เดลินิวส์ 1/8/2542
3 บิ๊กพระวัดฉาว ตร.เชิญสอบอีก
ธรรมกายแดนต้องห้าม ตำรวจกองปราบฯไปส่งหมายเรียก 3 พระใหญ่มาให้ปากคำพนักงานสอบสวน 2 ส.ค.นี้ หน้าแตก ยามรักษาการห้ามเข้าวัด อ้างไม่มีคำสั่งผู้ใหญ่ในวัดเข้าไม่ได้ ร้อนถึงสายตรวจตำรวจท้องที่เข้าช่วยถึงบรรลุผล "พล.ต.ท.วาสนา" ย้ำไม่เรียก "ชาญวิทย์" สอบปากคำใหม่ ยืนยันการให้ปากคำของนางสงบไม่ขัดแย้งหลักฐาน แต่ไม่ให้ความร่วมมือ มากกว่า ระบุพนักงานสอบสวนเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติมมัดคดียักยอกทรัพย์หลังมีหลักฐาน แน่ชัดเอาผิด 2 คดีอาญาแล้ว ศิษย์ "ไชยบูลย์" เดินหน้าโต้ข้อกล่าวหา "ทัตตชีโว" หมิ่น ประมาท "ผกก. 1 ป." เผยสื่อมวลชน ลงข่าวคลาดเคลื่อนเอง
ที่วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง ปทุม ธานี เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงาน มูลนิธิธรรมกายได้เปิดเผยถึงกรณีที่พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก. 1 ป. จะฟ้องพระภาวนาวิริยคุณหรือพระเผด็จ ทัตตชีโวฐานหมิ่น ประมาทว่า เรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวีไม่ได้ดูในเนื้อหาทั้งหมด แต่ถ้าได้ฟังพระทัตตชีโวเทศนาทั้งหมดจะทราบว่า จริงๆแล้วยกย่อง การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใด ข้อความที่ปรากฏแก่สาธารณชนนั้น กระท่อนกระแท่น ทำให้เกิดความ เข้าใจที่ไขว้เขว แต่หากจะมีการฟ้องร้องจริงทางวัดก็มี วิดีโอบันทึกภาพไว้ทั้งหมด สามารถนำไปเป็นหลักฐานได้
นายวีระศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทางศิษย์วัดพระธรรมกายได้เตรียมระดมคนจัดม็อบมาให้กำลังใจนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าสำนักธรรมกายที่จะเดินทางไปรับฟังข้อกล่าวหาที่วัดมูลจินดารามจากพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีในวันที่ 6 ส.ค.นั้น ไม่ได้มีข้อเท็จจริงเลย ขณะนี้ในวัดพระธรรมกายมีผู้มาปฏิบัติธรรมอยู่ราว 2,000 คนเศษ ที่นั่งสมาธิปฏิบัติธรรม ซึ่งต่อเนื่อง มาจากวันเข้าพรรษา และจะมีผู้ปฏิบัติธรรมเดินทางมาปฏิบัติธรรมเป็นปกติในวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์อยู่แล้ว ไม่ได้มีการ จัดกำลังชุมนุมม็อบแต่อย่างใด
"ขณะนี้ยังไม่รู้ว่านายไชยบูลย์จะต้องเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่วัดมูลจินดารามในวันที่ 6 ส.ค. หรือไม่ เพราะยังไม่มีหนังสือจาก พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีมาแต่อย่างใด เห็นแต่ข่าวเท่านั้น ซึ่งจะต้องพิจารณาดูเนื้อความในจดหมายด้วยว่า เป็นอย่างไร ไปในข้อหาอะไร ถูกต้องตามกฎนิคหกรรมหรือไม่ ต้องมาพิจารณาในรายละเอียดก่อน ถึงจะให้คำตอบได้ว่า นายไชยบูลย์ จะเดินทางไปที่วัดรับข้อกล่าวหาหรือไม่"
ด้านนายผ่อง เล่งอี้ สาวกคนสนิทของนายไชยบูลย์เปิดเผยว่า เมื่อวันเข้าพรรษาที่ผ่านมานั้น สิ่งที่พระทัตตชีโวพูดให้ญาติโยมฟังนั้น ไม่ได้มีข้อความที่หมิ่นประมาท พ.ต.อ.ทวีแต่อย่างใด ถ้าหากได้นั่งฟังตั้งแต่ต้นจนจบ พระทัตตชีโวพูดยกย่องนายตำรวจคนนี้ด้วยซ้ำ แต่ถ้าสื่อมวลชนเสนอข่าวไม่ครบถ้วนเสนอเพียงครึ่งเดียวทำให้ พ.ต.อ.ทวีจะฟ้องพระทัตตชีโวแล้ว ขอแนะนำให้ฟ้องสื่อมวลชนก่อน เนื่องจากเสนอข่าวไม่ครบถ้วนบิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปที่วัดพระธรรมกาย เพื่อนำหมายเรียกพระทัตตชีโว พระปลัดสุธรรม สุธัมโม และพระมหาปัญญา เขมวรรโณให้เดินทาง มาให้ปากคำ แก่พนักงานสอบสวนในวันที่ 2 ส.ค.นี้ แต่ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของวัดกลับไม่ยินยอมให้ตำรวจนำหมายเรียกเข้าไปให้แก่พระทั้ง 3 รูป แจ้งเพียงว่า ไม่สามารถติดต่อผู้ใหญ่ภายในได้ จึงไม่มีสิทธิ์อนุญาตให้เข้าไปภายในบริเวณวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางกลับไปที่ สภ.อ.คลองหลวงซึ่งเป็นเจ้าของ พื้นที่และได้แจ้งให้กับ พ.ต.อ.อชิระ สมแก้ว ผกก.สภ.อ.คลองหลวง ทราบ จึงได้สั่งการให้รถสายตรวจของ สภ.อ.คลองหลวง นำเจ้าหน้าที่ ตำรวจกองปราบฯ เข้าไปภายในวัดพระ ธรรมกายเพื่อยื่นหมายนัด ปรากฏว่าเมื่อเข้าไปภายในวัดแล้ว กลับไม่มีพระรูป ใดออกมารับหมาย ยกเว้นพระทัตตชีโวเท่านั้นที่ให้พระคนสนิทเดินทางออกมารับหมาย
ด้านพ.ต.อ.อชิระ กล่าวถึงการคาดการณ์ของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับวัดพระธรรมกายที่ระบุว่า นายไชยบูลย์จะไม่เดินทาง ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 6 ส.ค.แน่นอนว่า เรื่องนี้ก็ได้รับทราบมาเช่นเดียวกัน และได้ติดต่อสอบถามไปยังพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีแล้ว ซึ่งได้รับคำตอบว่าขณะนี้นายไชยบูลย์ยังไม่ได้ทำหนังสือแจงเหตุผลว่าจะไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ดังนั้นอย่าเพิ่งมั่นใจว่านายไชยบูลย์จะไม่เดินทาง พระสุเมธาภรณ์เชื่อว่านายไชยบูลย์ต้องเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแน่นอน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เริ่มการรักษาความปลอดภัยไว้อย่างเข้มแข็งแล้ว
ส่วนที่กองปราบปรามนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการประชุมหารือและสอบปากคำชาวบ้านตำบลคลองหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณ รอบๆวัดพระธรรมกายจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาให้ปากคำ โดยชาวบ้านกลุ่มนี้มีความเชื่อถือได้ทางสังคม ข้อมูลที่ให้ปากคำนั้น ก็เป็นเรื่องของที่ดินของวัดพระธรรมกายในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก
นอกจากจะส่งหมายเรียกไปยังพระทัตต ชีโว พระปลัดสุธรรมและพระมหาปัญญาแล้ว พนักงานสอบสวนยังได้มีหมายเรียกนายถาวร พรหมถาวร คนสนิทนายไชยบูลย์ที่เคยเดินทางมาให้ปากคำแลวครั้งหนึ่งให้ปากคำใหม่อีกครั้ง รวมทั้งนายวีระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้า สำนักงานมูลนิธิธรรมกายด้วย ซึ่งในครั้งนี้นายวีระศักดิ์ได้ออกมารับหมายเรียกด้วยตนเอง โดยที่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยื่นหมายเรียกนั้น ได้มีพระลูกวัดและศิษย์วัดพระธรรมกายจำนวนมากมารุมล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากต้องการทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบนายวีระศักดิ์ด้วยเรื่องอะไร แต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร
ส่วนกรณีของ พล.อ.ท.วีรวุทธ ลว เปารยะ ไวยาวัจกรวัดพระธรรมกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมา ให้ปากคำแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่ได้เดินทางมานั้น เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียก พล.อ.ท.วีรวุทธไปอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 2 ส.ค.นี้ด้วยเช่นกัน
ด้านพล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง. ก.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกาย เปิดเผยถึงการสอบปากคำ นางสงบ ปัญญาตรง สีกาคนสนิทของนายไชยบูลย์ที่ให้ปากคำไม่ตรงกับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่ว่า คำให้การของนางสงบ ไม่ใช่เป็นการให้การไม่ตรงกับพยานหลักฐาน แต่คำให้การของนางสงบเป็นไปในลักษณะที่กล่าวอ้างแต่ว่า "จำไม่ได้ จำไม่ได้" ซึ่งก็จะได้เชิญมาให้ปากคำใหม่อีกครั้งหนึ่งในวันอังคารที่ 3 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ในส่วนที่พาดพิงถึงนายชาญวิทย์ เปรมกมล เจ้าของที่ดิน เดิมที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งนางสงบระบุว่าไม่เคยรู้จักหรือเจอกับนายชาญวิทย์เลยนั้น คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเรียก นายชาญวิทย ์มาให้ปากคำใหม่อีก
สำหรับกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก. 1 ป. จะขอดำเนินคดีอาญากล่าวหาพระทัตตชีโวนั้น เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่สามารถ ใช้สิทธิในการปกป้องตัวเอง ซึ่งการที่ผกก. 1 ป.ทำหนังสือมาถึงนั้นไม่ใช่เป็นการเสนอขออนุญาต หากแต่เป็นการเสนอเรื่องมา ให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ โดยจะได้ดำเนินการรายงานให้ผู้บังคับ บัญชาระดับสูงได้รับทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม การที่พนักงาน สอบสวนเป็นโจทก์ฟ้องร้องกล่าวหาพระทัตตชีโว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของความเหมาะสมหรือเรื่องที่กระทำได้หรือไม่ได้ เป็นเรื่องของ การถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคล สามารถทำการฟ้องร้องปกป้องตนเองได้
"ผมเองหากต้องฟ้องร้องกล่าวโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่ทำอยู่ แล้วผู้ที่เกี่ยวข้องราย ดังกล่าวออกมาพูดในลักษณะ ทำให้ผมเสียหาย ผมก็ต้องฟ้องร้องปกป้องสิทธิของตัวเองเช่นกัน เป็นเรื่องธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ ส่วนกรณีท ี่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่วัดพระธรรมกาย แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในบริเวณวัดได้นั้น ขณะนี้ได้ รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ตำรวจกองปราบฯ ว่า สามารถเข้าไปภายในวัดพระธรรมกายได้แล้ว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด"
พล.ต.ท.วาสนากล่าวว่า ได้เรียกพนักงานสอบสวนมาประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องการสอบสวนพยานที่ผ่านมาทั้งหมด เพื่อเร่งรัดในการสรุปสำนวนเพื่อจะได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับนายไชยบูลย์ต่อไป ซึ่งการทำงานในขณะนี้เป็นไป อย่างเคร่งเครียด มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่มีอยู่เป็นจำนวนมากอย่างรอบคอบ.