เดลินิวส์ 24/9/2542
ชวนเต้นบุกวัดญาณดอดพบ'ธรรมปิฎก'
กรุแตกแล้วกองปราบฯ สาวลึกเรียก"สีกาอี๊ด"คนสนิท"ไชยบูลย์"รุ่นแรกเจ้าของธุรกิจพัวพันธรรมกายมาสอบปากคำใน 7 วัน ได้ข้อมูลเพียบ เตรียมออกหมายจับสาวก ระดับบิ๊กเพิ่ม ล่าสุดชาวบ้าน จ.ตราด ร้องขอให้ช่วยถูกตุ๋นพระปลอมขอที่ 23 ไร่ สร้างสถานปฏิบัติธรรม แต่แอบไปโอนจากแบงก์ใส่เป็นชื่อสีกา แถมกำชับถ้ามีที่สวยก็ให้บอกกันอีกนะจ๊ะ อัยการนัดชี้ชะตา 3 คดีแรก 4 ต.ค.นี้ "ชวน" พบปราชญ์ ศาสนาสั่งมหาดไทยสอบ หนังสือพิมพ์กระบอกเสียงธรรมกายลงข่าวโจมตี บิดเบือนศาสนา
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. เวลา 12.00 น. นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังวัดญาณเวศกวัน เพื่อกราบนมัสการ พระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตโต)โดยใช้เวลาเข้าพบประมาณ 20 นาที นายชวนให้สัมภาษณ์ว่า ได้กราบเรียนถึงความคืบหน้า ของกรณีที่มีน.ส.พ.ฉบับหนึ่ง ลงข่าวโจมตีพระธรรมปิฎก ซึ่งตนได้กราบเรียนท่านว่าได้มอบหมายให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รมว. มหาดไทย และนายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯ ดูแลด้วย อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องออกมาชี้แจง เพราะว่าท่านเป็นพระ คงจะตอบโต้ชี้แจงน.ส.พ.ไม่ได้
"ผมรู้สึกเป็นห่วง เพราะพระธรรมปิฎกเป็นพระทรงภูมิ เป็นหลักของศาสนา หากเกิดความไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิดขึ้น จะทำให้เกิดความสับสนตามมา และไม่ได้คุยกันเรื่องปัญหาวัดพระธรรมกาย พูดคุยเฉพาะเรื่องที่เกิดความ ขัดแย้งจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด และสิ่งหนึ่งที่ท่าน ได้ย้ำกับผมเสมอ คือพระธรรมวินัย ซึ่งถือเป็น เรื่องที่สำคัญ หากทุกฝ่ายเชื่อมั่นในพระธรรมวินัย ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้"
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิ การ กล่าวว่ายินดีให้ความร่วมมือตรวจสอบตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ โดยเฉพาะการ บิดเบือนพระธรรมวินัย และคำสอนพระพุทธเจ้า และเป็นหน้าที่กระทรวงมหาดไทยต้องตักเตือนหนังสือ พิมพ์ฉบับนั้น ไม่ใช่เขียนตามความรู้สึกหรือสนองความต้องการของใคร
ที่กองปราบปราม นายมัยฤทธิ์ ปิตะวินิค และนายเทอดชาติ ศรีนพรัตน์ 2 สาวกนาย ไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และเป็นผู้ถูกกล่าวหาดำเนินคดีรายล่าสุดเข้าพบ พ.ต.ท.จรุงวิทย์ ภุมมา รองผกก. 3 ป. เพื่อสอบปากคำเพิ่ม โดยเฉพาะ การให้ลงลายมือชื่อเพื่อมอบให้กับกองพิสูจน์หลักฐานเปรียบเทียบกับเอกสารที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่ นายเทอดชาติ ยอมรับบางประเด็นเกี่ยวกับลายมือชื่อของตัวเอง แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาการปลอมแปลงเอกสารการซื้อที่ดินที่จ.ชลบุรี และในวันเดียวกันนี้พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวนเดินทางไปพบนายอำนวย สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศาสนา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อปรึกษาเรื่องของเอกสารที่กรรมาธิการมอบให้กับพนักงานสอบสวน
นายสนธยา โพธิ์แดง ทนายความวัดกล่าวว่า ขณะนี้กำลังเตรียมยื่นฟ้องนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการ, นายสมพร เทพสิทธา และนายมาณพ พลไพรินทร์ รวมถึงผู้ว่าฯ ข้า ราชการอีกหลายคนต่อศาลแพ่งในฐานะทำผิดรัฐธรรมนูญ
ส่วนการเดินทางไปต่างจังหวัดของทีมงานสอบสวนที่ จ.เพชรบูรณ์นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน พบหลักฐานนายไชยบูลย์มอบอำนาจให้นายถาวร พรหมถาวร สาวกคนสนิท เป็นผู้นำเงินไปกว้านซื้อ ที่ดินโดยมีการ นำเงินไปเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทยสาขาดงขุย อ.ชนแดน และรับเงินที่โอนเข้ามา จ่ายให้ชาวบ้านเป็นค่าที่ดิน หลังจากโอนที่ดินเสร็จจะมีนายชาญวิทย์ ชาวงศ์ คนใกล้ชิดอีกคนเอาโฉนดไปให้นายไชยบูลย์ที่กรุงเทพฯ รวมถึงชาวบ้านรายใดที่ได้เงินไปแล้วในเวลาไม่นานจะมีศิษย์วัดไปขายประกันชีวิตให้ เพื่อดึงเงินกลับมาอีก
พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยาน 48 ปากฝ่ายวัด โดยพยานพวกนี้ให้ปากคำว่าเรี่ยไรเงินไปให้นายไชยบูลย์เพื่อซื้อที่ดิน ซึ่งไม่ตรงกับการสอบสวนของตำรวจที่พบการจ่ายเงินจากนายไชยบูลย์ไปหานายถาวรเลย และกำลังพิจารณา ว่าพยานเหล่านี้จะเข้าข่ายให้การเท็จกับพนักงานสอบสวน
รายงานข่าวแจ้งว่าพนักงานสอบสวนทำหนังสือเรียกนางจิราวัฒน์ ศรีสัตนา หรือสีกาอี๊ดมาให้ปากคำภายใน 7 วัน โดยสีกาอี๊ดเป็นสีการุ่นแรกที่มีความสนิทสนมกับนายไชยบูลย์ มีกิจการบริษัทธุรกิจหลายแห่ง ที่พระชั้นในของวัดพระ ธรรมกายเข้าไปถือหุ้น หรือร่วมก่อตั้งและขายสินค้า อาทิ ที่ดินให้กับลูกศิษย์ผู้ศรัทธาวัด สำหรับบริเวณ วัดพระธรรมกาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงเจ้าหน้าที่ ของวัดและมูลนิธิธรรมกายเท่านั้นและมีการขึ้นป้าย "ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป อดทนให้อภัย อย่าให้ใครทำลายพุทธศาสนา"
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตราด ว่า พนัก งานสอบสวนคดีธรรมกายนำโดยพ.ต.ท.สมเกียรติ วัฒนพันธ์ รอง ผกก.1ป. สอบปากคำพยานหลายปาก ซึ่งได้ให้ปากคำพฤติกรรมการฉ้อฉลในการเข้ามากว้านซื้อที่ดิน ของนายไชยบูลย์ กับสีกาคนสนิทคนหนึ่งที่เคยมีผู้พบเห็นอยู่ในห้องสองต่อ สองและสาวกใกล้ชิดที่เป็นข้าราชการผู้ใหญ่
พยานปากเอกให้ปากคำว่าเป็นอดีตลูกจ้างในอุทยานแห่งชาติเกาะช้าง และเป็นคนแนะนำ ที่ดินให้กับศิษย์คนสนิท นายไชยบูลย์ครั้งเป็นข้า ราชการระดับผู้อำนวยการ และต่อมาสีกาอ. เข้ามากว้านซื้อที่ดินเมื่อปี 2527-2529 โดยพาคณะทั้งหมดมาดูที่ดินบนเกาะช้าง เกาะเหลายา อ่าวช่อ และหาดบานชื่น การซื้อที่ดินนี้นายไชยบูลย ์โผล่มาดูด้วยตัวเองหลายครั้ง พร้อมกับสีกาโดยพยานรายนี้ได้ค่าจ้างในการแนะนำเพียง 3,000 บาทเท่านั้น และต้องเดินทางมารับที่วัด เมื่อเจอหน้านายไชยบูลย์ก็จะได้รับการฝากฝังว่าถ้ามีที่ไหนสวย ๆ อีกก็ขอให้บอกสีกา...อีกนะจ๊ะ
ส่วนพยานที่ให้ปากคำคนสำคัญ อาทิ นางอำไพ อิ่มกมล อายุ 62 ปี ชาวบ้านอ่าวช่อ ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด ให้ปากคำว่า ได้ยอมให้วัดโดยสีกาคนสนิทนายไชยบูลย์ไถ่ถอนที่ดิน นส.3 จำนวน 23 ไร่ ต.อ่าวใหญ่ ที่ติดจำนองไว้ที่ธนาคารกสิกรไทยเป็นเงิน 1 แสนบาทได้เพื่อยกที่ดินให้วัดพระธรรมกายสร้างสถานปฏิบัติธรรม โดยมีการหลอกนางอำไพว่า จะมีที่ดินให้อยู่อาศัย และทำกินตลอดชีวิต แต่ปรากฏว่าเมื่อต้นปี 2540 เพิ่งรู้ความจริงว่าที่ดินทั้งหมดโอนเป็นชื่อของสีกาคนนั้นไปแล้ว ทำให้ตกใจและรู้ว่าถูกหักหลัง หลอกลวง ที่ยอมให้วัดมาไถ่ถอนที่ดินก็เพราะต้องการให้หมดหนี้สิน รวมถึงต้องการบริจาคเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และเป็นที่พักของสงฆ์ที่จะลงเรือข้ามไปเกาะช้าง ตามที่สีกาคนนั้นได้โน้มน้าวจิตใจ นายไชยบูลย์เองยังเดินทางมาดูที่ดินถึง 2 ครั้งด้วยรถตู้กับรถเบนซ์
นางอำไพยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ทำ สัญญาซื้อขายที่ดินตาม ที่มีหลักฐานมอบอำนาจให้ไป โดยมีการแจ้งหลักฐานการซื้อ-ขาย 6 หมื่นบาท แต่ยอมรับว่าเคยลงนามในกระดาษเปล่าที่สีกาเอามาให้ แต่ไม่มีข้อความใด ๆ และนางอำไพร้อง เรียนให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีฐานหลอก ลวงด้วย รวมถึงอยากได้ที่ดินคืนเพราะเสียรู้รวมถึงนายฉอ้อน สามี นางอำไพซึ่งปรากฏในลายมือชื่อเป็นพยานในหนังสือมอบอำนาจซื้อ-ขายที่ดิน โดยระบุว่าลายมือดังกล่าวไม่ใช่ของตัวเอง และลูกสาวของนางอำไพยืนยันเคยเห็นนายไชยบูลย์มาดูที่ดิน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้
ขณะนี้พนักงานตรวจสอบ เอกสารโดยเฉพาะเส้นทาง การเงิน ที่ออกจากวัดไปยังศิษย์เอกและสีกาหลายคน และมีหลักฐานคนกลุ่มนี้เพิ่ม รวมถึงอาจมีการเพิ่มข้อหานายไชยบูลย์และนายถาวรอีกด้วย
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายพันธ์ สุริยะพร รองอัยการสูงสุด เรียกประชุมคณะทำงานพิจารณาคดีธรรมกาย 3 คดีแรก เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานบางส่วนที่ยังไม่ครบ จึงให้พนัก งานสอบสวน หาหลักฐานเพิ่มเกี่ยวกับการโอนที่ดิน และบัญชีเงินฝาก และจะนัดประชุมอีก ครั้งในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อเสนอความเห็นการ พิจารณาคดีให้ทันในวันที่ 4 ต.ค.นี้