เดลินิวส์ 28/7/2542
มท.1 เต้นสั่งสอบข่าว'ไชยบูลย์'เผ่นไปนอก
สนั่น"เต้นสั่งตรวจสอบข่าว "ไชยบูลย์"เผ่นหนีไปนอก วัดฉาวระดมพลดูดคนมาวัดแสดงพลังวันเข้าพรรษา ขนาด ไปเคาะ กุฎิพระ ยามดึก ไล่ก็ไม่ไปตื้ออย่างเดียว สร้างความเบื่อหน่ายไปทั่ว สางกลิ่นเงินพระปลอมอีก พบโอน เข้า ไฟแนนซ์เน่า จำนวนมาก สัปดาห์หน้าสรุปผลวงเงินยักยอกได้ เจ้าคณะจังหวัดปทุมฯลั่นไม่เปลี่ยน ที่เรียก เจ้าลัทธิ ธรรมกายมารับทราบ ข้อกล่าวหาตามกฎนิคหกรรม รู้แล้วไปเกณฑ์คน แจกเงินก่อม็อบ เลขาฯ เจ้าคณะจังหวัด เจอดีมีการข่มขู่ทางอ้อม ส่งสายสืบ ดักซุ่มหน้าวัด
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ยืนยันว่าจะไม่มีการเปลียนแปลงสถานที่เรียก นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าสำนัก ธรรมกายมารับฟังข้อกล่าวหาตามกฎนิคหกรรม
"เราจะไปวัดพระธรรมกายทำไม เขาต้องมาหาเรา จะมาหรือไม่มาก็ไม่ว่า เราทำไปให้ดมภาระให้ประชาชน หมดความ สงสัยว่า ทำไมเรื่องช้า หากเราไม่ทำก็ว่าเรารับสินบน"
พระสุเมธาภรณ์กล่าวว่าหากนายไชยบูลย์ไม่มาก็ต้องชี้แจงแสดงหลักฐาน และเหตุผล จะแจ้งปากเปล่า ไม่ได้เหมือน กับกระบวนการ ทางโลก และหากไม่มา 3 ครั้งก็ต้องทำรายงานให้คณะผู้พิจารณาขั้นต้นซึ่งมีพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เป็นประธาน โดยการตัดสิน ต้องอยู่ที่พระพรหมโมลี ที่ดแูลนายไชยบูลย์อยู่ ถ้านายไชยบูลย์บริสุทธิ์ใจก็ต้องมา แต่ขณะนี้ ยังไม่มีหนังสือไปแจ้งอย่างเป็นทางการ เพราะ ติดภารกิจ ช่วงเข้าพรรษา และจะต้องไปถวายสักการะพระผู้ใหญ่ คาดว่าจะส่ง หนังสือได้ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ส่วนการเกณฑ์ ม็อบมาของ วัดพระธรรมกายก็ทราบข่าวจากตำรวจแล้ว คงห้ามไม่ได้ แต่วัดและตำรวจเตรียมความพร้อมไว้
"จะไปห้ามได้อย่างไร เขามาก็ไม่เสียสตางค์ แถมยังรู้ว่าเขาได้สตางค์กันมาอีก แต่ถ้าใครหาพระเณรมาก็ต้องดูแลกันเอง จะปล่อยให้ พระอด ก็ตามใจ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับสถานที่ จะใช้เรียกตัวนายไชยบูลย์มารับทราบข้อกล่าวหาเป็นบริเวณชั้น 2 ของอาคารฉลองสิริราช สมบัติ 50 ปี เป็นที่ตั้ง ของโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดมูลจินดาราม และเจ้าหน้าที่จะนำรั้วเหล็กมากั้นตามทางเดิน ที่นายไชยบูลย์ จะเดินทางถึงสถานที่ ดังกล่าวด้วย เพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันวัดพระธรรมกายก็เตรียมจัดงานใหญ่ วันเข้าพรรษาในวันที่ 28 ก.ค.นี้ โดยได้มีญาติโยม บางส่วน เดินทางมาปักกลดบริเวณสภาธรรมกายสากลไม่ถึง 500 คน และจัดเตรียมสถานที่รับคนที่มาจากต่างจังหวัด รวมถึงได้ส่งสาวก ไปกว้านผู้คน และพระมาในงานด้วย
ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์รายงานจากจังหวัดสระบุรีว่าบรรดาสาวกธรรมกายส่งคนไปชักชวนพระ และชาวบ้านภายในตัวจังหวัด ให้มาร่วมงาน วันเข้าพรรษาที่ โดยอ้างความดีงามสารพัด และการเดินทางจะจัดรถรับส่งอย่างดี โดยพระครูสังฆรักษ์ชั้น กิจฺจกาโร เจ้าอวาสวัด สองคอนใต้ หมู่ 5 ต.สองคอน อ.แก่งคอย กล่าวว่าคนของวัดพระธรรมกายติดต่อมาจริง โดยมีมาหลาย กลุ่มทั้งรถเก๋ง และรถตู้หมุนเวียนกั นหลายวันติด ๆ กัน ล่าสุดเพิ่งมาเมื่อเวลา 11 น.ของวันนี้ โดยเป็นรถเก๋งมาด้วยกัน 5 คน ชักชวนให้อาตมาพูดชักนำชาวบ้านที่มาทำบุญ วันอาสาฬหบูชาให้ช่วยกันไปวัดพระธรรมกาย โดยให้เตรียมตัวไว้จะมีรถมารับ
สาวกกลุ่มนี้ยังโฆษณา อีกว่าการปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ มากมาย โดยพระครูสังฆรักษ์ชั้นกล่าวว่าได้แนะนำ ชาวบ้านไปว่าขอให้ พจิารณากันเอาเอง ใครจะไปหรือไม่ไปเป็นสิทธิส่วนบุคคล ส่วนอาตมาและพระลูกวัดจะไม่ไป
การเดินทางมายังวัดบางครั้งสาวกธรรมกายก็ยังบุกกุฎิยามค่ำคืนโดยไม่เกรงใจ แม้พระจำวัดหมดแล้วก็ยังตะโกนเรียก ให้เปิดกุฎิ เพื่อขอ พูดคุยด้วย แต่พระก็ไม่ยอม และแจ้งให้มาใหม่ในวันรุ่งขึ้น บุคคลเหล่านี้เลยทิ้งหนังสือ ของธรรมกาย ไว้หน้ากุฎิให้ดูอีก
ด้านพระลูกวัดรูปหนึ่งได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สาวกธรรมกายแจ้งกับพระที่วัดสองคอนใต้ ขอให้เตรียมตัวมารับเงินจากการ ทอดผ้าป่า ครั้งใหญ่ ของธรรมกายในวันที่ 22 ส.ค. โดยจะแจกเงินวัดต่าง ๆ 1 หมื่นวัด ให้วัดละ 1 หมื่นบาท โดยเจ้าอาวาส แต่ละวัด ที่เดินทางไป จะได้รูปละ 1,000 บาท ส่วนพระลูกวัด 500 บาท แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องนำพระลูกวัด เดินทางไป อย่างน้อย 3 รูป และมัคคทายกอีก 1 คน
"วิธีเช่นนี้ถือเป็นการติดสินบนพระ เพราะบอกล่วงหน้าจะให้เงินเท่านั้นเท่านี้ และเป็นการกระทำที่ไม่เลือกเวลา ค่ำมืดยัง มาเรียก พูดจา ยืดเยื้อ ตื้อจนน่ารำคาญ การที่คนจะไปทำบุญเป็นสิทธิ เสรีภาพ และความเชื่อศรัทธาที่มีอยู่ "
ผู้สื่อข่าวยังตระเวณไปวัดใกล้เคียงคือวัดสองคอนเหนือ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว และได้รับคำตอบจากพระและชาวบ้าน ว่าถูกสาวก ธรรมกาย มารบเร้าเช่นกัน และคงจะต้องการสร้างภาพให้คนไปวัดธรรมกายให้มากสุด เพื่อกลบกระแสการโจมตี ของสังคมในขณะนี้
ส่วนพระปริวัติวโรปาการ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขตุ รักษาการเจ้าคณะอำเภอธัญบุรี ในฐานะเลขานุการ เจ้าคณะจังหวัด ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้หนังสือแจ้งข้อกล่าวนายไชยบูลย์พิมพ์เสร็จแล้วตามรูปแบบในกฎนิคหกรรม เหลือเพียง นำเสนอเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีลงนาม โดยแยกข้อกล่าวหาของนายไชยบูลย์ และพระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว) รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายออกจากกัน เพื่อความ ชัดเจน ตามข้อกล่าวหาที่ไม่เหมือนกัน ยอมรับว่าครั้งนี้เหนื่อยที่สุด เพราะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างที่รู้กัน แต่ก็ดีใจที่ดำเนินการมาถึงจุดนี้ได้ และไม่เคยคิดว่าถูกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดบีบบังคับ ส่วนการ ดำเนินการ ในขั้นตอนต่อไปจะนานขนาดไหนนั้นคงบอกไม่ได้
นายไชยบูลย์และพระเผด็จสามารถจะปฏิเสธข้อกล่าวหาได้ แต่การปฏิเสธก็ต้องมีเหตุผล ส่วนหนังสือแจ้งให้ไปรับทราบ ข้อกล่าว หา ก็ได้พิมพ์หนังสือเซ็นรับทราบเอาไว้ด้วย และจะนำไปส่งให้นายไชยบูลย์และพระเผด็จด้วยตนเองตามหน้าที่ ในวันที่ 29 ก.ค.นี้ แต่จะ เป็นเวลา ไหนขอปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน
นายบัญญัติ สุชานัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ลูกศิษย์ใกล้ชิดของพระปริยัติวโรปการ กล่าวว่า ได้มีการจัด เจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัยภายในวัดทุกคืนนับตั้งแต่มีการกำหนดวัน เรียกตัวนายไชยบูลย์ ไปรับทราบ ข้อกล่าวหาในวันที่ 6 ส.ค. ซึ่งในช่วง กลางดึกหลายคืนที่ผ่านมาได้มีรถตู้สังเกตุภายในรถมีพระภิกษุนั่งอยู่ 3 รูป และมีรถปิคอัพ ขับตามมาจอด หน้ากุฏ ิเจ้าอาวาส เป็นเวลานาน เมื่อเดินเข้าไปเพื่อจะถามว่ามาธุระอะไรปรากฎว่ารถทั้ง 2 คันก็รีบขับออก จากวัดไป อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องน่าสงสัย เหตุ การณ์ทำนองนี้ได้เกิดขึ้นติดๆกันไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง โดยครั้งหลังๆ ในรถไม่มีพระ มาด้วยมีแต่ฆราวาส
ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสอบสวน การกล่าวโทษ นาย ไชยบูลย์ ได้เรียกทีมงานสอบสวนด้านการเงินประกอบด้วยพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก.1ป. ,พ.ต.ท.ศิริมา วงศ์สุวรรณ ฝ่ายตรวจสอบ บัญชี งบประมาณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,พ.ต.ท.เชน กาญจนปัจจ รองผกก.1ป. ,พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ,พ.ต.ท.พัฒนะ ศุกรสุต สว.แผนก 4 กก.1ป. และพ.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข สวส.สน.นางเลิ้ง ช่วยราชการบชก. เข้ารายงานผล เพื่อทำรายงานเสนอ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผบ.ตร.ต่อไป
สำหรับการรายงานความคืบหน้าด้านการเงินล่าสุดพบว่ามีบัญชีวัดประมาณ 50 บัญชี ยังไม่รวมสาขาธนาคาร ต่างประเทศ และสถาบัน การเงินอื่นที่ไม่ใช่ธนาคาร ซึ่งทีมงานแบ่งชุดทำงานย่อยออกไปตรวจสอบบัญชีใ นสถาบันการเงินหรือบริษัท ไฟแนนซ์อื่น ๆรวมถึงธนาคารต่างประเทศที่มีสาขาในไทย คาดว่าวันที่ 2 ส.ค.จะได้รับข้อมูลประมาณ 80-90%
เท่าที่ตรวจสอบพบว่าวัดพระธรรมกายมีผู้เบิกจ่ายเงินเพียงคนเดียวคือนายไชยบูลย์ และยังมีเงินจำนวนมากโอนเข้าไปยังบริษัท ไฟแนนซ์ ที่ปิดกิจการไปแล้ว ส่วนการโอนเงินให้สาวกรวมถึงบุคคลต่าง ๆ นายไชยบูลย์ต้องลงนามทุกครั้ง การจ่ายเช็ค แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบว่าการจ่ายเงินแต่ละครั้งเพื่ออะไร ตามที่กรมการศาสนาแจ้งไว้ในข้อหายักยอกทรัพย์
นอกจากนั้นผู้ที่รับเงินไปส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงหน้าตาดี วัดไม่ได้จัดทำงบดุลบัญชีรายรับรายจ่ายไว้ เป็นที่สังเกตว่าผิดปกติ และยังมีการ โอนเงินไปให้เจ้าของบริษัทธุรกิจที่ทำด้านที่ดินอีกไม่ต่ำกว่าครั้งละ 20 ล้านบาท โดยไม่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ และอาจเกี่ยวกับบ้านหลังหนึ่งที่เชียงใหม่ รวมถึงมีเงินไหลเข้าไปบริษัทที่ทำกิจการอัญมณี และเข้าตลาดหุ้นด้วย
ขณะนี้ยังมีข่าวลือนายไชยบูลย์จะเผ่นหนีไปต่างประเทศ ทำให้พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการ ให้ตรวจสอบโดยด่วน และในวันที่ 4 ส.ค.นี้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกพระปลัดสุธรรม สุธัมโม ผู้ช่วยเจ้า อาวาสวัด พระธรรมกายและพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสมาสอบปากคำ และในวันที่ 4 ส.ค. เรียกนายถาวร พรหมถาวร และนายอารักษ์ พิทักษ์ปัทมา สาวกคนสนิทมาสอบปากคำด้วย
รายงานข่าวจากองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกแจ้งว่า ทางองค์กรได้เคลื่อนไหวตรวจสอบรายละเอียด ในกรณีปัญหา วัดพระธรรมกายแล้ว โดยเฉพาะในประเด็นคำสอนของวัดพระธรรมกายที่นายไชยบูลย์กล่าวอ้างว่าตรงตามพระไตรปิฎก ทั้งที่สอนผิดเพี้ยน เรื่องของการบอกบุญเรี่ยไรและประเด็นอื่นๆที่เป็นข่าวแล้ว โดยได้ให้สมาชิกของกลุ่ม ซึ่งเป็นบัณฑิต พุทธศาสตร์ จากอินเดียทั้งหมดเป็นผู้ดำเนินการมากว่า 20 วันแล้ว และขณะนี้กำลังจะแล้วเสร็จ โดยคาดว่าจะสามารถ สรุปผล และเผยแพร่ ต่อสาธารณชนได้ในราววันที่ 5 ส.ค.นี้