เดลินิวส์ 23/8/2542
เดินหน้าจับขึงพืดไชยบูลย์
กรมศาสนาเดินหน้าขึงพืด"ไชยบูลย์"เข้ากระบวนการนิคหกรรม ชี้ต้องปฏิบัติตามมติมหาเถรฯ ย้ำไม่เกิน 2 วันเห็นกันแน่ "เสี่ยตือ" ยืนยันไม่เสนอปลดเจ้าคณะภาค 1 เข้าที่ประชุมมหาเถรฯ ยืนยันมีการเสนอให้มหาเถรฯ พิจารณากรณีธรรมกาย แต่ไม่ใช่ปลดพระพรหมโมลีแน่ "วิชัย" ระบุ รออีกไม่เกิน 2 วัน จับพระปลอมเข้ากระบวนการนิคหกรรม พระเณรฆราวาส แห่เข้าวัดพระธรรมกายรับผ้าป่า ไม่สน กระแสวิพากษ์ความเหมาะสม "กิตติวุฒโฑ" สบช่องจวกแหลกสื่อมวลชน ถึงทางตันเขียนข่าวพระขาย พระดูด ทรัพย์ แสดง ปาฏิหาริย์ไม่ทัน ทัวร์ธรรมกายชนปิกอัพดับสยอง 5 ศพ หลวงเตี่ยเอาด้วยถล่ม "อำนวย สุวรรณคีรี" ยับ ได้เป็นผู้แทนแบบไม่บริสุทธิ์ จวกสื่อฯกรณีผลักดันปลดเจ้าคณะภาค 1 ต่างหาก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 ส.ค. ทางวัด พระธรรมกายได้จัดโครงการทอดผ้าป่าสามัคคีวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ กองละ 20,000 บาท ครั้งที่ 1 เป็นวันแรก และยังมีพิธี มุทิตาสักการะพระภิกษุสามเณรที่สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ประจำปี 2542 ด้วย ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 12 โดยปรากฏว่า มีพระภิกษุสามเณรจากวัดต่าง ๆ เดินทางมาที่วัดประมาณ 7,000 รูป และมีบรรดาญาติโยมเดินทางมาร่วมงานราว 50,000 คน เป็นที่น่าสังเกต ว่ามีพระเถระผู้ใหญ่มาร่วมงานด้วยหลายรูป อาทิ พระธรรมธีรราชมหามุณี รองแม่กองบาลีสนามหลวง รองเจ้าอาวาส วัดปากน้ำภาษีเจริญ มาเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ นอกจากนี้ก็ยังมีพระธรรมราชานุวัตร (หลวงเตี่ย) เจ้าคณะภาค 3 วัดพระเชตุพนฯ และพระเทพกิตติปัญญาคุณ (กิตติวุฒโฑ) เจ้าอาวาสวัดบางละมุง จ.ชลบุรี ที่เคยเป็นข่าวคดีสั่งจ่ายเช็คเด้ง ได้มาร่วมงานด้วย
"ไชยบูลย์"หน้าบานขึ้นเทศน์
ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น. นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย ซึ่งพ้นกระบวนการนิคหกรรม จากการช่วยเหลือของพระเถระชั้นผู้ใหญ่บางรูปฝืนมติมหาเถรสมาคม ได้เดินทางมาถึงบริเวณพิธี โดยมีเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยให้การคุ้มกันมากเป็นพิเศษได้ขึ้นเป็นประธานในพิธี ทั้งกล่าวสั่งสอนญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมว่า ขอขอบคุณและ ยินดีต้อนรับพระทุกรูปที่เดินทางมาร่วมปฏิบัติธรรมเนื่องในโอกาสวันสมาธิโลกครั้งนี้ บัดนี้ถึงเวลาปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระ ธรรมกายซึ่งมีอยู่ในทุกคน สิ่งที่พึงระลึกไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
"พระพุทธเจ้าท่านค้นพบว่า ความสุขที่แท้จริงต้องเริ่มต้นจากสันติสุขภายใน ต้องทำใจให้หยุดนิ่ง เป็นสมาธิแล้วเข้าไปพบกับความสุขที่แท้จริงที่อยู่ในตัวเรา ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เข้าไปถึงพระธรรมกายที่มีอยู่ในตัว ธรรมกายแหล่งกำเนิดความสุข ความบริสุทธิ์ ความรู้แจ้งและปัญญาที่เป็นอาจิณไตย การเข้าถึงพระธรรมกายในตัวได้ ชีวิตจะเกิดการ เปลี่ยนแปลงจากที่เคยมีความทุกข์ก็จะเปี่ยมไปด้วยความสุข จากชีวิตที่ไม่บริสุทธิ์ก็จะเป็นบริสุทธิ์ มีความสุขสดชื่นตลอดทั้งวัน"
นายไชยบูลย์กล่าวด้วยว่า การเจริญสมาธิในวันสมาธิโลกก็เพื่อสร้างสันติภาพที่แท้จริง เป็นนิมิตหมายที่ดีโลกกำลังจะเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันโลกต้องการหลุดพ้น มาช่วยกันปรับปรุงโลกให้สะอาดขึ้น ชาวโลกส่วนใหญ่ถูกกระแสแห่งความไม่บริสุทธิ์คุกคาม ถูกกิเลสอัสวะ ถูกอวิชชาครอบงำ ไม่รู้วิธีที่จะทำให้เกิดความสุขถูกต้อง ไม่รู้ว่าตนเองเกิดมาจากไหน เกิดมาเพื่ออะไร อะไรคือเป้าหมายในชีวิต
พระรับผ้าป่าชื่นชม "ธรรมกาย"
พระเชาวลิต จันทสาโร พระลูกวัด วัดพันเสด็จ ต.บ่อฉิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ทางวัดพระธรรมกายได้มีหนังสือแจ้งให้ เจ้าอาวาสและพระลูกวัด 5 รูปมารับผ้าป่า แต่วัดพระธรรมกายจะมีจุดประสงค์อะไรไม่ทราบ ส่วนที่กรมการศาสนา ส่งหนังสือไปตามวัดต่าง ๆ ขอความร่วมมือไม่ให้มาร่วมกิจกรรมวัดพระธรรมกายจะถือว่าเป็นการกีดกันหรือไม่ อาตมาว่าน่าจะนำความผิดถูกมาพิจารณา ที่มากันก็มาด้วยเอกเทศ ไม่ได้ถูกบังคับ ผ้าป่าที่ได้รับก็จะนำไปสร้างศาลาโรงครัว เพราะว่ายังขาดปัจจัย ที่ไหนให้ก็ต้องมารับไว้ก่อน
พระศรีนวล สัมปันโน เจ้าอาวาสวัดแซะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ที่มาวันนี้มาดู เพราะได้ยินแต่ข่าวทางเสียหายของวัดพระธรรมกาย แต่ยังไม่เคยเห็นเลยมาดูการจัดกิจกรรมด้วยตนเอง โดยมีรถของวัดพระธรรมกายไปรับถึงวัด ส่วนปัจจัยที่ได้รับก็จะนำไปพัฒนาวัดต่อไป
ทางด้านพระบุญลือ ธรรมวโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดแจ้งสว่างอารมณ์ ต.นาฟาง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ตั้งใจมารับผ้าป่า ที่วัดพระธรรมกาย มีเอกสารไปเชิญ โดยขอยืมเงิน ญาติโยมใกล้ ๆ วัดมาเป็นค่าใช้จ่าย 2,000 บาท และอาศัยรถของนายสุรวุฒิ แซ่เจีย โยมใกล้ ๆ วัดมาโดยเติมน้ำมัน และออกค่าใช้จ่ายให้ อาตมาได้รับปาก กับโยมที่ขอยืมเงินมาว่าจะนำไปคืนให้เย็นวันที่ 22 ส.ค. หลังกลับจากรับผ้าป่าแล้ว แต่พอมาถึงวัดพระ ธรรมกายทางวัดกลับบอกว่าอาตมาไม่มีใบฎีกา ทั้ง ๆ ที่ได้โทรศัพท์ติดต่อประสานมาล่วงหน้า แล้ว และทางวัดก็ไม่ได้ยับยั้งการเดินทางมา จะขอเพียงค่าใช้จ่ายไปคืนโยมก็ยังไม่ได้
"ดังนั้น จึงต้องเดินทางไป จ.สมุทรสง-คราม เพื่อยืมเงิน โยมพี่สาวมาใช้หนี้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ หากไม่ได้จริง ๆ ก็จะต้องเดินทางไปยืมเงิน โยมแม่ที่ จ.เพชรบูรณ์"
แจงตัวเลขพระอีสานมามากสุด
นายสุรวุฒิ แซ่เจีย อายุ 43 ปี กล่าวว่า รู้สึกสงสารพระบุญลือมาก ท่านไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหน เงินที่ยืมมา 2,000 บาทก็หมดแล้ว การเดินทางมาที่วัดพระธรรมกายครั้งนี้มีผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านและกรรมการวัด 5 คนเดินทางมาด้วย ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมของวัดพระ ธรรมกายเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 08.00 น. โดยใช้สภาธรรมกายสากลเป็นศูนย์กลางประกอบพิธี ตลอดวันมีญาติโยม และพระภิกษุ-สามเณรทยอยมา ร่วมงานไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่มาจากต่างจังหวัด มีการจัดแถวให้เดินอย่างเป็นระเบียบ มีเจ้าหน้าที่วัดถือป้ายจังหวัดนำมาลงทะเบียนและเข้าสู่พิธีซึ่งมีนายไชยบูลย์ สุทธิผล และพระเผด็จ ทัตตชีโว นั่งเด่นเป็นสง่าอยู่บนแท่น
บริเวณรอบสภาธรรมกายสากลมีการตั้งโรงทานแจกอาหารญาติโยมกว่า 100 ร้าน ปีกขวามีการจัดนิทรรศการ แสดงประวัติ ความเป็นของวัดพระธรรมกายตั้งแต่ต้น มีการฉายสไลด์และแสดงแสงสีเสียงต่าง ๆ ทั้งนี้ บริเวณที่เคยเป็นซุ้มผู้นำบุญทีมต่าง ๆ นั้นได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นซุ้มผู้นำบุญภาคต่าง ๆ แทน
ธรรมกายฟุ้ง 1 พันวัดร่วมงาน
วันเดียวกันนี้ ทางวัดพระธรรมกายได้จัดทำเอกสารแจกจ่ายสื่อมวลชนโดยในเอกสารดังกล่าวระบุว่า การจัดงานครั้งนี้ มีพระภิกษุสามเณรมาร่วมงานกว่า 9,000 รูป จาก 1,000 วัดทั่วประเทศ และมีญาติโยมมาร่วมงานกว่า 5,000 คน มาจากภาคอีสานมากที่สุดคือร้อยละ 30 ภาคเหนือร้อยละ 28 ภาคกลางร้อยละ 21 ภาคตะวันออกร้อยละ 14 และภาคใต้ร้อยละ 7
สำหรับพิธีมุทิตาสักการะพระภิกษุ-สามเณรผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ครั้งที่ 12 ประจำปีนี้ เป็นที่น่าปีติเพราะ มีพระภิกษุสามเณร สอบได้มากเป็นประวัติการณ์ โดยวัดปากน้ำภาษีเจริญและวัดพระงามสอบได้วัดละ 3 รูป วัดชนะสงคราม วัดสร้อยทอง วัดสาม พระยา สอบได้วัดละ 2 รูป วัดพระพุทธบาทและวัดพระธรรมกายสอบได้วัดละ 1 รูป ส่วนโครง การทอดผ้าป่าสามัคคีวัดต่าง ๆ สืบเนื่องมาจากการจัดตั้งกองบุญค้ำจุนโลกซึ่งมีนายผ่อง เล่งอี้ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินงาน เพื่อชักชวนชาวพุทธทำบุญทอดผ้าป่าถวายแก่วัดต่าง ๆ ทั่วประเทศที่มีความจำเป็น โดยไม่มีการตั้งเงื่อนไขใด ๆ
ขณะนี้มี วัดแสดงความจำนง รับผ้าป่าแล้วประมาณ 10,000 วัด ซึ่งทางวัดพระธรรมกายจะทยอย ถวายผ้าป่า โดยครั้งแรกในวันที่ 22 ส.ค. จะถวาย 1,000 วัด จากนั้นจะถวายอีกครั้งละ 200 วัด ต่อเนื่องกันไปทุกวันอาทิตย์ ยกเว้นวันอาทิตย์ต้นเดือนของทุกเดือน เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นต้นไป
"ทัวร์ธรรมกาย" ดับสยอง 5 ศพ
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อเวลา 00.05 น. ของวันเดียวกัน ร.ต.ท.พุทธินันท์ คงสมอ ร้อยเวร สภ.ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งมี เหตุรถ ทัวร์ชนกับรถปิกอัพที่ถนนสายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ หลัก กม.ที่ 51-52 หมู่ 6 ต.นาอิน อ.พิชัย จึงไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังตำรวจ พบรถทัวร์ ปรับอากาศของบริษัทเล้งการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ หมายเลขทะเบียน 30-0538 เชียงใหม่ ชนกับรถปิกอัพอีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน ลท 9649 กรุงเทพมหานคร จนรถปิกอัพพังยับเยินกลายเป็นเศษเหล็ก ส่วนรถทัวร์ด้านหน้าพังยับยุบเข้ามาเกือบครึ่งคัน กระจกรถทั้งสองแตกกระจายเกลื่อนถนน ผู้โดยสารในรถกว่า 40 คน บาดเจ็บร้องระงมขอความช่วยเหลือ
ภายในซากรถปิกอัพพบคนขับ เสียชีวิตอยู่ที่เบาะนั่งทราบชื่อ นายมนัส คงแก้ว อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1022/153 หมู่ 15 ต.บางเสาธง กิ่ง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ สภาพคอ แขน ขาหัก เลือดท่วมร่าง ส่วนรถทัวร์มีผู้เสียชีวิตคารถ 3 ศพ ทราบชื่อว่านายอ้าย สุขเกษม อายุ 56 ปี สภาพ ศพคอขาดกระเด็นหลุดจากบ่า เช่นเดียวกับแขนขาขาดทั้งสองข้างเป็นที่น่า สยดสยองเลือดแดงฉานนองไปทั่วบริเวณ นายมา จอมสวรรค์ อายุ 59 ปี และนางเงิน สิทธิขันเกลียว ทั้งหมดกระเด็นออกมานอกรถ ส่วนนายสมควร สังข์ทองงาม อายุ 45 ปี คนขับรถทัวร์ ไปเสียชีวิตที่ รพ.อุตรดิตถ์
จากการสอบสวนได้ความว่า รถทัวร์คันเกิดเหตุมี นายอ้าย เป็นคนขับไปรับญาติโยมจำนวน 40 คน และพระสงฆ์จำนวน 5 รูป จาก กิ่ง อ.เวียงการุ้ง จ.เชียงราย มุ่งหน้าไปยังวัดพระธรรมกาย ใน จ.ปทุมธานี ตามหนังสือเชิญไปช่วยสนับสนุนของนายไชยบูลย์ เจ้าลัทธิธรรมกายผู้อื้อฉาวในขณะนี้ ขณะรถทัวร์วิ่งด้วยความเร็วสูงมาถึงที่เกิดเหตุ รถปิกอัพที่ขับโดย นายมนัส วิ่งสวนทางมุ่งหน้าขึ้นภาคเหนือเกิดข้ามเลนสวนมาในเลนรถทัวร์ ทำให้รถทัวร์เบรกไม่ทันจึงชนกันแบบประสานงาดังสนั่นปานฟ้าผ่าทำให้รถปิกอัพพังยับคนขับตายคาที่ ส่วนรถทัวร์พังไป ครึ่งคันผู้โดยสารตายเจ็บเป็นจำนวนมาก ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่านายมนัสหลับในรถจึงข้ามเลนไปประสานงากับรถทัวร์ดังกล่าว ล่าสุดแพทย์ โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ อนุญาตให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกลับบ้านได้แล้วจำนวน 21 คน คงเหลือนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.อุตรดิตถ์ จำนวน 10 คน โดยไม่มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
โวศึกษามาดีค้านนิคหกรรม
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. พระปลัดสุธรรม สุธัมโม ผช.เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ออกมาแถลงข่าวที่จุดต้อนรับสื่อมวลชน โดยนำหนังสือ เรื่องกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2523 ว่าด้วยการลงนิคหกรรมที่เขียนโดยนายโชติ ทองประยูร (ป.ธ.7) มาประกอบการแถลง โดยระบุว่า การจัดงานนี้ไม่ได้เพื่อต้องการฉลองชัยให้กับนายไชยบูลย์และพระทัตตชีโวที่พ้นจากศาลสงฆ์ ความจริงเราเตรียมงานนี้มานานแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ศาลสงฆ์มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของผู้กล่าวหา พวกเราทุกคนต้องขอกราบขอบคุณ คณะผู้พิจารณาตลอดจนพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ให้ความเป็นธรรม ความจริงหลังจากที่มีการกำหนดวันนัดหมายให้บุคคลทั้งสองเดินทางมารับข้อกล่าวหาในวันที่ 6 ส.ค.เราก็ได้มีหนังสือทัดทานไปว่าการพิจารณาดังกล่าวไม่ตรงตามกฎฯ และในที่สุดคำทัดทานของเราก็เป็นผล ขอยืนยันว่าก่อนหน้านี้ได้ศึกษาข้อมูลจากหนังสือของ อ.โชติ ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงของกรมการศาสนาและเป็นผู้มีส่วนร่วม ในการร่างกฎนิคหกรรมขึ้นจนเป็นที่ทราบว่า เกิดความเข้าใจที่สับสนเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินให้เป็นไปตามกฎนิคหกรรม
พระปลัดสุธรรม กล่าวด้วยว่า การยื่นฟ้องวัดพระธรรมกายที่เกิดขึ้นนั้น หากดูตามกฎจะรู้ทันทีว่า ผู้ฟ้อง ไม่ใช่ผู้มีส่วนเสียหายโดยตรง ผู้ยื่นฟ้องจึงเท่าเป็น "ผู้กล่าวโทษ" เท่านั้น เมื่อกฎนิคหกรรมได้กำหนดไว้ชัดเจนในข้อ 15 วรรค 2 ว่าให้ตรวจคุณสมบัติของผู้กล่าวโทษในข้อ 4(8) ก็เท่ากับว่าผู้กล่าวโทษจะต้องเป็นภิกษุไม่ใช่ฆราวาส เมื่อผลออกมาเช่นนี้ ทางคณะสงฆ์ผู้พิจารณาจึงไม่สามารถที่จะรับคำฟ้องของผู้กล่าวโทษได้ เพราะหากว่าท่านรับพิจารณาขึ้นมา เรา ก็คงจะทัดทานให้ถึงที่สุดเหมือนกัน เพราะมันไม่ถูกต้อง จ ถูสีข้างเป็นไปตามมติมหาเถรฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 6 ส.ค.มีมติชัดเจนว่าให้คฤหัสถ์ฟ้องพระภิกษุได้ พระปลัดสุธรรม ตอบสวนกลับทันทีว่า มหาเถรฯ เปรียบเสมือนศาลฎีกา เราเองก็เคารพในมติของมหาเถรฯ แต่ก็ได้นำมติของมหาเถรฯ มาศึกษาเหมือนกัน ขอชี้แจงว่า แม้มติในข้อที่ 1 จะให้คฤหัสถ์เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพระได้ก็ตาม แต่ให้ปฏิบัติตามข้อ 4 (8) และยิ่งหากศึกษาต่อไปให้ดีจะพบว่า ในข้อที่ 2 ระบุว่า ให้เจ้าคณะภาค 1 พิจารณาดำเนินการไปตามกฎมหาเถรสมาคม ยิ่งเท่ากับว่าทุกอย่างเป็นไปตามเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน แปลง แต่คนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นั้น มองข้อแรกเพียงข้อเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้รมว.ศึกษาฯจะให้นำเข้ามหาเถรฯอีกครั้ง ผช.เจ้าอาวาสฯกล่าวว่า ที่ประชุมมหาเถรฯก็ไม่ได้ตีความกฎมหาเถรฯนี้ในข้อ 4 (8) แล้วจะมากลับไปตีความให้กฎนี้ขึ้นมาอีกเพื่ออะไร อาตมาขอฝากกราบเรียนไปยัง รมว.ศึกษาธิการด้วยว่าเรื่องที่มหาเถรฯมีมติออกมาให้ท่านช่วยอารักขานั้น ขอให้ท่านปฏิบัต ิต่อไปให้บังเกิดผล ไม่ใช่ปล่อยให้คนเอาป้ายมาขึงหน้าที่ประชุมมหาเถรฯ แล้วเขียนข้อความด่าทอท่านแบบที่ผ่านมา และถึงแม้ท่าน จะพยายาม ผลักดันเรื่องนี้ให้เปลี่ยนแปลงไปอีกเราก็ยังมีความมั่นใจในมหาเถรสมาคมที่ท่านปกครองพระ เหมือนพ่อปกครองลูกอยู่แล้ว
อ้อนอย่าตี "พรหมโมลี" หนัก
"เจตนารมณ์ตามกฎนิคหกรรมชัดเจนว่า ผู้ที่ยื่นกล่าวโทษต้องเป็นผู้มีส่วนเสียหาย หากไม่ใช่ผู้เสียหาย ทางคณะสงฆ์สามารถ ทำได้เพียง แค่รับเรื่องไว้พิจารณาเท่านั้น แต่จะรับฟ้องไม่ได้ เพราะน้ำหนักไม่เพียงพอ มิฉะนั้นพระภิกษุจะต้องถูกกลั่นแกล้ง มีคนมายื่นฟ้องบ่อย ๆ ให้เข้าสู่การ พิจารณาของกฎนิคหกรรม แม้แต่กฎหมายทางโลกเอง ยังกำหนดให้ ผู้ที่แจ้งความจะต้องเป็นผู้เสียหายโดยตรงเท่านั้น พระธรรมวินัยก็เช่นเดียวกัน ส่วนท่านเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีนั้น บางคนอาจจะคิดว่าท่านเป็นเพียงแค่จ่าศาล ความจริงไม่ใช่ ตามกฎมหาเถรฯ ฉบับที่ 11 กำหนดให้เป็นผู้พิพากษา เมื่อเจ้าคณะ จังหวัดไม่รับคำกล่าวหาของผู้กล่าวหาทั้งสองแล้ว ทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ คำสั่งอีกเพราะการที่ไม่รับคำกล่าวหานั้น เป็นความเห็นชอบของคณะผู้พิจารณาชั้นต้นแล้ว" พระปลัดสุธรรมกล่าวทิ้งท้าย
ภายหลังเสร็จสิ้น การแถลงข่าวแล้ว พระปลัดสุธรรมยังไม่ยอมเดินทางกลับ แต่บุกเข้ามาพบผู้สื่อข่าวถึงตู้คอนเทเนอร์ที่ทางวัดจัดไว้ให้ เป็นห้องปฏิบัติการของสื่อมวลชน โดยกล่าวกำชับต่อสื่อมวลชนแบบติดตลกว่า ไม่กล้ามาพบสื่อมวลชนบ่อย ๆ กลัวหลุดให้สัมภาษณ์ไม่ดีไป พร้อมกับย้ำว่า ขอให้สื่อมวลชนอย่าโจมตีเจ้าคณะภาค 1 มากนัก เพราะท่านปฏิบัติตามหน้าที่อาตมาดูแล้วพระผู้ใหญ่ ท่านไม่ได้ล้วงลึกหรืออุ้มวัดธรรมกาย เพียงแต่ทำตามกฎฯ ส่วนเรื่องการสั่งไม่รับคำฟ้องนั้น ถ้าเป็นคดีลหุกาบัติ ทางคณะผู้พิจารณาสามารถสั่งไม่รับฟ้องได้ทันที แต่หากเป็นคดีครุกาบัติต้องผ่านความเห็นของคณะผู้พิจารณาชั้นต้นก่อน
"ตือ" ย้ำไม่เสนอปลดเจ้าคณะภาค 1
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์วัดสระเกศ ปฏิเสธที่จะให้นำเรื่องการแก้ปัญหานิคหกรรมที่ล่มเข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคมในวันที่ 23 ส.ค.นี้โดยระบุว่า ยังไม่ได้รับ รายงานจากอธิบดีกรมการศาสนา ซึ่งคิดว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ท่านคงมองว่า จะนำเรื่องปลดเจ้าคณะภาค 1 เข้าที่ประชุม มหาเถรสมาคมซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่และไม่ใช่เรื่องของการแก้กฎนิคหกรรมด้วย ซึ่งขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเรื่องอะไร อย่างไรก็ตาม เรื่องที่จะเข้าที่ประชุมมหาเถรฯ ในเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ ดังนั้นจึงมอบหมายให้นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯ ซึ่งกำกับดูแลกรมการศาสนานำเรื่องเข้าหารือต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมในวันที่ 23 ส.ค.นี้อย่างแน่นอน
"ที่มีข่าวว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้า อาวาสวัดสระเกศ คัดค้านการนำเรื่องปลดพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมมหาเถรสมาคม ในวันที่ 23 ส.ค.นั้น ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ที่ประชุมมหาเถรฯ จะมีการหารือเรื่องอื่นที่เป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ไม่ใช่เรื่องปลดเจ้าคณะภาค 1 และกฎนิคห กรรมแน่นอน"
รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 14.00 น. นายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำกลุ่มพุทธศาสนิกชนไทย ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เสนอให้ปลดพระพรหมโมลีออกจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 ฐานปกป้องนายไชยบูลย์ แต่ไม่ได้เข้าพบเนื่องจากสมเด็จพระมหาธีราจารย์กำลัง จำวัดพักผ่อน และจะเปิดกุฏิอีกครั้งในเวลา 17.00 น. จึงได้มีการมอบหนังสือพระเลขานุการรับแทน
จวกสื่อหมดกึ๋นต้องขายพระ
พระธรรมธีรราชมหามุนี รองแม่กองบาลีสนามหลวง รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญกล่าวกับผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยคว่า ศรัทธานั้นคือความเชื่อ ปัญญาคือความรู้ ทั้งสองสิ่งนั้นเป็นของคู่กัน ขอให้ทุกคนใช้ความรู้ที่ได้รับนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม พระศาสนา แต่ความรู้จะดีได้ต้องอาศัยมีระเบียบวินัย คนที่ชอบระเบียบวินัยนั้นเราเรียกว่า บัณฑิต คนที่ไม่ชอบระเบียบวินัยเรียกว่า พาลาชน นึกว่าสิ่งที่ตนกระทำนั้นถูกต้องเสมอ ไม่ได้ใช้ปัญญาเป็นเครื่องดำเนินชีวิต
พระเทพกิตติปัญญาคุณ (กิตติวุฒโฑ) กล่าวว่า เวลานี้ไปไหนมาไหนมักจะมีคนถามว่าตกลงนิพพานเป็นอัตตหรืออนัตตาแน่ ก็บอกไปว่าจะไปรู้ได้อย่างไรเพราะยังไปไม่ถึงนิพพาน แต่พระทัตตชีโวนั้นรู้สึกว่าท่านถึงนิพพานแล้ว ตอนที่เข้ามาที่วัดพระธรรมกายก็ได้เดินไปดูมหาธรรมกายเจดีย์ เพราะเห็นคนเขาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมือนจานบิน ก็นึกขำในใจคนใดที่มันไม่ค่อยรู้มันก็พูด เรื่อยไปเหมือนกับการเถียงกันเรื่องนิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตานั่นแหละ
"ขออนุโมทนาญาติโยมในที่นี้ที่ไม่ได้หลงไปตามกระแส ในพระธรรมปิฎกนั้นท่านได้ยกตัวอย่างคนในโลกไว้ว่ามี 2 ประเภทคือ พวกตามกระแสคนเหล่านี้มักออกทะเลหลุดโลกไป กับพวกไม่หลงกระแส อย่างญาติโยมในที่นี้ก็เลยไม่ลงมหาสมุทรไม่ออกปากอ่าวออกทะเล"
พระกิตติวุฒโฑกล่าวด้วยว่า สื่อสมัยนี้หากินกันมากกว่าสมัยก่อน เวลานี้ไม่มีอะไรจะขายก็ขายพระไปวัน ๆ อาศัยกินไปมื้อ ๆ แต่กรณีวัดพระธรรมกายนั้นเป็นแค่เบื้องต้น เบื้องลึกมันก็คือเรื่องการออกกฎหมายมาปกครองสงฆ์ ดูแล้วยิ่งกว่าเทวทัตที่ทูลขอพระพุทธเจ้าปกครองสงฆ์หลายครั้ง แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่มอบให้จนถึงนิพพานก็ไม่ได้มอบให้ใคร แสดงว่าให้เอาหลักพระธรรมวินัยที่มอบให้มาเป็นหลักปกครอง
ถล่ม "อำนวย" ยึดอำนาจสงฆ์
ต่อมาเวลา 16.30 น. พระธรรมราชานุวัตร รองเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ หรือที่เรียก กันติดปากว่า หลวงเตี่ย ได้ขึ้นเทศน์เป็นองค์สุดท้าย โดยเนื้อหานั้นระบุว่า ขออนุโมทนาญาติโยมในกุศลจิตที่มอบให้แก่พระศาสนา เพราะที่ผ่านมานั้นได้ทราบว่า นายอำนวย สุวรรณคีรี ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ได้ทำหนังสือถึงนายสมศักดิ์ รมว. ศึกษาฯเพื่อขอให้วัดต่าง ๆ ห้ามพระภิกษุมาร่วมงานผ้าป่าของวัดพระธรรมกาย อ้างว่าอาจจะเป็นการชุมนุมกดดัน และมีการใช้อามิสสินจ้างมาหลอกล่อพระ ซึ่งถือเป็นการเหยียดหยามและหมิ่นศาสนามาก แต่ทุกอย่างก็เห็นกันแล้วว่ามีผู้มาร่วมงานมากน้อยแค่ไหน เกินเป้า 1,000 วัดที่ทางกัลยาณมิตรวางไว้ด้วยซ้ำ
"นายอำนวยคนนี้เป็นผู้แทนราษฎร แต่สงสัยว่าไม่น่าจะได้เป็นด้วยคะแนนที่บริสุทธิ์ น่าจะอาศัยอามิสสินจ้าง เพราะกล่าวหาผู้อื่นเช่นนี้ แสดงว่าเคยใช้มาแล้วคงได้ผล อาตมาทราบมาว่า นายอำนวยเป็นผู้หนึ่งที่เคี่ยวเข็ญให้ออกร่างพ.ร.บ. อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาหรือกฎหมายปกครองพระด้วย การกระทำของนายอำนวยนั้นคงจะประลองกำลังกับพระว่าคำสั่งห้ามจะศักดิ์สิทธิ์ไหม แล้วก็พบว่าพระเดินทางมากันมากมาย พระต่างประเทศก็เดินทางมาเพราะเขาเห็นคุณประโยชน์ ก็อย่าไปถือโทษโกรธคนที่มีปัญญาเพียงเท่านี้เลย"
พระธรรมราชานุวัตรกล่าวด้วยว่า รู้สึกห่วงข่าวที่ว่าจะปลดพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ที่จริงหนังสือพิมพ์ก็เป็นผู้ที่มีการศึกษาน่าจะรู้ เวลาศาลทางโลกเขาไม่รับฟ้องก็ไม่เห็นมีการปลดผู้พิพากษากันเลย เรื่องแบบนี้เขาเรียกว่าเป็นพวกอันธพาล ขอให้พวกเราอย่าไปตื่นกระแส วัดพระธรรมกายเป็นหลักที่ทำให้คนสนใจพระพุทธศาสนา ตอนนี้หลายคนเขาไม่อ่านหนังสือพิมพ์กันแล้ว เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะพบความผิดซักที มันหาความผิดไม่ได้ ก็กล่าวหาเรื่องอื่น ๆ ต่อไปอีก
ต้องเข้ากระบวนการนิคหกรรมแน่
นายวิชัย ตันศิริ รมช.กระทรวงศึกษา ธิการ ซึ่งกำกับดูแลกรมการศาสนาเปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าคงมีข้อมูลใหม่ ๆ มา ขณะนี้ กำลังรออยู่แต่รมว.ศึกษาฯยังไม่อยากให้เปิดเผยออกมาก่อนว่าเรื่องอะไร เชื่อว่า 1-2 วันนี้ นายไชยบูลย์จะเข้าสู่กระบวนการนิคหกรรม เพราะมติมหาเถรฯนั้นต้องถือว่าสำคัญที่สุด ถือเป็นความศักดิ์ สิทธิ์ของกฎนิคหกรรมที่ระบุว่า คฤหัสถ์ที่ไม่มีส่วนได้เสียสามารถฟ้องสงฆ์ได้
ส่วนกรณีการกลับลำของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 จะมีปัญหาขึ้นมาอีกหรือไม่นั้น คิดว่าคงไม่สับสน เพราะพระสุเมธาภรณ ์เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีคงได้รับคำสั่งหรือคำแนะนำอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนที่มหาเถรฯจะมีมติออกมา แต่ก็ถือเป็นข้อมูลใหม่ อย่างไรก็ดีทางกระทรวงศึกษาฯจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ส่วนผลจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะสงฆ์ผู้พิจารณา
กิตติวุฒโฑเพ่งถ้วยกาแฟถึงนิพพาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกัน พระเทพกิตติปัญญาคุณ หรือพระกิตติวุฒโฑ ยังได้กล่าวถึงเรื่องนิพพานว่า ที่มีผู้กล่าวว่าการเข้าถึงนิพพานจะเข้าด้วยสมาธิเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยปัญญาด้วยนั้น เป็นการอวดรู้ ความจริงแค่เพ่งถ้วยกาแฟและกำหนดจิตให้ว่างก็ถึงนิพพานได้ ทั้งนี้ ทางวัดปากน้ำนั้นถือเป็นสำนักที่สอนเรื่องสมาธิดีที่สุดของประเทศ หลวงพ่อสดตอนท่านยังอยู่เคยเล่าให้ฟังว่าได้เคยนิมนต์พระวัดมหาธาตุให้มาสอนสมาธิจริง ซึ่งหลวงพ่อสด ก็ได้บอกไปว่าสมาธิ ที่ทางวัดมหาธาตุสอนนั้นถูกต้องแล้ว แต่หลวงพ่อสดไม่เคยบอกว่าตัวเองฝึกฝนผิดทางดังที่เป็นข่าว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ การที่พูดว่านิพพานเป็นอัตตานั้นถูกต้องแล้ว มันมีอยู่ในหลักสูตรการเรียนเปรียญธรรม 9 ขอให้ทุกคนจงไปดู