page4

เดลินิวส์ 15/7/2542

เผยที่ดินสาวกสนิทไชยบูลย์รุกป่าสงวน

เจัาหน้าที่ ที่ดินเลยแฉที่ดินสาวก"ไชยบูลย์"รุกล้ำป่าสงวน คนของรัฐ เกลือเป็นหนอน ออก เอกสารสิทธิให้ ถูกสอบ เด้งไปแล้ว หลายคน ซ้ำร้าย น.ส.3ก.หลายพันไร่หายลึกลับ ส่อเค้าทำลายหลักฐาน เปิดขบวนการ ซื้อที่ดิน ล้วนแล้ว แต่เป็นบุคคล ใกล้ชิด"สอง วัชรศรีโรจน์" ทั่งสิ้น ถ้าไม่ใช่พี่-น้องก็เป็นกลุ่มที่เคยถูกแจ้งข้อหาปั่นหุ้นมาด้วยกัน กองปราบ แผลงฤทธิ์ เจอเส้นทาง เงินผ่อนถ่าย ระหว่าง พระปลอม กับสีกาสนิท"สงบ ปัญญาตรง" มูลค่าร่วมร้อยล้าน ใช้ทั้งซื้อ ที่ดินพิจิตร รวมถึงธุรกิจกิจการอัญมณี ทั้งหมด เกี่ยวกัน กับเหมืองทองคำ ทบวง มหาวิทยาลัย -ศึกษาธิการ เร่งพิจารณา เก็บหนังสือ มงคลชีวิต ฉบับล้างสมอง เยาวชนโครงการ ตอบ ปัญหา ธรรมะทางก้าวหน้าแล้ว

เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหา วัดพระธรรมกาย ว่าการที่ รมว.ศึกษาธิการ จะลงมาตามความคืบหน้า ทุกเรื่องรมว.ต้องรับผิดชอบเสมอ และได้คุยกับ 3 รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ แล้ว่าให้ทำงาน เป็นทีม เพราะเป็นงานนโยบาย สำคัญของชาติ รัฐบาล ได้งบประมาณ มากกว่าทุกหน่วย จึงขอให้ช่วยกันดูแย่าแบ่งว่าเป็นพรรคไหน รวมถึงได้บอก นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการ ด้วยมีความรู้อะไรก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ต้องรอให้ใครเอ่ยปาก สามารถ เสนอแนะ เป็นการส่วนตัวได้ ว่าอยากให้ทำอะพไร โดยเสนอตรงกับรมว.ศึกษาธิการ ไม่ต้องเสนอผ่านสื่อ

ส่วนกรณีการลง นิหคกรรมของกระบวนการศาลสงฆ์คงต้องให้วงการศาสนาดูแล ต้องใช้วเลา ยิ่งต้องสอบสวน ต้องระวัง แต่รัฐมนตรี ก็ทราบดีประชาชนอยากให้จบ ต้องเร่งรัดให้มีการติดตามเร็วขึ้น

ที่ห้องประชุม 109 อาคารวุฒิสภา คณะกรรมาธิการการศาสนาฯประชุมกรณีวัดพระธรรมกาย โดยเชิญหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงประกอบด้วย นายปราโมทย์ โชติมงคล ปลัดทบวงมหาวิทยาลัย นายสุวัฒน์ เงินฉ่ำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา

นายอำนวย สุวรรณคีรี ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ แถลงว่าที่ประชุม พิจารณาโครงการ ตอบปัญหา ธรรมะ ทางก้าวหน้าของวัด ทีจะใช้หนังสือ มงคลชีวิต ฉบับธรรมทายาทเ็นหนังสอือ้างอิง และจกาการตรวจสอบ ของนักวิชการศษสนา พบว่าเป็นหนังสือที่แต่งขึ้น โดยบิดเบือนหลัก พระธรรม ในพระไตรปิฎก และการชักชวน นักเรียน ให้มาตอบ ปัญหาธรรมะ จะให้นิสิต-นักศึกษา ในมหาวิทยาลัย เป็นแกนนำ ในการชักชวน เรื่องดังกล่าว เมื่อทบวงมหาวิทยาลัย รับรายงาน จากกรรมาธิากร แล้วก็เห็ฯพ้อง จะประสานไปยั งสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อให้ได้รับทราบ และร่วมมือ ในการจัดเก็บ หนังสือเล่มนนี้ที่เผยแพร ่ไปยังชมรมพุทธสถาบันต่าง ๆ

นอกจากนั้น กระทรวงศึกษาธิการ กำลังรวบรวมนักวิชการ กรมการศาสนา ศึกษาวิเคราะห์หนังสือมงคลชีวิตอย่างละเอียด เพื่อสรุปรายงาน ผลเสนอต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม เพื่อขอมติ ให้เก็บหนังสือดังกล่าวไม่ให้เผยแพร่ยังสาถบันการศึกษาต่าง ๆด้วย

นายวรเดช อมรวรพิพัฒน์ นักวิชาการประจำกรรมาธิการการศาสนาฯ กล่าวว่าจากการศึกษาโครงการนี้ วัดเตรียมแผนระยะยาว ที่จะใช้นักศึกษา ระดับต่าง ๆ รวมถึงนักศึกษากศน. เผยแพร่วิชชาธรรมกาย และเป็นฐานการปฏิบัติตามวิชชาะรรมกาย โดยแผนที่ว่า เริ่มตั้งแต่ปี 2541 กำหนดเป้าหมาย จะดึงนักเรียน นิสิตนักศึกษามาตอบปัญหาให้ได้ 10 ล้านคน และลงลึก ไปถึงนักเรียนระดับ ประถม ศึกษาด้วย รูปแบบการเชิญชวน ให้เยาวนาเข้าร่วมโครงการวัดจะแบ่งผู้ชักชวนออกเป็นระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้นำในระดับภาค จนถึงระัดบ ตำบล

จากการศึกษา วิเคราะห์หนังสือมงคลชีวิตพบข้อความบกพร่องไม่ตรงพระไตรปิฎกจำนวน 36 แห่ง และำนรูป ของพระธรรมกาย ประจำตัว มาบรรจุในหนังสือหลายแห่ง จนผู้อ่าน อาจเกิดความสับสนในพุทธลักษณะของพระพุทธรูปได้ ทั้งยังหลักธรรม ของพระเถร ชั้นผู้ใหญ่ในอดีต มาผสมปนเปกับหลักธรรมในแนวทางของธรรกมาย โดนผู้แต่งคือพระสมชาย ฐานวุฒโฑ ผู้อำนวยการฝ่าย เผยแพร่ของวัด ที่มักแสดงภูมิเรื่องหลักคำสอนตามหลักพระไตรปิฎกที่บิดเบือน

เมื่อเวลา 14.00น. นายประสิทธิ์ พิมพา เจ้าพนักงานที่ดินอ.ภูเรือ จ.เลย เปิดเผยว่าจากเอกสารสิทธิที่ดินนส. 3 ก. ในพื้นที่ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ ที่อยู่ในการครอบครองของบุคคลที่เกี่ยวพันกับนายไชยบูลย์ ประกอบด้วยนายประเสริฐ นรินทร์พันธ์,นางวรรณา อุดมผล ,น.ส.พัชนี วัชรศรีโรจน์ ,น.ส.สุรีย์ สรรค์ศิริกุล,นายโดม หโยดม และนายสุรพล จึงวิวัฒนาภรณ์ มีเนื้อที่รวมกันประมาณ 1,000 ไร่เศษ�นั้น เป็นที่ดินที่มีปัญหา

ทั้งนี้ ที่ดินดังกล่าวมีการซื้อขายกันเมื่อประมาณปี 2539 เป็นเรื่องของ พนักงานที่ดินคนเก่า ร่วมกับนายหน้า ปลอมแปลง เอกสารสิทธิ์มาขาย จนเป็นเหตุให้มีการฟ้องร้องกันขึ้นมีข้าราชการหลายคนถูกดำเนินคดี รวมถึงถูกย้าย ไปอยู่ที่อื่นอีกหลายคน และอยู่ในเขต ป่าสงวนแห่งชาติ แต่ได้มีเจ้าหน้าที่ สมคบกับนายหน้า ทำเอกสารสิทธิ สวมทับที่ป่าซึ่งจะมีการฟ้องร้องกันหลายแปลง

ส่วนที่ดินที่อยู่ต.โพนสูง อ.ด่านซ้าย ซึ่งไม่มีชื่อครองครอบอีก 33 แปลง พื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ที่สาวก สนิทไปกว้านซื้อ ที่ดินจากชาวบ้านนั้น เอสการสิทธิ ที่อยู่กับสำนักงานท่ดิ่นหายไป จากการตรวจสอบ หายไปรวม ถึง 80 แปลง ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าหายไปได้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานวว่า จากการตรวจค้นเอกสารสิทธิที่หายไปอาทิน.ส.3ก.เลขที่ 868-879 ซึ่งเป็นของบริษัทประมวลโชค จำกัด โดยบุคคล ที่เข้ามาซื้อที่ดินเหล่านี้ลัวนแลัวแต่มีความเกี่ยวพันกับนายสอง วัชรศรีโรจน์ทั้งสิ้น เริ่มตั้งแต่นางวรรณา อุดมผล คือพี่สาวนายสอง และแต่งงานกับพันจ่าอากาศเอกณรงค์ อุดมผล นางวรรณายังเป็นผู้มีอำนาจตามสบช. 3ของบริษัทประมวลโชคด้วย ส่วนนางพัชนี วัชรศรีโรจน์เป็นน้องสาวนายสอง

สำหรับ นายประเสริฐ นรินทร์พันธ์,นายสุรีย์ สรรค์ศิริกุล,นายสุรพล จึงวิวัฒนาภรณ์ ก็เป็นกลุ่ม ที่สนิทกับนายสอง และเคยถูกแจ้งความ ดำเนินคดี กรณีปั่นหุ้นพร้อมกับนายสองทั้งสิ้น สุดท้ายนายโดม หโยดม เป็นหลาน นางเพ็ญศรี มารดาของน.ส.ชนัสถ์นันท์ สุขุมพานิช ซึ่งเคยถูกดำเนินคดี ปั่นหุ้นพร้อม นายสองเช่นกันแต่คดีดังกล่าวศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าว รายงานด้วยว่านอกจากการเข้าไปกว้านซื้อที่ดินของบรรดาผู้แวดล้อมนายไชยบูลย์แล้ว ยังมีนักการเมือง ระดับประเทศมีที่ดินอยู่ละแวกใกล้เคียงด้วย ไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ซึ่งกองปราบปรามจะขึ้นสำรวจที่ดินทั้งหมดในวันที่ 16 ก.ค.นี้

เมื่อเวลา 14.20 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รองผบ.ตร. ได้เรียกประชุม คณะพนักงานสอบสวน คดีวัดพระธรรมกาย ที่มีพล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อรายงาน ผลการดำเนินการ ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ในการรายงานครั้งนี้ มีการฉายสไลด์ประกอบการรายงานด้วย ซึ่งการรายงาน ครั้งนี้ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงเศษ

หลังรับฟัง การรายงาน รองผบ.ตร.กล่าวว่า ขระนี้การสอบสวนได้ดำเนินการมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ถึงแม้จะยังไม่สามารถ สรุปสำนวนได้ แต่ก็ได้ติดตามเร่งรัดเรื่องนี้มาตลอด พนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่แล้ว แต่การทำงาน ก็ต้องใช้เวลาบ้าง พอสมควรเนื่องจาก ข้อมูลเอกสาร หลักฐานมีมาก โดยเฉพาะเรื่องในเรื่องที่ดินที่มีกระจัดกระจายอยู่ 15 จังหวัด และบางครั้ง ต้องเรียกข้าราชการ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วมาสอบสวนด้วย

พล.ต.อ.พรศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ในการสอบสวน ได้มีการแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่เป็นพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมในพื้นที่ 3 จังหวัดคือ พิจิตร เพชรบูรณ์ และเลย นอกจากน ี้ยังได้ประสานงาน กับทางสถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวย ความสะดวก ในการตรวจสอบ เอกสารหลักฐาน ซึ่งจากการสรุปครั้งนี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่จะสรุปได้เมื่อใดนั้น ขณะนี้ชุดพนักงาน สอบสวนได้ขอเวลาอีกระยะหนึ่ง ส่วนที่ว่าจะเชิญ นายไชยบูลย ์มาสอบปากคำ ด้วยหรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องสอบ ปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่มียกเว้น ทั้งวัดและมูลนิธิ

สำหรับกรณีที่ กรมที่ดิน ยังไม่ส่งข้อมูลมาให้พนักงานสอบสวนนั้น เรื่องนี้อธิบดี กรมที่ดินได้ชี้แจงมาแล้วว่า ต้องใช้เวลา ในการรวบรวมเอกสารหลักฐาน เนื่องจากที่ผ่านมา กรมที่ดินไม่มีระบบ เก็บข้อมูล ต้องใช้วิธีค้น ในสารบบ อย่างไรก็ดีกรณี ที่มีโฉนดที่ดินสูญหายไปนั้น เรื่องนี้เบื้องต้นได้ตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบ ซึ่งจะต้องมีการเชิญ พนักงานที่ดิน ที่เกษียณอายุราชการ ไปแล้วมา สอบถามรายละเอียด แต่ต้องสอบสวนว่า เอกสาร ชุดนี้สูญหายไปได้อย่างไร ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม พนักงานสอบสวน ได้มีการทำเส้นทาง โยงใยกระแสเงินสดของนายไชยบูลย์ที่เกี่ยวพันกับนางสงบ ปัญญาตรง สีกาคนสำคัญ หลายครั้ง โดยที่เป็นหลักฐาน คือเงิน 2 เส้นทาง

เส้นทางแรก เป็นเงิน ที่สั่งจ่ายกเงินจากบํญชีของวัดพระธรรมกาย 4 บัญชี เป็นธนาคารกรุงไทยสาขารังสิต 15 ล้านบาท,ธนาคารไทยทนุ สาขารังสิต 15 ล้านบาท ธนาคารไทพยาณิชย์สาขาคลองหลวง 20 ล้านบาท และกรุงศาี อยุธยา สาขาสุขาภิบาล 1 อีก 20 ล้านบาทรวม 70 ล้านบาท ไปให้นางสงบ บัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางโพ จากนั้น มีการผ่องถ่ายไปยัง น.ส.วีรวรรณ บุญไทย 2 บัญชี วงเงิน 32 ล้านบาท และนายบุญมา สายพาณิชย์ อีก 28 ล้านบาท ซึ่งตำรวจ กำลังตรวจสอบว่า มีความสัมพันธ์ กับกิจการค้า ทองคำบางบริษัทหรือไม่

เส้นทางที่ 2 เป็นเงิน จากนางสงบ ปัญญาตรง ที่ส่งไปซื้อที่ดินจากนายชาญวิทย์ เปรมกมล ที่จ.พิจิตรจำนวน 7 แปลง เป็นเงิน 10 ล้านบาท โดย นายชาญวิทย์เคยให้ปากคำว่าเป็นผู้ขายที่ดินให้นายไชยบูลย์ และจะต้องมีการ โอนเงินให้กันก่อนการโอนที่ดิน ที่ดินทั้งหมด นายชาญวิทย์ ให้ปากคำว่าเป็นที่ดินที่มีสายแร่ทองคำอยู่

ในวันเดียวกัน นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการคนใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเพื่อบ้านเพื่อเมือง ซึ่งดำเนินรายการ 7โดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทองถึงกรณีการดำเนินการกับวัดพระธรรมกายว่า รัฐบาลมีระยะเวลาการทำงานไปจนถึงปลายปี 2543 แต่การเมืองไทยก็มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เป็นสัจธรรมที่ได้รับเมื่อเข้ามาในวงการการเมือง ขอบอกตรงไปตรงมาว่าไม่เคยคิดรับงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เมื่อได้รับมอบหมายก็ต้องทำด้วยความหนักแน่นและรอบคอบ โดยเฉพาะปัญหาวัดพระธรรมกายเป็นเรื่องที่กระทบต่อคนหลายกลุ่ม คงต้องมีเทคนิคอย่างใดอย่างหนึ่ง

"ในการวินิจฉัยความผิดถูกทางพระธรรมวินัยนั้นก็ได้ตั้งกระบวนการนี้ขึ้นมาแล้ว เรื่องของความผิดทางแพ่งและอาญานั้น จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะไม่ได้มีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ จะทำงานอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใสจะไม่ให้เกิดข้อกังขาใดทั้งสิ้น"

ต่อข้อถามที่ว่า พระธรรมปิฎกบอกว่าหากคณะปกครองสงฆ์อ่อน ก็ต้องพึ่งพา ทางบ้านเมืองในการแก้ไขปัยหานั้น นายวิชัยกล่าวว่า พระธรรมปิฎก เป็นนักปราชญ ์แห่งพระพุทธศาสนา มีผลงานมากมาย และเป็นแม่แบบ ในการปฏิบัต ิหลายครั้งได้นำ แนวทางการปฏิบัต ิและศึกษา ของพระธรรมปิฎก ไปอวดชาวโลก แต่การวินิจฉัย กรณีของวัดพระธรรมกายนี้คณะสงฆ์จะเป็นผู้พิจารณาเอง ฆราวาส คงเข้าไปก้าวก่ายอะไรมากไม่ได้ มีหน้าที่ช่วยด้วยกำลัง เรื่องนี้ยอมรับว่าหนักใจและเป็นห่วงประเทศชาติมาก

ส่วนการจะจัดการ แก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นในรัฐบาลนี้หรือไม่นั้น รมช.ศึกษาฯกล่าวว่า ในรายละเอียด ขั้นตอนและอุปสรรคที่ขวางหน้าคงต้องใช้เวลาหารือกับผู้รู้หลายท่าน กับนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการก็ยังไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้อย่างละเอียด เชื่อว่าเรื่องนี้ จะค่อยๆคลี่คลาย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด อย่างไรก็ดีเรื่องที่เป็นห่วงที่สุดเวลานี้ก็คือ ปัญหาเรื่องศาสนา หากขัดแย้งในลักษณะ ที่บานปลายยิ่งจะเป็นปัญหาน่าเป็นห่วงมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงาน ด้วยว่าบ่ายวันนี้พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมนายสมบัติ เกตุแก้ว ครูสอนพระปริยัต ิของวัดแจ้งความ ต่อสภ.อ.คลองหลวงให้ดำเนินคดีต่อนายถวิล ศรีประยูร ชาวบ้านที่อาศัย อยู่บริเวณข้างวัด ในฐานะหมิ่นประมาท เพราะได้กล่าวหาว่า วัดบริหารเงินไม่โปร่งใสไม่ทำบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย และเรียกเก็บเงิน จากสามเณรเป็นค่าทำใบรบ.ใบละ 500 บาท ซึ่งตำรวจได้เชิญ นายถวิลมาเจรจา สุดท้ายตกลงกันว่า ต่อไปนายถวิลจะไม่เข้าไปยุ่งกับกิจกรรมของวัด และไม่นำผู้สื่อข่าวเข้าวัดอีก พระครูปทุมกิจโกศล พอใจจึงถอนแจ้งความและกลับวัดโดยไม่ยอมตอบคำถามใดๆ