เดลินิวส์ 26/9/2542
เปิดเทปพระดูดทรัพย์รักษาสาวก
สาวกธรรมกายเหยื่อฟ้าผ่าโคม่า ไม่รู้สึกตัว แพทย์ประจำวัดบุกเข้าไปตรวจถึงห้องอัศจรรย์อกี แล้วเอาเทปสวดพระดูดทรัพย์เปิดให้ฟังอ้างให้กำลังใจ มีรูป "ไชยบูลย์" หราหัวเตียง บอกญาติไม่ติดใจแถมถ้าไปวัดอื่นอาจแย่กว่าเดิม ชาวบ้านเฮเป็นลางร้ายใกล้ถึงจุดสิ้นสุดลัทธิสูบบุญ "พระพยอม" ระบุพวกสุดโต่งไม่มีวัดไหนให้ญาติโยมมาตากฝน หลวงพ่อชาเคยเทียบไว้กับการที่มีควายเพิ่มขึ้นมา กรมการศาสนาขยับเสนอกฎคุมพิธีกรรมเพี้ยน วัดฉาวไม่หยุดจัดงานต่อถึงวันจันทร์ แถมเดินสายปลุกระดมที่กาญจนฯ พระสายแมลงวันไม่ตอมกันเองตะเพิดนักข่าว ขู่ถ้าลงข่าวไม่ดีเจอกันแน่ "หลวงพ่อคูณ" เป่ากระหม่อม "วาสนา" อวยพรงานสำเร็จลุล่วง
จากกรณีที่ฟ้าพิโรธผ่าลงกลางวงศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่ชุมนุมกันบริเวณมหาธรรมกายเจดีย์ ต่อหน้านายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าสำนักที่นั่งเป็นประธานประกอบพิธีกรรมกลางสายฝน จนทำให้นายคำนึง เสนพูล ลูกศิษย์วัดถูกฟ้าผ่าอาการเข้าขั้นโคม่า ต้องหามส่งโรงพยาบาลเอกปทุมตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวราย งานว่า อาการของนายคำนึงยังโคม่า แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีพยาบาลดูแลใกล้ชิด โดย น.พ. อัชชา แสงวิจิตร เป็นเจ้าของไข้ ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลสั่งห้ามไม่ให้แพทย์-พยาบาลให้ข่าวโดยเด็ดขาดเพราะวัดขอมา และห้ามเยี่ยมไข้โดยเมื่อเวลา 14.00 น. นายประจบ ช้างพินิจ อายุ 40 ปี เป็นญาติของนายคำนึงเดินทางมาจาก จ.พิษณุโลกมาเยี่ยมไข้ แต่เจ้าหน้าที่วัดที่เฝ้าหน้าห้องไม่ยอมให้เข้าไปโดยให้เหตุผลว่ารบกวนผู้บาดเจ็บ และดึงตัวนายประจบขึ้นรถไปที่วัดสร้างความไม่พอใจให้นายประจบอย่างมาก
ก่อนที่นายประจบจะถูกดึงพาตัวขึ้นรถได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านตนอยู่ตรงข้ามบ้านนายคำนึง เมื่อรู้ข่าวตกใจมาก และได้สอบถามไปยังนายชาย และนางบัว พ่อและแม่ของนายคำนึง ซึ่งทั้งคู่กำลังเดินทางมา ปกตินายคำนึงชอบทำบุญจะมาที่วัดพระธรรมกายทุกสัปดาห์ นายคำนึงทำกิจการค้าขายวัสดุก่อสร้าง ชื่อร้าน จ.จูงทรัพย์ มีบุตรแล้ว 1 คน ครั้งนี้เดินทางมากับญาติอีกหลายคน ส่วนจะเอาเรื่องหรือไม่ญาติพี่น้องต้องขอหารือกันก่อน
อย่างไรก็ตามแม้วัดจะกีดกันไม่ให้ญาติของนายคำนึงเข้าไปเยี่ยม ทางวัดก็กลับให้แพทย์ของวัดเข้าไปดูผู้ป่วย โดยเวลา 14.30 น. นายแพทย์พรชัย ภิญญพงษ์ หัวหน้าศูนย์พยาบาลวัดพระธรรมกายและแพทย์ 2 นาย มาตรวจอาการ โดยนายแพทย์พรชัยได้ใช้ไฟฉายส่องตาตรวจการรับรู้ประสาทของม่านตา และกระตุ้นประสาทส่วนต่าง ๆ ดูอาการตอบรับ แต่นายคำนึงยังนอนแน่นิ่ง นายแพทย์พรชัยมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา
จากนั้นไม่นานนายแพทย์พรชัยนำเทปบทสวดสรรเสริญคุณพระสิริมหาราชธาตุหรือพระดูดทรัพย์ ใส่เครื่องเล่นเทปขนาดเล็กเปิดไว้ที่หัวเตียงนอนของนายคำนึงที่ยังหมดสติอยู่ โดยการกระทำทั้งหมดไม่มีแพทย์ของโรงพยาบาลเอกปทุมมาห้าม ปราม และหัวเตียงผู้ป่วยยังนำรูปนายไชยบูลย์ไปติดตรา คู่กับรูปหลวงพ่อสด
นายแพทย์พรชัยกล่าวว่า การเปิดเทปเป็นการให้กำลังใจผู้ป่วย ไม่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมไสยศาสตร์ เหตุการณ์ฟ้าผ่าครั้งนี้นอกจากนายคำนึงแล้วยังมีญาติอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บได้แก่ น.ส.ณัฐจารี ม่วงยิ้มงาม อายุ 31 ปี บาดเจ็บที่คาง มีแผลแตกเล็กน้อย, นางรัชดา จูงทรัพย์ อายุ 27 ปี, นายบรรจง คงเนตร อายุ 55 ปี และด.ญ.ณัฐธดา เสมพูล อายุ 6 ขวบ ทุกคนได้รับการปฐมพยาบาลจากศูนย์แพทย์ของมูลนิธิ และพักในวัดเพื่อร่วมงานฉลองครบรอบการค้นพบวิชชาธรรมกายที่จะจัดต่อไปถึงวันที่ 28 ก.ย. ส่วนกรณีนายคำนึงเบื้องต้นแพทย์มูลนิธิช่วยปั๊มหัวใจและส่งโรงพยาบาล รวมถึงติดต่อญาติให้ โดยญาตินายคำนึงไม่ติดใจ และญาติเหล่านี้ยังบอกว่าถือเป็นโชคดีที่นายคำนึงมาทำบุญวัดนี้ มิฉะนั้นอาจประสบเหตุมากกว่านี้ก็ได้
"วัดพระธรรมกายเคยจัดงานเช่นนี้มาหลายครั้ง และเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุ แม้บริเวณมหาธรรมกายเจดีย์จะติดสายล่อฟ้าไว้ป้องกันโดยรอบ แต่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดวัดออกให้ และหาแพทย์ที่ดีที่สุดมาดูแล ญาตินายคำนึงทุกคนเข้าใจและพักอยู่ในวัด เท่าที่ตรวจดูอาการนายคำนึงม่านตามีการตอบรับ ประสาท ต่าง ๆ รับรู้ได้ ส่วนสมองไม่ตาย จึงเอาเทปมาเปิดให้ฟังให้กำลังใจคนไข้ที่รับรู้ทางหูอยู่"
นายแพทย์พรชัยกล่าวว่า ส่วนนายไชยบูลย์ และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสก็ทราบข่าวแล้ว และบอกว่าถือเป็นการฟาดเคราะห์ หลังจากนี้คงดีขึ้น หากมีโอกาสจะเดินทางมาเยี่ยม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุการณ์ฟ้าผ่านี้วัดพยายามปิดข่าวทุกทาง โดยการนำนายคำนึงส่งโรงพยาบาล ก็เลือกเอาโรงพยาบาลเอกชนและอยู่ห่างวัดถึง 10 กิโลเมตร แทนที่จะส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตที่อยู่ใกล้กว่า และสาวกธรรมกายที่ทำพิธีอยู่ถึงแม้จะรู้ว่ามีฟ้าผ่าก็ไม่มีใครรู้ว่ามีการหามคนเจ็บส่งโรงพยาบาล และปิดข่าวเพื่อดันทุรังประกอบพิธีกันต่อกลางสายฝนจนจบงาน โดยเฉพาะยังลากสาวกไปถ่ายรูปหมู่ เพื่อไว้โอ้อวดความศรัทธาอย่างลุ่มหลง
นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดี กรมการศาสนากล่าวว่า ได้รับทราบข่าวแล้วและในวันที่ 27 ก.ย. จะนำเรื่องไปหารือกับอธิบดีกรมการศาสนา เพื่อขอความเห็นหาทางป้องกัน การจัดงานในวัดต้องคิดถึงความปลอดภัยของญาติโยมเป็นสำคัญ และกฎมหาเถรสมาคม (มส.) ไม่มีบังคับไว้
สำหรับบริเวณหน้าวัดพระธรรมกายในวันนี้เงียบเหงาเป็นพิเศษและห้ามผู้สื่อข่าวเข้า รวมถึงปฏิเสธการให้ข้อมูลทั้งหมด ส่วนชาวบ้านที่อยู่บริเวณวัดโดยเฉพาะชาวนาที่เคยถูกไล่ที่วิจารณ์ ว่าเหตุการณ์นี้แม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่หลายคนเชื่อเป็นลางร้ายของวัดที่ใกล้ถึงจุดอวสานของวัดแล้ว เพราะความไม่ดีไม่งามทั้งปวง
ร.ต.อ.สุชิน สกุณตนา ร้อยเวรสภ.อ.คลองหลวง เปิดเผยว่า การสอบสวนคดีนี้ต้องดูรายละเอียดว่าเป็นภัยธรรมชาติหรือไม่ ถ้าใช่ก็ยากจะจับกุมใครมาดำเนินคดี
ส่วนนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกทำละเมิดโดยวัดพระ ธรรมกายนำภาพตอนตอบโต้กับพระราชธรรมนุวัตร หรือหลวงเตี่ย พระที่ปกป้องธรรมกายไปตัดต่อประกอบเพลงร็อก และเผารูปถ่ายสาปแช่งด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่คิดที่จะตอบโต้ อโหสิให้กับทุกคนด้วยความจริงใจในฐานะที่เป็นชาวพุทธที่ต้องรู้จักการให้อภัยไม่โกรธแค้น ส่วนเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นนั้น แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าคนที่ทำไม่ดีคิดไม่ซื่อ กรรมก็จะตามมาทันโดนเทวดาลงโทษไปแล้ว
"แต่ก็เห็นใจญาติโยมที่ไปหลงศรัทธาทนตากฝนจนถูกฟ้าผ่า ไม่ใช่ผิดแต่ทางธรรมเท่านั้นในทางการแพทย์ก็ผิดด้วย การจัดพิธีกรรมทางศาสนาในเวลาที่ฝนตกแล้วไม่ยอมเลิกรานั้น เป็นเพราะเจ้าลัทธิต้องการโอ้อวดอิทธิฤทธิ์ ไม่ได้ห่วงเลยว่าใครจะเจ็บป่วย หรืออย่างเอาคนมาร้องเพลงให้คนตกนรก อย่างนี้ยังเรียกตัวเองว่าฝ่ายธรรมะอยู่อีกหรือ พฤติกรรมเช่นนี้เป็นการกระทำของหมู่มาร สำนักนี้เป็นสำนักธรรมะหรือมาร"
ขณะเดียวกันพระพยอม กัลยาโณ ประธาน มูลนิธิวัดสวนแก้ว กล่าวว่า การทำพิธีทางศาสนาไม่มีที่ไหนต้องทำกันกลางแดดกลางฝน แบบนี้เรียกกันว่าไม่มีความพอดี ทำอะไรก็สุดโต่ง การทรมานตัวไม่ได้ทำให้เกิดปัญญาพระที่นำไปสอนก็สอนให้คนไม่เกิดปัญญาด้วย
"อาตมามีเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง เป็นเรื่องทำนองคล้าย ๆ กันนี้ เรื่องก็มีอยู่ว่าพระรูปหนึ่งได้ปฏิบัติกรรมฐานอย่างมุ่งมั่น ฝนตกหลังคารั่วแล้วน้ำก็หยดใส่หัว พระก็ไม่ยอมหนีหรือซ่อมแซมให้ดี หลวงพ่อชาไปพบเห็นเข้าก็ทักว่าทำไมไม่หลบฝนหรือซ่อมหลังคา พระรูปดังกล่าวตอบว่า วัวควายตามท้องนาไม่เห็นต้องมีหลังคาหลบฝนกันเลย แล้วเราจะไปหลบทำไม ซึ่งหลวงพ่อชาได้ฟังดังนั้นจึงเทศน์สอนไปว่าเอาเลยนั่งรับน้ำฝนต่อไปก็แล้วกัน จะได้มีควายเพิ่มขึ้นมาอีกตัว อย่างนี้ละที่อาตมาบอกว่าไม่รู้จักใช้ปัญญา"
ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ จ.พิษณุโลกรายงานว่า บรรดาญาติพี่น้องของนายคำนึงต่างมีสีหน้าเศร้า สลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้พ่อและแม่ของนายคำนึง ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปดูอาการของบุตรชายแล้ว บ้านฝากให้ญาติพี่น้องดูแล ภายในบ้านของนายคำนึงก็มีรูปของนายไชยบูลย์ เจ้าสำนักธรรมกาย ขนาดใหญ่ติดอยู่ใกล้ ๆ กับรูปของพระเกจิชื่อดังของเมืองไทยอีกมากมาย
วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม อ.เมืองจ.กาญจนบุรี ได้จัด เสวนาด้วยหัวข้อเรื่อง "วิถีพุทธไทย และสิทธิเสรีภาพของชาวไทย" มีพระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธาน ประเด็นการสัมมนาจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการยกร่างพ.ร.บ. คณะสงฆ์ฉบับใหม่, ร่างกฎหมายอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ก่อนการเสวนาได้มีการบรรยายถึงกฎหมายคณะสงฆ์ฉบับปัจจุบัน โดยนายแสวง อุดมศรี อาจารย์จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และพระเทพปริยัติสุธี เจ้าคณะภาค 10 วัดโมฬีโลกยาราม
จากนั้นจึงเป็นการเสวนาเรื่อง "คนไทยกับสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา ตามรัฐ ธรรมนูญ" โดยมีพระเทพกิตติปัญญาคุณ หรือกิตติวุฒโฑ ผู้อำนวยการจิตภาวันวิทยาลัยบาง ละมุง จ.ชลบุรี พระผู้ปกป้องธรรมกาย, นายคณิน บุญสุวรรณ อดีต ส.ส.ร., นายจำนง สวมประคำ รองเลขาธิการวุฒิสภา และมีนางสาวลีลาวดี วัชโรบล สีกาสนิทของวัดพระธรรมกายเป็นผู้ดำเนินรายการ
การเสวนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากพระสงฆ์และฆราวาสประมาณ 1,000 คน และมีการนำใบปลิวว่าด้วยเรื่อง "แผนล้มทำลายพระพุทธศาสนา" มาแจกให้กับผู้ร่วมเสวนา และเอกสารอื่น ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่การเสวนากำลังดำเนินการอยู่นั้น ได้มีพระสงฆ์รูปหนึ่งอายุ ประมาณ 40-50 ปี เดินตรงมายังกลุ่มผู้สื่อข่าวขณะทำข่าวพร้อมกล่าวถามว่า "มาทำข่าวอะไรกัน" ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ตอบไปว่า มาทำข่าวตามหน้าที่เท่านั้น แต่แทนที่ทุกอย่างจะจบเพียงเท่านั้น พระรูปดังกล่าวได้กล่าววาจาข่มขู่นักข่าวว่า "ไม่เป็นไร ถ้าพรุ่งนี้ข่าวออกมาไม่ดี เจอกับกูแน่" และได้เรียกลูกศิษย์มาถ่ายวิดีทัศน์เก็บภาพนักข่าวทั้งหมดไป
หลังจากนั้นพระรูปดังกล่าวยังวนเวียนกลับมาราวีกับนักข่าวอีก โดยมาพร้อมกับพระอีก 2 รูป มาช่วยกันด่าว่านักข่าวว่า "ไอ้พวกนักข่าวนี่เป็นพวกมารคอยทำลายศาสนา เลี้ยงหมาดีกว่าเลี้ยงไอ้พวกนี้เสียอีก หมาที่กินน้ำข้าวมันไม่กัดพระ แต่นักข่าวเลวกว่าหมา" เมื่อเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นกลุ่มนักข่าวจึงได้ถามกลับไปว่าหลวงพ่อเป็นพระอยู่วัดไหน ชื่ออะไร ทำไมไม่สำรวมกล่าววาจาไม่ดีอย่างนี้ แต่ก็ได้รับการถากถางต่อ ซึ่งกลุ่มนักข่าวเห็นตรงกันว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่จะมาถกเถียงกับพระ จึงได้แยกย้ายกันไปทำข่าวจุดอื่น แต่ก็ยังถูกตามต่อว่า
ฆราวาสที่มาร่วมงานส่วนใหญ่เป็นสาวกลัทธิธรรมกาย เดินทางมาจาก จ.ปทุมธานี เพื่อช่วยกันสร้างภาพจัดงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.นครสราชสีมาว่า เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.แหลมทอง ญาณอุบล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 นำพล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกาย พร้อมด้วยพ.ต.ท.จรุงวิทย์ ภุมมา รอง ผกก.3ป.และพ.ต.ต.ภีคเดช จุมพล พงส. (สบ.2) ผ.3 กก.1ป. เข้ากราบนมัสการหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เพื่อขออนุญาตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัด และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ และสอบปากคำกรรมการวัดผู้ดูแลบัญชีและการจัดการวัดทั้งหมด ประกอบด้วย นายประทีป กาญจนรัตน์ นายบุญเทิด กาญจนรัตน์ และนายสุดท้าย กาญจนรัตน์
พล.ต.ท.วาสนา เปิดเผยว่า การเดินทางมาตรวจสอบบัญชีวัดนี้ เนื่องจากวัดบ้านไร่มีผู้เลื่อม ใสศรัทธามาก จึงต้องการดูว่าได้จัดการทรัพย์สินต่าง ๆ ไว้อย่างไร เช่น บัญชีรายรับ-รายจ่ายและการจัดการเรื่องที่ดิน ทางวัดก็ทำถูกต้องชัดเจน เพื่อนำไปเปรียบเทียบการดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย วัดบ้านไร่ ได้มีการจัดการเงินบริจาคโดยนำไปฝากไว้กับธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่ธนาคารออมสิน กรุงไทยและทหารไทย เป็นบัญชีประเภทฝากประจำและออมทรัพย์ ไม่มีบัญชีกระแสรายวันเหมือนบางวัด ที่สำคัญบัญชีเงินฝากฝากในนามของวัดบ้านไร่ โดยไม่มีบัญชีเงินฝากส่วนตัวของเจ้าอาวาสเลย ส่วนการจัดการเรื่องที่ดินนั้น ทางวัดได้นำหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินทั้ง หมดไปฝากไว้กับศึกษาธิการจังหวัดตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการ
ส่วนที่ทางวัดบ้านไร่ไม่ได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้กับญาติโยมที่บริจาคเงินให้นั้น พล.ต.ท.วาสนา กล่าวว่า เนื่องจากผู้บริจาคไม่ประสงค์จะได้รับ อีกทั้งรูปแบบการรับบริจาคนั้นหลวงพ่อคูณรับจากมือของญาติโยมเองโดยตรง แต่จะแตกต่างจากที่เคยพบเห็นมาคือ ท่านจะรับเงินไว้เพียงครึ่งเดียวหรือเลือกที่จะรับธนบัตรใบที่มีค่าน้อยที่สุด เช่นถ้าบริจาค 2,000 บาทก็จะมีธนบัตรใบละ 1,000, 500และ100 ซึ่งท่านจะรับมาไว้เฉพาะใบละร้อยเพียงใบเดียว เพื่อให้ผู้บริจาคนำกลับไปทำมาหากินต่อ และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นวิธีการสอนให้ผู้บริจาครายนั้นขจัดความโลภ ตัณหาและมีเมตตา พล.ต.ท.วาสนา กล่าวอีกว่า หลวงพ่อคูณได้กล่าวกับตนว่า ยินดีที่พนักงานสอบสวนเดินทางมา หากพบว่ามีสิ่งใดที่ทำไม่ถูกต้องขอให้แนะนำเพื่อจะได้ทำให้ถูกต้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการสอบปากคำกรรมการวัดนั้น พบว่า การจัดทำบุญชีรายรับ-รายจ่ายของวัดทำอย่างเป็นระบบ และจัดแยกประเภทไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513-2541 รวมเงินบริจาคของวัดทั้งหมดที่ผ่านมา 28 ปี มีมูลค่า 980 ล้านบาท และการเบิกจ่ายเงินแม้จะมีหลวงพ่อคูณเป็นผู้ลงนามได้เพียงผู้เดียว แต่การเบิกจ่ายเงินในแต่ละครั้งจะต้องเป็นมติของคณะกรรมการ
ที่ผ่านมาแม้จะมีผู้บริจาครายใหญ่นำเงินมาถวายให้เป็นหลักล้าน หลวงพ่อคูณจะไม่ยอมรับรวมทั้งรถยนต์ยี่ห้อต่าง ๆ โดยเฉพาะรถเบนซ์โดยให้เหตุผลว่าจะเป็นภาระ หากจะเดินทางไปรับกิจนิมนต์ในที่ต่าง ๆ ก็จะอาศัยรถยนต์ของลูกศิษย์หรือรถของเจ้าภาพที่เชิญไป ปัจจัยที่เจ้าภาพนั้น ๆ ถวายท่านก็ไม่รับไว้ กลับส่งคืนให้ร่วมทำบุญกับเจ้าภาพด้วย หากเจ้าภาพไม่แสดงเจตนาแต่ต้นว่าจะร่วมทำบุญ ส่วนที่ดินที่ใช้เงินวัดจัดซื้อส่วนใหญ่นำไปก่อสร้างอาคารสถานที่ของโรงเรียนและโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยโฉนดที่ดินจะเป็นชื่อของโรงพยาบาลหรือโรงเรียนนั้น ไม่มีชื่อของ หลวงพ่อคูณหรือบุคคลอื่น
ระหว่างที่พล.ต.ท.วาสนา เดินทางมาที่วัดบ้านไร่นั้น โฆษกของวัดบ้านไร่ ได้ประกาศให้ญาติโยมที่เดินทางมารอพบหลวงพ่อคูณจำนวนมากว่า มีตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินทางมาตรวจสอบบัญชีของวัด เพราะทางวัดพระธรรมกายได้มีการกล่าวพาดพิงถึงวัดบ้านไร่ และโจมตีพนักงานสอบสวนว่าไม่มีความยุติธรรม ตรวจสอบแต่วัดพระธรรมกาย วัดอื่นที่มีรายได้มาก ๆ มีจำนวนมากเหตุใดไม่ไปตรวจนั้นเพื่อความยุติธรรมและป้องกันความเคลือบแคลงสงสัย ทางวัดบ้านไร่ยินดีที่จะให้มีการตรวจสอบทุกเวลา เพราะเราเป็นผ้าขาวสะอาด
การเข้านมัสการครั้งนี้หลวงพ่อคูณได้ลูบศีรษะและเป่ากระหม่อมให้พล.ต.ท.วาสนา เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานพร้อมกับกล่าวว่าขอให้ทำงานสำเร็จ และจะมีความก้าวหน้าในตำแหน่ง หน้าที่การงานในไม่ช้า