เดลินิวส์ 26/8/2542
ฉากสุดท้าย"ไชยบูลย์"อยู่ก็เหมือนไร้ลมหายใจ
"ขอให้ลูก ๆ เพ่งเหนือสะดือ 2 นิ้ว ให้เห็นเป็นดวงแก้วขนาดแก้วตาดำ ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนใส.."
เสียงทุ้ม นุ่มเบานี้ ออกมาจากปากของบุรุษห่มเหลือง สวมแว่นสีชา ผิวสีเหลืองนวลดั่งสมณะผู้ทรงศักดิ์ด้วยศีลบริสุทธิ์ นั่งตระหง่านกลางฝูงชนนับหมื่น รอยยิ้มมุมปากที่ปรากฏเหมือนกับจะเยาะเย้ยหยันคนทั้งโลก เขา-นายไชยบูลย์ สุทธิผล หรืออดีตพระธัมมชโย เจ้าสำนักธรรมกายผู้โด่งดัง สั่นสะท้านพุทธจักรชนิดที่ไม่เคยมีมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน!!! จุดแตกหักครั้งสำคัญของพุทธศาสนา ที่จะสะท้อนถึงการดำรงอยู่หรือล่มสลาย ปรากฏขึ้นชัดเมื่อปัญหาธรรมกายถูกหยิบยกขึ้นมาจากวันแรก ยืดยาวกลายเป็นเดือน จวนเจียนจะขวบปี ทุกอย่างใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของตัวมันเอง เขา-นายไชยบูลย์คือใคร ทำไมถึงกลายสภาพมาเป็นเจ้าสำนักผู้ทรงอิทธิพลต่อคนนับหมื่นนับแสนได้ ชาติกำเนิดของนายไชยบูลย์เป็นบุตรของนายจรรยงค์ นางจุรี สุทธิผล เกิดเมื่อวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีวอก วันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2487 เวลา 18.00 น. ซึ่งฤกษ์เกิดนี้มีหมอดูหลายคนพยากรณ์ว่าเป็นฤกษ์ของผู้ยิ่งใหญ่และผู้มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง!! ชีวิตวัยเด็กของนายไชยบูลย์ไม่มีอะไรที่ผิดแปลกแตกต่างจากคนอื่น เพียงแต่ได้รับการแต่งแต้มให้มีด้านที่เหนือจริง อาทิ การมีสัมผัสที่ 6 สามารถทายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่วงหน้า การรู้เห็นในสิ่งลึกลับ เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้นายไชยบูลย์ชีวิตผกผันนั่นคือการเข้าไปเป็นศิษย์ แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ขณะที่นายไชยบูลย์เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยแม่ชีจันทร์ผู้นี้ ได้รับการถ่ายทอดวิชชาธรรมกายอีกทอดจากแม่ชีทองสุก ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ และนั่นคือตำนานบทแรกของวัดพระธรรมกาย โดยต่อมาในปี 2512 นายไชยบูลย์ได้บวชที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นพระอุปัชฌาย์ การบวชของนายไชยบูลย์ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญและน่ายกย่อง เนื่องจากนายไชยบูลย์ปฏิญาณว่าจะบวชตลอดชีวิต และมีความตั้งใจจะสร้างวัด เพื่อปฏิบัติจนถึงที่สุดแห่งธรรม ในปีเดียวกันนั้นเอง นายไชยบูลย์ได้รับการบริจาคที่ดิน 196 ไร่ จากนางวรณี สุนทรเวช และได้สานฝันที่จะสร้างวัดและหาเงิน 100 ล้านบาท เป็นทุนสำหรับปฏิบัติธรรม โดยจะไม่เรี่ยไรบุญอีก ปี 2513 ก้าวแรกของธรรมกายก่อกำเนิดเป็นศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม ก่อนจะตั้งเป็นวัดวรณีธรรมกายารามในปี 2520 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระธรรมกายในปี 2524 และในปีนั้นเองความฝันของนายไชยบูลย์ก็เป็นจริง เพราะวัดสามารถระดมเงินได้ตามเป้า 100 ล้านบาท แต่แล้วนายไชยบูลย์ก็เปลี่ยนแปลงไป และมีความทะเยอทะยานอยากที่จะ "ใหญ่" ขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่ใช่เป้าหมายของนายไชยบูลย์เสียแล้ว จากที่ดินเดิมของวัดที่มี 196 ไร่ ก็ต้องการเพิ่มเป็นพัน ๆ ไร่ ที่มีเงิน 100 ล้านก็ต้องเป็นพันล้าน นายไชยบูลย์ผลิตโครงการบุญต่าง ๆ ผุดขึ้นมากมาย อาทิ การสร้างธุดงคสถานกว้านซื้อที่ดินรอบวัด 2,000 ไร่, การสร้างโครงการมหาธรรมกายแห่งโลก ให้ธรรมกายกลายเป็นศูนย์ศาสนาพุทธในประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางแห่งโลกโดยก่อกำเนิดโครงการสร้างมหาปทุมเจดีย์ขึ้นมาก่อนที่จะล้มพับไป และสุดท้ายก็คือกลายเป็นโครงการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ ผลของความอยากใหญ่เช่นนี้ ทำให้นายไชยบูลย์ต้องระดมทุนมหาศาลเพื่อสร้างอาณาจักร โดยการทำบุญให้กลายเป็นสินค้า สร้างตัวเองให้กลายเป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธา รวมถึงการนำพาธรรมกายเข้าไปสู่วงจรธุรกิจ เหตุการณ์ปาฏิหาริย์ ความพิสดารเหลือเชื่อล้วนแต่ได้รับการ "ผลิต" ออกมาเพื่อดึงดูดแรงศรัทธา พร้อมกับดึงดูดเงินของผู้ศรัทธา จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี และธรรมกายยืนยงมาถึง 29 ปี นายไชยบูลย์กลายเป็นสัญลักษณ์สูงสุดของสำนักธรรมกาย กลายเป็นบุคคลที่ได้รับการเทิดทูนดั่งพระเจ้า ในฐานะต้นธาตุต้นธรรม หรือเป็นหัวหน้าของบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่กลับชาติมาเกิด!!! ถ้านายไชยบูลย์สั่งให้สาวกเดินไปทางขวา ก็จะไม่มีใครสักคนที่กล้าเดินไปทางซ้ายอย่างเด็ดขาด และเพียงแค่นายไชยบูลย์ปรากฏกาย จะมีมือนับแสนคู่ที่พร้อมลงก้มกราบศิโรราบคารวะ!!! อาณาจักรธรรมกายไม่มีใครเชื่อว่าจะล่มสลาย ด้วยเหตุที่เป็นองค์กรซึ่งประกอบด้วยทุนมหาศาลนับหมื่นล้านบาท สาวกผู้ศรัทธานับแสน ยังไม่รวมระบบการจัดการที่ทันสมัย แต่แล้วจุดเสื่อมของธรรมกายมาถึงเมื่อมีการผุด โครงการมหาธรรม กายเจดีย์ เพื่อระดมทุนมหาศาล นับหมื่นล้านบาท เมื่อปลายปี 2541 ด้วยวิธีการโฆษณาปาฏิหาริย์วันอัศจรรย์ตะวันแก้ว ซึ่งทำให้เกิดคำถามมากมาย รวมไปถึงการตรวจสอบพฤติกรรมของวัดพระธรรมกายต่อเนื่องตามมา อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบธรรมกายในครั้งแรกของสื่อมวลชน พร้อมกับองค์กรพุทธหลาย ๆ แห่งเหมือนกับการเอาหัววิ่งไปชนกำแพงหิน ธรรมกายไม่เคยสะทกสะท้านเพราะได้มีขบวนการอุ้มเกิดขึ้นตลอดมา โดยเฉพาะจากคณะสงฆ์ระดับสูงในมหาเถรสมาคม ที่แผ่จีวรเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก 7 ชั้นกั้นผองภัยทั้งปวงให้นายไชยบูลย์ กระทั่งลายพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราชฯ ที่ให้จัดการปัญหาธรรมกายก็ไม่สามารถทำให้นาย ไชยบูลย์ถอดผ้าเหลือง!!! แต่ผลสุดท้าย ธรรมะยังบริสุทธิ์ เมื่อพนักงานสอบสวนนำโดย พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. ออกหมายจับนายไชยบูลย์ฐานทำความผิดกฎหมายอาญา 2 กระทง เป็นดาบกฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์นั่นเองที่ฝ่ากำแพงจีวรไปตรึงกลางอกนายไชยบูลย์ได้
และไม่ว่าผลสุดท้ายจะลงเอยเยี่ยงไรนาทีนี้ นายไชยบูลย์แม้มีชีวิตอยู่ก็เหมือนกับ คนที่เหลือลมหายใจรวยรินแล้วเท่านั้น.