page4

เดลินิวส์ 30/9/2542

อีก 1 อาทิตย์สรุปฟ้องเพิ่ม'ไชยบูลย์'

ที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 29 ก.ย. พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ หัวหน้าคณะ พนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกาย ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนในคดีทั้งชุด 34 นาย โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ภายหลังการประชุมพล.ต.ท. วาสนาเปิดเผยว่า เป็นการ ประชุม เพื่อให้มารายงานผลการดำเนินการ ที่ได้มอบหมาย ให้ออกไป รวบรวมพยานหลัก ฐาน เช่น เรื่องที่ดินในจังหวัดต่าง ๆ ของบุคคลต่าง ๆ ที่ใกล้ชิด นาย ไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิ ธรรมกายโดยจะตรวจสอบว่าได้มา ด้วยวิธีใด รวมทั้งตรวจสอบสถานที่ปฏิบัติ ธรรมว่ามีการบุกรุกป่าสงวนหรือไม่ โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงราย เลย ตราดและสระบุรี ซึ่งการซื้อที่ดินมีพยานยืนยันว่านายไชยบูลย์มีส่วนรู้เห็นด้วย

พล.ต.ท.วาสนากล่าวว่า ขอเวลา 1 สัปดาห์จะได้ข้อยุติว่าจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยเรียกผู้เกี่ยวข้องมา สอบปากคำ ล่าสุดนายอนันต์ อัศวโภคิน ก็มาให้ปากคำ ว่าเงิน ที่ได้มาส่วนใหญ่เป็นค่าก่อสร้างภาย ในวัด ซึ่งกำลังตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบ ส่วนนางจิรวัฒน์ ศรีสัตตนานั้น ได้ติดต่อขอผัดผ่อนการให้ปากคำไปก่อน สำหรับความ คืบหน้าในการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับที่ดินที่เพชรบูรณ์ 5 รายนั้นยังไม่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมตามที่อัยการประสานมาแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.วาสนาได้เร่งรัดการสอบสวนเรื่องที่ดินที่เพชรบูรณ์และตราด คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งให้หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทันทีในความผิด ใดที่เข้าข่ายความผิดทางอาญา ส่วนคณะทำงานที่ออกไปสอบสวนเพิ่มในจังหวัดต่าง ๆ ได้สรุป รายงานต่อที่ประชุม โดยเฉพาะที่ดินที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม เพราะมีที่ดินของ น.ส.วิชญา ไตรวิเชียร อยู่หลายแปลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนางสงบและ น.พ.บัญชา ปัญญา ตรง มาให้ปากคำในวันที่ 29 ก.ย. ปรากฏว่านางสงบได้ให้ทนายความโทรศัพท์มา ขอเลื่อนนัดออกไป โดยให้เหตุผลว่าต้องเดินทางไปส่งบุตรสาวศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ จะกลับมาในอีก 2 เดือนข้างหน้า ก่อนหน้านี้นางสงบเคยให้ปากคำแล้ว 2 ครั้ง ส่วน น.พ.ปัญญานั้นปรากฏว่า มีชื่ออยู่ในบัญชีที่เปิดร่วมกับนางสงบแล้วมีเงินของวัดพระธรรมกายโอนเข้าบัญชี นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังได้เรียก นางกมลศิริ คลี่สุวรรณ มาให้ปากคำด้วยแต่ไม่มา

รายงาน ข่าวแจ้งว่า ในการสอบปากคำนายอนันต์นั้น พนักงานสอบสวน ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องเงินของวัดซึ่งมีรายจ่ายส่วนหนึ่ง มาจาก มหาธรรมกาย เจดีย์ ซึ่งพนักงาน สอบสวนจะได้นำไปหักล้างกับบัญชีใหญ่ ทั้งนี้นายอนันต์ปฏิเสธว่า ไม่เคยร่วมโครงการใด ๆ กับวัด พระธรรมกาย แต่ยอมรับว่าในปี 2540-2541 ทางวัดได้โอนเงินมาให้โดย ทยอยมาครั้งละประมาณ 100 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นราว 400 ล้านบาท เนื่องจากเมื่อปี 2538 เคยสำรองจ่ายเป็นค่าจัดซื้ออุปกรณ์วัสดุก่อสร้างให้แก่ทางวัด

ส่วนการประชุมคณะพนักงานสอบสวนนั้น ก่อนการประชุม ได้มีการแจ้งให้พนักงาน สอบสวนระมัดระวังข้อมูลที่อาจรั่วไหลได้ พร้อมกับมีการรายงานผลการปฏิบัติงาน ตามที่อัยการสั่งให้หาเพิ่มเติมมาคือ 1. รายได้ของวัด 2. หลักฐานการโฆษณาชวนเชื่อ 3. รายจ่าย 4. กระแสบัญชีของวัด 5. ผลการสอบสวนหลวงพ่อคูณเกี่ยวกับการ จัดทำบัญชีรับ-จ่ายและบัญชีต่าง ๆ ของวัดบ้านไร่ 6. การสอบสวนเรื่องที่ดินในเพชรบูรณ์และเชียงใหม่

สำหรับความคืบหน้าในการสอบสวนเพิ่มเติมที่จังหวัดตราดนั้น พบว่านายไชยบูลย์ ได้ติดต่อ ชาวบ้านเกาะช้างเพื่อให้ซื้อเรือไว้สำหรับรับส่งพระเณรและฆราวาสไปเกาะช้าง หาดมุกแก้ว รีสอร์ท ซึ่งได้มีการติดต่อซื้อเรือจากเจ้าของโรงงานปลาป่นซึ่งมีอยู่ 3 ลำ ในราคา 1.4 แสนบาท เป็นเรือเอี้ยมจุ๊นที่นำมาดัดแปลงใหม่เพื่อขนส่งผู้โดยสารตั้งชื่อว่า "สีทันดร" จากเดิมที่ชื่อ"ทรัพย์พูนเกษม 2" โดยให้พระชาติชายเป็นผู้นำเงินมาจ่ายให้แก่เจ้าของเรือ อย่างไรก็ตามไม่มีการจดทะเบียนโอนให้เจ้าของใหม่ และเรือลำนี้ ก็เคยถูกกรมเจ้าท่า จับมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ได้รับการช่วยเหลือเกลี้ยกล่อมจากพระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง ล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้พาพระเณรและฆราวาสมาใช้บริการราว 600 คน ไม่มีการปฏิบัติธรรมแต่อย่างใด โดยบนเรือดังกล่าวมีสุราบริการให้ด้วย

ที่บ้านพัก นายบรรหาร� ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เมื่อเวลา 10.00 น. นายไพบูลย์ เสียงก้อง ว่าที่อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมผู้บริหารระดับสูงได้เข้าพบนายบรรหาร เพื่อขอคำแนะนำในการทำงาน โดย นายบรรหารได้กำชับให้ดูแล กรมการศาสนาให้ดีโดยเฉพาะปัญหาวัดพระธรรมกาย ให้ยึดหลักกฎหมาย ทำงาน ด้วยความรอบคอบ และควรที่จะประสานกับตำรวจเพราะ ขณะนี้เรื่องอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ

วันเดียวกัน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกกรรมาธิการการศาสนาเปิดเผยว่า กมธ.ได้เชิญ สำนักข่าวกรองแห่งชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงมาชี้แจง เกี่ยวกับการออกใบปลิว เอกสาร โจมตี พระธรรมปิฎก เป็นขบวนการทำลายผู้ออกมาปกป้องพระศาสนา ทราบว่าเรื่องดังกล่าวนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี นำหนังสือที่พระ ธรรมปิฎกให้พิสูจน์ความจริงส่งถึงมือ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รมว.มหาดไทย ด้วยตนเองให้ดำเนินการทำเรื่องให้กระจ่าง นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวหลังการประชุมมหาเถรฯว่า ที่ประชุมมหาเถรฯ ได้หยิบยกความเห็นของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลางที่ได้พิจารณา การปฏิบัติหน้าที่ ของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะผู้พิจารณาเบื้องต้นว่าฆราวาสไม่สามารถฟ้องพระสงฆ์ได้ขึ้นมาเป็นวาระจร โดยที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็น หลากหลายจนไม่สามารถมีมติได้ แต่ได้มีมติให้กรมการศาสนาขอความร่วมมือไปยังรัฐบาลส่งผู้เชี่ยวชาญฝ่ายกฎหมายมาประชุมร่วมกับ ฝ่ายกฎหมายของมหาเถรฯที่เป็นฆราวาสมาประชุมร่วมกันเป็นวาระพิเศษ เพื่อความรอบคอบและเป็นบรรทัดฐานต่อไป.