เดลินิวส์ 29/9/2542
ยันพบการโอนเงิน'อนันต์'-'ธรรมกาย'
อนันต์ อัศวโภคิน" มหาเศรษฐีหมื่นล้านให้ปากคำตำรวจแล้ว "วาสนา"ยันพบการโอนเงิน เข้า-ออก ในบัญชีหลายครั้ง นับร้อยล้าน นัดถกออกหมายจับ พระปลอม พร้อมสาวกอีกในคดีใหม่ พบหลักฐานวัดฉาวบุกรุกป่า ตั้งรีสอร์ตชายทะเลที่ตราด ตัดกางเกงให้พระ ลงไปป๋อม แป๋มเล่นน้ำกับสีกา สั่งยึดบัญชีเงินฝากทั้งแบงก์ ไทย-แบงก์เทศ ก่อนเอากฎหมาย ฟอกเงินมาเล่นงานทั้งแก๊ง "พิภพ" พ้นกรมการศาสนาลี้ภัยธรรมกาย เจ้าตัวขอไปเอง ได้มือ กฎหมาย"ไพบูลย์ เสียงก้อง"มาเป็นแทน ตั้งเป้ารื้อกฎสงฆ์ให้กระชับมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.ก.ตร.ในฐานะ หัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีทุจริต วัดพระธรรมกาย เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนทั้งชุดที่ห้องประชุมกองปราบปราม เพื่อรายงานผลการปฏิบัติงานโดยเฉพาะผล การทำงานที่ได้แบ่งคณะทำงาน ย่อยออกไปลงตรวจสอบพื้นที่จ.เชียงใหม่ ,จ.พิจิตร,จ.เพชรบูรณ์และจ.ตราด และความคืบหน้าในการติตดามข้อมูลเพิ่มเติมตามที่อัยการสั่งสอบเพิ่ม รวมทั้งการตรวจสอบเรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์
พนักงานสอบสวนยังได้เรียกนายแพทย์บัญชา และนางสงบ ปัญญาตรง มาให้ปากคำ โดยพบว่า นางสงบมีเงินบัญชี 427 ล้านบาท ซึ่งต้องตรวจสอบ ที่มา รวมถึงจะเรียกนางกมลศิริ คลี่สุวรรณ ซึ่งมีบัญชีมากกว่านางสงบมาสอบปากคำด้วย
ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบที่ดินจ.ตราดล่าสุดได้พบพื้นที่หาดมุกแก้ว ห่างตัวเมือง 30 กิโลเมตร ชาวบ้านให้ปากคำว่ามีการพาพระ เณร และฆราวาสมาเที่ยวพักผ่อน บนพื้นที่ 160 ไร่ จากสอบสวนพบว่าพื้นที่ดังกล่าวสร้างเป็นรีสอร์ตไว้นั่งวิปัสสนา และจะมีห้องใต้ดินอยู่ด้วย และวัดพระ ธรรมกายได้พาคนมาบ่อย รวมถึงมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ด้วยการเอาจีวร มาตัดเป็นกางเกง ขาสั้นสีเหลืองเพื่อเล่นน้ำร่วมกับสีกา หยอกล้อกับสนุกสนาน และมีการอยู่กับสีกาในสถานที่ไม่เหมาะสม
ก่อนหน้านี้วัดที่เคยตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงเคยเกิดกรณีพิพาทกับทางรีสอร์ตแห่งนี้ เนื่องจากมีการรุกล้ำวัดท้องถิ่น โดยบีบให้รื้อถอนเมรุเผาศพที่ตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้ารีสอร์ต ด้วยการใช้อิทธิพลบีบบังคับ ทำให้ชาวบ้าน ไม่พอใจรวมตัวฟ้องศาลและชนะความ สุดท้ายมีการใช้เส้นไปขอกรมเจ้าท่านำต้นสนมาปลูกบังเมรุดังกล่าว
ทางด้านพล.ต.วาสนาตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก. 1 ป. ทำการสอบปากคำนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการบริษัท แลนด์ แอน เฮาส์ และศิษย์คนสนิทนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าสำนักธรรมกายซึ่งพนักงานสอบสวน มีหลักฐานว่า นายอนันต์ มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย โดยจะให้ชี้แจงถึงลักษณะที่เข้าไปเกี่ยวข้องในระดับใด เบื้องต้นจะสอบในฐานะพยาน
พล.ต.ท.วาสนายอมรับว่าตามหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมาได้นั้น นายอนันต์เข้าไปเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายเป็นลักษณะเดียวกันกับสีกาคนสนิท มีการโอนเงินเข้า-ออกในบัญชีเงินฝากของนายอนันต์หลายครั้ง ยอดเงินรวมมากกว่าร้อยล้านบาท
อย่างไรก็ตามคดีวัดพระธรรมกายยังต้องทำการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกประมาณ 30-40 ปาก
ในวันที่ 29 ก.ย. จะมีการเรียกประชุมะพนักงานสอบสวน ที่กองปราบปราม ซึ่งแนวโน้มจะดำเนินคดีและออกหมาย จับเพิ่มเติมอีกหลายกรณีกับนายไชยบูลย์ อาทิ คดียักยอกเงินวัดไปใช้ในกิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัด ทั้งที่ใช้จ่ายเองและใช้จ่ายผ่านบุคคลแวดล้อม อันเป็นความผิดที่ต่างกรรมต่างวาระ โดยมีหลักฐานเพิ่มเติมที่น่าเชื่อว่า มีการรุกป่าสงวนและอุทยาน แห่งชาติหลายแห่ง ขณะนี้กำลังพิจารณารายละเอียดทั้งหมด ก่อนที่จะมอบ ให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง คือกรมป่าไม้เข้าไปตรวจสอบ และดำเนินการต่อไป สำหรับกฏหมายฟอกเงินนั้นได้เสนอ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผบ.ตร. จัดผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมาย ฟอกเงินเข้ามา เป็นพนักงานสอบสวน ซึ่ง ผบ.ตร.ได้มี คำสั่งให้ พ.ต.อ.พีรพันธ์ เปรมภูติ รองผบก.ตท. และพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ผกก.ฝอ.บก.ปส. 2 มาช่วย งาน
"กฏหมายฟอกเงินจะมีผลต่อการอายัดเงินผู้ต้องหาได้หรือไม่นั้น ขณะนี้บัญชีธนาคารพาณิชย์ของไทย ทั้งสาขาในประเทศและต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ได้ทำการ ตรวจสอบและอายัติไปแล้วบางส่วน สำหรับสาวกคนสนิทที่นำเงินของวัดไปใช้โดยไม่สุจริต แล้วมีการหลบหนีไปต่างประเทศนั้น เรื่องนี้ได้สั่งการให้พนักงาน สอบสวนรวบรวมหลักฐานอยู่ ทราบมาว่าในวันที่ 4 ต.ค.ที่จะถึงนี้ พนักงานอัยการจะทำการสั่งคดีสำนวนแรกตามที่ส่งไปให้พิจารณา อย่างไรก็ตามในคดีอื่นคาดว่าจะสรุปสำนวนได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนางจิราวัฒน์ ศรีสัตนา หรือสีกาอี๊ด สีกาสนิทธรรมกายมาสอบปากคำด้วย แต่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ และต้องออกหมายเรียกใหม่ส่งไปที่อยุธยา
วันเดียวกัน มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.)เผยแพร่แถลงการณ์ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณี พระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตโต) ที่ปรากฎมีข้อเขียนในหนังสือ"เปิดโปง ขบวนการล้มพุทธ" ในหนังสือพิมพ์บางฉบับ กล่าวหาพระธรรมปิฎกโดยพาดพิงถึงมจร.ในประเด็นต่าง ๆ จึงขอชี้แจงว่าเรื่องทั้งหมดไม่จริง
ข้อกล่าวหาแรกคือฝ่ายปกครอง คณะสงฆ์ไทยมองเห็นอันตรายจึงไม่แต่งตั้งพระธรรมปิฎกเป็นเลขาธการมจร. และตำแหน่งการบริหารอื่น ๆ ซึ่งไม่ตรงความจริงโดยพระธรรมปิฎก มีเจตนาที่จะทำงาน วิชาการทงพระพุทธศาสนา จึงไม่ประสงค์รับตำแหน่งใด ๆ โดยมจร.เคยมอบให้ท่านเป็น ผู้ช่วยเลขาธิการและรองเลขาธิการ ท่นทำหน้าที่พัฒนามหาวิทยาลัยให้เจริญก้าวหน้าทั้งด้นหลักสูตร การบริการวิชาการ การเรียนการสอน และที่ท่านลาออกเพราะต้อง การอุทิศเวลาให้กับงานวิชาการพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ จึงกลายเป็นผลดีที่ทำให้พระธรรมปิฎกมีผลงานวิชากรอย่างชัดเจนในปัจจุบัน
นอกจากนั้นพระธรรมปิฎกเคยได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ ระยะหนึ่งก่อนที่จะลาออกไปด้วยเหตุผลเดียวกัน ประเด็นต่อมามีการกล่าวหา พระธรรมปิฎกแทรกแซงเข้าไปในมหาวิทยาลัยมหิดล แล้วแก้ไข บิดเบือน พระไตรปิฎกฉบับคอมพิวเตอร์(Budsir) ก็ไม่จริง โดยมหาวิทยาลัยมหิดลจัดทำโครงพาร พระ ไตรปิฎกและอรรถกถาฉบับคอมพิวเตอร์ตามพระราชดำริ ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิม พระเกียรติในวโรกาสรัชมังคลาภิเษก พ.ศ. 2531 และได้อาราธนาพระธรรมปิฎกเป็นที่ปรึกษา โดย พระไตรปิฎก ฉบับดังกล่าว ใช้ฐานข้อมูล จากพระไตรปิฎกภาษาบาลีฉบับสยามรัฐ พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับหลวงที่พิมพ์ในโอกาสฉลอง 200 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ และอรรถกถาฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
มจร.ในฐานะผู้ใช้พระไตรปิฎก ฉบับคอมพิวเตอร์นี้ได้ตรวจสอบแล้วว่า คณะผู้จัดทำดำเนินการ ถูกต้องตามต้นฉบับเดิมไม่มีการแก้ไขบิดเบือนดังที่กล่าวหาแต่อย่างใด นอกจากนั้นมจร.ไม่มีนโยบายถอด บทความที่ทรงคุณค่าทางวิชาการของพระธรรมปิฎกออกจากนิตยสารพุทธจักรที่เป็นของมหาวิทยาลัย
ในวันเดียวกันครม.อนุมัติการโยกย้ายในกระทรวงศึกษาธิการ โดยย้ายนายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนาไปสลับตำแหน่งกับนายไพบูลย์ เสียงก้อง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการกล่าวว่าการโยกย้ายครั้งนี้เพราะนายพิภพ เคยปรารภกับนายสุรัฐ ศิลปอนันต์ ปลัดกระทรวงศึกษาธฺการในช่วง เกิดปัญหาวัดพระธรรมกายว่าอยากย้ายตัวเอง และตนเชิญนายพิภพ มาสอบถาม ก็ยืนยันว่าเป็นความจริงและแล้วแต่จะพิจารณา จึงคิดว่าน่าจะสลับ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงนายไพบูลย์ เพราะ นายไพบูลย์เหมาะสมมีความเชี่ยวชาญ ด้านกฎหมายสอดคล้อง กับงานของกรมการ ศาสนา ที่อยู่ใน ช่วง การยกร่างระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ และนายไพบูลย์เป็นประธาน ปรับปรุงกฎนิคหกรรมในขณะนี้ ด้านนายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่หนักใจในปัญหาธรรมกาย และจะเข้าไปดูแลตรวจสอบมีเรื่องใดขัดข้อง และต้องได้รับการแก้ไข ส่วนการทำงานกับมหาเถรสมาคม(มส.) เมื่อมหาเถรฯมีมติก็ต้องไปปฏิบัติให้เกิดผลไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การโยกย้ายครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับธรรมกาย และเท่าที่สอบถามคนใหม่เป็ฯนกฎหมายที่เหมาะกับงาน คนเก่าก็พอใจเป็นรองปลัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 30 ก.ย.เวลา 13.00-16.00 น. กรรมาธิการการศาสนฯจะจัดงเสวนาหาความจริงใครทำลายพระพุทธศาสนา ที่ห้องโถงชั้นล่างอาคารรัฐสภา 1 เพราะได้มีขบวนการบิดเบือนหลักพระธรรมวินัย ใส่ร้ายป้ายสีบุคลากร องค์กรพุทธ กระพือข่าวเท็จ และลุกลามบานปลาย สร้างความสับสน ทำให้เกิดความแตกแยก ความชังชังในหมู่ชาวพุทธ ส่งผลเสียต่อทุกฝ่าย ซึ่งจะมีการจัดประชุมเสวนาในทุก ๆ สัปดาห์
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย โฆษกพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า พรรคมีมติมอบให้นายอำนวย สุวรรณคีรี ส.ส.สงขลา ไปทำความเข้าใจ ตอบโต้การโจมตีกรณีที่มีการ แจกจ่ายหนังสือ"ฆราวาส ปกครองพระ"ที่เขียนโดยนายคณิน บุณสุวรรณ อดีตส.ส.ร.ที่มีเนื้อหาบิดเบือน และทำให้เข้าใจว่าพรรคต้องการ ให้มีการปกครองทางสงฆ์ ข้อเท็จจริงร่างกฎหมาย ที่กรรมาธิการเสนอยังไม่เป็นกฎหมาย และไม่ได้ทำลายศาสนาเหมือนกับที่ถูกโจมตี