เดลินิวส์ 28/8/2542
สอบเอาผิด'พรหมโมลี' ละเว้นปฏิบัติหน้าที่
กองปราบตั้งชุดสอบสวนใหม่ เอาผิด"พระพรหมโมลี"ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ พร้อมสอบ ปากคำคนกรมศาสนาเพิ่มเติม หาหลักฐาน มัดคอปลาไหล"ไชยบูลย์"ฉ้อโกงประชาชน "สมศักดิ์" เผยสรุปหนังสือพระดูดทรัพย์แล้ว โฆษณาเกินจริงหลอกลวงประชาชน วัดฉาว ส่งเอกสาร ชี้แจง ไม่มีเอี่ยวปาระเบิดกระทรวงศึกษาฯ ชาวบ้านคลองหนึ่งโวยเจ้าคณะตำบลถูกศิษย์ธรรมกายหิ้ว หวั่นเป็นอันตราย รองประธานสภาอบจ.เชียงรายจี้วัดฉาวช่วยคนเจ็บ-ตายที่มาร่วมงาน ผ้าป่าวัดพระธรรมกายด้วย
ที่กองปราบปรามฯ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกนายเชลียง เทียมสนิท หัวหน้านิติกร กรมการศาสนา มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมในคดีที่ได้มีการแจ้งให้ผู้ต้องหาทั้งสองไปแล้ว เพื่อให้เกิดความรัดกุมรอบคอบมากขึ้น ก่อนที่จะเสนอต่ออัยการดำเนินคดีในวันที่ 2 ก.ย.นี้ ต่อมาเวลา 13.00 น. นายปัญญา สละทองตรง นักวิชาการศาสนา ระดับ 7 กรมการศาสนา ได้เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก. 1 ป.เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในเรื่องเกี่ยวกับพระมหาสิริราชธาตุ ที่ได้มีผู้แจ้งความ ดำเนินคดี นายไชยบูลย์เพิ่มเติมในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการประสานไปยังกรมการศาสนา เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ในเรื่องดังกล่าวด้วย ในวันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง ผบก.ป. ได้มีหนังสือที่ 153/2542 เรื่องแต่งตั้งพนักงานสอบสวนคดีที่นายประจิณ ฐานังกรณ์ แจ้งความ กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 พระราชปริยัติบดี รองเจ้าคณะภาค 1 และพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นคณะสงฆ์ผู้พิจารณาชั้นต้นตามกฎนิคหกรรม ฐานเป็น เจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจาก ทางกองปราบเห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชน จึงได้มีคำสั่งแต้งตั้งคณะพนักงานสอบสวนออกมา
สำหรับ คณะพนักงานสอบสวน ชุดนี้ประกอบ ด้วย พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองคำพันธ์ รองผบก.ป. เป็นหัวหน้าคณะฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก.1ป. พ.ต.ท.ถนอม มะลิทอง รองผกก.1ป. พ.ต.ท.วิศาล พันธุ์มณี รองผกก. 1ป. พ.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม รองผกก.1ป. พ.ต.ท.สุวิทย์ ชาวศรีทอง รองผกก.1ป. พ.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข สว.ผ.1กก.1ป. ร.ต.อ.สุรชัย จันทร์มณี พงส. (สบ.2)ผ.3กก.3ป. ร.ต.อ.บุญญฤทธิ์ ศรีวิจิตร พงส.(สบ.2)ผ. 2กก.3ป. ร.ต.อ.ณัฐ พรหมเทพ พงส.(สบ.2)ผ.5กก.3ป. ร.ต.อ.พลชัย อินทร์เกลี้ยง พงส.(สบ.1)ผ.1กก. 1ป. ร.ต.อ.สุเทพ โตยิ้ม พงส.(สบ.1)ผ.3กก.1ป. และ ร.ต.อ.ณัฐ วันชัย รองสว.ผ.5กก.3ป.
พล.ต.ต.อัศวินกล่าวว่า กองปราบฯได้พิจารณา เห็นว่าควรมีการดำเนินการให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย รวด เร็วและ มีประสิทธิภาพ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสอนเพื่อหาข้อยุติให้ได้ เรื่อง ดังกล่าวมีมูลความผิดหรือไม่ โดยจะมีการเชิญ ฝ่ายนิติกรของกรมการศาสนามาร่วมดำเนินการด้วย และคิดว่าคงใช้เวลาในการสอบสวนไม่เกิน 1 เดือนคงสรุปผลได้ โดยจะมีการสอบปากคำนายประจิณและนายมาณพ พลไพรินทร์วันจันทร์นี้
พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกายกล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งสรุปสำนวนอยู่ แต่อาจจะเสร็จไม่ทันวันที่ 2 ก.ย.และหากเลย จริงก็จะแจ้ง ให้นายไชยบูลย์ทราบ ส่วนข้อหาที่กำลังพิจารณาแจ้งเพิ่มเติมก็คือฉ้อโกงประชาชน ส่วนแจ้ง ความเท็จนั้น รอผลการสอบพยานบุคคลที่ชลบุรีอยู่ คิดว่าจะทราบภายในวันที่ 30 ส.ค. สำหรับสำนวน สอบสวนที่เสนออัยการนั้นมีความหนาประมาณ 60 หน้า อย่างไรก็ดี การสอบปากคำนายไชยบูลย์เพิ่มเติมนั้นจะเข้าไปสอบสวนที่วัดพระธรรมกายด้วย
นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้นายไชยบูลย์ยังไม่ได้ถูกตัดสินเป็นจำเลย แค่เป็นผู้ถูกกล่าวหาเพราะอยู่ระหว่างสู้คดี ยังมีสิทธิ์พิสูจน์ข้อกล่าวหายังไม่จำเป็นต้องจับสึก ส่วนเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นในอดีตนั้น ต้องยอมรับว่าในวลานั้นอยู่ในยุคมืด ยุคเผด็จการ กฎหมายอยู่ในมือผู้ปกครองประเทศ แต่ปัจจุบันใครก็อยู่เหนือกฎหมายได้ ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกระบวนการทางศาสนาทางมหาเถรฯ
นายสมพร เทพสิทธา ประธานสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติกล่าวว่า นายไชยบูลย์ คงไม่คิดหนี เพราะการสู้คดีนั้นกระทำกันถึง 3 ศาล ส่วน ระยะเวลา ในการดำเนินคดี นั้นเป็นเรื่องที่ชาวพุทธต้องเข้าใจ ขณะนี้มีการดำเนินการ ทางสงฆ์และทางอาญาพร้อมกันน่าจะพอใจ ส่วนการเรียกร้อง ให้ปลด นายไชยบูลย์ออกจากตำแหน่งนั้น ทางเจ้าคณะตำบลควรพิจารณา เรื่องนี้และเสนอเรื่องให้เจ้าคณะอำเภอ เพื่อเสนอต่อไปยังเจ้าคณะจังหวัดได้แล้ว เพราะพระสุเมธาภรณ์บอกแล้วว่าจะสั่งการทันทีของให้ส่งมาเท่านั้น เนื่องจากเป็นหลักธรรมดาเมื่อมีความผิดอาญาก็จะต้องปลดออกจากตำแหน่ง
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาฯกล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมการศาสนาเรื่องการ วินิจฉัยหนังสือ อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุแล้วเข้าข่ายหลอกลวง มีการโฆษณาเกินความเป็นจริง จึงได้ประสานกับ เจ้าหน้าที่ ตำรวจและส่งข้อมูลดังกล่าวให้เพื่อประกอบการพิจารณาว่า จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มในโทษฐานใดได้บ้าง อย่างไรก็ตามขณะนี้การแก้ไข ปัญหาวัดพระธรรมกายในส่วนของกระทรวงถือว่าจบไปแล้ว แต่ได้สั่งการให้นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนาไปติดตามความคืบหน้าทางสงฆ์กับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เมื่อถึงระยะเวลาที่สมควร เพราะต้องการทราบเหมือนกันว่าการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว
นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯกล่าวว่า กำลัง ประสานกับคณะกรรมการแก้ไขปรับปรุงกฎนิคหกรรม ตามมติมหาเถรสมาคม เพื่อศึกษา รายละเอียดและสาระสำคัญของกฎที่จะต้องปรับปรุง คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปและนำเสนอมหาเถรฯต่อไป โดยได้สั่งการให้ อธิบดี กรมการศาสนาจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษากรม เพื่อให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะต่อการบริหารงานกรม การจัดเตรียมวาระการประชุมมหาเถรฯ กรณีวัดพระธรรมกายและการแก้ไขกฎนิคหกรรม จะต้องมีการกำหนดระยะเวลาในการไต่สวน ให้คล้ายกับระเบียบข้าราชการพลเรือน
ส่วนกรณีของนายไชยบูลย์ที่ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีเหลืองใต้จีวรนั้นถือว่าเป็นการผิดระเบียบวินัยสงฆ์ แต่อาจจะใส่ได้ในกรณีเจ็บป่วย แพ้อากาศ สำหรับเหตุปาระเบิดข้างกระทรวงนั้น ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงแต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตและคงไม่เกี่ยวกับกรณีวัดพระธรรมกาย แต่จะประสานงานกับตำรวจเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
พล.ต.ต.โยธิน มัธยมนันท์ รองผบช.ส.กล่าวเรื่องระเบิดว่า จากการสันนิษฐานเบื้องต้น พบว่าก่อนหน้านี้มีการโทรศัพท์มาข่มขู่ไม่ให้มีการดำเนินการ กับนายไชยบูลย์ จึงคาดว่า น่าจะเป็นเรื่องของวัดพระธรรมกาย แต่ก็ได้วางประเด็นเรื่องกวนเมือง ที่ต้องการ ให้ฝ่ายสนับสนุน วัดพระธรรมกายและฝ่ายต่อต้าน นายไชยบูลย์มีความขัดแย้งกันมากขึ้นเพื่อให้เหตุการณ์บานปลาย รองผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตำรวจสันติบาลสืบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว
พล.ต.ต.โยธินกล่าวต่อไปว่า วัดพระธรรมกายนั้นแต่เดิมเป็นของเอกชนก่อนที่จะเข้ามาสังกัด กระทรวงศึกษาฯ ดังนั้นผู้ก่อตั้งจึงมีสิทธิในการดูแลพื้นที่ หากยังไม่ได้กระทำความผิดตำรวจก็ไม่สามารถไปละเมิดสิทธิ์ได้ ในส่วนของวัดพระธรรมกายก็คงต้องตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง การรวมกลุ่มนั้นหากเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้ละเมิดการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ก็สามารถกระทำได้ แต่ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีตามหน้าที่
สำหรับบรรยากาศที่วัดพระธรรมกายในวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในวัดค่อนข้างเงียบเหงา ขณะที่ บริเวณ สภาธรรมกายสากลที่เคยมีศิษย์ธรรมกายมานั่งปฏิบัติธรรมโดยอ้างว่า เป็นในช่วง สัปดาห์ ธุดงค์ตั้งแต่วันที่ 22-29 ส.ค.นั้นกลับไม่มีศิษย์ธรรมกายเลย ส่วนบริเวณสำนักงานมูลนิธิธรรมกายนั้น มีรถยนต์วิ่งเข้าออกโดยตลอด ขณะเดียวกันวัดพระธรรมกายได้ส่งหนังสือชี้แจงกรณี เหตุปาระเบิดที่กระทรวงศึกษาฯว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตำรวจสืบหาผู้กระทำความผิดจริงโดยเร็ว
นายวีระศักด์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกายกล่าวว่า การรวมตัวกันของศิษย์วัดพระธรรมกาย วันที่นายไชยบูลย์ถูกออกหมายจับเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์เพื่อให้กำลังใจนายไชยบูลย์ ส่วน ที่ต้องกันสื่อมวลชน ไม่ให้เข้าบริเวณวัดก็เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยเกรงจะเกิดความรุนแรงกับสื่อมวลชน และที่ต้องเอา รถบัสมาจอด ปิดทางเข้าออกวัด ก็เพราะอุบาสกอุบาสิกาในวัดทุกคนไม่มีอาวุธ ขณะที่ตำรวจมีทั้งปืนและอำนาจ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าตำรวจจะบุกเข้าวัดเพื่อจับกุมนายไชยบูลย์ คิดว่าหากเข้ามาจริงๆก็คงชะลอเพื่อพูดคุยกันได้บ้าง
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหานายไชยบูลย์เพิ่มอีกนั้น นายวีระศักดิ์กล่าวว่า ไม่กังวล ขอเพียง ปฏิบัติด้วยความยุติธรรม การสอบปากคำ ครั้งต่อไปหากทำได้อยากให้ทำที่วัดพระธรรมกาย เพราะไม่ต้องการ ให้เอิกเกริก ขณะเดียวกันคิดว่านายสมศักด์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาฯ ล้วงลูกการทำงานของรมช.ศึกษาฯ แทบทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องทางคณะสงฆ์
"ในวันอาทิตย์ที่ 29 ส.ค.นี้ จะมีการจัดงานครบรอบบวช 31 พรรษาของนายไชยบูลย์ เชื่อว่า คงมีลูกศิษย์เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในวันนั้นเราจะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวตามปกติ"
ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปที่วัดสว่างภพ เพื่อเข้าพบพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งแต่ไม่พบ จาการสอบถามทราบว่าได้มีคนขับรถยนต์โตโยต้า สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 3 ก 222 สระบุรี มารับไป ซึ่งเป็นเช่นนี้ตั้งแต่มีการออกหมายจับนายไชยบูลย์ และจะนำกลับมาส่งอีกครั้งในเวลา 20.00-21.00 น. ทำให้ชาวบ้านบริเวณนั้นเป็นห่วงสุขภาพมากเนื่องจากแก่แล้ว
อย่างไรก็ตามจากการเดินทางไปพบกับพระมหาปัญญา ขันติธัมโม เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง ทราบว่า ขณะนี้ยังดำเนินการปลดนายไชยบูลย์ไม่ได้ ต้องรอคำสั่ง เป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าคณะภาค 1 ก่อน แต่ความจริงนายไชยบูลย์ยังไม่เป็นจำเลยเพียงแต่เป็นผู้ต้องหา เพราะเรื่องยังไม่ถึงอัยการพิจารณาสั่งฟ้องก็ยังไม่จำเป็นต้องปลดออกจากตำแหน่ง
ขณะเดียวกันนายวีรชัย สุวรรณธาราเรือง รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้มีหนัง สือถึง วัดพระธรรมกายผ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ว่า วัดพระธรรมกายซึ่งเป็นผู้จัดโครงการผ้าป่าสามัคคีกองทุนค้ำ จุนโลกได้มีหนังสือให้พระวัดดงชัยและญาติโยมเดินทางไปที่วัดเพื่อรับเงินผ้าป่าจำนวน 20,000 บาทปรากฎว่าคณะดังกล่าวประสบอุบัติเหตุระหว่างทางเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงอยากให้วัดพระธรรมกายออกมาช่วยเหลือและรับผิดชอบกรณีนี้ด้วย