ต.ค. เหมือนกับต้องการ ให้มีผลทางกฎหมายก่อนหนังสือกรมการศาสนาและค่อยมาส่งถึงเจ้าคณะตำบลคลอง 1ในอีกวันถัดมา

ที่กรมการศาสนา นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนาเปิดเผยถึงกรณีที่นายไชยบูลย์ขอพักตำแหน่ว่าเป็นเรื่องที่กระทำได้ แต่เป็นคนละประเด็นกับการที่พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลอง 1จะพิจารณาสั่งพักตำแหน่ง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เจ้าคณะตำบลคลอง 1จะพิจารณาได้และสามารถที่จะแต่งตั้งพระรูปใด รูปหนึ่งที่เห็นสมควรทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายแทน

นายสุทธิวงศ์กล่าวว่า นายไชยบูลย์อาศัยช่องว่างในกฎมหาเถรฯฉบับที่ 19 ข้อ 5 ซึ่งระบุว่ากรณีเจ้าอาวาสไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง ให้เจ้าคณะตำบล ด้วยความเห็นชอบของเจ้าคณะจังหวัด สั่งแต่งตั้งเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส หรือพระภิกษ ุรูปใดรูปหนึ่งเห็นสมควรเป็นผู้รักษาการแทน ตามข้อเสนอของเจ้าอาวาส และรายงานตาม ลำดับจนถึง เจ้าคณะจังหวัด หามเข้ารพ.กรุงเทพฯ ในวันเดียวกัน เวลา 12.30 น.ของวันเดียวกัน นางกีรยดา วิชัยธนพันธ์ ผู้จัดการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ ร่วมกับพระสมชาย ฐานวุฒโฑ ผู้อำนวยการ ฝ่ายเผยแพร่ วัดพระธรรมกาย ร่วมกันแถลงข่าวอาการป่วยของนายไชยบูลย์ที่ถูกส่งตัวเข้ามาที่โรงพยาบาล กรุงเทพฯ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่อยู่ห่างวัดเป็นสิบ ๆ กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.เวลา 17.00 น. โดยอาการเบื้องต้นคือการไอ เป็นไข้ เจ็บอก มีเสมหะ อาเจียน เยื่อาหาร เสียงแหบ

โรงพยาบาลตั้งคณะแพทย์ตรวจอาการประกอบด้วยน.พ.ธีระ จิตต์ตำนาน ,น.พ. ชานนท์� เมฆจรัสนภา,น.พ.ชัยศิลป์ แต้ตระตูล และน.พ.ยิ่งดาว ไกรฤกษ์ เป็นประธานแพทย์ ผลการ ตรวจล่าสุดพบอาการสายเสียงและหลอดลมอักเสบ แม้อาการไม่หนักแต่ต้องใช้เวลาดูอาการสักระยะ ขณะนี้ยังเดินทางไปไหนมาไหนและปฏิบัติกิจวัตรได้ แต่อาจต้องใช้รถเข็นเมื่ออ่อนแรง เพราะมีอาการอ่อนเพลีย

พระสมชายกล่าวว่า อาการนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน คาดว่ามาจากการถูกละอองฝน จากนั้นมีอาการไอเล็กน้อย และพบปะกับญาติโยมได้ แต่กระแอมตลอด จนเมื่อวันที่ 1-2 ต.ค.อาการหนักขึ้น ฉันอาหารไม่ลง อาเจียน ต้องพักผ่อนให้น้ำเกลือ และในวันที่ 4 ต.ค.ต้องออกไปนอกวัดเพื่อขึ้นศาล กลับมาอาการก็ทรุดหนัก ตอนเช้าวันที่ 5 ต.ค.อาเจียนขณะกินข้าวเชา เจ็บอก ลุกไม่ไหว และเท่าที่อยู่วัดพระธรรมกายมา 20 ปี เพิ่งเห็นป่วยหนักครั้งนี้ และที่ต้องนำมาส่งโรงพยาบาลกรุงเทพฯก็เพราะติดต่อโรงพยาบาลรัฐแห่งอื่นแล้วไม่มีที่ว่าง

"เท่าที่ดูเห็นว่า แพทย์ด้านโรคปอด ได้ส่องกล่องไปดูในลำคอ พบว่า กล่องเสียงอักเสบ มีเลือดออกมาก ปีกปอดอักเสบ มีเสมหะในปอด จึงสั่งให้งดใช้เสียง 2 สัปดาห์ คาดว่าต้องใช้เวลาในการพักผ่อนดูอาการ 5-10 วัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น อีก 5 วันข้างหน้าจะมีการส่องกล้องเข้าไปดูในลำคออีกครั้ง

ขณะที่น.พ.พรชัย พิญญพงษ์ แพทย์ประจำมูลนิธิธรรมกายกล่าวว่าไม่วิตกกับการตรวจสอบของแพทยสภา เกี่ยวกับการ ออกใบรับรองแพทย์ ให้นายไชยบูลย์ว่าป่วย เพราะมีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันป่วยจริง และเฝ้าดูอาการมา 10 กว่าวันแล้ว ส่วนที่แพทย์โรงพยาบาลตำรวจวินิจฉัยว่าเดินทางไปไหนมาไหนได้ คิดว่าคงวินิจฉัยแค่ว่ายังไม่ตาย สามารถเดินทางไปพบอัยการได้เท่านั้น และตนกำลังร่างหนังสือเพื่อตอบโต้แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ส่งไปยังแพทยสภา

ส่วนนายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายกล่าวว่าการที่ตำรวจพานายไชยบูลย์ไปที่ศาลอาญา ได้คิดถึงสุขภาพของคนป่วยหรือไม่ พอรุ่งเช้าก็กินไม่ได้ และต้องส่งโรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้าได้มีพระชั้นในและสาวกผู้ใกล้ชิดนายไชยบูลย์นำโดยพระสมชาย มาเฝ้า อาการนายไชยบูลย์อย่างใกล้ชิด จากนั้นแกนนำวัดได้เดนิทงมากระจายชั้นล่างของอาคาร และชั้น 9 ที่เป็นห้องรักษาตัวของนายไชยบูลย์ที่หมายเลข D9-18 โดยหน้าห้องมีสาวกกระจายกำลังมีอุปกรณ์สื่อสารครบ ดินตรวจตราความเรีรยบร้อย ป้องกันไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไป แฉวิ่งเต้นรพ.ตำรวจไม่ได้

รายงานข่าวจากกองปราบปรามเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ก่อนที่จะมีการหาม นายไชยบูลย์ไปที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ ได้มีนายทหารอากาศ คนหนึ่งเป็นสาวก ของวัดติดต่อ ไปยัง โรงพยาบาลตรำวจขอให้ออกหนังสือยืนยันนายไชยบูลย์ป่วยจริง และจะนำตัว นายไชยบูลย์มารักษาอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธ และตอบกลับไปว่าผลการตรวจรักษาทางวิทยาศาสตร์ ของแพทย์โรง พยาบาลตำรวจพบว่าไม่มีไข้ และตรวจจาก ผู้ชำนาญการทุกด้าน และได้มีการบันทึกอาการนายไชยบูลย์ไว้แล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และยินดีถ้าจะส่งไปที่อื่น ปกติหน่วยราชการจะยึดถือการวินิจฉัยของแพทย์โรงพยาบาลรัฐ รวมถึงถือว่าเป็นผู้ชำนาญการหรือผู้เชี่ยวชาญตามกระบวนการยุติธรรมด้วย

นอกจากนั้นโรงพยาบาลรัฐหากมีปัญหาการรายงานผลผิดพลาดต้องถูกให้ออก และสภาพ นายไชยบูลย์ที่ถูกอ้างก่อนถูกลากตัวมาฟังคำสั่งฟ้องเมื่อวันจันทร์ที่ 4 ต.ค.ว่านอนซมให้น้ำเกลือก็ไม่จริง โดยภาพที่พนักงานสอบสวนไปพบคือนายไชยบูลย์นอนในกุฏิ ไม่มีอุปกรณ์ให้น้ำเกลือ เมื่อถามสาวกใกล้ชิดก็การอ้างว่ารักษาด้วยการกินยาจีน

ในกุฏิยังเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ขัดกับสภาพ คนไข้หนัก ที่ต้องดูแลอุณหภูมิให้ อากาศถ่ายเท ส่วนที่บอกว่านายไชยบูลย์ไอมากจนระบบ ปรากฎตอนเดินมาศาลก็ก้าวฉับ ๆ แถมเมื่อฟังคำสั่งฟ้อง จนครบกระบวนการก็ไม่ได้ไอออกมาสักครั้งเดียว รวมถึงไม่มีการอมยาสมุนไพรตามที่อ้างด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวัดพระธรรมกายทำหนังสือร้องเรียนว่าพนักงวานสอบสวนไม่ให้ความเป็นธรรม โดยเรียกพยานมาให้ปากคำแล้วแจ้งขอ้หาเพิ่ม ขัดรัฐธรรมนูญ และจะยื่นหนังสือไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว สอบเอกสารธรรมกาย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. หัวหน้าพนักงาน สอบสวนกรณีวัดพระธรรมกาย ,พล.ต.ต.โยธิน มัธยมนันทน์ ว่าที่ ผบช.ส. ,พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก. 1 ป.พร้อมคณะทำงานได้ประชุมหารือร่วมกัน เกียวกับกรณีที่มีหนังสือและบทความโจมตีพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต)โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ตามคำสั่งของนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ที่ให้ กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติสืบสวนเพราะหนังสือที่ออกมาจะทำลายศาสนาพุทธ และชี้นำไปในทางที่ผิด บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ต.โยธิน เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ตำรวจสันติบาลไปตรวจสอบว่า ดร.เบญจ์ บาระกุล ที่เขียนหนังสือโจมตีพระธรรมปิฎกมีตัวตนจริงหรือไม่ มีประวัติส่วนตัวและผลงานเป็นอย่างไร การศึกษา ได้จบปริญญาเอกจากที่ไหน นอกจากนี้มีวัตถุประสงค์ในการออกหนังสือเป็นอย่างไร จึงได้มีการโจมตีพระธรรมปิฎก

ตำรวจสันติบาลยังตรวจสอบแหล่งต้นตอ ของบทความที่ตีพิมพ์ รวมทั้งต้องควบคุมไม่ให้มีการเผยแพร่ เพราะเป็นการ สร้างความ สับสน ให้เกิดแก่พุทธบริษัท ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ความร่วมมือ เท่าที่ควรจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบให้ใกล้ชิดมากขึ้น และหากมีผู้ทราบว่า ดร.เบญจ์เป็นใคร ก็ขอให้แจ้งโดยตรงกับตำรวจเพื่อจะได้เชิญตัวมาสอบปากคำต่อไป