page4

เดลินิวส์ 27/8/2542

เชือดอีก10คดีจี้ปลด'ไชยบูลย์'พ้นเจ้าวัด

แฉรายละเอียดคำให้การปลาไหล"ไชยบูลย์"สงสัย"อัลไซเมอร์"แน่ จำไม่ได้สักอย่าง แม้กระทั่งเซ็นเช็คสั่งจ่ายค่าที่ดิน ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเดิม"ฉ้อโกง!! ประชาชน" อวดอ้าง ปาฏิหาริย์พระดูดทรัพย์ทั้งที่ทำด้วยตนเองทุกอย่าง พร้อมงัดกฎหมายฟอกเงินถล่มซ้ำ ยืนยันก.ม. บังคับใช้แล้วไม่มีปัญหา ไม่ถือว่าย้อนหลัง มั่นใจพยานหลักฐานดิ้นไม่หลุด ระบุมีอีก 10 คดีรอตั้งข้อหาพระปลอม อัยการผวากฎหมู่กดดันพิจารณาสำนวนส่งฟ้อง ยอมรับ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนแถมมวลชน เจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ ยันเจ้าคณะตำบล ต้องเสนอปลด ไม่ทำมีความผิดฐานละเว้น ขู่ซ้ำคดีหมิ่นสมเด็จพระสังฆราชยังไม่พ้นมลทินให้ระวังให้ดี

ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกายได้สอบปากคำนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายและนายถาวร พรหมถาวร คนสนิทที่ดำเนินการในเรื่องการจัดซื้อที่ดินตามหมายจับกระทรวงมหาดไทย และอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราวไปแล้วนั้น

เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติม

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. หัวหน้าคณะพนักงานสอบ สวนคดีวัดพระธรรมกาย พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัต ผช.ผบช. ประจำ สง.ตร. พล.ต.ต. จุมพล มั่นหมาย รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต. อัศวิน ขวัญ เมือง ผบก.ป. และ พล.ต.ต.อชิระ สมแก้ว ผบก. ภ.จ.ปทุมธานี ฯลฯ เข้าประชุมตรวจสอบสำนวนและวางแนวทาง การทำงานต่อไปในการดำเนินคดีกับนายไชยบูลย์ โดยใช้เวลาในการหารือราว 1 ชั่วโมงเศษ

หลังการประชุม พล.ต.อ.พรศักดิ์เปิดเผยว่า หากมีการร้องเรียน แจ้งความเพิ่มเติมกับนายไชยบูลย์ ก็สามารถกระทำได้ เพราะหากสอบสวนแล้วพบความผิดตามข้อกล่าวหาจริงก็สามารถ ที่จะดำเนินการ แจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ ซึ่งในขณะนี้ก็มีผู้แจ้งความเพิ่มเติมว่า นายไชยบูลย์กับพวกฉ้อโกงประชาชนแล้ว ซึ่งได้สั่งการให้เสนอเรื่องขึ้นมาเพื่อจะได้ให้พนักงานสอบสวนคดีไปดำเนินการสอบสวน เพื่อที่จะรวบรวมไม่ให้กระจัดกระจาย และก็จะแยกเรื่องไปให้ต่างสำนวนกัน

งัด ก.ม. ฟอกเงินฟันแน่

ส่วนกรณีที่ว่าจะสามารถนำเอากฎหมายฟอกเงินเข้ามาพิจารณาด้วยหรือไม่นั้น ถือว่าทุกเรื่องที่กฎหมายประกาศใช้และอยู่ในข่ายความผิดที่เกิดขึ้น ภายหลังจากการประกาศใช้กฎหมายก็จะต้องนำมาใช้และอยู่ในกรอบของกฎหมายฟอกเงิน ส่วนกรณีการเรียกผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติมนั้น สามารถกระทำได้อยู่แล้วโดยสั่งการไปยังนายประกันให้นำตัวผู้ต้องหามาให้ปากคำ ซึ่งจะมีการดำเนินการสอบสวนหาพยานหลักฐานเรื่องต่าง ๆ อีกจำนวนหนึ่งเพื่อความแน่นหนาของรูปคดีก่อนที่จะมีการเสนอให้แก่อัยการพิจารณาต่อไป สำหรับเรื่องการแต่งกายที่ไม่เหมาะสมของนายไชยบูลย์นั้น เป็นเรื่องที่องค์กรที่ปกครองสงฆ์จะเป็นผู้พิจารณาไม่เกี่ยวกับทางพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.ท.วาสนากล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปในการดำเนินคดีนายไชยบูลย์นั้น พนักงาน สอบสวนได้กำหนดวันที่จะเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว โดยกำหนดไว้ในวันจันทร์ที่ 30 ส.ค. และวันอังคาร ที่ 31 ส.ค.นี้ ส่วนสถานที่ยังไม่ได้มีการกำหนด และคิดว่าคดีนี้คงสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการได้ในวันที่ 2 ก.ย. ส่วนข้อหา ที่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งเพิ่มเติมคือ แจ้งความเท็จและฉ้อโกงประชาชนนั้น ทั้ง 2 ข้อหาก็ยังคงดำเนินการอยู่และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการสรุปได้ในเร็ว ๆ นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเอกสาร พยานหลักฐานประกอบคดีอยู่

อัยการหนักใจกฎหมู่กดดัน

สำหรับการให้ประกันตัวชั่วคราวกับนายไชยบูลย์นั้นยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้ให้อภิสิทธิ์ แต่เป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาพึงได้รับ ในเรื่องที่เกรงว่าจะ มีการข่มขู่พยานนั้นทางพนักงานสอบสวนได้มีมาตรการควบคุมเรื่องนี้อยู่แล้ว หากมีการดำเนินการเช่นนั้นจริงก็จะถอนประกันทันที

ขณะเดียวกันที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายวิเชียร วิริยะประสิทธิ์�อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวถึงการพิจารณาคดีนายไชยบูลย์กับนายถาวรว่า เมื่อ 2-3 วันก่อนนั้น พล.ต.ท.วาสนา พร้อมพนักงานสอบสวนได้เดินทางมาขอคำปรึกษาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงต่าง ๆ ในคดี รวมทั้งได้เข้าพบกับนายพันธุ์ สุริยพร รองอัยการสูงสุดด้วย และเมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนสอบสวน พร้อมความเห็นมาให้แล้วก็จะมีการตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาพิจารณาคดี เพราะคดีนี้เป็นคดีสำคัญ ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมากจึงต้องพิจารณารอบคอบและเป็นธรรมแก่ ทุกฝ่าย

"ผมยอมรับว่าคดีนี้มีความหนักใจพอสมควร เนื่องจากคดีมีความละเอียดอ่อน และมีมวลชน คอยให้การสนับสนุนผู้ต้องหามาก ส่วนข้อเท็จจริงในคดีนั้นขณะนี้ผมยังให้ความเห็นไม่ได้ ถือเป็นความลับ และยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน"

สอบฉ้อโกงประชาชน

มีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่า พนักงานสอบสวนจะเรียก พ.ต.อ. บรรจบ สุดใจ อดีต ผกก.สน.ท่าข้าม ที่แจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายไชยบูลย์ พระภาวนาวิริยคุณ (พระเผด็จ ทัตตชีโว) และพระปลัดสุธรรม สุธัมโม ในข้อหาร่วมกันกระทำการฉ้อโกงประชาชน มาสอบปากคำเพื่อรวบรวมข้อมูลเอกสาร พยานหลักฐาน ก่อนที่จะพิจารณา ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนายไชยบูลย์ ทั้งนี้ พ.ต.อ.บรรจบระบุไว้ว่า แสดงข้อความอันเป็นเท็จ และหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อในเรื่องของอภินิหารอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และปาฏิหาริย์ของพระมหาสิริราชธาตุหรือพระดูดทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของนายไชยบูลย์ที่ให้กับพนักงานสอบสวนว่า ได้ตั้งชื่อธาตุที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการสร้างพระดูดทรัพย์เอง

ในหนังสือพระมหาสิริราชธาตุนั้นระบุว่า พระมหาสิริราชธาตุประกอบไปด้วย 3 ธาตุประชุม รวมกัน คือ 1. พญาเหล็กเพชรดำ มีธาตุเหล็กอันบริสุทธิ์ ให้ความแข็งแกร่ง 2. คำแก้วมณี มีสีเหมือนทอง แสงทะลุมองตามแสงเข้าไปถึงข้างในได้ ให้เกี่ยวกับทรัพย์ ดึงดูดทรัพย์ 3. สิทธิธาตุ สีออกแดงเรื่อ ๆ ให้ความสำเร็จในสิ่งที่พึงปรารถนา เมื่อ 3 ธาตุประชุมรวมกันเป็นราชาแห่งทรัพย์ ทรัพย์ทั้งหลายจะเป็นโลกีย์ทรัพย์ อริยทรัพย์ เมื่อมาแล้วจะมาอยู่นิ่งไม่ผ่านเลยไป พระมหาสิริราชธาตุแต่ละรุ่นมีที่มาไม่เหมือนกัน โดยบันทึกไว้ว่า พระคะแนนสุดสุด เป็นฤทธิธาตุ คือธาตุ มีฤทธิ์ มาประชุมรวมกันยาวนานกว่า 200 ล้านปี พระคะแนน สุดฤทธิ์ ทำมาจากรัตนชาติที่หาได้ยาก เกิดขึ้นยาก ใช้เวลานานหลายร้อยล้านปี มีลักษณะคล้ายมณีสีน้ำเงิน (Lapis) พระคะแนน สุดเดช ทำจากวัตถุธาตุที่ดีที่สุด ซ้อนวิชชาธรรมกายที่ดีที่สุด

เผยรายละเอียดคำให้การ

รายงานข่าวเปิดเผยถึงรายละเอียดในการสอบปากคำนายไชยบูลย์เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่วัดชนะสงครามที่ผ่านมาว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว นายไชยบูลย์ได้ปฏิเสธทั้งหมด พนักงานสอบสวนจึงสอบปากคำโดยสอบถามถึงเรื่องที่ดินที่จังหวัดเพชรบูรณ์ที่นายชาญวิทย์ เปรมกมล นายหน้าค้าที่ดินยืนยันว่านายไชยบูลย์ได้เดินทางไปดูที่ดินผืนดังกล่าว ซึ่งนายไชยบูลย์กล่าวว่า เคยเดินทางไปดูที่ดินดังกล่าวครั้งหนึ่ง อาตมาฉลองศรัทธา

พนักงานสอบสวนถามว่า รู้จักกับนายชาญวิทย์หรือไม่ นายไชยบูลย์ตอบว่าอาตมาไม่รู้จักนะจ๊ะ พนักงานสอบสวนถามว่า ที่มีการพบกับนายชาญวิทย์ที่สมาคมนิสิตเก่าเกษตรฯ นั้นข้อเท็จ จริงเป็นอย่างไร นายไชยบูลย์กล่าวว่า จำไม่ได้นะจ๊ะ เมื่อคาดคั้นถึงเรื่องที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์ นายไชยบูลย์ตอบว่า อาตมาทำดีมาเยอะ สร้างกุศลมาเยอะ ก็ได้ผลตอบแทนมา การซื้อนั้นอาตมาจำไม่ได้นะจ๊ะ การทำทุกอย่างนั้นต้องผ่านกรรมการวัด ฉะนั้นเมื่อกรรมการวัดดำเนินการบางสิ่งบางอย่าง อาตมา ก็ไม่รู้นะจ๊ะ มีอะไร มาให้เซ็นก็เซ็น อาตมาเป็นคนทำบุญสุนทานนะจ๊ะ พนักงานสอบสวนถามต่อไปว่า การเซ็นเช็คเป็น ลายมือชื่อ นายมัยฤทธิ์ ปิตวนิ เข้าบัญชีนางสงบ ปัญญาตรง นั้นทราบเรื่องหรือไม่ นายไชยบูลย์ตอบว่า อาตมาจำไม่ได้นะจ๊ะ

ให้การขัดแย้งพยานหลักฐาน

รายงานข่าวระบุว่าคำตอบส่วนใหญ่ของนายไชยบูลย์นั้นเป็นคำตอบที่วกวน ขัดกันกับพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมได้ ส่วนใหญ่จะตอบว่าไม่รู้นะจ๊ะ สำหรับบรรยากาศการสอบสวนนั้นเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เพราะ นายไชยบูลย์ไม่ยอมให้ปากคำในบางคำถาม โดยมีทนายความคอยบอกอยู่ตลอดเวลาว่าไม่ควรให้การ อย่างไรก็ตามในวันเดียวกันนั้นพนักงานสอบสวนได้นำหนังสือไปยังสำนักงานกองบัญชา การตำรวจสันติบาลและกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้มีการส่ง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในวัดพระธรรมกายว่ามีสิ่งผิดปกติใดหรือไม่ รวมทั้งทำหนังสือไปยัง สตม. ให้คอยตรวจจับการเดินทางออกนอกประเทศของผู้ต้องหาทั้งสองคนด้วย

โอนคดีฉ้อโกงให้กองปราบฯ

สำหรับขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไปนั้น หากว่าพนักงานสอบสวนมีความเห็นฟ้องคดีจะต้องติดต่อนายประกัน ให้นำตัวผู้ต้องหาและสำนวนคดีส่งให้อัยการ จากนั้นก็จะเป็นดุลพินิจของอัยการว่าจะให้ประกันตัวหรือจะคัดค้าน ซึ่งขั้นตอนนี้มีกำหนด ระยะเวลา ว่าจะต้องเสนอต่ออัยการภายใน 6 เดือน ถ้าพ้นจากนี้ถือว่าการประกันขาด ถือว่าผู้ต้องหาพ้นคดีได้ ในขั้นตอนต่อไปถ้าอัยการมีความเห็นฟ้องก็จะนัดวันนำตัวผู้ต้องหาและสำนวนส่งศาล ซึ่งก็จะเป็นดุลพินิจของศาลที่จะให้ประกันหรือไม่

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามที่พนักงานสอบสวน ได้ตั้งข้อหาไว้กับนายไชยบูลย์อีก 10 คดี โดยทั้งหมดยังอยู่ในคดีเดียวกัน แต่เป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ ส่วนกรณีพระมหาสิริราชธาตุที่มีการแจ้งความต่อกองปราบ ปราม เพิ่มเติมนั้น พล.ต.ท.วาสนา หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนได้โอนคดีนี้ไปให้ พล.ต.ต. อัศวิน ขวัญเมือง ผบก.ป. เป็นผู้สอบสวนแทน

สมเด็จเกี่ยวให้ทุกคนทำตามหน้าที่

ส่วนที่บ้านพักซอยหมอเหล็ง บ้านพักของนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประมวล รุจนเสรี อธิบดีกรมการปกครอง ได้เดินทางไปยังบ้านพักดังกล่าวเพื่อเข้าพบและหารือข้อราชการ โดยใช้เวลาหารือ 5 นาที จากนั้นนายชวนได้เดินทางไปนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ เพื่อถวายผ้าไตรจีวร เครื่องราชสักการะเนื่องในเทศกาลเข้า พรรษา ได้สอบถามสุขภาพของสมเด็จพระพุฒา จารย์ ทั้งปรารภว่า งานของมหาเถรสมาคมคงจะยุ่งในช่วงนี้ ขณะที่สมเด็จพระพุฒาจารย์กล่าวตอบว่า สุขภาพแข็งแรงดี และงานบริหารภายในมหาเถรฯก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีการเข้าใจผิด ไม่มีความขัดแย้ง และที่ดีที่สุดคื อปฏิบัติหน้าที่ที่ตนเองมีอยู่ให้ดีที่สุด ตามที่ได้รับมอบหมาย พระก็มีหน้าที่ ทางบ้านเมืองก็มีหน้าที่ ผิดถูกก็ว่ากันไป

นายชวนกล่าวถึงกรณีที่วิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกายในลักษณะประนี ประนอมว่า รัฐไม่ได้กระทำเช่นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำถูกต้องแล้ว เชื่อว่าไม่ได้มีใครรับ ปากในเรื่องนี้และการประกันตัวก็ถือเป็นอำนาจและดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ตำรวจพยายาม ลดกระแสความรุนแรงกระทบกระทั่งกันเกรงว่าจะเกิดปัญหา อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่ความรู้สึกไม่พอใจก็อาจจะมีบ้าง

มท.1 ยันไม่รู้จัก "อนันต์"

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า การที่พนักงานสอบสวนให้นายไชยบูลย์ สุทธิผล และ นายถาวร พรหมถาวร ได้รับการประกันตัวไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคดีที่เกิดขึ้นไม่ใช่คดีร้ายแรง การให้ประกันตัวก็ไม่ได้หมาย ความว่ากลัวเกรงม็อบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการสอบสวนจะใช้เวลาไม่มากเท่าใดนัก เพราะได้สอบปากคำนายไชยบูลย์หมดแล้ว เขาปฏิเสธทุกข้อหาและขอให้การชั้นศาล พนักงานสอบสวนก็ต้องหาพยานแวดล้อมมา

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็นผู้ประสานงานให้นายไชยบูลย์มอบตัวนั้น พล.ต. สนั่นกล่าวว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง จะไปจับก็ไม่ได้ จะไปสอบสวนในวัดก็ไม่ได้ จึงต้องหาทางออกที่นุ่มนวลที่สุดและปลอดภัยที่สุดไม่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ตำรวจทำดีที่สุดแล้ว และขอปฏิเสธที่ว่าได้เจรจากับนายอนันต์ อัศวโภคิน เพราะไม่ได้พูดคุยอะไรด้วยเลย

ปาระเบิดกระทรวงศึกษาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.20 น. ร.ต.ต.คเชนทร์ พันนุมา ร้อยเวร สน.ดุสิต ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดที่บริเวณประตูผี ด้านกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาฯ ซึ่งอยู่ติดเชิงสะพานมัฆวาฬรังสรรค์ถึง 3 ครั้ง จนทำให้พื้นและอาคารบริเวณใกล้เคียงสั่นสะเทือน สร้างความตระหนกตกใจแก่ผู้ผ่านไปมาและข้าราชการเป็นอย่างมาก เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่ามีเศษดินระเบิดและเศษไม้จากประตูกระจัดกระจาย ทั้งยังพบซากวัสดุที่ห่อหุ้มดินปืนลักษณะและขนาดเท่ากะลามะพร้าว จากการสอบสวนนายพุ่ม พ่อค้า อายุ 65 ปี ซึ่งล้างรถอยู่ในบริเวณดังกล่าวทราบว่า ระหว่างที่ล้างรถอยู่นั้นได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น 3 ครั้ง จึงได้หันไปดูก็เห็นซากวัสดุที่เกิดจากแรงระเบิด โดย ในบริเวณเดียวกันเห็นชาย 2 คนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขี่ออกจากที่เกิดเหตุไป

อย่างไรก็ตามคาดว่าเป็นเพียงการข่มขู่ทำลายขวัญเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ก็มีโทรศัพท์มาข่มขู่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการให้ยุติบทบาทในกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายแล้ว พ.ต.อ.ชาตรี วุฒิภักดี ผกก.สน.ดุสิต กล่าวว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดดัดแปลงแต่ไม่ใช่ระเบิดที่มีความรุนแรง สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นข่มขู่เท่านั้น ซึ่งทางตำรวจจะตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามาจากสาเหตุใดแน่

รอเจ้าคณะใหญ่หนกลางชี้ขาด

นายสมศักดิ์กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีหลายคนพยายามจะเชื่อมโยงที่ประเด็น วัดพระธรรมกาย ซึ่งไม่จริงเพราะเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ขณะนี้ถือว่ากระทรวงศึกษาฯเสร็จสิ้นภารกิจนี้แล้ว เป็นหน้าที่ ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการต่อไป ส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงก็คือกระบวนการทางสงฆ์ รอเพียงพระพรหมโมลีทำหนังสืออย่างเป็นทางการรายงานต่อพระมหาธีราจารย์ จะพิจารณาอย่างไรก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของท่าน และได้มอบหมายให้นายวิชัย ตันศิริ รัฐมนตรีช่วยฯเป็นผู้รับผิดชอบในด้านนิคหกรรม เพื่อให้แก้ไขปรับปรุงในจุดที่มีปัญหา โดยจะประสาน กับคณะกรรมการแก้ไขกฎนิคหกรรมตามมติ มหาเถรฯ

ต่อข้อถามที่ว่าหากเจ้าคณะใหญ่หนกลางชี้ขาดว่ายุติกระบวนการทางสงฆ์ จะไม่มีการอุทธรณ์ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าได้มีการดำเนินการตามกระบวนการ ไม่ว่าจะชี้ขาดออกมาอย่างไรเราก็คงยอมรับไม่เข้าไปแทรกแซง แต่จะหันมาดูข้อผิดพลาดในกฎนิคห กรรมและแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคตอีก ส่วนการพักตำแหน่งนายไชยบูลย์นั้น ได้รับรายงานจากกรมการศาสนาว่ายังไม่ถึงขั้นตอนนั้น เพราะนายไชยบูลย์เป็นเพียงผู้ต้องหาไม่ใช่จำเลย เนื่องจากยังไม่ถึงกระบวนการศาล

มั่นใจ "ไชยบูลย์" ไม่พ้นก.ม.

ด้านนายวิชัยกล่าวว่า การให้นายไชยบูลย์ประกันตัวชั่วคราวนั้นไม่ใช่การรอดพ้นก.ม. ขณะนี้กำลังดูรายละเอียดของคดีอยู่ โดยจะแยกออกเป็น 2 ทาง คือทางสงฆ์และทางบ้านเมือง นอกจากนี้กำลังพิจารณาดูกฎนิคหกรรมว่า ส่วนใดล้าหลังบ้างไม่เหมาะสมก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ เพื่อให้กระบวนการทางสงฆ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนเหตุที่การดำเนินการของตำรวจเร็วกว่าทางสงฆ์นั้นคิดว่า เป็นเรื่องของความชำนาญที่มีมากกว่ากัน ยิ่งเมื่อกฎนิคห กรรมไม่ได้ใช้เรื่องจึงช้าเป็นธรรมดา

"บทบาทของกระทรวงศึกษาฯในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการเอง อำนาจไม่ได้อยู่ในมือ แต่ได้พยายามทำให้ทุกอย่างด ที่มีการออกหมาย จับก็ได้หารือกับพระผู้ใหญ่หลายท่านเพื่อแก้ปัญหาและสถานการณ์ แต่มีข่าวรั่วออกมาก่อนจึงต้องปรับแผนใหม่แต่มาถึงตรงนี้แล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอีก ยืนยันว่าได้ทำตามหน้าที่ไม่ได้มีอคติความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวข้องด้วย และจะไม่มีการท้อถอย ยังเชื่อมั่นว่าจะไม่มีเหตุที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอน"

สมพรจี้ฟัน "ปาราชิก"

นายสมพร เทพสิทธา ประธานสภา

ยุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ กล่าวถึงการเข้ามอบตัวของนายไชยบูลย์ว่า ในคดีทางโลกมาถึงขั้นนี้ก็พอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งขั้นตอนจากนี้ไปก็คงต้องใช้เวลาสู้คดีกันอีกหลายศาล แต่ในทางสงฆ์ยังไม่พอใจ คดีทางโลกก็เป็นคดีอาญา ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง มีโทษถึงขั้นติดคุก การที่ตำรวจออกหมายจับแสดงว่าต้องมีความผิดจริง เพราะพนัก งานสอบสวนต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ กว่า 2 เดือนเพื่อมายืนยัน ดังนั้น ในทางสงฆ์นายไชยบูลย์ต้องถือว่าปาราชิกขาดจากความเป็นพระและไม่มีสิทธิ์จะมาบวชอีก คนที่สนับ สนุนนายไชยบูลย์ รวมทั้งพระผู้ใหญ่ที่คอยปกป้องต้องหันมามองตัวเองต้องระวังตัว กระแสสังคมไม่ต้องการให้เรื่องนี้ยืดเยื้อออกไปอีกแล้ว

พระพิศาลธรรมพาที (พระพยอม กัลยาโณ) ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้วกล่าวว่า การให้ประกันตัวนั้นตำรวจทำไปตามหน้าที่ ข้อหาที่ตั้งไว้ก็เหมาะสมกับหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน แต่คนที่ไม่ได้ ติดตามข่าวนี้อย่างต่อเนื่องก็อาจจะเข้าใจผิดได้ว่าทำไมพระที่มีเงินเป็นพันล้าน เอามาประกันแค่ 2 ล้านเท่านั้น อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องพระผู้ใหญ่ให้พิจารณาปลดออกจากตำแหน่งด้วย เพราะกระบวนการทางโลกได้ดำเนินการไปขั้นตอนหนึ่งแล้ว

สมเด็จฯวัดชนะย้ำยังไม่จบ

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม กล่าวยืนยันกรณีการดำเนินการตามกฎนิคหกรรมนายไชยบูลย์ว่า ยังไม่สิ้นสุด ขณะนี้รอให้พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 รายงานมาเป็นลายลักษณ์อักษร ชี้แจงเหตุผลในการวินิจฉัยว่า เหตุใดฆราวาสฟ้องสงฆ์ไม่ได้เพื่อรายงานมหาเถรฯ ส่วนที่มีข่าวว่าทุกฝ่ายหวังพึ่งเจ้าคณะใหญ่ หนกลางแต่เพียงผู้เดียวนั้น ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้แค่ไหน

ขณะเดียวกันพระครูปลัดอนันต์ พัทธญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ได้มอบหมายให้นายปริญญา นุตาลัย เข้าแจ้งความที่สน.ลุมพินี เนื่องจากมีป้ายขนาดใหญ่อ้างชื่อคณะลูกศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าซุง ซึ่งมรณภาพไปแล้ว จนอาจทำให้เกิดความเข้าผิดได้ โดยข้อความในป้ายดังกล่าวก็คือ "ขบวนการล้มพุทธ หยุดละเมิดอำนาจสงฆ์ ด้วยความปรารถนาดี จากคณะสงฆ์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กลุ่มสุปฏิปันโน ศิษย์เก่าวัดบวรฯ ชาวพุทธ 76 จังหวัด" และติดอยู่ตรงทางด่วนก่อนทางลงประตูน้ำ ข้อความเช่นนี้จะเป็นการเข้าใจผิดกับผู้พบเห็นและรัฐบาลว่าพระสงฆ์วัดท่าซุงเป็นผู้กระทำ จึงแจ้งความให้เอาป้ายดังกล่าวลงทันที ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

"กิตติวุฒโฑ" โผล่เชียร์พระปลอม

พระเทพกิตติปัญญาคุณ หรือพระกิตติ วุฒโฑ ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์จิตตภาวัน กล่าว ในโอกาสที่เดินทางไปร่วมงานวันเกิดสมเด็จ พระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษี เจริญ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของนายไชยบูลย์ว่า ทางตำรวจทำถูกต้องแล้วที่ให้ประกันตัวนายไชยบูลย์ เนื่องจากข้อกล่าวหาใครก็กล่าวหากันได้ แต่ว่าผิดถูกอย่างไรต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้ใช้กฎมหาเถรสมาคม ข้อที่ 24 ถอด ถอนนายไชยบูลย์พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายระหว่างต้องอธิกรณ์นั้น หากกระบวนการทางโลกยังดำเนินการอยู่ก็ต้องคอยให้จบเสียก่อน

ต่อกรณีนายไชยบูลย์ถูกกล่าวหาว่าบิดเบือนคำสอนของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำนั้น เป็นเรื่องไม่จริง คำสอนเป็นไปตามแนวของวัดปากน้ำทุกประการ และไม่ได้นอกแนวทาง คนทั่วไปที่ไม่ได้นั่งสมาธิไม่เข้าใจหรอก ผิดถูกอย่างไรกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ สำหรับเรื่องการเรี่ยไรของวัดพระธรรมกาย ที่มีการระบุว่าส่อเค้าไปในทางไม่ดีนั้น ต้องดูที่เจตนาว่าเรี่ยไรไปทำอะไร ส่วนเงินที่นำไปฝากธนาคารนั้นก็เพื่อต้องการดอกเบี้ยให้เงินงอกเงยมาบำรุงศาสนา แต่ปัจจุบันสถาบันการเงินไม่แน่นอน ไม่ใช่ความผิดของวัดเป็นความผิดของสถาบันการเงิน

"ห้องกระจก" เตือนธรรมกายครองเมือง

ม.ล.จิตติ นพวงศ์ ศิษย์ใกล้ชิดสมเด็จพระสังฆราช หรือ "ศิษย์ห้องกระจก" กล่าวแสดง ความผิดหวังกรณีตำรวจให้ประกันตัวนายไชยบูลย์ว่า ต่อไปนายไชยบูลย์จะยิ่งเหิมเกริม เพราะถือว่า ไม่มีใครกล้าทำอะไร ต่อไปธรรมกายคงครองเมืองเพราะผู้มีอำนาจไม่จัดการเด็ดขาด รู้สึกสลดใจอย่างยิ่ง ไม่เกี่ยวกับแพ้หรือชนะ ไม่รู้ว่าบ้านเมืองเราเป็นอะไรไป แต่ก็เห็นใจพนักงานสอบสวน คงมีคนที่เหนือกว่ามีอำนาจมากกว่ามาครอบงำตำรวจ

ม.ล.จิตติกล่าวอีกว่า สมเด็จพระสังฆราชทราบเรื่องดี ทุกสิ่งทุกอย่างท่านเก็บไว้ในพระทัย ถึงวันนี้พระพุทธศาสนายังอยู่ได้ แต่พระสงฆ์ดี ๆ และผู้ที่นับถือศาสนาพุทธจะพากันงงไปหมด เหมือนกับที่สมเด็จพระสังฆราชทรงกล่าวไว้ว่าจะทำให้เกิดสังฆเภท เกิดความแตกแยกใน หมู่สงฆ์

"ปัญญาคนไม่เท่ากัน ถ้าหากยังปล่อยธรรมกายลอยนวลจะทำให้หัวใจของคนไม่มีศาสนา ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วบ้านเมืองเราจะอยู่ได้อย่างไร เพราะเมื่อมีพระเห็นแก่ปัจจัย ทำอะไรเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน จะทำอะไรก็ขอร้องให้เห็นแก่สถาบันหลักเอาไว้ คนที่เอาเงินไปจ้างคนไปจ้างพระ คิดหรือว่าเขาจะกตัญญู เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า ก็ไม่ทำให้คนอกตัญญูกลายเป็นคนกตัญญูขึ้นมาได้"

"หลวงพ่อปัญญา" สับแหลกคณะสงฆ์

ด้านพระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) กล่าวในรายการเพื่อบ้านเพื่อเมืองทางสถานีวิทยุ 97.0 ว่า กระบวนการทางสงฆ์ล่าช้ามากี่เดือนแล้ว พระผู้ใหญ่เหลวไหลมากี่เดือนแล้ว ปล่อยให้ชาวบ้านเขาด่าอยู่ได้ทุกวัน โดยเฉพาะ เจ้าคณะจ.ปทุมธานีต้องถอดถอนนายไชยบูลย์ออกจากตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้แล้ว

"บกพร่องในหน้าที่ มีพฤติกรรมไม่เรียบร้อยก็ผิดหลักพระจริยาพระสังฆาธิการแล้ว กรณียักยอกทรัพย์ก็มีเหตุอันควรให้ถอดถอนได้แล้ว ต้องถอดแล้วก็ตั้งพระธรรมการมาเป็นผู้ดูแล เอาพระที่ประพฤติดีประพฤติชอบมีความกระฉับ กระเฉงเข้าไปดูแล ควบคุมบัญชีเงินทองของวัดให้หมด"

พระปัญญาฯกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ต้องแก้ไขที่ขั้นตอนของเจ้าคณะจังหวัดเสียก่อน มหาเถรฯต้องตัดสินให้ถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดเสียบ้าง แล้วตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ที่เป็นกลาง แต่ก็ยอมรับว่าทำได้ยาก พระส่วนใหญ่ชอบตัดช่องน้อยแต่พอตัว กลัวความผิดจะเข้าตัวจึงไม่อยากยุ่ง ไม่เสียสละ ชาวบ้านก็เบื่อหน่ายเต็มทีแล้ว ขอเรียกร้องให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เข้า ไปจัดการกู้พระศาสนา อย่าอยู่เฉยในหลวงทรงตรัสว่า ขอพระคุณเจ้าช่วยระงับอธิกรณ์

เจ้าคณะตำบลไม่ปลดผิดแน่

พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กล่าวถึงการถอดถอนนายไชยบูลย์พ้นตำแหน่งว่า ตามขั้นตอนเป็นอำนาจของพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งเป็นผู้วินิจฉัย เสนอผ่านมายังพระมหาปัญญา ขันติธัมโม เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง จากนั้นจึงเสนอมาให้พิจารณา หากเสนอมาก็จะสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาส อย่างแน่นอน แต่หากเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งไม่ยอมเสนอก็จะถือว่ามีความผิดด้วย ก่อนหน้านี้ท่านเองก็ถูกแจ้งความกองปราบฯฐานหมิ่นสมเด็จพระสังฆราชไว้เแล้วคดีหนึ่ง ซึ่งหากกองปราบฯดำเนินคดีก็ต้องสั่งพักตำแหน่งท่านด้วยเช่นกัน

"การเปลี่ยนแปลงเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น ตามหลักจะต้องแต่งตั้งรองเจ้าอาวาสรักษาการแทน แต่เนื่องจากรองเจ้าอาวาสถูก ยื่นฟ้องนิคหกรรม ดังนั้นต้องพิจารณาผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปต่าง ๆ ในวัดทำหน้าที่แทน หากไม่มีจึงจะสั่งการให้เจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะอื่น ๆ มารักษาการ" พระสุเมธาภรณ์ กล่าวและว่าเรื่องนิคหกรรม นั้นยังไม่ล้ม ผู้กล่าวหายังมีโอกาสยื่นอุทธรณ์ไปยังเจ้าคณะภาค 1 โดยอ้างถึงมติมหาเถรสมาคมวันที่ 16 ส.ค. ที่ให้ฆราวาสฟ้องพระได้ เพื่อดำเนินการต่อไป จ ธรรมกายประกบพระผู้ใหญ่แน่น

พระมหาปัญญา ขันติธัมโม เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงกล่าวว่า การถอดถอน เจ้าอาวาสวัด พระ ธรรมกาย นั้น ทุกอย่างอยู่ที่เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง อาตมาคงไม่ไปก้าวก่าย อย่างไรก็ตาม หากท่าน พิจารณาว่าไม่สมควรให้พักตำแหน่งเชื่อว่าคงมีร้องเรียนมา ที่อาตมาว่าท่านปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งอาตมาจะสั่งให้ท่านชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษร หากเหตุผลไม่เพียงพอก็อาจจะถือว่ามีความผิด

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปเข้าพบพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ที่วัดสว่างภพ เมื่อไปถึงพบว่ามีศิษย์วัดพระธรรมกายกำลังพูดคุยอยู่กับพระครูปทุมกิจโกศล และเมื่อพระครูปทุมกิจโกศลเห็นผู้สื่อข่าวก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆและปิดประตูกุฏิทันที ในช่วงบ่ายพระมหาชัยยะ พระเลขาฯที่ทางวัดพระธรรมกายส่งมาประกบได้พาพระครูปทุมกิจโกศล เดินทางออกไปจากวัด ทั้งนี้ ชาวบ้านละแวกวัดต่างบอกว่าพระครูปทุมกิจโกศลอยู่ใต้อาณัติพระมหาชัยยะ ช่วงไหนที่มีข่าววัดพระธรรมกายมักจะถูกพาออกไปนอกวัดจนมืดค่ำเสมอ