เดลินิวส์ 2/8/2542
ไชยบูลย์ส่งสาวกยื่นทัดทานนิคหกรรม
ปลาไหล สมชื่อ "ไชยบูลย์"ส่งสาวกพบเจ้าคณะปทุมฯ ยื่นหนังสือทัดทานการใช้กฎนิคหกรรม จับจุดโหว่ กฎหมายมาใช้ประโยชน์ ส่อเจตนาพลิ้วไม่มารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 6 ส.ค. พระสุเม ธาภรณ์รับลูกเตรียมส่งเรื่องมหาเถรฯพิจารณา เผยทุกอย่างต้องชัดเจนก่อน 3 ส.ค. "จรวย-มาณพ" โดดขวางลำ ระบุชัดคำฟ้องมีผลหลังมีการประทับรับฟ้องถูกต้องทุกอย่างแล้ว ตำรวจยังหวั่น ม็อบชนม็อบ เตรียมกำลังพร้อมดูแลรักษาความปลอดภัยเต็มที่ อดีตสสร.ชลบุรี "คณิน บุญสุวรรณ"ติง ร่างพ.ร.บ.อุปถัมภ์คุ้มครองพุทธศาสนา อ้างขัดรัธรรมนูญ แถมไม่ เคยเห็น ให้อำนาจฆราวาสปกครองสงฆ์
ที่วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง ปทุมธานี เมื่อเวลา 8.30 น.วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีผู้ปฏิบัติธรรมเดินทางมาปฏืบัติธรรมนั่งสมาธิตามปกติราว 2,000 คน โดยนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าสำนัก ธรรมกายลเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเมื่เวลาประมาณ 9.30 น. หลังจากปฏิบัติธรรมตามปกติแล้ว นายไชยบูลย์ได้กล่าว แกผู้มาปฏิบัติธรรมว่า ขอให้นึกถึงวันเข้าพรรษาที่ผ่านมาที่ได้ร่วมกันฉลองชัย ชิตังเม ที่มหา ธรรมกายเจดีย์ และช่วยกันสถาปนาบ้านกัลยาณมิตรสถาปนาสันติสุขของโลก เป็นการเริ่มต้นที่น่าปิติยินดี เป็นการสร้างบารมีที่แท้จริง เป็นประวัติศาสตร์ชีวิตที่งดงามที่เราจะไม่มีวันลืมเลือนว่าเป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ เพราะทั้งมนุษย์ทั้งเทวาต่างก็อนุโมทธนา
"ขอให้ลูกๆจงทำความเพียรในวันนี้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าความตายจะเกิดขึ้นขึ้นในตอนไหน ไม่มีใครสามารถบิดเบือนต่อพญามัจจุราชได้ มีพระภิกษุรูปหนึ่งจำพรรษาในป่ากับเพื่อสหธรรมมิตร ทุกคนตั้งใจปฏิบัติธรรมไม่มีเกียจคร้าน แค่ทว่าวันหนึ่งกระแสบาปอกุศลกรรมก็ตามมาทัน ทั้งๆที่ท่านตั้งใจทำความดีแต่ด้วยกรรมที่เคยทำไว้ในภพเก่าก็ติดตามมาเหมือนเงิตามตัว ไม่เว้นแม้ว่าจะเป็นพระภิกษุที่ทำความดีแค่ไหนก็ตาม กระแสบาป อกุศลกรรมนี้หากได้ช่อง ได้โอกาสก็จะเกิดขึ้นมาได้เหมือนระเบิดเวลาที่ตั้งเวลาเอาไว้ เมื่อถึงเวลาก็ระเบิดขึ้นมาทันที "
นายไชยบูลย์พูดสอนต่อไปว่า ในป่านั้นมีเสือโคร่งอยู่ตัวหนึ่ง พอตกดึกมันก็มาตะครุบตัวพระภิกษุรูปนั้น เมื่อ ส่งเสียง ร้องเพื่อนๆได้ยินก็เข้าไปช่วยไม่ได้ เพราะเสือมีกำลังมากกว่า กระแสกรรมทำให้เสือสามารถทำร้ายได้ มันคาบ ร่างพระภิกษุ ไปบนยอดเขาสูงชัน ไม่มีใครสามารถช่วยได้จึงต้องช่วยตนเอง ต้องอดทน ข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ตั้งใจภาวนาปักใจแน่วแน่ในกลางกาย เสือก็กัดกินตั้งแต่ปลายเท้าถึงข้อเท้า จิตใจก็ไม่หวั่นไหว มีจิตใจที่ติดแน่นอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ทำให้บรรลุพระโสดาบันต์
พอเสือกัดกินเข้ามาถึงหัวเข่าก็บรรลุเป็น พระสกิภาคามี พอกัดกินมาถึงท้องก็บรรลุเป็นพระอยาคามี พอใกล้ถึงหัวใจก็เป็นพระอรหันต์ ตรงนี้สำคัญเพราะพระภิกษุรูปนั้นตรัสรู้ในปากเสือโคร่ง นี่คือสิ่งประเสริฐสิ่งดีงามที่ชักชวนให้ทุกคนสร้างบารมีต่อไป จะได้ติดไปข้ามภพข้ามชาติ เป็นหนทาง ของพระนิพพานมันใกล้เข้ามาแล้ว ความสำเร็จสมปรารถนาก็บังเกิดขึ้น วันหนึ่งเดี๋ยวเดียวก็หมด ขอให้ทุกคน หมั่นเพียรฝึกสมาธิ โดยเฉพาะพระบรมโพธิสัตว์ก็สั่งสอนตนเองไม่มีใครมาสอย เพราะคนที่รู้เรื่องดีที่สุดก็คือตัวเราเอง
ส่วน เรื่องบ้านกัลยาณมิตรนั้น นายไชยบูลย์กล่าวว่าสามารถช่วยขจัดปัญหาของสังคมได้ อย่างเด็กชายอายุ 18 คนหนึ่งเป็นคนเกเรชอบตีรันฟันแทง แต่พอแม่เกิดบ้านเป็นบ้านกัลยาณมิตรเด็กคนนี้ก็เปลี่ยนไป กลับเปิดบ้านอีกห้องชักชวนเพื่อนๆมานั่งสมาธิทำให้พ่อแม่ชื่นใจ อย่างไรก็ตามวันที่ 22 ส.ค.นี้ขอให้ทุกคน มาร่วมงานใหญ่ เป็นงานทอดผ้าป่าสามัคคีทั่วประเทศ อยากให้ทุกคนชวนคนให้มาได้เยอะๆ พระเถระ ผู้ใหญ่จะเดินทางมาเช่นเดียวกัน โดยในวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านเริ่ม 1,000 วัดแรก จากนั้นก็จะทำไปทั่วประเทศ
ด้านพล.ต.ต.พิชิต ควรเตชะคุปภ์ รองผบช.ภ.1 ซึ่งเดินทางมาตรวจความเรียบร้อยในวัดพระธรรมกาย กล่าวว่าติดตามข่าวปัญหาวัดพระธรรมกาย และติดต่อพระสุเมธาภรณ์มาตลอดว่า นายไชยบูลย์จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 6 ส.ค.หรือไม่ เพราะทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมแผนหลักในการรักษาความปลอดภัยกับสถานการณ์ในวันนั้นเรียบร้อยแล้ว และได้มีการ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวัตถุระเบิด การปราบจลาจลหรือคุมฝูงชน รวมทั้ง กำลังตชด. กรมการศาสนาเรียบร้อยหมดแล้ว เพื่อความไม่ประมาทจึงได้พยายามสืบความเคลื่อนไหวทั้ง 2 ฝ่ายเนื่องจากว่าเกรงว่าจะมีม็อบชนม็อบเกิดขึ้น
พล.ต.ต.อชิระ สมแก้ว ผบก.ภ.จ.ปทุมธานีกล่าวว่า ได้รับทราบมาว่า มีตัวแทน วัดพระธรรมกาย เดินทางเข้าพบพระสุเมธาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอเลื่อนวันนัดหมายที่จะเรียกตัวนายไชยบูลย์มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเดิมกำหนดไว้วันที่ 6 ส.ค. โดยขอเลื่อนไป ไม่มีกำหนด อย่างไรก็ตามการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรับสถานการณ์ก็ยังคงดำเนินไปตามปกติ ซึ่งในเบื้องต้นจะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 200 นาย โดยจะกันผู้ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าไปภายในบริเวณ
ทางด้าน พระสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่ วัดพระธรรมกาย ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีข้อความ ในหนังสือ "มงคลชีวิต" ฉบับธรรมกาย ที่พระสมชายเป็นผู้เขียน ไม่ตรงกับหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา โดยระบุว่า ได้มีการปรับปรุงเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว และที่เคยมีการศึกษา และมีการระบุว่ามีความบกพร่องไม่ตรงตามพระไตรปิฎกจำนวน 36 แห่งนั้น ก็อยากถามว่า หนังสือ ที่วิเคราะห์เป็นฉบับพิมพ์ปีไหน และหากฉบับที่พิมพ์ใหม่มีข้อบกพร่องอะไรก็ขอให้ชี้แจงมา และเต็มใจจะแก้ไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือมงคลชีวิตฉบับปรุงปรุงใหม่ได้มีการแก้ไขเนื้อหาสำคัญๆ ที่ตกเป็นที่ วิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะในมงคลที่ 34 การทำนิพพานให้แจ้ง เดิมหนังสือนี้ ระบุว่า เมื่อพระ อรหันต์มรณภาพไปแล้ว ธรรมกายก็จะถูกดูดเข้าไปในนิพพานที่เรียกว่า "อายตนนิพพาน" ที่เป็นสถานที่ มีธรรมกายพระอรหันต์ตั้งอยู่เต็มไปหมด ซึ่งขัดกับหลักธรรมในพระไตรปิฎก อย่างไรก็ตาม สำหรับฉบับปรับปรุงใหม่ได้ตัดเนื้อหาเกี่ยวกับอายตนนิพพานออกไปจนหมด
อย่างไรก็ตาม ในหนังสือฉบับปรังปรุงใหม่ยังปลูกฝังความเชื่อในลัทธิธรรมกายไว้เช่นเดิม โดยกล่าวอ้างอย่างผิดเพี้ยนว่า ผู้ที่จะทำนิพพานให้แจ้งได้คือพระอริยบุคคล รวมไปถึงโคตรภูบุคคล ที่ฝึกสมาธิจนถึงธรรมกาย และใช้วิชชา ธรรมกายจรดใจเข้าศูนย์กลาง เมื่อใจจรดเข้าไปก็เข้าพระนิพพาน แต่เมื่อใจถอนออกมา ก็ออกจากนิพพานกลายเป็นบุคคลธรรมดาที่มีทุกข์ ซึ่งยังสะท้อนให้เห็นการที่นิพพานเป็นสถานที่ เข้าได้ ออกมาได้ และผิดเพี้ยน จากคำสอนของศาสนาพุทธที่พระอริยบุคคลระดับพระอรหันต์เท่านั้นที่จะสำเร็จมรรคผลนิพพานได้ เมื่อสำเร็จแล้วก็สำเร็จเลย ไม่มีถอยเข้าถอยออกเหมือนที่ลัทธินี้สอน นอกจากนั้นคำว่า โคครภูตญานก็มีแต่ในแนวธรรมกายเท่านั้น
นอกจากนี้ ในเรื่องมงคลชีวิตที่ 35 จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรมยังมีการกล่าวอ้างถึงนิพพาน ตาม ความเชื่อของธรรมกายอีกว่ามีลักษณะเป็นบรมสุข (สุขัง) เที่ยงแท้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง (นิจจัง) และมี ตัวตน (อัตตา) โดยการใช้ใจจรดอยู่ในนิพพาน ซึ่งเป็นแนวสอนของธรรมกายมาตลอด และขัดแย้งกับ หลัก ไตรลักษณ ์ในศาสนาพุทธที่ทุกสิ่งเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง ทุกขัง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตนหรือไม่ใช่อัตตา
ในวันเดียวกัน นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตส.ส.ร.ชลบุรี ได้แสดงความคดิเห็นเกี่ยวกับ ร่างพ.ร.บ.การอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาว่า ได้อ่านร่างกฎหมาย ทั้งฉบับแล้วเห็นว่า เป็นกฎหมายฆาราวาสปกครองพระ เนื้อหามีแต่การควบคุมปกครองจัดการผลประโยชน์และลงโทษ พระสงฆ์ถูกลดให้เป็นเพียงบุคลากรทางศาสนา ต้องปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งและนโยบายองค์กรรัฐที่มีชื่อว่า "คณะ กรรมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา" ซึ่งมีนักการเมืองเป็นประธาน พ.ร.บ.ฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 73 และ 38 เกี่ยวกับเสรีภาพในการนับถือศาสนา จะทำให้เกิดการแยกตัวเป็น เอกเทศ ภายใต้กฎหมายแต่ละฉบับของแต่ละศาสนา ทำให้มหาเถรสมาคมหมดบทบาทและความสำคัญลง หากมีผลบังคับใช้อาจนำไปสู่การแปลงโฉมศาสนจักรให้เป็นพุทธอาณาจักร อยู่ใต้การปกครองควบคุม ของคณะกรรมการอุปถัมภ์ฯอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ส่วนที่วัดมูลจินดาราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา พระปลัดสุธรรม สุธัมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พร้อมด้วยพระลูกวัด 3 รูปเดินทางมาสักการะพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเนื่องในเทศกาลเข้าพรรคษา นอกจากนี้ได้นำหนังสือจากนายไชยบูลย์มามอบให้ด้วย โดยหนังสือดังกล่าวนั้นเป็นหนังสือทัดทานการใช้กฎนิคหกรรมที่ฝ่ายคฤหัสถ์คือนายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศากรมการศาสนาและนายสมพร เทพสิทธา ประธานยุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติกล่าวโทษ เนื่องจากในกฎไม่ได้ระบุไว้
ต่อกรณีดังกล่าวพระสุเมธาภรณ์เปิดเผยว่าพระปลัดสุธรรมได้นำหนังสือทัดทานมามอบให้จริง ซึ่งความ จริงไม่น่าจะทัดทานมาที่นี่ควรค้านผู้ร่างกฎมากกว่า แต่เมื่อมีหนังสือทัดทานมาก็จำเป็นต้องปรึก ษาพระผู้ใหญ่และนักกฎหมายก่อน ที่สำคัญอาจจะนำเข้ามหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาด้วย ส่วนกรณีนายจรวยหนูคงผู้ร่างกฎจะออกมายืนยันว่าเป็นการพิมพ์ตกหล่น ก็อยากถามกลับไปว่า ทำไมไม่มีการตรวจสอบให้ถูกต้องเสียก่อนค่อยพิมพ์ออกมาใช้ อย่างไรก็ตามคาดว่าในวันที่ 3 ส.ค.คงจะได้คำตอบจากพระผู้ใหญ่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ในส่วนของนายไชยบูลย์นั้นหากจะไม่มารับก็ต้องแจ้งก่อนวันที่ 3 ส.ค.นี้เช่นกัน
ด้านนายจรวย หนูคง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวถึงเรื่องหนังสือทัดทานว่า ยืนยันว่าผู้เขียนกฎนิคหกรรมมีเจตนารมย์ที่จะเขียนให้ฆราวาสสามารถฟ้องพระภิกษุได้ เห็นได้ชัดเจนจากการกำหนดคุณ สมบัติผู้กล่าวหาซึ่งเป็นฆราวาสที่ระบุไว้ในกฎ หากต้องการเขียนให้พระฟ้องจะมีคุณสมบัติฆราวาสไว้ทำไม อีกประการหนึ่งคือเมื่อครั้งที่นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์เป็นรมช.ศึกษา ได้ใช้กฎนิคหกรรมนี้ยื่นฟ้องนายนิกร ยศคำจูไปครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นหากมีการเสนอให้ตีความอีกก็เห็นด้วย แต่จะเสนอให้มหาเถรฯเป็นผู้ออกกฎ
อย่างไรก็ตามความผิดพลาดนี้เกิดจากการพิมพ์ตกหล่น แม้มีการทัดทานจากนายไชยบูลย์ก็ไม่มีผล เพราะขณะนี้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีได้มีการพิจารณาคุณสมบัติของผู้กล่าวและประทับรับคำฟ้อง โดยมีเอก สารหลักฐาน ยืนยันเป็นที่ชัดเจนเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมพระปลัดสุธรรมออกมาคัดค้านแทนนั้น พระปลัดสุธรรมไม่ใช่ผู้ถูกฟ้องร้องจึงไม่สามารถดำเนินการในเรื่องนี้ได้ ที่ถูกนายไชยบูลย์มาแก้ข้อกล่าวหากับคณะสงฆ์ผู้พิจารณาเองจะดีกว่า หากยืดเยื้อออกไปจะเป็นผลเสียต่อวัดพระธรรมกายเอง
นายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญกรมการศาสนากล่าวว่า หากเจ้าคณะ จังหวัดปทุมธานี จะตีความกฎหมายก็สมควรเสนอให้อธิบดีกรมการศาสนาเพื่อให้นำเข้าที่ประชุมมหาเถรฯ และยอมรับว่าการดำเนินการของนายไชยบูลย์ครั้งนี้เหมือนการเตะถ่วง อย่างไรก็ตามเมื่อมีการประทับรับฟ้องเรื่องนี้ไปแล้ว ไม่น่าเกี่ยวข้องกับการทัดทานครั้งนี้
ส่วนวัดสามพระยาในวันเดียวกัน พระศรีปริยัติโมลี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิท ยาลัยกล่าวในการเสวนาเรื่อง "พุทธศาสนาจะเป็นอย่างไรถ้าเข้าใจพระนิพพานไม่ถูกต้อง"ว่า พระพุทธเจ้าได้อธิบายเรื่องนิพพานไว้ถูกต้องแล้วว่า นิพพานเป็นอนัตตาคือการดับสูญ แต่ทางวัดพระธรรมกายก็พยายามที่จะใช้ตรรกคำว่านิจจัง ทุกขัง อนัตตา มาเป็นนิจจัง ทุกขัง อัตตา แต่ใช้ไม่ได้เพราะเป็นการติดเอาเอง ไม่ใชเรื่องดี ไม่ใช่วิสัยชาวพุทธ ถ้าเคารพพระเถระชั้นผู้ใหญ่ก็อย่าให้ท่านต้องลงมาเหน็ดเหนื่อยควรปฏิบัติตามการเผยแพร่ที่ผ่านมา จะเกิดประโยชน์แก่สังคมอย่างแท้จริง