เดลินิวส์ 20/7/2542
สมศักดิ์ขอ 7 วันจี้เจ้าคณะจัดการไชยบูลย์
สมศักดิ์" ลั่นคำอีก 7 วัน ถ้าเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีไม่เรียก "ไชยบูลย์" มารับทราบข้อกล่าวหา จะไปตามเรื่องถึงวัด กองปราบคลำหลักฐาน ฉ้อโกงเพิ่ม มีการสูบเงินบริจาค ไปซื้อวัตถุดิบ ผลิตพระ ราคาสูงกว่าปกติ 3 เท่าตัว ขยายผลการกว้านซื้อที่ดินที่ จ.เลยไป ๆ มา ๆ นัวเนียกันร่วมหมื่นไร่ แตกซอยย่อย ให้สาวกหลายคนถือ เจ้าของเงินย้ำชัดให้วัด ไม่ได้ให้พระปลอม บางแปลงมือแรกเป็น ส.ค. 1 พอเปลี่ยนมือ กลับกลายเป็น น.ส. 3ก. ได้ราวปาฏิหาริย์ แถมยังกลายเป็นที่ดินเจ้าปัญหา เศรษฐินี อดีตผู้ศรัทธาวัด กับเสี่ยสองแจ้งความจับพัลวัน
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่าตนเชิญนาย จรวย หนูคง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ มาหารือถึงการดำเนินการ แก้ปัญหา ธรรมกาย โดยภายใน 1 สัปดาห์นี้นับตั้งแต่ตน มอบนโยบายให้นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการ และนายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนา หากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ยังไม่เรียกนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าสำนักธรรมกาย ที่ถูกฟ้องร้องตามกฎนิคหกรรม มารับทราบข้อกล่าวหา ตนจะเดินทาง ไปกราบนมัสการ เจ้าคณะจังหวัดด้วยตัวเอง พร้อมกับนายวิชัย และนายพิภพในวันศุกร์นี้ เพื่อให้กระบวนการต่าง ๆ เดินหน้าต่อไปไม่หยุด เรื่องทั้งหมด ไม่ใช่การจับผิด แต่เมื่อเกิดปัญหา ควรทำให้เกิดความกระจ่าง ยิ่งเก็บเงียบประชาชนยิ่งสับสน เคลือบ แคลง อยากเห็นการชี้ผิดชี้ถูก หากผิดก็ว่าตามกระบวนการหากไม่ผิดคงทำอะไรไม่ได้
ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30น. พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร.ในฐานะ หัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีธรรมกายเรียก คณะทำงานประชุม โดยมีพล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัตร ผช.ผบช.ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก.1 ป., พ.ต.อ.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ รองผกก.ป.,พ.ต.อ.ฉัตรกนก เขียวส่องแสง ผกก.3ป.,พ.ต.ท.จรุวิทย์ ภุมมา รองผกก. 3ป.,พ.ต.ท.ศุภพล อรุณสิทธิ์ รองผกก.3ป. เป็นต้น
ต่อมาเวลา 17.10 น. พ.ต.ท.หญิงศิริมา วงศ์สุวรรณ รองผกก.งานตรวจสอบภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาต ิรับผิดชอบงานตรวจสอบบัญชี และงบประมาณกรม เข้ารายงานผลความคืบหน้า ในการตรวจสอบเอกสาร ทางการเงิน หรือบัญชีเงินฝาก ตามธนาคารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย โดยตรวจสอบไปแล้ว 5 แห่ง และต้องพยายาม ขอเอกสารทางการเงินจากธนาคารอื่นอีก การตรวจสอบพบ ความผิดปกติในเงินฝาก และการโอนเงินหลายจุด และการหารือนำหลักฐานเอกสาร และเทปบันทึกเสียง ที่เป็นหลักฐานสำคัญเปิดฟัง ในที่ประชุมด้วย ล่าสุดธนาคารนครหลวงไทยส่งข้อมูลมาให้พนักงานสอบสวนแล้ว การสอบบัญชีเงินฝาก และกระแสเงินเข้าออกนี้ หากได้ข้อมูลครบจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการดำเนินการให้เป็นรูปธรรม
ในวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวนยังเรียกนายบุญมา สายพานิชและนายขจรศักดิ์ เลิศภิญโญวงศ์ ซึ่ง นางสงบ ปัญญาตรง สีกาคนสำคัญของวัด โอนเงินเข้ามาให้ทางบัญชี หลายล้านบาทมาสอบปากคำด้วย ซึ่งทั้งสองคนเป็นนาย หน้าค้าพลอยไม่น่าจะมีเงินมากขนาดนี้ โดยนายบุญมานั้น อาจมีความเกี่ยวพัน กับการซื้อวัตถุดิบมาผลิต เป็นพระสิริมหาราชธาตุหรือพระดูดทรัพย์ ของบริษัทดี.เจมส์ฯ ขณะที่นายขจรศักดิ์ กล่าวว่ามีผู้อื่นขอใช้ บัญชีเงินฝากของตนในการโอนเงิน
ต่อมาเวลา 19.20 น. พล.ต.ท.วาสนา กล่าวว่าที่ประชุมเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเงินโอนเงินของนางสงบ มาสอบปากคำ ทั้ง 2 รายยืนยันว่า นางสงบโอนเงินให้จริง แต่เพื่อซื้อสินค้า ที่เกี่ยวกับบริษัท รายละเอียด การสอบปากคำยังเปิดเผยไม่ได้ จนกว่าจะเรียกนางสงบมาให้ปากคำอีกครั้งในวันที่ 21 ก.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนยังนัดนางวรรณา อุดมผล พี่สาวนายสอง วัชรศรีโรจน์ ลูกศิษย์คนสำคัญของวัด และนางสาวพัชนี วัชรศรีโรจน์ น้องสาวนายสอง มาให้ปากคำ ถึงกรณีการซื้อที่ดินจ.เลย แต่ทั้งคู่ไม่มาตามหมายเรียก ขณะเดียวกันยังนัดสอบนายสมเกียรติ เตชะพิศิษฐ์ ศิษย์เอกที่มีส่วนเกี่ยวกับ การซื้อที่ดินที่จ.เลยเช่นกัน มาให้ปากคำ โดยนำเอาหมายเรียกไปแปะหน้าบ้านแต่ไม่พบตัว และไม่เดินทางมาให้ปากคำ และมีการตรวจสอบ สายการบินที่สาวกบางคน เดินทางไปจ.เชียงราย และช่วงนั้น มีใบปลิวจาบจ้วงเบื้องสูงด้วย โดยในวันที่ 20 ก.ค.ตำรวจจะสอบนายถาวร พรหมถาวร คนสนิทของนายไชยบูลย์ และเป็นช่างปั้นรูปเหมือน นายไชยบูลย์มาให้ปากคำกับตำรวจ และเรียกไวยาวัจกรของวัดคนอื่นมาให้ปากคำเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบ ข้อมูลสำคัญ ที่สามารถยืนยันได้ว่า มีการยักยอกเงิน ไปซื้อขายวัตถุดิบที่อาจ เอามา ใช้ผลิตสิ่งศักดิ์สิทธิ์แจก ให้สาวกของวัดในราคาสูงกว่าความเป็นจริงถึง 3 เท่าตัว และมีการได้ประโยชน์ จากการจัดซื้อนี้
ส่วนเอกสารสิทธิ ที่ดินที่อ.ด่านซ้าย จ.เลย ได้หายไป 5 พันไร่นั้น จากการสอบสวนพบว่าเอกสาร ที่หายไปเป็นเอกสาร ที่ดินซึ่งเจ้าของเดิมขายที่ดินให้ และเป็นเพียง สิทธิครอบครองหรือ ส.ค. 1 เท่านั้น แต่หลังจากนั้น ปลอมแปลงเอกสารเป็นน.ส.3ก. โดยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้หนีไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การซื้อ-ขาย และครอบครองที่ดินที่จ.เลยนี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญในการเล่นงานนายไชยบูลย์ โดยพนักงานสอบสวน สอบปากคำนางเพ็ญศรี และนางสาวชนัสถ์นันท์ สุขุมพานิช ผู้ที่มีชื่อบริจาคที่ดิน ให้นายไชยบูลย์แล้ว โดยได้ข้อมูลว่าเป็นการซื้อที่ดินเพื่อบริจาคให้วัด โดยไม่สนใจการยกให้ นายไชยบูลย์ หรือวัดพระธรรมกาย จะแตกต่างกันตรงไหน เพราะถือว่าเมื่อให้ไปแล้วก็เป็นการทำบุญกับวัด ไม่นึกว่าจะเกิดปัญหา การโอนใส่ชื่อนายไชยบูลย์
การซื้อที่ดินที่จ.เลยนี้ นางเพ็ญศร ีกับนางสาวชนัสถ์นันท์ ยังเกิดปัญหากับ นายสอง วัชรศรีโรจน์ ศิษย์วัดคนสำคัญ จนเป็นคดีความ และเกี่ยวพันกับปัญหาที่ดิน นายไชยบูลย์ด้วย โดยเดิมทีนางเพ็ญศรี คยศรัทธาวัดและไปซื้อที่ดิน ที่จ.เลยร่วมกับนายสอง จำนวนมาก รวมถึงออกเงินจ่ายค่าที่ดินแล้วไปใส่ชื่อคนอื่นไว้ด้วย จำนวนรวมที่ดินทั้งหมด ที่คนของวัดพระธรรมกายเข้าไปเกี่ยวข้องร่วม ๆ 1 หมื่นไร่
ที่ดินที่ซื้อบางแปลง มีการโอนใส่ชื่อนายไชยบูลย์ บางแปลงยังไม่ได้โอน และใส่ชื่อนางเพ็ญศรีหรือไม่ ก็นางสาวชนัสถ์นันท์ร่วมกับนายสอง ต่อมานางเพ็ญศร ีก็มีปัญหากับนายสอง เพราะนายสองยืมที่ดินทั้งหมดไป และนางเพ็ญศรี กับนางสาวชนัสถ์นันท์ ลงนามในหนังสือมอบอำนาจเปล่า ๆ โดยไม่กรอกข้อความให้นายสอง
ปรากฏว่า ในปี 2535 นายสองถูกดำเนินคดี ข้อหาปั่นหุ้น นางเพ็ญศรีทวงถาม ขอนส.3ก.คืนหลายครั้ง นายสองไม่ยอม จากนั้นนางเพ็ญศรี และนางสาวชนัสถ์นันท์ ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2540 โดยระบุว่า ตามที่ได้ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจซึ่งยังไม่ได้กรอกข้อความ และมอบให้นายสองกับพวก นั้น จะขอยกเลิก หนังสือมอบอำนาจทั้งหมด ไม่ให้นายสองกับพวกนำหนังสือไปดำเนินการทำนิติกรรมใด ๆ และนางเพ็ญศรี กับนางสาวชนัสถ์นันท์จะไม่มีการรับผิดชอบนิติกรรมนั้น ๆ โดยแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล วังทองหลาง ตามบันทึกประจำวัน 26 ก.ค. 2540
หลังจากการลงข้อความดังกล่าว ไม่นานนายสองให้สัมภาษณ์ว่านางเพ็ญศรี กับนางสาวชนัสถ์นันท์ติดเงินตนนับร้อยล้านบาท ทำให้นางเพ็ญศร ีไปฟ้องร้องแจ้งความ ดำเนินคด ีกับนายสองที่สน.วังทองหลางในข้อหาหมิ่นประมาท และมีการออกหมายจับตั้งแต่ปีนั้น แต่เรื่องเงียบหาย จนเมื่อสัปดาห์ก่อน นายสองให้ปากคำ กับกองปราบปราม กรณีที่ถูกหมายเรียกมาให้ปากคำเรื่องการซื้อที่ดินให้วัด ก็ถูกสน.วังทองหลางเจ้าของคดีหมิ่นประมาท ไปจับกุมและนายสอง ได้รับการประกันตัวไป
ในการให้ปากคำ กับพนักงานสอบสวนนางเพ็ญศรียังกล่าวอีกว่า การซื้อที่ดินให้วัดมีเหตุการณ์ประหลาด เพราะเมื่อนายไชยบูลย์ กล่าวว่าอยากได้ที่ดิน ก็มีนายหน้ามาเสนอให้เสร็จ นางเพ็ญศรีเพียงแต่จ่ายเงิน และที่ดินยังไม่รู้ว่าบุกรุกป่าสงวนหรือไม่ เพราะมีคนมาติดต่อขายให้หมด
รายงานข่าวจากสมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เปิดเผยว่าพระสุเมธาธิบดี นายกสภามหาวิทยาลัย และเป็น 1 ในกรรมการมหาเถรสมาคม มอบหมายให้สมาคมศิษย์เก่า ทำความเข้าใจ กับประชาชนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคำสอน หรือพฤติกรรม ที่ไม่ถูกต้องของวัดพระธรรมกาย ต่อสาธารณชน โดยก่อนหน้านั้น พระสุเมธาธิบดีเคยให้ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินการ แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง ทั้งที่มหาจุฬาฯ เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ เป็นสถาบันหลัก ที่จะต้องปกปักรักษาพระศาสนา