เดลินิวส์ 2/10/2542
'สังฆราช'ทรงอุ่นใจสื่อพิทักษ์พระพุทธ
สมเด็จพระสังฆราชา ประทานวรคติธรรมให้สื่อมวลชนเป็นพิเศษ ทรงย้ำเกิดความเชื่อมั่น อุ่นใจนักข่าวได้ทำหน้าที่พิทักษ์พระศาสนา แสดงให้เห็นเป็นผู้ที่มีความเห็นชอบ "สมศักดิ์" เสนอมหาเถรฯ ปัดฝุ่นกฎห้ามพระใบ้หวย ใช้ไสยศาสตร์วิชามารหลอกลวงคนจับสึกทันที กองปราบฯ สรุปผลคดีใหม่ ไชยบูลย์สัปดาห์หน้า
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก พระราชทานพระวรธรรมคติเป็นลาย พระหัตถ์ให้สื่อมวลชนตามคำขอ เนื่องในวันประสูติครบรอบ 86 พรรษา ในวันที่ 3 ต.ค. นี้ว่าระยะหลังมีข่าวพาดพิงถึงบ่อย มีผู้อ่านให้ฟัง หรือเล่าบ้าง พอเข้าใจงานของนักข่าว แต่เดิมเสียงพูดถึงนักข่าวไม่น่าไว้วางใจ แต่ระยะหลังกลับเป็นผู้มีอุดมคติได้รับสรรเสริญอยู่มากที่เข้าถึงหู ทำให้สบายใจ เกิดความเชื่อถือและมีความอุ่นใจว่าสื่อมวลชนไม่ทิ้งสิ่งสูงค่าที่สุดคือพระพุทธศาสนา แสดงความเป็นผู้มีปัญญา รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูก อะไรผิด มีสัมมาทิฐิคือความเห็นชอบ ซึ่งถือเป็นอันดับ 1 ในมรรค 8 แม้ผู้มิได้ปรารถนาเป็นพระอรหันต์การปฏิบัติมรรค 8 ด้วยยึดมั่นในความเห็นชอบ แม้ในเรื่องราวทั้งหลายที่เผชิญอยู่ย่อมได้รับความพิทักษ์รักษาจากพระศาสนาให้พ้นความเสียชื่อ เสียคน เสียเกียรติ เสียศักดิ์ศรีความเป็นคน
ผลงานสื่อมวลชนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแสดงชัดเจนว่านักข่าวมีสัมมาทิฐิมั่นคง รักษาความดี ให้กลัวผลแห่งกรรม เพราะต้องมีชาติหน้าแน่ เป็นคนให้เป็นคนดีเถิด เป็นพระให้เป็นพระดี จะไม่ได้ไม่ถูกแรงดูดจากนรกลงไปเร่าร้อนทรมานแสนสาหัส สื่อมวลชนมีโอกาสกว่าคนทั่วไปที่จะนำคนจำนวนมากเป็นสุข รักษาความยุติธรรมเที่ยงตรง และให้รักษาความเห็นชอบไว้ให้มั่นคง แม้ชาติหน้ามาถึงก็ไม่มีอะไรน่ากลัว เพราะเป็นคนดี รวมถึงได้ทำบุญที่ยิ่งใหญ่สุดคือร่วมรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่อยู่หนือสิ่งอื่นใดทั้งปวง และขอฝากสัมมาทิฐินี้ไว้สำคัญยิ่งใหญ่กว่าให้พรอื่น
ในวันเดียวกัน ที่วัดบวรนิเวศวิหาร นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการ นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯ นายพนม พงษ์ไพบูลย์ ปลัดกระทรวงศึกษาฯ นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมข้าราชการกระทรวงศึกษาฯ เข้าเฝ้าเนื่องในวโรกาสถึงวันคล้ายวันประสูติ
ด้านนายสมศักดิ์เปิดเผยว่า ตนสั่งการให้อธิบดีกรมการศาสนา นำประกาศคณะสงฆ์ พ.ศ. 2498 ที่ห้ามพระสงฆ์ใบ้หวยและทำพิธีเชิงไสยศาสตร์ หากพระรูปใดฝ่าฝืนพระผู้ปกครองสามารถจับสึกได้ทันที โดยให้นำเข้าพิจารณาในที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เนื่องจากในปี 2505 ได้มี พ.ร.บ.คณะสงฆ์ขึ้นมาบังคับใช้ และไม่ได้กำหนดเรื่องนี้เอาไว้ จึงควรเสนอมหาเถรฯ ให้ประกาศเป็นกฎ จะได้ลงโทษพระเหล่านี้ เพราะขัดต่อหลักธรรมหลักพระพุทธศาสนา มอมเมาประชาชนให้อยู่ในความลุ่มหลงเรื่องโชคลาภ ไม่คิดจะช่วยเหลือตัวเอง
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์และนายไพบูลย์ได้เดินทางเข้านมัสการพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) ที่วัดญาณเวศกวัน เพื่อให้กำลังใจและสอบถามกรณีถูกโจมตีว่าอยู่เบื้องหลังการล้มล้างพระพุทธศาสนา และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการออก พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับใหม่ และ พ.ร.บ. อุปถัมภ์และคุ้มครองพระสงฆ์ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนมั่นใจในแนวทางการชี้แนะของพระธรรมปิฎกตรงกับหลักของพุทธศาสนา กรมการศาสนาตรวจสอบแล้วพบว่าพระธรรมปิฎกไม่ได้เกี่ยวข้องกับการร่าง พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาแต่เป็นความคิดของกรรมาธิการการศาสนาฯ
ด้านพระธรรมปิฎกกล่าวว่า การออก พ.ร.บ.คณะสงฆ์จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นเป็นธรรมดาของกฎหมายเมื่อใช้ไปนาน ๆ ต้องปรับปรุง หากมีการร่าง พ.ร.บ.ขึ้นใหม่ก็จะต้องจับสาระสำคัญเกี่ยวกับชีวิตของพระสงฆ์เรื่องการบวชเรียน ไตรสิกขา ถ้าจับจุดนี้ไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ตรงจุด มัวแต่ไปยุ่งอยู่ที่เปลือก และที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง พ.ร.บ. 2 ฉบับว่า รู้สึกเห็นใจผู้ที่กล่าวหา อาจเกิดความกระทบกระทั่งทางจิตใจทำให้ไม่สบายใจ หากให้ระบายออกมาบ้างก็ดี แต่การระบายก็ควรควบคุมตนเองให้อยู่ในธรรมะ ไม่ละเมิดความสุจริต
"ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้เกิดจาก 2 ประเด็นคือ พระธรรมวินัยว่าอย่างไร และบุคคลหรือองค์กรกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทำผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ หากประชาชนมั่นคงในศาสนาก็จะรู้ว่าอะไรเป็นเกณฑ์ตัดสิน แต่ปัญหาที่วุ่นวายเกิดจาก 2 ข้อดังกล่าวไม่มีความชัดเจน เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นคณะสงฆ์มีหน้าที่จะต้องชี้แจงทันทีว่าพระธรรมวินัยคืออะไร จากนั้นจึงค่อยดำเนินการสอบสวนตัวบุคคลว่าทำผิดหรือไม่"
ส่วน พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ หัวหน้าทีมสอบสวนคดีธรรมกายเปิดเผยว่าในวันที่ 5 ต.ค. จะพิจารณาสอบสวนปากคำบุคคลที่เข้าข่ายกระทำความผิดร่วม 42 รายหรือไม่ เพราะเพิ่งสอบนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพียงคนเดียว ส่วนการสอบสวนเพิ่มในต่างจังหวัดรายงานแล้วทั้ง จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิจิตร โดยเฉพาะที่ จ.ตราด สมบูรณ์แล้วไม่ต้องสอบเพิ่ม มีพยานให้การพาดพิงถึงนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าสำนักธรรมกายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อที่ดิน และจะได้ข้อยุติในสัปดาห์หน้าพร้อมกันทุกอย่าง
รายงานข่าวกล่าวว่ากรณีที่ดิน จ.ตราด มีผู้ทำผิด 3 คน ได้แก่นายไชยบูลย์และสีกา 2 คน พนักงานสอบสวนยังเรียกสอบพยานตระกูลดังที่เดือดร้อนโดยได้นำเงิน ไปบริจาคนับล้านบาทด้วยการสร้างพระธรรมกายประจำตัวและควบตำแหน่งประธานรองฉลองเจดีย์ ซึ่งจะสร้างพระที่ใกล้ยอดเจดีย์มาก นายไชยบูลย์จะให้ฟังยิ่งใกล้ยอดเท่าไหร่ยิ่งบุญมาบารมีสูง พยานคนนี้ต้องการเงินคืนเคยทำหนังสือถึงทวงไปถึงวัดขอคืนหลายครั้งแต่วัดเพิกเฉย เข้าวัดเมื่อปี 2540 และได้พบภายหลังว่าทุกอย่างของวัดไม่เป็นจริงดังคำโฆษณา หลอกลวงไปเรื่อย แบ่งชั้นวรรณะใครมีเงินมากได้ใกล้นายไชยบูลย์ที่ทำตัวเป็นจักรพรรดิ มีรถขบวนนำ ให้สาวกตั้งแถวรับ.