เดลินิวส์ 19/7/2542
ตร.ไม่สน อ้างป่วย ต้องสอบ ทัตตชีโว
สอบปากคำ "ทัตตีชีโว"รอบสองไม่สนใจข้ออ้างป่วยแล้ว ยันต้องง้างปาก หาข้อเท็จจริง ประเด็นที่ดิน กับบัญช ีเงินฝากให้ได้ พยานยืนยัน "สอง"ไม่มีเงิน ซื้อที่ดิน ให้"ไชยบูลย์" แน่นอน ขนาดยืมเงิน ไม่กี่แสนช่วงนั้น ยังไม่มีใช้คืนเจ้าหนี้เลย อธิบดีป่าไม้ ตรวจสอบสาขาธรรมกาย บุกรุกป่าสงวน ขุนแม่ราย ยอมรับ ทุกอย่างถูกต้อง เจ้าสำนักธรรมกายโปรโมทบ้านกัลยาณมิตรเต็มที่ อ้างมีแล้วโลก จะไม่ถึงกาลวิบัติ พระอากันตุกะ เยี่ยมชมวัดฉาว ได้กะตังค์กลับบ้าน รูปละ 500 บาทต่างหาก สาวกยังไม่เลิก พฤติการณ์อีแอบออกใบปลิวโจมตี"พระธรรมปิฎก"อีกระลอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาที่สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตั้งแต่เวลา 09.00 น. มีญาติโยมเดินทางมา ร่วมปฏิบัติธรรม กันคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวันที่ทางวัด จัดกิจกรรมสถาปนา บ้านกัลยาณมิตร จำนวน 10,000 หลัง มีพิธีมอบป้ายบ้านกัลยาณมิตร โดยทางวัดตั้งเป้าว่า จะให้มีบ้านกัลยาณมิตร เกิดขึ้นทั่วโลก
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. นายไชยบูลย์ สุทธิผล หรืออดีตพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งขาดจากความเป็นพระแล้ว ตามลายพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราช ได้ขึ้นกล่าวกับผู้มาร่วมพิธีว่า การสถาปนา บ้านกัลยาณมิตร เป็นบุญใหญ่จะทำให้เราสมปรารถนาทุกสิ่งที่มุ่งหวัง อยากให้ทุกๆคนทั้งในประเทศและต่างประ เทศช่วยกันสถาปนาขึ้น ให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมให้ได้เข้าถึงธรรม เราจะได้สันติสุขไปอีก 1,000 ปีข้างหน้า ให้ช่วยกันขยายบ้าน กัลยาณมิตรไปทุกแห่ง ทั่วโลกสันติสุขที่ปรารถนา จะต้องเป็นจริงแน่นอน
ลูกๆต้องร่วมกันนะจ๊ะ อย่าไปอายว่าบ้านเราเล็ก เล็กอย่ากลัวให้กลัวเลอะนะจ๊ะ ถ้าเลอะแล้วเรา ต้องทำความสะอาด ปัดกวาดให้เป็นวิมานแก้วให้ได้ จัดระเบียบให้น่าชื่นตาชื่นใจ เพราะหลวงพ่อรู้ดีว่า ทุกคนชอบความสะอาด แต่โลกเรายังขาดแคลนคนประเภทนี้บ้านประเภทนี้อยู่ ฉะนั้นเราจะได้เป็นต้นบุญต้นแบบ
นายไชยบูลกล่าวอ้างว่า มีบ้านกัลยาณมิตรหลังหนึ่งอยู่กลางสลัม แรกๆก็ถูกโจมตีเพราะได้ยินข่าววัดพระธรรมกาย แต่เจ้าของบ้านไม่ย่อท้อ ทำตามที่ตนแนะนำไป จนกระทั่งเป็นบ้านแก้ว เริ่มจากนำเด็กมาสอนเรื่องความสะอาด เลี้ยงอาหาร จนเด็กที่ซุกซนเปลี่ยนพฤติกรรม พ่อแม่จึงสนใจแล้วพากันมาปฏิบัติธรรมในที่สุด
วันนี้เป็นวันสถาปนา บ้านกัลยาณมิตร 10,000 หลังแรกของโลก ทั้งในและต่างประเทศ นอกเหนือจากน ี้พ่อยังได้รับรายงานเดือน 7 ปี ค.ศ.1999 โลกจะถึงกาลวิบัติ ก็ขอให้เลิกวิตกได้แล้ว เพราะนับจากเดือนนี้ ไปจะเกิด สิ่งมหัศจรรย์ในโลก เพราะบ้านกัลยาณมิตรจะขยายไปเรื่อยๆจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม
ด้านนายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย กล่าวว่า การที่นายไชยบูลย์สถาปนา บ้านกัลยาณมิตร มิใช่ทำเพื่ออยากเด่นอยากดัง หรือเพื่อขยายอำนาจธรรมกาย แต่ต้องการให้สังคมที่ดีเกิดขึ้น ในแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งวันนี้จะมีพิธีมอบป้ายบ้านกัลยาณมิตรบนผ้ารับประเคนที่ยาวที่สุดในโลกด้วย
สำหรับกรณีที่นายวิระศักด ิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีนั้น นายวิระศักดิ์กล่าวว่า จุดมุ่งหมายต้องการช่วยเหลือ ชาวบ้านซึ่งวัดพระธรรมกาย ก็จะได้ภาพพจน์ที่ดีด้วย ส่วนที่วัดตกเป็นข่าวจะทำให้คะแนนเสียงตกหรือไม่ ยืนยันว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ที่อยู่ใกล้วัด ทราบว่า อะไรดีไม่ดี ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมสื่อมวลชนจึงโจมตีวัดว่า ดูดเงินเวลา จัดกิจกรรมอะไรขึ้นในวัด ทั้งที่เป็นความสมัครใจของผู้มาทำบุญเอง
นายวิระศักดิ์กล่าวต่อไปว่า การที่ลงสมัครอบต.ครั้งนี้ขอยอมรับว่าในพื้นที่มีฐานเสียงดีโดยเฉพาะในหมู่ 7 และความต้องการแท้จริง ส่วนตัวเป็นคนชอบการเมืองอยู่แล้ว แต่ไม่เคยคิดจะเล่นการเมือง ระดับสูงขึ้น เช่น ส.ท.หรือส.จ. อย่างที่มีข่าว ขอยืนยันเป็นความสัตย์จริงความมุ่งมั่นครั้งนี้เพราะต้องการสร้างความดีก่อนที่จะบวช ตนจะต้องบวชแน่ ถือเป็นความตั้งใจที่แท้จริง ไม่ใช่จะหวังผลทางการเมือง
นอกจากนี้ นายวิระศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ได้ขอความร่วมมือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้จัดเก็บหนังสือมงคลชีวิต ซึ่งใช้อ้างอิงในการตอบปัญหา ธรรมะทางก้าวหน้า ที่ทางวัดจัดขึ้นว่า น่าจะมาคุยกันในจุดที่ว่ามีข้อผิดพลาดจากพระไตรปิฎก 34 แห่งนั้นผิดพลาดตรงไหน แล้วเอามาแก้ไข ไม่ใช่เอาไปเก็บหรือทำลาย ยอมรับว่าไม่มีอะไรดีที่สุดหรือดีพร้อม
สิ่งดีไม่นำเอามาแต่เอาสิ่งที่ผิด มาตีแผ่หากตีทุกวันจะให้ดีได้อย่างไร เปรียบเหมือน คนที่เป็นแผลแทนที่จะรักษา กลับนำเอาเชื้อโรค มาใส่และไม่ดูแล แผลก็จะลุกลามไปเรื่อยๆ ในที่สุด อาจจะรักษาไม่ได้ สิ่งที่พูดวันนี้ก็เพราะ อยากให้เห็นใจทางวัดพระธรรมกายบ้าง
ในวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของวัด ได้มีการแจกจ่ายใบปลิว ซึ่งจัดพิมพ์ในลักษณะของหนังสือพิมพ์มีจำนวน 4 หน้า ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค.2542 โดยในหน้า 4 นั้นมีบทความ เรื่อง ปุจฉาวิสัชนา มีหัวข้อเรื่องว่า จ.ม.เปิดโปงขบวนการท่านปยุต เรื่องดังกล่าว เป็รรูปแบบของการเขียนจดมหาย มาร้องเรียนเปิดโปง พฤติกรรม และโจมตีพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) เจ้าอาวาส วัดญาณเวสกวันและเจ้าของรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพจากองค์กรยูเนสโก ลงนามโดยมหาชาย
สาระสำคัญนั้นระบุว่า พระธรรมปิฎก ยกตนเหนือกว่าพระอรหันต ์บิดเบือนพระไตรปิฎก ในเรื่องของการก่อสร้าง พุทธสถานและศาสนวัตถุ นอกจากนี้นี้ยังพยายาม ที่จะเผยแพร่อุดมการณ์ทุกวิถีทาง เช่นเอาเด็กมาเลี้ยงด ูเพื่อล้างสมองใช้ให้เป็นตัวแทน ทางความคิดและการเคลื่อนไหวในทางการเมืองและศาสนา ในปัจจุบันนี้เผยแพร่ ผ่านทางโรงเรียนศาสนาต่างชาติ จัดตั้งมูลนิธิเด็กโดยได้รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิโกมลคีมทอง ซึ่งเป็นองค์กร ที่ได้รับเงินสนับสนุน จากองค์กรคริสเตียนและองค์กรต่างประเทศ
ในช่วงหนึ่งของบทความ ได้หยิบยกการจัดรายการวิทยุของพระธรรมปิฎก มีการระบุตัวเลข ค่าใช้จ่าย ในการจัดรายการตลอด 2 ปีสูงถึง 438,000,000 บาท ทั้งยังตั้งข้อสงสัยด้วยว่า เงินจำนวนมากมหาศาลเหล่านี้ กลุ่มผู้สนับสนุนพระธรรมปิฎกนำมาจากไหน และมีวัตถุประสงค์อย่างไรในการจัดรายการนี้ ทั้งยังระบุว่าจัดรายการนั้น ได้นำเอาวิทยากร ซึ่งสอนประจำอยู่ในวิทยาลัยแสงธรรม นครปฐม ซึ่งเป็นวิทยาลัย ที่ผลิตสามเณร และบาทหลวงของคริสเตียน จึงไม่แปลกที่รายการ ของพระธรรมปิฎกจะโจมตี วิธีการปกครองคณะสงฆ์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ขณะที่กลับไปยกย่องพระธรรมปิฎกแทน
ใบปลิวฉบับนี้ระบุด้วยว่า วัดพระธรรมกายถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการโจมตีเท่านั้น เพื่อต้องการทำลาย ระบบการปกครองคณะสงฆ์ สาเหตุสำคัญ ที่ต้องการให้การปกครอง คณะสงฆ์เปลี่ยนแปลงเพราะเงินของวัด หากพิจารณาดู จะเห็นว่าวัดสำคัญๆของพุทธศาสนาอย่าง วัดพระปฐมเจดีย์ วัดโสธร วัดไร่ขิง วัดพระพุทธบาท หรืออย่างวัด พระธาตุดอยสุเทพ มีเงินรายได้มากน้อยแค่ไหน หากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์สำเร็จ อำนาจ จะอยู่กับ กลุ่มบุคคลเหล่านี้ใคร จะได้รับผลประโยชน์โดยแท้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในหนึ่งหนึ่ง 1 ของใบปลิวฉบับนี้ยังระบุถึงที่มาของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เปลี่ยนมาจาก กรมตำรวจโดยใช้วิธีการออกเป็นพระราชกฤษฎีกาว่า ไม่มีกฎหมายรองรับ โดยรัฐบาลอาศัยช่องว่าง ทางกฎหมายในการตราพระราชกฤษฎีกา ไม่ยอมที่จะออกเป็น พระราชบัญญัต ิเนื่องจากเกรงว่าสมาชิกรัฐสภา จะไม่เห็นชอบด้วย กับการกระทำดังกล่าว ดังนั้นสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติจะไม่มีอำนาจตามกฎหมายในเรื่องของอำนาจด้วย
สำหรับบรรยากาศ โดยทั่วไปที่วัดพระธรรมกายในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหน้าสภาธรรมกายฯ มีการติดป้ายผ้าขนาดใหญ่ข้อความว่า พิธีสถาปนาบ้านกัลยาณมิตร 10,000 หลังแรกของโลก ส่วนด้านปีกขวาซึ่งเป็นจุดแสดงนิทรรศการและจัดกิจกรรม คึกคักไปด้วยเหล่า กัลยาณมิตรที่ตั้งซุ้มบอกบุญ ทั้งนี้แต่ละซุ้มต่างก ็เน้นเชิญชวน ร่วมแคมเปญบ้านกัลยาณมิตร ส่งผลให้ญาติโยม ที่ไปร่วมกิจกรรมของวัด ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ขณะเดียวกัน บริเวณใกล้เคียง ทางวัดได้จัดซุ้ม แจกอุปกรร์ที่ใช้ในการตั้งบ้านกัลยาณมิตร อาทิ คู่มือสวดมนต์ เทปนำสวดมนต์เสียงนายไชยบูลย์ หนังสือ บันทึกประจำบ้าน เพื่อลงคะแนนว่า สมาชิกในบ้าน มาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิกันกี่ชั่วโมง ทั้งนี้ อาสาสมัครของวัด รายหนึ่งกล่าวว่า ขณะนี้มีญาติโยมสมัครเข้าร่วมโครงการเกิน 10,000 หลังแล้ว แต่บางส่วน ยังไม่ได้เดินทางมา รับป้าย โดยจะมาวันที่ 27 ก.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การประชาสัมพันธ์โครงการ บ้านกัลยาณมิตรน ี้ทางวัดพระธรรมกาย ได้ใช้กลยุทธ์เชิญชวน แบบใหม่คือ ใช้สติ๊กเกอร์รูปแมงมุมชักใยมีข้อความว่า แมงมุมถักทอใย ถึงเป้าหมาย นอกจากนี้ยังมีป้าย ประชาสัมพันธ์ข้อความว่า ตั้งบ้านกัลยาณมิตรแล้วรวย เริ่มแค่ 3 มาอีก 7 แค่นี้ก็สำเร็จ
สำหรับพิธีกรรมในช่วงบ่าย หลังการหล่อพระธรรมกายประจำตัวและการนั่งสมาธิเสร็จสิ้นลง นายไชยบูลย์ได้กล่าวกับ ผู้มาร่วมพิธีว่า ในพรรษานี้ อาจจะขยายบ้านกัลยาณมิตรได้ถึง 1 แสนหลัง และอยากให้ช่วยถ่ายภาพ บ้านกัลยาณมิตรของแต่ละคนมาให้ตนดูด้วย จากนั้นจึงเริ่มพิธ ีแจกป้ายที่บรรจ ุในถุงสีทองให้กับ ผู้เข้าร่วมโครงการ มีการชูป้ายถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน โดยนอกจากนายไชยบูลย์แล้วยังมีพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พระระดับชั้นในของวัด และพระอาคันตุกะ ที่ทางวัดเชิญมาจากวัดอื่นๆประมาณ 150 รูป ร่วมถ่ายภาพด้วย ทั้งนี้ พิธีกรได้บอกญาติโยม ให้ตระโกน พร้อมกันว่า บ้านกัลยาณมิตรนำสันติสุขสู่โลก มองไปรอบทิศ มีกัลยาณมิตรรอบตัว ชิตังเม ชิตังเม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พระภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น ได้ลงมาร่วมในกิจกรรม ที่บริเวณสภาธรรมกายากลด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเบิกบาน ไม่มีท่าทีอิดโรย ของคนเพิ่งฟื้นไข้ หรือป่วยแต่อย่างใด ทั้งที่ได้แจ้งต่อ พนักงานสอบสวนให้เลื่อนการให้ปากคำไปโดยอ้างว่าป่วยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ พระอาคันตุกะ ที่มาร่วม ในพิธีช่วบ่ายนั้น จะได้รับปัจจัยค่าเดินทางรายละ 500 บาทด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ทางวัดพระธรรมกายได้เริ่มประชาสัมพันธ์ชัดชวนเจ้าอาวาสวัดต่างๆทั่วประ เทศให้เข้าร่วมรับผ้าป่าที่วัดพระธรรมกาย กองละ 20,000 บาทในวันที่ 22 ส.ค. 2542 โดยทางวัดตั้งเป้าไว้ว่า จะมีวัดมาร่วมราว 10,000 วัด เพื่อจะระดมพระให้ได้ 100,000 รูป และเชื่อว่าจะมีประชาชน เดินทางตามพระภิกษุ สามเณรเหล่านั้น มาไม่น้อยกว่า 100,000 คน ที่ผ่านมาวัดได้ส่งพระและผู้นำบุญไปพบพระชั้นผู้ใหญ่ในหลายจังวหัดอาทิ เชียงราย สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้เพื่อขอความร่วมมือ ให้ช่วยชักจูงเจ้าอาวาสวัด ต่างๆเข้าร่วมกิจกรรมของวัดพระธรรมกาย ซึ่งโครงการนี้คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท
สำหรับการเคลื่อนไหว ของคณะพนักงานสอบสวนคดีที่ดินวัดพระธรรมกายนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวน เตรียมที่จะขอเอกสาร จากทาง ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเพิ่มเติม เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง เนื่อง จากที่ผ่านมานั้น ทางธนาคารได้ส่งบัญชีเงินฝากของนายไชยบูลย์และบคคลที่เกี่ยวข้องมาไม่ครบ โดยเฉพาะบัญช ีเงินฝากเก่าๆ ทำให้พนักงานสอบสวนต้องเข้าไปตรวจค้นเอกสารเหล่านี้เพิ่มเติมด้วยตนเอง นอกจากนี้แล้วยังจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกอาทิ นายวิษณุ คล้ายทิม นายบุญมา สายพาณิชย์ นายสมเกียรติ เตชะพิศิษฐ์ นางวารี สุวรรณชาติ และนายอำนาจ เจริญอินทร์
นอกจากนี้แล้ว ยังมีรายงานข่าวระบุว่า ในวันที่ 19 ก.ค.จะมีการสอบปากคำพระภาวนาวิริยคุณหรือพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่เบี้ยว ไม่ยอมติดต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมาทั้งที่มีการนัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว ในการสอบสวนครั้งนี้พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ หัวหน้าคณะพนักงาน สอบสวนฯจะไม่สอบปากคำด้วยตนเอง แต่มอบหมายให้พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัติ ผู้ช่วยจเรตำรวจและรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนฯเป็นผู้สอบ เพื่อเค้นประเด็น สำคัญที่ยังไม่ได้ข้อมูลโดยเฉพาะเรื่องที่ดินกับบัญชีเงินฝาก
รายงานระบุด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้จะมีคนมาให้ข้อมูลกรณีนายสอง วัชรศรีโรจน์ที่กองปราบเกี่ยวกับเรื่องที่ดินด้วยว่า เคยเห็นนายสอง นั่งเครื่องบิน ไปพร้อมกับนายไชยบูลย ์เพื่อติดต่อซื้อที่ดินด้วย ซึ่งในขณะนั้นราวปี 2528-2529 อันเป็นช่วงท ี่นายสองยังมีปัญหาเรื่องการเงิน ถึงขั้นยืมเงิน น้องสาวนักธุรกิจใหญ ่ด้านโทรคมนาคม หลายแสนบาท และยังไม่ได้ใช้คืน ดังนั้นจึงไม่ทราบว่านายสองเอาเงินจากที่ไหนมาร่วมซื้อที่ดินให้แก่นายไชยบูลย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมานายปลอดประสพ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปยังพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติขุนแม่ราย เพื่อตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมสนแก้ววนาราม ซึ่งชาวบ้าน ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.ชียงใหม่ ร้องเรียนว่าวัดพระธรรมกายรุกล้ำบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน จากการตรวจสอบ พบว่าการขออนุญาติใช้พื้นที่ป่าสงวนของทางวัดพระธรรมกายนั้นถูกต้องทุกอย่าง โดยได้ขออนุญาติใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม สำหรับปัญหา ที่ชาวบ้าน ไม่มีน้ำกินน้ำใช้จากบ่อน้ำ สาธารณะที่อยู่ใกล้สำนักปฏิบัติธรรมสนแก้ววนารามนั้น จากการตรวจสอบ พบว่าที่ดินดังกล่าว เป็นที่ดินส่วนบุคคลมีโฉนดอย่างถูกต้อง โดยเป็นของบริษัท แห่งหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องอยู่กับวัดพระธรรมกาย
ทั้งนี้ได้มีชาวบ้าน มารวมตัวกันที่วัดบ่อพระแวนจำนวนกว่า 100 คนเพื่อรอผลการตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ โดยชาวบ้าน ส่วนใหญ ่ไม่เข้าใจว่า ทำไมกรมป่าไม้จึงอนุญาติ ให้ทางวัดพระธรรมกายใช้พื้นที่ป่าสงวน เพราะการขออนุญาต ิใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมนั้น ปรากฏว่าไม่เคยมีการปฏิบัติธรรมใดๆเลย
สำหรับสำนักปฏิบัติธรรม สนแก้ววนารามนั้นตั้งอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 44 ถนนสายเชียงใหม่-แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน บริเวณบ้านวังกอง ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ อันเป็นสาขาย่อยของวัดพระธรรมกาย จากการสังเกตการณ์ครั้งน ี้พบว่าวัดแห่งนี้ได้ทำการ ปิดประตูไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปภายใน ส่วนพื้นที่ภายในนั้นมีอาคารอยู่ 3 อาคาร มีโรงอาหาร 1 แห่ง เป็นอาคาร ที่ใช้ปฏิบัติธรรม 1 แห่งแต่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเป็นอาคารที่พักของพระภิกษุสามเณร 1 หลัง ยังมีอาคารที่ยังอย ู่ระหว่างการก่อสร้าง อีกหลายอาคารโดยพื้นที่บริเวณนี้มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ส่วนประชากรส่วนใหญ ่ก็เป็นชาวเขาเผ่าแม้วและเผ่ารั๊ว
ชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ให้รายละเอียดว่า สำนักฯดังกล่าวนี้มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษาประมาณ 12 รูป ไม่มีเจ้าอาวาส ชาวบ้านละแวกดังกล่าวไม่ค่อยให้ความสนใจกับพระวัดนี้เท่าใดนัก เนื่องจากไม่ค่อยเหมือนกับ วัดเป็นเพียงแค่ สถานที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้น อย่างไรก็ตามบริเวณใกล้เคียงกัน ก็จะมีสำนักสงฆ์อีก จำนวนหนึ่งอาทิ สุขสงบ สงบจิต เป็นต้น และไม่อนุญาตให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ทางวัดจะอนุญาตให ้ประชาชนซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนักธุรกิจเข้ามาปฏิบัติธรรม แต่กลับไม่มีชาวบ้าน ในละเวกดังกล่าวเข้าไปสนับสนุน กิจกรรมของวัดแต่อย่างใด
จากการติดต่อสอบถาม ไปยังป่าไม้จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งแรกที่มีการร้องเรียนนั้นพบว่า พื้นที่ดังกล่าวขออนุญาต ใช้พื้นที่ในนนามมูลนิธิ ศึกษาธรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยมูลนิธินี้ศึกษา ค้นคว้าในเรื่องชีววิทยาและอบรมธรรมะ อย่างไรก็ตามการดำเนนิการ ขออนุญาตครั้งนี้ไม่ได้มีการระบุว่าจะดำเนินการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรในพื้นที่ดังกล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าว ได้ไปที่บ้านของ นพ.บัญชาและนางสงบ ปัญญาตรง ตั้งอยู่เลขที่ 14/6 ซอยสุขใจ ถ.ห้วยแก้ว ต.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านทรงสเปน มีเนื้อที่กว่า 4 ไร่เศษ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ ตำรวจกองปราบฯ ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้เอกสารหลากหลายกว่า 66 รายการที่เกี่ยวข้อง กับวัดพระธรรมกายนั้น จากการสังเกตการณ์พบว่าบ้านหลังดังกล่าวช่วงนี้ไม่มีคนเข้าออกแต่อย่างใด และประตูด้านหน้า ก็ปิด มีการใช้แต่ประตูด้านหลังโดยมีเพียงคนใช้เท่านั้นที่เข้า-ออก