เดลินิวส์ 4/10/2542
เตรียมสั่งฟ้องแล้วไชยบูลย์
อัยการเตรียมสั่งฟ้อง"ไชยบูลย์"กับสาวกแล้ว รองอัยการสูงสุดชี้ชัดสำนวนสมบูรณ์สุดหลักฐานแน่น ผู้ต้องหาไม่มา เดือดร้อนแน่ อ้างป่วย ต้องฟังขึ้นถ้าไม่ผ่าตัดด่วนไม่ต้องยกมาอ้างเด็ดขาด "สมเด็จพระสังฆราช" ทรงย้ำ "ชวน" ให้รักษาศาสนาอย่างเต็มที่ เหยื่อผีบุญสำนักฉาวโผล่อีก ร้องนักข่าวผัวคลั่งไคล้ธรรมกายจนลืมลูกลืมเมียครอบครัวแตกเป็นเสี่ยง แฉขนเงินประเคนให้วัดไม่อั้นแขวนพระดูดทรัพย์เต็มคอ แต่ไม่ยอมส่งเสียลูกเรียนหนังสือ ซ้ำยังมีหวานใจคนใหม่ใช้วัดฉาวเป็นข้ออ้างนัดพบกัน สาวกธรรมกายสิ้นเชื้อกระดาก อ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์พระดูดทรัพย์ช่วย "คำนึง" พ้นอันตรายจากฟ้าผ่า
ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆ ราช สกลมหาสังฆปริณายก พระชนมายุครบ 86 พรรษา เวลา 08.00 น. นายชวน หลีกภัย นายก รัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ อาทิ พล.อ.มงคล อัมพร พิสิฏฐ์ ผบ.สส., พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ ผบ.ทร., พล.อ.อ.สนั่น ทั่วทิพย์ ผบ.ทอ.และคณะบุคคล ต่าง ๆ พุทธศาสนิกชนชาวไทยและต่างประเทศ นักธุรกิจ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนได้หลั่งไหลเข้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราชที่ตึก สว. ธรรมนิเทศ อย่างเนืองแน่น
ระหว่างที่นั่งรอสมเด็จพระสังฆราชเสด็จ นายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องเหตุการณ์ยึดสถานทูตพม่าของนักศึกษาพม่า สถานการณ์ในติมอร์ตะวันออก สถานการณ์ชายแดนไทย ด้วยบรรยากาศอันชื่นมื่นกับบรรดา ผบ.เหล่าทัพ จน กระทั่งเวลา 08.39 น. สมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาถึง นายกรัฐมนตรีได้กล่าวนำถวายพระพร แล้วถวายธูปเทียนแพและผ้าไตร
สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระดำรัสกับคณะผู้เข้าถวายสักการะว่า "ขออำนวยพรแก่ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านผบ.สูงสุด ท่าน ผบ.ทร. คณะต่าง ๆ ทุกท่านที่มา กุศลและเจตนาที่ท่านทั้ง หลายมาร่วมแสดงมุทิตาจิต แก่อาตมาในวาระนี้ขอให้ทุกท่านเจริญอายุ วรรณะ สุขะ พละ มีความเจริญในหน้าที่การงาน ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ในการรักษา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้บรรลุจุดมุ่งหมายดังปารถนาทั้งปวง"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่สมเด็จพระสังฆราชจะเสด็จไปที่ตึก สว.ธรรมนิเทศ ได้เสด็จลงจากตำหนักคอยท่าปราโมช ทรงบำเพ็ญกุศลปล่อยสัตว์จำนวน 99 ตัว ประกอบด้วยนก ปลาไหล หอยและเต่า ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. เสด็จลงพระอุโบสถเพื่อประทานทุนการศึกษาแก่พระภิกษุจำนวน 10 รูป กรรมการมหาเถรสมาคม 18 รูป เจริญพระพุทธมนต์และถวายการอนุโทนา ถวายภัคตาหารเพลพระภิกษุสงฆ์ 887 รูป และปลูกต้นไม้ ก่อนที่จะเสด็จไปยังตึก สว.ธรรมนิเทศอีกครั้งในเวลา 15.00 น.
ทางด้านความเคลื่อนไหวกรณีวัดพระ ธรรมกาย รายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่ 4 ต.ค.นี้ เป็นกำหนดวันที่นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และนายถาวร พรหมถาวร คนสนิท 2 ผู้ต้องหา จะต้องเดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยของพนักงานอัยการว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ ทั้งนี้นายไชยบูลย์ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ วัดพระธรรมกายติดต่อ กับทางพนักงานอัยการว่าจะเดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดในเวลา 13.00 น. ซึ่งหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง นายไชยบูลย์และนายถาวรจะต้องขอประกันตัวในชั้นศาล ถ้าศาลมีความเห็นไม่ให้ประกันตัวนายไชยบูลย์ก็จะต้องถูกเปลื้องผ้าเหลืองออกจากร่าง แต่หากอัยการสั่งไม่ฟ้องพนักงานอัยการก็จะต้องส่งเรื่องกลับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจากพนักงานสอบสวนว่า ได้ติดต่อนายสนธยา โพธิแดง ทนายความของนายไชยบูลย์ไว้แล้วว่า ให้ติดต่อนายไพโรจน์ มณีเพทาย นายประกัน รวมทั้งนายไชยบูลย์และนายถาวรให้มารับฟังคำวินิจฉัยของอัยการด้วย
นายพันธุ์ สุริยพร รองอัยการสูงสุดเปิดเผยว่า ขณะนี้สำนวนการสอบสวนสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้นำเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดียักยอกทรัพย์มามอบให้อัยการ ซึ่งในวันสั่งฟ้องหากใครไม่มาฟังคดีจะถือว่ามีความผิดจะถอนประกันทันที หากจะมาอ้างว่าป่วยก็ต้องดูว่าเหตุ ผลฟังขึ้นหรือไม่ เพราะถ้าแค่เป็นหวัดพูดไม่ได้นั้นฟังไม่ขึ้น แต่ถ้าต้องได้รับการผ่าตัดด่วนเช่นผ่าไส้ติ่ง ก็คงจะอนุญาตเพราะเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นว่าเดินทางมาไม่ได้จริง
ในวันเดียวกันนี้เอง ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสมานจิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ว่า ครอบครัวโดยเฉพาะลูก 2 คน กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากสามีซึ่งเป็นศิษย์วัดพระธรรมกายไม่ยอมส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัว และไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านพักของนางสมานจิตที่ จ.ปทุมธานี พบว่าสภาพบ้านค่อนข้างมีฐานะ มีรถยนต์จอดอยู่ภายในบ้าน 1 คัน แต่นางสมานจิตระบุว่ารถคันดังกล่าวใช้งานไม่ได้เนื่องจากเพื่อนของบุตรชาย ขับไปชนมา ต้องกู้เงินมาซ่อม 60,000 บาท แต่ก็ยังใช้งานไม่ได้เนื่องจากเกียร์เสีย ซึ่งสามีไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เลย และจากการสังเกตภายในบ้านมีอุปกรณ์ ตัดเย็บเสื้อผ้าและหุ่นโชว์แบบเสื้อ ซึ่งนางสมานจิตบอกว่ารับตัดเย็บเสื้อผ้าหารายได้ แต่ก็ทำได้ไม่มากนักเพราะไม่สามารถนั่งตัดเย็บได้นาน เนื่อง จากเคยเข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นที่โรงพยาบาลราชวิถี
นางสมานจิตเล่าว่า เคยเข้าวัดพระธรรมกายกับสามี แต่ไม่ได้เลื่อมใสศรัทธาเนื่องจากเห็นว่าทางวัดมีการเรี่ยไรตลอดเวลาไม่จบสิ้น ซ้ำยังมีการสอนให้สะสมบุญ สามารถบอกยอดบอกระดับของบุญได้ด้วยว่าใครทำบุญเท่าไหร่ได้บุญเท่าไหร่ แล้วต้องทำอีกเท่าไหร่ ไม่ชอบวิธีการเช่นนี้จึงไม่ศรัทธา แต่ก็ไม่ได้ห้ามสามีไปเข้าวัดแต่อย่างใด โดยสามีได้เข้าวัดมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี มีความเลื่อมใสศรัทธามาก โดยเฉพาะช่วงที่เกิดเหตุการณ์ "อัศจรรย์ตะวันแก้ว" ยิ่งทำให้หลงใหลมาก ทิ้งงานไปปกป้องนายไชยบูลย์เมื่อวันที่มีข่าวว่าตำรวจออกหมายจับ
"ตั้งแต่เข้าวัดนี้สามีก็มีพฤติกรรมเปลี่ยน แปลงไปอย่างชัดเจน จากแต่ก่อนที่เคยดูแลครอบ ครัวอย่างดี และมีความสุขด้วยกัน แต่ปัจจุบันแม้ แต่ลูกก็ไม่สนใจ ไม่ยอมส่งค่าเล่าเรียนให้ จนลูกต้องขวนขวายเอง โดยให้ไปกู้ยืมทุนเรียนของรัฐบาล โดยสามีบอกว่าลูกเรียนหนังสือไม่ดี ลา ออกมามีครอบครัวดีกว่า และบอกว่าไม่มีปัญญาส่งเสียลูก ทั้ง ๆ ที่มีเงินไปทำบุญที่วัดพระธรรมกายทุกอาทิตย์ 4-5 หมื่นบาท มีพระมหาสิริราชธาตุห้อยคอ พระคะแนนสุดสุดมากกว่า 6 องค์ สามีไม่ได้ให้เงินไว้ใช้จ่ายเลยต้องไปขอยืมเงินเพื่อนบ้านมาเป็นค่ากับข้าวไปวัน ๆ"
นางสมานจิตเล่าต่อไปว่า ล่าสุดสามีต้อง การเปิดบ้านกัลยาณมิตรตามโครงการของวัดพระ ธรรมกาย แต่ตนและลูกไม่เห็นด้วย ลูก ๆ รู้สึกอายเพื่อนบ้านเนื่องจากวัดพระธรรมกายกำลังเป็นข่าวฉาวโฉ่อยู่และเพื่อนบ้านก็ทราบเรื่องดี ทำให้สามีไม่พอใจและขู่ว่าจะไม่ผ่อนบ้านหลังนี้อีก ทั้งยังไล่ตนออกจากบ้าน และมีเรื่องทะเลาะตบตีกันรุนแรงหลายครั้ง โดยสามีบอกว่าถ้าเปิดบ้านกัลยาณมิตรที่นี่ไม่ได้ก็จะไปเปิดที่อื่น และต้อง หย่ากัน
"ที่ผ่านมาเวลามีเรื่องกันเกี่ยวกับวัดพระ ธรรมกายก็พยายามหลบเลี่ยงไม่โต้ตอบด้วย จะหลบออกนอกบ้าน แต่สามีก็ยังตามจิกด่าว่าเป็น คนเลว ดูถูกสารพัด และใช้ถ้อยคำหยาบคาย ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยพูดแบบนี้ แต่พอมาเข้าวัดนี้ก็ทำให้ครอบครัวแตกแยก ก็ย้อนไปบ้างว่านี่หรือศิษย์ไชยบูลย์ เขาสอนสั่งกันมาอย่างนี้หรือ นี่หรือคือนักปฏิบัติธรรม แต่มาด่าด้วยคำหยาบคาย ถ้าถือศีล 5 ก็ขาดไปแล้ว"
นางสมานจิตยังเล่าด้วยว่า สามีตนมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยอีกอย่างหนึ่งคือมักจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมตั้งแต่วันศุกร์จนถึงวันอาทิตย์ แต่มีคนบอกว่าไม่ได้ไปที่วัดตั้งแต่คืนวันศุกร์แต่เดินทางไปจ.ลพบุรีก่อน ไปอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งจนวันอาทิตย์ก็พากันเข้าวัด ตนเคยถามสามีว่า มีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนดังกล่าวหรือเปล่า แรก ๆ สามีก็ปฏิเสธว่าเป็นแค่เพื่อนผู้มาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายด้วยกัน แต่ล่าสุดตนพบว่ามีการ ติดต่อกันทางโทรศัพท์และเพจเจอร์ด้วยข้อความที่ผิดปกติจากเพื่อนธรรมดา เหมือนมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง แสดงว่าวัดพระธรรมกายกลายเป็นที่นัดพบของชู้รักคู่นี้ไปแล้ว
ส่วนบรรยากาศที่วัดพระธรรมกายนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีญาติโยมเดินทางมาปฏิบัติ ธรรมน้อยกว่าปกติมาก โดยในครั้งนี้นายไชยบูลย์ไม่ได้ลงมาปฏิบัติหน้าที่ประธานเหมือนที่ผ่านมา โดยอ้างว่าป่วยเป็นหวัด แต่ให้พระฉัตรชัย ตันชโยลงทำหน้าที่แทน ส่วนในภาคบ่ายนั้นก็ได้ให้พระภาวนาวิริยคุณ หรือพระเผด็จ ทัตตชีโว ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งก็ได้มีการเชิญชวนญาติโยมให้มาร่วมกันในวันงานบุญใหญ่ 10 ต.ค. ซึ่งถือเป็นวันครบรอบ 115 ปี หลวงพ่อสด โดยตลอดเวลาได้มีการฉายประวัติหลวงพ่อสดและการค้นพบวิชชาธรรมกายด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดศรัทธาและสร้างจุดสนใจแก่ญาติโยม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณทางเข้านั้น ได้มีคณะนายทหารราว 10 คน จากสถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูงมายืนขายหนังสือเปิดโปงขบวน การล้มพุทธศาสนา และพุทธศาสนา : ชะตาของชาติ โดยเล่มแรกนั้นขายในราคา 3 เล่ม 100 บาทจากเดิมราคาเล่มละ 120 บาท ส่วนอีกเล่มนั้นขายในราคาเล่มละ 100 บาทจากเดิม 150 บาท ซึ่งเนื้อหาสาระของหนังสือทั้ง 2 เล่มมุ่งโจมตีพระ ธรรมปิฎก เจ้าอาวาสวัดญาณเวสกวันอย่างเต็มที่
ด้านอาการของนายคำนึง เสมพูล ศิษย์ธรรมกายที่ถูกฟ้าผ่าเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมานั้น นายแพทย์พรชัย พิญญพงษ์ แพทย์ของวัดพระ ธรรมกายที่มาดูแลอาการกล่าวว่า ขณะนี้อาการยังไม่ดีขึ้น สมองยังไม่สั่งการ อาการขณะนี้ 50/50 แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่น ๆ อย่างไรก็ตามทางวัด พระธรรมกายได้นำเอา เหตุการณ์ฟ้าผ่านายคำนึงมาบันทึกไว้ในหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุเล่มใหม่ด้วยว่า สาเหตุที่สมองนายคำนึงกลับมาทำงานได้อีกครั้งหลังโดนฟ้าผ่านั้นเป็นเพราะ อานุภาพอิทธิฤทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุที่ช่วยคุ้มครองให้ด้วย
ที่วัดสามพระยา เปรียญธรรมสมาคมได้จัดอภิปรายเรื่อง "พุทธศาสนากับสิทธิมนุษยชน" โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมอภิปรายหลายคน พระราชธรรมนิเทศหรือพระมหาระแบบ ฐิติญาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ กล่าวภายในงานตอนหนึ่งว่า สิทธิมนุษยชนจะอยู่เหนือศาสนาไม่ได้ หากพระจะอ้างเรื่องนี้เพื่อให้ปฏิบัติได้อย่างคนธรรมดาก็จะต้องสึกออกไป เช่นเดียวกับคำสอนที่ใครจะปฏิรูปก็ทำได้แต่ขึ้นอยู่กับกาลเทศะ หากศาสนาที่สังกัดอยู่กำหนดไว้อย่างหนึ่งแต่ปฏิบัติอีกอย่างหนึ่งก็ต้องออกจากสังกัดไป พระไตรปิฎกนั้นถูกต้องสมบูรณ์แล้ว ใครบอกว่าคำสอนของตนถูกต้องพระไตรปิฎกผิดก็ถือว่าดูหมิ่นพระพุทธเจ้า ในอดีตการคัดลอกพระไตรปิฎกมีความสำคัญมาก หากลอกผิดไปตัวหนึ่งเท่ากับฆ่าพระ ถือเป็นอนัน ตริยกรรมเลย
พระมหาระแบบยังชี้แจงกรณีที่ไม่ค่อยออกมาเคลื่อนไหวกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายว่า ต้องการลดกระแสที่กล่าวหาว่าพระฝ่ายธรรมยุตต้องการทำลายพระฝ่ายมหานิกาย และก่อนหน้านี้สมเด็จพระสังฆราชทรงมีลายพระหัตถ์ในเรื่องนี้ออกมาแล้ว จึงมีการห้ามไม่ให้พระวัดบวรนิเวศฯออกมาแสดงความคิดเห็นอีก
พ.อ.(พิเศษ) เลื่อน สุนทรเศวต กล่าวในงานเดียวกันว่า การที่วัดพระธรรมกายออกมาเรียกร้องว่ามีการเบียดเบียนสิทธิมนุษยชนของคนวัดพระธรรมกาย แต่ขณะเดียวกันคนวัดพระธรรมกายก็เบียดเบียนสิทธิมนุษยชนของพระธรรมปิฎก ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์ การที่พระวัด พระธรรมกาย ซึ่งมีการศึกษาดีแต่ไปหลอกคนด้วยวัตถุโดยต้องการขาย พระมหาสิริราชธาตุหรือพระดูดทรัพย์ แสดงว่าถึงแม้จะมีการศึกษาทางพุทธศาสนาดีแต่ยังมีความโลภอยู่มาก.