เดลินิวส์ 27/9/2542
ไชยบูลย์อวดบารมีฟ้าผ่าศิษย์ยังไม่ตาย
ไชยบูลย์"คนดีที่สุดในสายตาศิษย์ธรรมกายแสดงธาตุแท้ ระบุไม่กระดากปาก ฟ้าผ่า"คำนึง"เป็นกรรมเก่าที่ทำเอาไว้ ชดใช้ชาตินี้ โวผู้บาดเจ็บโชคดีที่มาเกิดเหตุในวัด ได้บารมีพระดูดทรัพย์คุ้มกบาล หากเป็นที่อื่นตายไปแล้ว ญาติคนเจ็บโวย กีดกันทุกรูปแบบ แถมห้ามพุดคุยสื่อมวลชนเด็ดขาด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปริปากอ้อนวอนนักข่าวอย่ารุกหนัก วัดพระธรรมกายเป็นลูกค้าที่ดีต้องยอมก้มหัวให้ ยืนยันอาการ"คำนึง"ไม่ดีขึ้นเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดพระธรรมกายเมื่อเวลา 8.00 น. วันที่ 26 ก.ย.ว่า มีผู้เดินทาง ไปร่วมกิจกรรมของวัดน้อยมากจนสังเกตได้ชัด ทั้งนี้ผู้ที่มาส่วนใหญ่ต่างจับกลุ่ม วิพากษ์วิจารณ์ กรณีเกิดฟ้าผ่าบริเวณด้านหน้ามหาธรรมกายเจดีย์เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ก.ย. จนมีผู้บาดเจ็บสาหัส โดยทางวัดได้ออกหนังสือชี้แจงว่าเหตุการณ์ฟ้าผ่านั้นมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คนคือนายคำนึง เสมพูล นอกนั้นอาการกล้ามเนื้อเกร็งและบาดเจ็บที่คาง 4 คนคือนายบรรจง คงเนตร นางรัชดา จูงทรัพย์ ด.ญ.ณัฐธิดา เสมพูล และนางสาวณัฐจารี ม่วงยิ้มพงษ์
กระทั่งเวลา 10.00 น. นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย ได้ออกมากล่าวกับบรรดาสาวก เกี่ยวกับ เหตุการณ์ อาเพทฟ้าผ่าว่า การที่ฟ้าผ่าจะต้องมีอายตนะรับส่งกัน หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ และอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เคยพูดว่า ฟ้าจะผ่าไปตรงไหนจะต้องมีอายตนะรับส่งกันจากข้างล่างไปข้างบน จากข้างบนลงมาข้างล่างที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ คือกระแสบาปอกุศลกรรมที่ทำไว้ตั้งแต่ภพชาติก่อนๆ คนจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ต้องระลึกชาติหนหลังได้ คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือผู้ที่ได้ระลึกธรรมอย่างหลวงพ่อวัดปากน้ำ คุณยายจันทร์
"มันมีกุศลกรรมที่ทำไว้แต่ภพชาติปางก่อน ส่วนใหญ่เป็นวจีกรรมคือเป็นกรรมคำพูด ข้อความ ข้อคิด อะไรบางอย่างคือบางคนไปสาบานว่าถ้าทำอย่างนี้จริงๆก็ขอให้ฟ้าผ่า กรรมประเภทจาบจ้วงติเตียนผู้มีศีลมีธรรม ผู้ที่รักษาศีลเจริญภาวนา เป็นผู้มีธรรมประพฤติธรรม ซึ่งท่านเหล่านี้ไม่ประทุษร้ายตอบ มันก็มีบาป อกุศลแบบ นี้คือเกิดฟ้าผ่าเป็นต้น สิ่งเหล่านี้ติดอยู่กับตัวเหมือนระเบิดเวลาเมื่อถึงเวลาก็ระเบิดตูมขึ้นมา อันนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อถึงเวลาอายตนะของบาปอกุศลกรรมก็เกิดขึ้น ดึงดูดฟ้าแลบมาถึงตัว เปรี้ยง !! ลงมา"
นายไชยบูลย์กล่าวต่อไปว่า ปกติเวลาฟ้าผ่าลงมาจะเป็นคนก็ดีควาย ก็ดีมันดำเป็นตอตะโกแล้วตายสถานเดียว ยกเว้นนายคำนึงพอฟ้าผ่าเปรี้ยงมาก็ล้มหลับ ไปเลยไม่ได้เจ็บปวดอะไร ซึ่งพอมองเห็น เหตุการณ์ก็สั่งให้ เจ้าหน้าที่ นำรถไปส่งสถานพยาบาลของวัดและได้รับรายงานว่าหัวใจนายคำนึงหยุดเต้นไปแล้ว 10 นาที จึงได้ตามไปดูที่สถานพยาบาลก็เห็นว่าคนที่เขาโดนฟ้าผ่าเห็นยิ้มแย้มแจ่มใสดีไม่เห็นเป็นอะไร ทั้งยังพบว่าลูกสาววัย 6 ขวบของนายคำนึงที่อยู่หลังพ่อขณะฟ้าผ่า วันรุ่งขึ้นก็เห็นวิ่งเล่นได้ สรุปแล้วปลอดภัยเกือบทุกคน เหลือนายคำนึงคนเดียวเท่านั้น คนอื่นๆก็ไม่เห็นเป็นอะไร
นอกจากนี้นายไชยบูลย์ยังกล่าวอีกว่า นายจำลองที่เป็นพ่อตานายคำนึงบอกว่า ปกติ นายคำนึงไม่ได้เข้าวัดพระธรรมกาย แต่ก็ได้หาอุบายนำลูกเขยมาเข้าวัด บุญนี้แหละที่ยังหล่อเลี้ยงเอาไว้ ฟ้าผ่าหัวทำให้สมองบวมนิดหน่อย บุญยังหล่อเลี้ยงรักษา มันไม่ได้เป็นอาเพทอะไร เป็นเรื่อง กฎแห่งกรรมธรรมดา ถ้าใครไปประทุษร้ายจ้วงจาบผู้มีศีลมีธรรม ถึงทีกรรมบันดาลก็เป็นอย่างนี้
ภายหลังเสร็จพิธีกรรมของวัดในช่วงเช้าแล้ว นายไชยบูลย์ได้เชิญชวนให็ญาติธรรมและศิษย์ธรรมกาย ไปชวนญาติมิตรมาร่วมทอดผ้าป่าของวัดในวันที่ 10 ต.ค.นี้ด้วย ซึ่งถือเป็นการทอดผ้าป่า ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 เนื่องในโอกาสครบรอบ 115 ปีของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรมกายได้กระจายเสียงภายในวัดในช่วงเที่ยงว่า ขอให้ทุกคนทุ่มสุดชีวิตเพื่อรักษาไว้ซึ่งวิชชาธรรมกาย แม้จะมีข่าวของวัดในทางเสียหายไม่ดีก็อย่าย่อท้อ พร้อมกันนี้ยังได้มีการเปิดเพลงที่ทางวัดแต่งขึ้นใหม่เป็นสไตล์ลูกทุ่ง มีเนื้อหาว่า "นี่หรือชาวพุทธคนดี คน นี้ดีดี๊ดี ที่ใครยกย่องทั่วหล้า เป็นบัณฑิตทางศาสนา ใครเป็นคนบ้ามาชี้หน้าหลวงเตี่ย ชี้หน้า ชี้หน้า ชี้หน้า ไอ้คนบ้าๆมาชี้หน้าว่าหลวงเตี่ย คนไทยก็เลยอ่อนเพลีย เพราะว่าหลวงเตี่ยถูกอาเฮียชี้หน้า ลูกหลานไทยเห็นในทีวี ไอ้คนพรรค์นี้เป็นคนดีหรือนี่ ต่อไปจะได้ทำอย่างอาเฮีย พ่อแม่ใจละเหี่ย เพราะอยู่แบบเฮงซวย ชี้หน้า ชี้หน้า ชี้หน้า"
ส่วนที่โรงพยาบาลเอกปทุม ซึ่งนายคำนึง เสมพูล เหยื่ออาเพท วัดพระธรรมกายที่ถูกฟ้าผ่าเข้าทำการรักษาตัวอยู่นั้น ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ได้มีญาตินายคำนึง มาเยี่ยมเยียนหลายคน โดยอาการของนายคำนึงนั้น ยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นแต่อย่างใด โดยบรรดาญาติที่มารอเยี่ยมนั้นแพทย์ยังไม่อนุญาติให้เข้าเยี่ยมทำให้ทุกคนต่างผิดหวังไปตามๆกัน และบอกว่า หาก ต้องการทราบอาการขอให้สอบถามได้จากน.พ.พรชัย พิญญพงษ์ แพทย์ของวัดพระธรรมกายที่มาดูแลอาการอยู่เป็นผู้ตอบ เพราะทางวัดได้สั่งการดอาไว้ โดยระบุด้วยว่าขอให้ญาตนายคำนึงสงบปากสงบคำอย่าให้ข่าวแก่สื่อมวลชนทุกแขนง
รายงานระบุว่า ญาตินายคำนึงนั้นเมื่อพบสื่อมวลชนก็พยายามหลบหน้าหลบตาโดยตลอด เนื่องจากเกรงว่าจะผิดคำสั่งของศิษย์วัดพระธรรมกายและอาจจะทำให้เรื่องเลวร้ายไปกว่านี้ แต่ก็มีญาติบางคนที่ยอมที่จะพูดกับสื่อมวลชนถึงเรื่องราวต่างๆโดยระบุว่า เป็นเรื่องแปลก ทีร่ถูกกีดกัน ไม่ให้ญาติเข้าเยี่ยมหรือพบนายคำนึง ใครอยากจะรู้อาการก็ไม่มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนใดให้คำตอบ ต้องรอถามและรับทราบข้อมูลจากแพทย์ของวัดพระธรรมกาย ไม่รู้เหมือนกันว่า วัดพระธรรมกายกำลังเล่นอะไรอยู่ถึงต้องปกปิดอาการของนายคำนึงมากขนาดนี้
"ความจริงแล้วนายคำนึงเป็นลูกเขยเจ้าของร้านค้าวัสดุก่อสร้างในจังหวัดพิษณุโลก ทุกวันอาทิตย์ จะต้องเดินทางพร้อมด้วยญาติฝ่ายภรรยามาที่วัดพระธรรมกายสม่ำเสมอ ส่วนพวด เรานั้นเป็นญาติของคำนึง ไม่เคยเข้าวัดแห่งนี้มาก่อน ดังนั้นเมื่อสื่อมวลชน มาขอข้อมูลก็ต้องยอมให้เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อน เพราะอย่างน้อย ทางวัดก็ประกาศอยู่แล้วว่าจะดูแลรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลในการรักษาให้แก่นายคำนึง"
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเอกปทุมกล่าวว่า ต้องเห็นในทางโรงพยาบาลด้วย เพราะมีการสั่งการมาจากวัดพระธรรมกายว่าหากมีใครต้องการทราบอาการของนายคำนึงก็ตาม ให้ทางโรงพยาบาลแนะนำให้ไปขอข้อมูลจากแพทย์ของวัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวจากทุกแขนงเข้าไปในห้องไอ.ซี.ยู. บันทึกภาพโดยเด็ดขาด
สำหรับอาการทั่วไปของนายคำนึงนั้น เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระบุว่า ไม่มีอาการตอบสนองใดๆยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลยังไม่มีการสรุปตัวเลขออกมาว่าเป็นจำนวนเท่าใด คงต้องรอให้เสร็จสิ้นการรักษาพยาบาลก่อน ขอใหเเห็นใจทางโรงพยาบาลที่ให้ข้อมูลได้แค่นี้ เพราะที่ผ่านมานั้นวัดพระธรรมกายเป็นลูกค้าที่ดีของโรพยาบาลมาโดยตลอด
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจากพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกายว่า จะมีการเชิญนางประวาสน์ บุนนาค มาสอบปากคำในประเด็นอื่นเพิ่มเติม หลังจากที่ได้มีการสอบปากคำคดีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยจะเชิญมาให้ปากคำในวันจันทร์ที่ 27 ก.ย.นี้ที่กองปราบปรามฯ คาดว่าน่าจะได้ข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมบ้างพอสมควร