page4

เดลินิวส์ 7/9/2542

ยึดทรัพย์ ธรรมกาย ก.ม.ทำได้

เจอช่องยึดทรัพย์ธรรมกายคืนชาวบ้าน ใช้กฎหมายกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนมาจัดการ เข้าข่ายขายบุญแชร์ลูกโซ่ "วาสนา"ยืนยันตั้งข้อหาเพิ่ม พร้อมออกหมายจับสาวกอีก ส่งทีมพิเศษสอบพยานทางลับมัดคอพระปลอม ให้กรมทรัพย์ฯตรวจหิน-ดินจ.เพชรบูรณ์ พิสูจน์พฤติกรรมกว้านซื้อที่หวังทำเหมืองทอง ธรรมกายยื้ออีกระบุ ต้องปรึกษาทนายความก่อนให้"ไชยบูลย์"มามอบตัว พระครูสุพรรณฯยอมรับ รู้จัก"มาณพ"แต่ไม่เคยเจรจาเงินสินบนล้มคดี "วิชัย"ประกาศถ้าพบหลักฐานสอบแน่ เตือนระวัง แผนยุแยงให้แตกแยก มหาเถรฯมีมติย้ำให้พระพรหมโมลีชี้แจงเหตุไม่รับฟ้องตามกฎนิคหกรรม

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการ เรียกนายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญ พิเศษกรมการศาสนามาสอบถามข้อเท็จจริงต่อกรณีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำเทปบันทึกเสียงการเจรจาระหว่างพระครูส. กับข้าราชการระดับสูงของกรมการศาสนาและอดีตภรรยา เรื่องการเสนอผลประโยชน์ และรับผลประโยชน ์เพื่อล้มคดีวัดพระธรรมกายและนายมาณพ ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับ ว่าได้รับการติดต่อในเรื่องนี้จริง รวมทั้งอดีตภรรยาคือนางจารุวรรณด้วย และได้มีการวางแผนตลบหลังนั้น

การพูดคุยครั้งนี้ใช้เวลา กว่า 1 ชั่วโมงเศษ จากนั้นนายวิชัยเปิดเผยว่า นายมาณพได้ปฏิเสธ เรื่องการล้มคดีส่วนพระครูสุวรรณวชิรธรรม เจ้าอาวาสวัดสกุณปักษีที่ถูกระบุว่า เป็นผู้โทรศัพท์ติดต่อนั้น ยอมรับว่ารู้จักกันมาก่อน ส่วนเรื่องภรรยานั้นนายมาณพ ได้บอกว่าไม่มีเพราะหย่าขาดกันมานานแล้ว เรื่องนี้อยากให้ข้อคิดไว้ว่า คงมีฝ่ายอื่นที่อยากให้เกิดความแตกแยก โดยการสร้างประเด็นใหม่ขึ้นมาเพื่อให้เกิดข้อสงสัยซึ่งกันและกัน

"เคยมีคนมากระซิบให้ฟังว่า จะทำให้ตำรวจกับกระทรวงศึกษาฯเกิดความแตกแยก เผมจะรอฟังเทปและตรวจสอบใครเป็นคนพูดเรื่องเงินขึ้นมาก่อน เพราะคนที่พูดก็อาจจะสร้างเรื่องขึ้นได้ ถ้าได้ฟังเทปจะแปลความหมายของคู่สนทนาได้กระจ่างขึ้น หากตำรวจพบหลักฐานว่านายมาณพมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องการล่ารายชื่อของศิษย์วัดพระธรรมกาย ถือว่าเป็นการกดดันการดำเนินงาน ของพนักงานสอบสวนและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ผ่านมาไม่อยากให้มองว่าฝ่ายรัฐรังแกหรือกระทำการรุกรานใคร แต่ทั้งหมดที่ทำก็เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง"

ทางด้านพระครูสุวรรณวชิรธรรม กล่าวปฎิเสธไม่เคยติดต่อกับนายมาณพ แต่รู้จักกันเพราะนายมาณพเคยเป็น ผู้อำนวยการกองศาสนสมบัติ ส่วนนางจารุวรรณรู้จักในงานศพแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกับนายมาณพ และรู้จักแต่ภรรยาเก่านายมาณพ ส่วนที่มีการบอกว่าคำพูดต่อรองให้ล้มคดี มีการบันทึกเทปไว้พระครูสุวรรณวชิรธรรมกล่าวว่าไม่รู้ และไม่เคยรู้อัดเทปกันอย่างไร ไม่รู้เสียงเหมือนอาตมาหรือไม่ อยากฟังเสียงในเทปบ้าง ที่ผ่านมาเคยไป วัดพระธรรมกายก็เพราะไปขอรับทุนเศรษฐกิจตกต่ำ พระเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรมลำบาก จะอยู่กันไม่ได้ ไม่เห็นมีใครยื่นมือมาช่วยเลย ขอไปที่กรมการศาสนาก็บอกไม่มีงบ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 มอบอำนาจให้นายรัฐ ปิยะพงษ์กุล เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประจิณ ฐานังกรณ์ เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน แจ้งความเท็จเพื่อให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยระบุความผิดว่าจำเลยยื่นคำกล่าวหาเจ้าสำนักธรรมกายเมื่อเดือนมิ.ย.2542 ต่อพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และมีการตัดสินไม่รับข้อกล่าวหา และเมื่อมีการอุทธรณ์ถึงพระพรหมโมลี ก็เห็นว่าไม่มีสิทธิอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัย ถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว

แต่เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2542 จำเลยแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนว่าโจทก์ทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขอให้ตำรวจดำเนินคดี และสื่อมวลชนนำไปตีพิมพ์ทำให้โจทก์เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากประชาชนทั่วไป จึงนำคดีมาฟ้องร้องให้พิพากาษลงโทษจำเลยด้วย คดีดังกล่าวศาลรับคำฟ้องไว้และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 22 ต.ค.เวลา 13.30 น.

พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดีธรรมกายให้สัมภาษณ์ภายหลังการ ประชุมพนักงานสอบสวนว่าจะแจ้งข้อหาเพิ่มนายไชยบูลย์ และจะออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มด้วย เพราะเรื่องนี้ทำคนเดียวไม่ได้ต้องมีคนร่วมมือ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด ส่วนข้อหาที่แจ้งเพิ่มยังไม่ยุติเช่นกัน เนื่องจากยับมีกรณีต้องสอบสวนอีกส่วนใหญ่เป็นเรื่องเงินวัด คดีที่สอบสวนเสร็จแล้วก็คือตามที่ กรมการศาสนากล่าวโทษใน 3 ข้อหา จะเสนออัยการต่อไป และผู้ต้องหา 2 คนคืนนายไชยบูลย์และนายถาวร พรหมถาวร ลูกศิษย์สนิทต้องมาพบพนักงานสอบสวนเพราะต้องส่งผู้ต้องหาพร้อมสำนวน ที่ศาลอาญากรุงเทพฯ

ในวันเดียวกันนี้กองปราบปรามเชิญนายเชลียง เทียมสนิท หัวหน้าฝ่ายนิติกรกรมการศาสนามาร่วมมือ ในการวินิจฉัยกรณีที่นายไชยบูลย์ลงชื่อหลังโฉนดในชื่อต่าง ๆ กันทั้งฉายาพระ หรือใช้"ไชยบูลย์" นำหน้าด้วยคำว่าพระ ว่ามีเจตนาอะไรและขอยืนยันไม่เคยยัดข้อหาให้ใคร โดยเฉพาะการที่ทนายวัดออกมาบอกว่าพระใกล้ชิดนายไชยบูลย์ 4 รูปไม่ยอมมาให้ปากคำเพราะเกรงว่าจะถูกเปลี่ยนสถานะให้เป็นผู้ต้องหา

สำหรับกรณีที่นายวิชัยระบุว่าพนักงานสอบสวนไม่ยอมมอบเทปการวิ่งเต้นล้มคดีวัดพระธรรมกายนั้น พล.ต.ท.วาสนา กล่าวว่ายังไม่ได้รับการประสานงานจากกระทรวงศึกษาฯเลย และยังไม่มีความชัดเจนด้วยจะสอบสวนคดีนี้หรือไม่คดีที่มีอยู่ก็ยังไม่เสร็จ แต่หากจะดำเนินการก็ต้องเรียกพระครูสุวรรณวชิรธรรมมาให้ปากคำ

ต่อมาเวลา 13.30 น. พระรุ่งธรรม กตธมฺโมหรือพระกุหลาบ อดีตศิษย์วัดพระธรรมกายที่เคยกรณีพิพาทกับชาวนาต.คลองสอง เกี่ยวกับเรื่องที่ดินเมื่อปี 2534 และเป็นผู้ที่พกอาวุธปืนระหว่างเกิดเหตุการณ์ ได้เดินทางมาให้ปากคำแก่พนักงานสอบสวน

นอกจากนั้นตำรวจอ.คลองหลวง มารายงาน และจัดทำแผนที่แสดงการตรวจค้นจุดสำคัญที่ค้นวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 29 ก.ย. และรายงาน ผลกรณีที่พระ 4 รูปหายไป นอกจากนั้นนาง วรรณา อุดมผล พี่สาวนายสอง วัชรศรีโรจน์ มาให้ปากคำกรณีการรวบรวมเงินซื้อที่ดินให้ไชยบูลย์

ขณะเดียวกันพ.ต.ท.เสวก เอี่ยมมงคล สวป.สภ.อ.ชนแดน เพชรบูรณ์ ได้นำตัวอย่างดิน จากพื้นที่ที่นายไชยบูลย์ได้ซื้อจาก นายชาญวิทย์ เปรมกมล ไปมอบให้กับนางสุรีย์ ปัทมสูตร ผอ.กองวิเคราะห์ กรมทรัพยากรธรณี เพื่อพิสูจน์ว่าดินดังกล่าวมีแร่ทองคำผสมอยู่หรือไม่ เมื่อนางสุรีย์ได้รับตัวอย่างก็สั่งการให้ตรวจสอบทันทีโดยยืนยันว่าจะใช้เวลาเพียง 3 วันเท่านั้น จะไม่มีการดึงเรื่องให้ล่าช้าเด็ดขาด

นางสุรีย์กล่าวว่าพนักงานสอบสวนยังได้ขอให้ตรวจสอบพระมหาสิริราชธาตุ มีส่วนประกอบจากวัตถุชนิดใด โดยสิ่ง ที่ได้รับมาเป็นวัตถุสีน้ำตาลดำ แกะสลักรูปพระ มีส่วนประกอบของ ซิลลิก้า เหล็กและแมงกานีสอีกเล็กน้อย ลักษณะ โครงสร้างและเนื้อของวัตถุมีลักษณะเรียงกัน เป็นชั้นของแร่เหล็กและแร่ควอช ซึ่งลักษณะนี้สามารถพบได้ในไม้ที่กลายเป็นหิน หรือหินเซิร์ตที่มีเหล็กออกไซด์เป็นผงหิน

นายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายกล่าวว่าจากการติดต่อกับนายสนธยา โพธิ์แดง ทนายความของวัดยังไม่ทราบกองปราบจะแจ้งข้อกล่าวหาอะไรเพิ่ม ส่วนการที่พนักงานสอบสวนจะให้เจ้าสำนักธรรมกายไปพบก่อนสรุปสำนวนให้อัยการก่อนส่งมอบสำนวน จะขอปรึกษากับทนายความวัด่กอนว่าจะไปพบหรือไม่ นอกจากนั้นได้ปฏิเสธข่าวการจ่ายเงิน 1.5 ล้านบาท เพื่อล้มคดี

ด้านพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีกล่าวว่า กรณีวัดพระธรรมกายยังมีทางออกในการดำเนินการ ตาม กฎนิคหกรรม แต่ต้องให้แก้ไขกฎ ให้เรียบร้อยและรอให้คดีที่ศาลทางโลกเสร็จก่อน คงไม่สามารถบอกได้ในเวลานี้ สงฆ์ควรหยุดอยู่นิ่งๆ รอกฎระเบียบใหม่ ขณะนี้ยังไม่ถือว่าปัญหาวัดพระธรรมกายได้พ้นตัวแล้วเรื่องยังคลุมเครือ อยู่แต่ไม่หนักใจ ส่วนเรื่องเงินๆทองๆ หรือสิน บนเพื่อล้มคดีนั้นมั่นใจว่าไม่มี เพราะไม่ชอบเรื่องนี้และการดำเนินการต่างๆก็ไม่เคยคิดเกรงใจใคร ทั้งพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ด้วย

"อาตมา ไม่สนใจอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ได้สนใจหรือยุ่งเกี่ยวกับการนำไปโยงในการแต่งตั้ง สมณศักดิ์ พระสังฆาธิการที่จะมีในเร็วๆนี้ ตอนนี้กำลังรอว่า เมื่อใดที่ตำรวจจะขอสอบปากคำกรณีนายประจิณร้องว่า อาตมาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และกำลังรอดูว่าถ้านายประจิณดำเนินการเรื่องนี้จริงจังก็จะฟ้องกลับบ้าง"

รายงานข่าวจากพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่าจากการสอบปากคำพยาน ในการซื้อ-ขายที่ดินที่จ.พิจิตรพบว่า นายถาวรคนสนิทนายไชยบูลย์มีที่ดินในจ.พิจิตร 57 แปลง 373 ไร่เศษ�ส่วนใหญ่ได้มาจากการซื้อขาย และมี 4 โฉนดที่ไม่ทราบสาเหตุการได้มาเพราะค้นในสารบบไม่พบ และมีถึง 23 แปลงนายถาวรให้บริษัทโวออก ของสีกาสนิทนายไชยบูลย์เช่าตั้งแต่เดือนม.ค.2540 และส่อเค้าจะทำเหมืองทอง

นอกจากนั้น พนักงานสอบสวนยังแบ่งทีมงาน 2 ส่วน โดยแยกสรุปสำนวนตามข้อหาเดิมที่กรมการศาสนาแจ้งไว้ 3 ข้อหา อีกส่วนไปสอบพยานที่เกี่ยวจ้องเพิ่มเติม รวมถึงได้พิจารณาที่จะนำพ.ร.บ.เรี่ยไร และพ.ร.ก.การ กู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนมาใช้ดำเนินคดีโดยเฉพาะพ.ร.ก.การกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พนักงานสอบสวนสามารถอายัดทรัพย์สินทั้งหมดของวัดคืนให้กับประชาชนที่ถูกหลอกลวง เช่นกรณีผู้เข้าไปร่มกับวัดในลักษณะขายตรงหรือแชร์ลูกโซ่ ถือว่าถูกหลอกลวงและขอให้มาแจ้งความร้องทุกข์ได้ เพราะการที่มีการสร้าง หัวหน้าทีมออกไปหาลูกทีม เพื่อชักจูงคนบริจาคถือว่าได้รับค่าตอบแทนจากยอดเงินบริจาค เข้าข่ายด้วย

ที่สำนักงานก.พ.ตัวแทนกลุ่มเสขิยธรรมยื่นเรื่องต่อสำนักงานให้ดำเนินการสอบสวนนายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนาและข้าราชการอีก 5 คน ที่แจ้งความกล่าวโทษและจัดการปัญหาธรรมกาย โดยการกล่าวโทษครั้งนี้ระบุว่าข้าราชการทั้ง 6 คนทำผิดต่อพ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือนในเรื่องต่างๆ

นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวภายหลัง การประชุมมหาเถร สมาคม(มส.)ว่า มหาเถรฯ รับรอง มติการ ประชุมครั้งก่อน ที่ให้พระพรหมโมลีทำหนังสือ เป็นลายลักษณ์อักษร ชี้แจงกรณีไม่รับคำฟ้องร้อง นายไชยบูลย์ ตามกฎนิคหกรรม ต่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง โดยในวันพรุ่งนี้ จะนำหนังสือรับรองมติ ไปมอบให้พระพรหมโมลี และพระพรหมโมลี บอกกับตนว่าจะรีบชี้แจงทันที แต่ไม่รู้จะใช้เวลากี่วัน

ส่วนกรณีพระพรหมโมลีให้ทนายความ ฟ้องร้องนายประจิณทำได้ รวมถึงจะให้นายมาณพ ชี้แจงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร กรณีข่าวการติดต่อกับพระรูปหนึ่งเพื่อล้มคดีธรรมกาย